โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

The king of War

บทที่ 2276 เทพกลายเก้าชั้นฟ้า

ฉากนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป ถึงขนาดที่ร่างกายของหลีหยวนชิงถูกหยางเฉินกระแทกลอยกระเด็นออกไปไกลสิบกว่าเมตร ยังแขนขาดข้างหนึ่ง ทุกคนไม่ได้สติกลับมาในทันที

“โอ๊ย......”

ทันใดนั้นหลีหยวนชิงก็ส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวดทรมาน ดังก้องไปทั่วทั้งเมืองไป๋หู่

จนกระทั่งถึงตอนนี้ ทุกคนถึงได้ต่างพากันได้สติกลับคืนมา

ภายในใจของหยางเฉินมีความผิดหวังเล็กน้อย เดิมทีคิดว่าการโจมตีครั้งนี้จะสามารถฆ่าหลีหยวนชิงได้ แต่คิดไม่ถึงว่าหลีหยวนชิงจะแขนขาดแค่เพียงเท่านั้น

เซี่ยวชิงหยุนยังคงกำลังอ่านคัมภีร์ปราบปีศาจ เขาสามารถควบคุมไอมารภายในตัวไว้ได้แล้ว แต่ตามการอ่านคัมภีร์ปราบปีศาจอย่างต่อเนื่อง เขาสัมผัสได้ถึงไอมารยิ่งน้อยลงเรื่อย แต่พละกำลังของเขาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็กำลังอ่อนกำลังลงอย่างต่อเนื่อง

ในเวลานี้ เซี่ยวชิงหยุนที่เดิมทีกำลังอ่านคัมภีร์ปราบปีศาจมาโดยตลอด ก็หยุดลงกะทันหัน

หยางเฉินถึงรู้สึกดีขึ้นมาก ไอมารที่พลุ่งพล่านกลุ่มหนึ่ง กำลังระเบิดในร่างกายของเขา

แต่ว่าการระเบิดของไอมารครั้ง สามารถควบคุม ไม่ใช่การระเบิดแบบที่ควบคุมไม่ได้เมื่อครู่นี้ เกือบจะทำให้หยางเฉินศูนย์เสียสติสัมปชัญญะไปแล้ว

หยางเฉินเองก็ไม่ชัดเจนเช่นกัน เหตุใดเซี่ยวชิงหยุนถึงได้หยุดอ่านคัมภีร์ปราบปีศาจกะทันหัน เป็นเพราะถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว? หรือว่าจะเป็นเพราะเหตุผลอะไรอื่น?

แต่แบบนี้สำหรับเขาแล้ว ไม่ได้มีความสำคัญแล้ว

สิ่งที่สำคัญคือ พละกำลังที่เดิมทีอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่องของเขา พุ่งสูงขึ้นตามไอมาร ได้กลับมาอีกแล้ว

สามารถพูดได้ว่า ตอนนี้ต่อให้เป็นการต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งระดับเช่นอู่ชาง ต่อให้พ่ายแพ้แล้ว ก็สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้

เห็นเพียงแค่นัยน์ตาของหยางเฉินมีเจตนาสังหารที่รุนแรงฉายแววออกมา จ้องมองไปทางหลีหยวนชิงที่ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดเขม็ง

“ไม่ดีแล้ว เขาจะฆ่าหลีหยวนชิง!”

อู่ชางสัมผัสได้ถึงเจตนาสังหารของหยางเฉินทันที หน้าถอดสีอย่างรุนแรงทันที ตะโกนไปทางเซี่ยวชิงหยุนที่มีอยู่ใกล้กับหยางเฉินที่สุด: “ฆ่าหยางเฉินซะ!”

จากนั้นสิ่งที่ทำให้คนประหลาดใจคือ เซี่ยวชิงหยุนกลับไม่ได้สนใจอู่ชาง

แต่ในเวลานี้เอง เท้าขวาของหยางเฉินเหยียบลงไปบนพื้นอย่างแรง ร่างกายพุ่งทะยานออกไป

แทบจะในพริบตาเดียว เขาก็ปรากฏตัวที่ตรงหน้าของหลีหยวนชิง

“ตาย!”

หยางเฉินมือถือกระบี่โอรสสวรรค์ เหลือบมองหลีหยวนชิงที่อยู่ด้านล่าง พลังที่น่าตกใจกลุ่มหนึ่ง ระเบิดออกมาจากกระบี่โอรสสวรรค์ เขาฟันดาบลงไปอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

“ไม่!”

หลีหยวนชิงระเบิดเสียงคำรามอย่างโกรธแค้นปนไม่ยินยอมออกมาจากในส่วนลึกของลำคอ

“ฉึก!”

