โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

The king of War

บทที่ 511 คงต้องให้โอกาสคุณ

พอเย่หวูซวงพูดออกมาแบบนี้ หม่าชาวเครียดแสดงขึ้นหน้าในทันที

ตอนเกิดเรื่องกวนใจที่หน้าประตู หม่าชาวก็รู้สึกเห็นท่าจะไม่ค่อยดีแล้วงานนี้ คิดไม่ถึงเอาเลยว่า ตอนนี้เย่หวูซวงถึงขนาดแสดงต่อหน้าทุกคน บอกว่าไม่รู้จักตน และก็ไม่รู้ว่าหยางเฉินเป็นใคร

ความโกรธระดับทะลุฟ้า ระเบิดออกมาจากหม่าชาว

“พี่เฉิง!”

ในทันทีนั้นหม่าชาวใช้สายตาส่งคำถามไปที่หยางเฉิน

เห็นเพียงหยางเฉินผงกหัวนิด เผยอปากพูดว่า “ฆ่า!”

“ฉับ!”

เพียงพริบตาหลังจากเสียงพูดหยางเฉินขาดคำ มือที่จับคอซุจิ้นอยู่นั้นออกแรงไปที่นิ้วทั้งห้า

ตามติดด้วยเสียงกระดูกแตกดังขึ้น หัวของซุจิ้นบิดเบี้ยวไป สองลูกตาถลึงกลมโต ตายตาไม่หลับ ยังเห็นแววหวาดกลัวสุด ๆ

“โครม!”

หม่าชาวสะบัดมือ ศพของซุจิ้นกระเด็นตกไปอยู่ข้าง ๆ ขาเย่ชัง

ทันทีนี้เอง ภายในห้องโถงงานเลี้ยง ตกอยู่ในความเงียบงันอย่างประหลาด

ผู้คนทั้งหมดต่างมองไปที่ศพซุจิ้นด้วยสีหน้ามึนเซ่อ

ผู้หญิงที่ยังมีชีวิตอยู่เมื่อสักครู่ จู่ ๆ ก็ถูกฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้หรือ?

เขาทำไมถึงได้กล้า?

วันนี้ เป็นงานฉลองแซยิดแปดสิบปีของเจ้าบ้านเชียวนะ

วันสำคัญมากขนาดนี้ ยังมีคนกล้าเข้ามาก่อเรื่อง ไม่รู้จักตายกันเลยหรือไง?

ภายในห้องโถงจัดงานเลี้ยงใหญ่โตโอ่อ่า เงียบเสียงจนน่ากลัว

แม้แต่เย่ชังเอง ยังรู้สึกเหมือนกับว่าจะอยู่ในฝัน

มีเพียงเย่หวูซวงที่ยืนอยู่ข้างเย่ชัง ส่วนลึก ๆ ของนัยน์ตา ยังเห็นเป็นประกายไฟของความลิงโลด

“แกกล้ากระทั่งฆ่าคนในวันฉลองแซยิดแปดสิบปีของพ่อข้า?”

พักใหญ่ เย่ชังจึงได้ตั้งสติ พูดออกไปด้วยสีหน้าอธิบายไม่ถูก

เป็นที่ชัดเจนได้ว่า เขาไม่รู้จักหยางเฉินจริง ๆ

หยางเฉินก็ให้รู้สึกได้อย่างนั้นเช่นกัน ในใจก็มีนึกสงสัยอยู่ แต่พอจับตาเห็นถึงส่วนลึก ๆ ข้างในนัยน์ตาของเย่หวูซวง ประกายความดีใจชั่วแวบนั้น ให้เขารู้สึกกระจ่างชัดขึ้นในพลัน

ที่ว่ากันว่าในตระกูลมหาเศรษฐีนั้นไร้น้ำใจ ไม่ใช่เรื่องพูดกันส่งเดชเรื่อยเปื่อย

เย่ชังกำลังจะรับตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเย่ เย่หวูซวงเป็นเด็กอยู่ในรุ่นที่สามของตระกูลเย่ เป็นคนที่ดูล้ำเลิศมากในรุ่น มีกระแสอยู่ว่าคงต้องได้เป็นหัวหน้าตระกูลเย่ในอนาคต

แต่เย่ชังเป็นอารองของเย่หวูซวงเท่านั้น เมี่อเย่ชังได้เป็นหัวหน้าตระกูล ต่อให้เย่หวูซวงจะมีความเด่นเลิศยังไง น่ากลัวว่าคงจะหมดวาสนากับตำแหน่งหัวหน้าตระกูลแล้ว

เย่หวูซวง กำลังคิดยืมมีดฆ่าคนนั่นเอง

ยืมมือหยางเฉิน กำจัดเย่ชัง!

เพียงแต่ว่า อะไรที่ทำให้เย่หวูซวงเชื่อได้ว่า หยางเฉินจะฆ่าเย่ชังได้?