กระบี่โอรสสวรรค์แทงทะลุหัวใจของเขา สีหน้าบนใบหน้าของหลีหยวนชิงหยุดนิ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและเหลือเชื่อ

ต่อให้เขาตาย ก็คิดไม่ถึงว่า ตนเองจะตายในน้ำมือของคนหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปีคนหนึ่ง

“หยางเฉิน!!”

อู่ชางเห็นหยางเฉินฆ่าหลีหยวนชิง คำรามด้วยความโกรธแค้นทันที

พลังกึ่งแดนนภาขั้นเจ็ดชั้นต้น ระเบิดออกจากบนตัวของเขา ทั่วทั้งเมืองไป๋หู่แทบจะถูกปกคลุมไปด้วยแรงกดดันที่น่ากลัวกลุ่มหนึ่ง

นักบูโดที่พละกำลังต่ำต้อยจำนวนหนึ่ง ตัวสั่นระริกไปทั่วทั้งตัว แต่ละคนใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ราวกับวันโลกแตกกำลังจะมาถึง

อู๋สงป้าใบหน้าเต็มไปด้วยความหนักใจ บนใบหน้ายังมีความลังเล เหมือนกับก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรเช่นเดียวกัน

ถ้าหากไม่ใช่อานุภาพมารที่ระเบิดออกมาจากตัวของหยางเฉิน เขาไม่มีทางลังเลที่จะเข้าไปช่วยหยางเฉินเลยแม้แต่น้อย

แต่ว่าตอนนี้ เหมือนกับสามารถมั่นใจแล้วว่า หยางเฉินก็คือผู้ฝึกมารคนหนึ่ง

ที่โลกบู๊โบราณกลาง ผู้ฝึกมารก็คือร่างอวตารของปีศาจ เป็นศัตรูร่วมชาติของนักบูโดทั้งหมด

ทันทีที่ตกอยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขายังจะช่วยเหลือหยางเฉิน จะนำภัยพิบัติร้ายแรงที่ไม่รู้จบ มาให้แก่เมืองไป๋หู่ แม้กระทั่งตัวเขาเอง

แน่นอนว่า ศักยภาพที่หยางเฉินได้แสดงออกมานั้นไร้ขีดจำกัด ต่อให้เป็นผู้ฝึกมาร อนาคตวันข้างหน้าก็เต็มไปด้วยความรุ่งเรือง ขอเพียงแค่ไม่ตาย มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าวันข้างหน้าจะยึดอำนาจของทั้งโลกบู๊โบราณ

เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของหยางเฉิน ทันทีที่เขายื่นมือเข้าช่วยเหลือ ก็เท่ากับว่าได้รู้จักผู้แข็งแกร่งชั้นยอดในอนาคตคนหนึ่งแล้ว

แน่นอนว่า อย่างแรกคือหยางเฉินสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้ตลอดรอดฝั่ง

พักหนึ่ง อู๋สงป้าตกสู่ท่ามกลางการดิ้นรนอย่างสมบูรณ์แล้ว

“หยางเฉิน แกรนหาที่ตาย!”

ดวงตาของอู่ชางเต็มไปด้วยความโกรธแค้น จ้องมองหยางเฉินเขม็ง กล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดุร้าย

หยางเฉินเช็ดเลือดที่มุมปากออก มองไปทางอู่ชางกล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง: “ไอ้หมาแก่ อยากจะให้ฉันตาย อย่างแกนะเหรอ ยังไม่พอ!”

“ถ้าหากวันนี้แกพาคนถอยออกไป แล้วก็ละทิ้งบุญคุณความแค้นระหว่างเรา ฉันสามารถยุติข้อพิพาทระหว่างเราได้”

“แต่ถ้าหากวันนี้แกยังยืนกรานที่จะฆ่าฉัน ถ้าอย่างนั้นก็มาสู้กันอีกสักยก เพียงแต่ทันทีที่เริ่มสู้ ทางที่ดีแกต้องรับประกันว่าจะสามารถฆ่าฉันได้ ไม่อย่างนั้น ขอเพียงแค่ฉันไม่ตาย วันหน้าจะต้องทำลายสำนักเทียนไห่ของแก!”

หยางเฉินไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย คำพูดนี้ของเขา ก็เพื่อก่อให้เกิดความปั่นป่วน

คนที่กล้าข่มขู่คนอย่างอู่ชาง อย่าว่าแต่อายุน้อยกว่าหนึ่งรุ่น ต่อให้แก่กว่าหนึ่งรุ่น เกรงว่าก็คงจะไม่เคยมีมาก่อนละมั้ง?

“ดีดีดี! แกยอดเยี่ยมมาก! คนที่กล้าข่มขู่ฉันแบบนี้ แกเป็นคนแรก!”

อู่ชางยิ้มด้วยความโมโห กล่าวด้วยใบหน้าดุร้าย: “ในเมื่อแกอยากตาย ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้สมความปรารถนา!”

ตูม!

ตามเสียงที่จบลงของเขา พลังที่น่าหวาดกลัวกลุ่มหนึ่งก็ระเบิดออกมาจากในร่างกายของเขา

สมกับที่เป็นนักบูโดของกึ่งแดนนภาขั้นเจ็ดชั้นต้น เป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งหลายท่านของสุดยอดที่ยืนอยู่ในโลกบู๊โบราณกลาง

เพียงแค่การระเบิดพลัง ก็ทำให้นักบูโดที่พละกำลังต่ำต้อยจำนวนนับไม่ถ้วนคลานอยู่บนพื้นแล้ว

“ฆ่า!”

อู่ชางตะแบงเสียงอย่างโกรธแค้น ร่างกายระเบิดไปยังทิศทางของหยางเฉิน

“อู่ชาง แกคิดว่าฉันไม่มีตัวตนอยู่ใช่ไหม?”

จากนั้นในตอนที่ทุกคนคิดว่า อู่ชางกำลังจะทำลายหยางเฉิน อู๋สงป้าก็มาขัดขวางทางไปของอู่ชางเอาไว้

“อะไร?”

“คิดไม่ถึงว่าอู๋สงป้าจะขัดขวางอู่ชางฆ่าหยางเฉิน นี่เขาเป็นบ้าไปแล้วเหรอ? จะปกป้องผู้ฝึกมารคนหนึ่ง?”

“บางที อู๋สงป้าอาจจะมีเหตุผลสุดวิสัยอะไรก็ได้มั้ง!”

......

นักบูโดที่อยู่ตรงนั้นทุกคน ต่างก็ตกใจอย่างสุดขีด

อู่ชางเองก็ประหลาดใจเช่นกัน ดวงตาแดงก่ำทั้งสองข้างจ้องมองอู๋สงป้าเขม็ง กัดฟันกล่าว: “ในเมื่อแกรู้ว่าเขาเป็นผู้ฝึกมาร ยังจะปกป้องเขา?”

อู๋สงป้ากล่าวเสียงเย็นชา: “อาศัยเพียงอานุภาพมารที่ระเบิดออกมาจากบนตัวของเขา ก็ตัดสินแล้วว่าเขาเป็นผู้ฝึกมาร?”

อู่ชางยิ้มด้วยความโมโห: “ทำไม? แบบนี้ไม่นับว่าเป็นผู้ฝึกมาร?”

อู๋สงป้าส่ายหน้า: “ฉันบอกว่าไม่นับ ก็คือไม่นับ!”

“ดูท่า แกยังจะตัดสินใจที่จะปกป้องเขา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะฆ่าแกก่อน จากนั้นค่อยฆ่าเขา!”

บนใบหน้าของอู่ชางเต็มไปด้วยรอยยิ้มโหดเหี้ยม

“เทพกลายเก้าชั้นฟ้า!”

เห็นเพียงแค่อู่ชางตะโกนด้วยความโกรธแค้น ในสายตาที่ตกตะลึงของทุกคน ร่างกายของเขาขยายออกเล็กน้อย

ลมปราณที่ทำให้คนหวาดผวา ไหลล้นออกมาจากบนตัวของเขา

อู๋สงป้ารูม่านตาหดเล็กลง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ: “เป็นไปได้ยังไง?”

อู่ชางในเวลานี้ พลังที่แผ่ซ่านออกมาจากบนตัวเขา ได้เกินขีดจำกัดของแดนนภาขั้นหกแล้ว สามารถกล่าวได้ว่า อู่ชางในตอนนี้ ก็คือนักบูโดแดนนภาขั้นเจ็ดชั้นต้น

แน่นอนว่า พละกำลังของเขาไม่ได้ก้าวเข้าสู่แดนนภาขั้นเจ็ดจริงๆ แต่เป็นวิชาลับที่ฝืนเพิ่มพละกำลัง

สีหน้าของหยางเฉินหนักอึ้งเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากอู่ชางมีพละกำลังเพียงแค่กึ่งแดนนภาขั้นเจ็ดชั้นต้น เขายังมีกำลังต่อสู้อีกยก แต่ตอนนี้ เขายังห่างไกลจากการเป็นคู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย

เขากำหมัดทั้งสองข้างแน่น หรือว่า วันนี้จะต้องตายในเงื้อมมือของอู่ชางแล้วจริงๆงั้นเหรอ?

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์