ต่อให้เป็นได้ดังที่เขามั่นใจ แต่หากเมื่อหยางเฉินสามารถฆ่าเย่ชังได้แล้ว เขาจะเอาอะไรมารับประกันได้ว่า หยางเฉินจะไม่มาฆ่าเขาด้วย?

“เย่หวูซวง แผนที่แกวางไว้ คิดว่าจะแสแสร้งต่อไปหรือ?”

หยางเฉินพลันมองไปยังเย่หวูซวง ถามด้วยสีหน้าเรียบ ๆ

เย่หวูซวงคงยังแกล้งทำหน้างุนงง พูดว่า “คุณเป็นใคร?ผมรู้จักคุณด้วยหรือ?”

เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เขาต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้จักตัวเขา

หยางเฉินรู้แจ้งอยู่แก่ใจ

ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ก็คงไม่มีอะไรจะพูดแล้ว

“ในเมื่อแกจะแกล้งโง่ ก็แล้วแต่นะ แต่ว่า หวังว่าแกจะเตรียมตัวเตรียมใจในการที่จะต้องมารองรับไฟโกรธของข้าให้ดีนะ”

หยางเฉินส่อใบหน้ายิ้มแย้มอย่างชื่นบาน ไม่มีความหวาดหวั่นแสดงให้เห็นแม้แต่เศษเสี้ยว เหมือนไม่รู้สึกมีอะไรในสถานภาพของตัวเองขณะนี้

เย่หวูซวงถึงกับสะท้านขึ้นมาทั้งตัว ความรู้สึกคล้ายกับกำลังถูกจ้องตะครุบจากสัตว์ป่าที่โหดร้าย แต่พอคิดกลับปถึงเป้าประสงค์ตัวเอง แววตาของเขาเปลี่ยนกลับเป็นเฉียบคมอีกครั้ง

“เย่ชัง คุณเป็นคนฉลาด ถ้าคุณอยากจะรู้ว่าข้ากับเย่หวูซวงรู้จักกันหรือไม่ น่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายมาก”

“ผมตัดสินใจว่า คงต้องให้โอกาสคุณ สืบสอบให้ชัดเจน แล้วจึงค่อยตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร”

“มิฉะนั้น อย่าลืมนะว่า ในโลกนี้ไม่มียาแก้อาการเสียใจภายหลัง”

หยางเฉินยิ้มน้อย ๆ แล้วพูด

หม่าชาวที่เพิ่งได้จัดการหักคอซุจิ้นไป ยืนตระหง่านอยู่ข้างหลังหยางเฉิน ทำให้แม้เย่ชังเอง ก็ยังให้รู้สึกมีแรงกดดันที่หนักหน่วงอัดอยู่

หยางเฉินประดับรอยยิ้มไว้ที่มุมปาก แต่ในสายตาคนที่มอง กลับขนลุกให้รู้สึกเสียวสยอง

แม้กระทั่งเย่หวูซวงที่ยืนอย่างมั่นใจอยู่เต็มอก ตอนนี้ก็เกิดมีกังวลขึ้น

“เจ้าเด็กน้อย แกมาก่อเรื่องฆ่าคนในวันฉลองแซยิดใหญ่หัวหน้าตระกูลเย่ของข้า ตอนนี้ยังกล้ามาข่มขู่ข้าอีกหรือ?คิดว่าตระกูลเย่เป็นที่ที่แกอยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไปงั้นหรือ?”

เย่ชังพูดด้วยอารมณ์โกรธเต็มหน้า

เป็นที่ชัดเจนว่าเขาไม่ได้ใส่ใจในคำพูดของหยางเฉินเลย จึงไม่ได้คิดเชื่อเลยว่า เย่หวูซวงจะมีการหลอกใช้เขา

นี่ก็เป็นการให้เข้าใจอีกบางเรื่องได้จากการมองอีกมุมหนึ่ง เย่ชังเชื่อมั่นตัวเองมาก

อย่างที่เห็น ๆ กันแล้วว่ากำลังจะก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูล ย่อมให้มีความหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเองเกิดขึ้นเป็นธรรมดา

ที่มุมปากเย่หวูซวงแสดงยิ้มอารมณ์กวนออกมา พูดเสียงหัวเราะว่า “คุณอารอง ท่านจะไปวุ่นวายกับไอ้หน้าโง่นี้อยู่ทำไม มันฆ่าคุณผู้หญิงซู ยังทำร้ายคุณซ่งเหล่ย รองเจ้าสำนักโรงยิมศิลปะการต่อสู้หงเหยียน ทางโรงยิมศิลปะการต่อสู้หงเหยียนคงไม่ปล่อยมันไว้แน่”

“แต่ว่า ผมขอเสนอนะครับ ตอนนี้เราจัดการจับไอ้เด็กสองคนนี้มัดเอาไว้ก่อน รอให้คุณซ่งเหล่ยฟื้นมา มอบคนให้เขาเอาตัวกลับไปให้ทางโรงยิมศิลปะการต่อสู้หงเหยียนจัดการ”

“งานของคุณปู่ใกล้จะเริ่มแล้ว จะให้ดีพวกเรารีบจัดการเรื่องไร้สาระนี้ ให้เสร็จสิ้นก่อนงานฉลองจะเริ่ม”

เย่หวูซวงพูดสีหน้ายิ้มแย้ม เรื่องที่ดูแล้วเหมือนน่าจะยุ่งยาก แต่เขาพูดมา กลับให้เห็นเป็นว่าแก้ไขกันได้อย่างง่ายดาย

เย่ชังผงกหัวเล็กน้อย “หวูซวงพูดถูก ไอ้เด็กน้อยนี่กล้าสังหารคุณผู้หญิงซู แล้วยังทำร้ายรองเจ้าสำนักโรงยิมศิลปะการต่อสู้หงเหยียน เอามอบไปให้โรงยิมศิลปะการต่อสู้หงเหยียนจัดการจะเป็นการเหมาะสมที่สุด”

เสียงพูดจบ โบกมือที่หนาใหญ่ ตวาดสั่ง “จัดการไอ้สองตัวนี้ จับมันมัดไว้!”

หลังจากคำสั่งนี้ออกจากปาก ผู้แข็งแกร่งตระกูลเย่หลายคนกรูกันออกมา พุ่งเข้าหาหยางเฉินกับหม่าชาว

ผู้คนรอบบริเวณที่มางานเลี้ยงฉลองแซยิดใหญ่หัวหน้าตระกูลเย่ ตอนนี้แต่ละคนในแววตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ได้มีโอกาสเห็นการลงมือปฏิบัติการของผู้แข็งแกร่งของตระกูลเย่ นับเป็นเรื่องที่ถือได้ว่าเป็นบุญตา

หยางเฉินขมวดคิ้วอย่างไม่มีใครทันเห็น แววตาส่องประกายเย็นเยือก

คนกล้าคิดจะเล่นงานเขาใช่ว่าจะไม่มี แต่ให้พวกชั้นปลายแถวกระจอกเหล่านี้มาลงมือ มันเป็นการดูถูกกันชัด ๆ

ไม่รอให้หยางเฉินพูดสั่ง หม่าชาวสาวเท้าก้าวออกไปข้างหน้า ยืนขวางหน้าหยางเฉิน พูดเสียงเย็นเฉียบ “ไอ้พวกไม่รู้จักตาย!”

ในขณะกำลังพูด ผู้แข็งแกร่งตระกูลเย่ก็ถลันเข้ามาถึงผู้แข็งกล้าคนที่โถมเข้ามาคนแรก พุ่งหมัดใส่หม่าชาว เสียงลมทุ้มหนักตามมาพร้อมกับหมัดนั้น“ไป!”ทุกคนเพียงได้ยินเสียงคำรามใส่ ดังดั่งฟ้าลั่น สะเทือนจนแขกเหรื่อที่มาแต่ละคนอื้อเข้าไปในสมอง“ปัง ปึง ปัง!”ตามติดมาติด ๆ เสียงทุ้มหนักของแรงกระทบ ดังตามต่อเนื่องมา เห็นหมัดทั้งสองข้างของหม่าชาวหมุนติ้วเป็นมอเตอร์ ต้านรับศัตรูรอบด้านทุกหมัดที่ซัดออกไป ล้วนตามด้วยผู้แข็งแกร่งตระกูลเย่กระเด็นออกไปหนึ่งคนไม่มีกระบวนท่าให้ดูเป็นลวดลาย มีแต่ความก้าวร้าวสุดโหดของแต่ละหมัดในช่วงเพียงแลบของสายฟ้า ทุกคนถึงขนาดยังไม่ทันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นที่เดิมทีว่าเข้มแข็งหนักหนาของเหล่าผู้แข็งกล้าตระกูลเย่ เหมือนเป็นลูกหนังที่ถูกตี ทยอยกันกระเด็นลอยออกไป“โครม!โครม!โครม!โครม!”ผู้แข็งแกร่งตระกูลเย่สี่นาย ล้วนกระเด็นมาตกอยู่ที่ขาเย่ชัง อาการเป็นตายเท่ากันแต่ที่บริเวณอกของแต่ละคน ล้วนเห็นยุบลึกเข้าไป เลือดสด ๆ ไหลออกมุมปาก ดูท่าว่าถึงไม่ตาย ก็คงอัมพาตขนาดเหลือเป็นเศษขยะมาถึงขณะนี้ โถงใหญ่ของงานจัดเลี้ยง เงียบเสียงกริบ แต่ละผู้คนตาทั้งคู่โตเบิ่งค้าง เขม็งจ้องอยู่ที่หม่าชาวให้แม้กระทั่งเย่ชัง ก็ตกตะลึงเป็นงงไปสุด ๆ

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์