โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

The king of War

บทที่ 754 ลงมือ

“ดูเหมือนว่าคุณยังไม่สำนึกความผิดของคุณสินะ!”

หยางเฉินส่ายหัวอย่างกะทันหันแล้วพูดอย่างเฉยเมย

“ผั๊วะ!”

จากนั้นตามด้วยเสียงตบหน้าดังขึ้นอย่างเสียงดัง

“ชีวิตของแกมีค่า ส่วนชีวิตของพวกเราคือเศษขยะงั้นเหรอ? ตอนนี้แกตกเป็นเชลยของพวกเราแล้ว แกยังมีหน้ามาแสดงสถานะของแกอีกเหรอ?”

สิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องตกใจก็คือ คนที่ตบเซวหยวนป้านั้นไม่ใช่หยางเฉิน แต่เป็นหวงเจิ้ง

แม้แต่หยางเฉินยังต้องตกใจ เขาไม่เคยคิดเลยว่าในกลุ่มคนเหล่านี้ ยังมีคนกล้าลงมือกับเซวหยวนป้าด้วยวิธีนี้

เพราะด้วยชื่อเสียงของตระกูลเซวแล้ว มันเพียงพอที่จะทำให้คนมากมายถึงกับกลัวจนยอมจำนนได้

เซวหยวนป้าก็ตกใจเช่นกัน เขาถูกหยางเฉินตบหน้าในที่สาธารณะเพราะฝีมือของเขาสู้คนอื่นไม่ได้ นั่นเป็นสิ่งที่เขายอมรับได้

แต่ตอนนี้ แม้แต่ตัวประกอบเล็กๆ ของแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูยังกล้าลงมือตบหน้าเขา?

“แก แกกล้าตบข้างั้นเหรอ?”

เซวหยวนป้าแสดงสีหน้าเหลือเชื่อ

“ผั๊วะ!”

หวงเจิ้งตบเขาอีกครั้งแล้วพูดด้วยความโกรธว่า “กล้าตบแกแล้วจะทำไม?”

“ผั๊วะ ผั๊วะ ผั๊วะ!”

หวงเจิ้งพูดไปด้วยและตบหน้าเซวหยวนป้าไปด้วยอีกหลายครั้งติดต่อกัน เซวหยวนป้าก็เหลือเชื่อถึงกับลืมหลบหลีก ทำได้เพียงเฝ้ามองหวงเจิ้งด้วยความประหลาดใจ

“ใช่! แกมันสมควรโดน!”

ในขณะนี้ เย่หัวก็เดินเข้ามา ด้วยความโกรธที่สะสมมาตั้งนาน เขายกมือขึ้นแล้วตบไปที่กลางหน้าของเซวหยวนป้าอย่างรุนแรง

“เซวหยวนป้า แกคิดว่าแกสถานะสูงส่งงั้นเหรอ? นั่นมันแต่อดีต ตอนนี้แกเป็นเหมือนลูกไก่ในกำมือของพวกเรา ถ้าพวกเราจะฆ่าแก มันก็แค่เอื้อมเท่านั้น!”

เย่หัวพูดอย่างเย็นชา “โดยเฉพาะการที่แกกล้าข่มขู่คุณหยาง แกมันสมควรตายจริงๆ!”

“ไอ้เวรเอ๊ย!”

ในที่สุด เซวหยวนป้าก็ตั้งสติได้อีกครั้ง เขาตวาดอย่างเสียงดัง จากนั้นยกกำปั้นขึ้นแล้วชกไปที่ใบหน้าของเย่หัวอย่างรุนแรง

ทุกคนถึงตะลึง เพราะไม่คิดว่าเซวหยวนป้าจะกล้าลงมือทำร้ายใครอีก

เซวหยวนป้านั้นเป็นนักสู้อยู่แล้ว แต่เย่หัวเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง แล้วเขาจะต้านทานการโจมตีด้วยหมัดของเซวหยวนป้าได้อย่างไร?

ในขณะนี้ เย่หัวแทบจะลืมหายใจ ได้แต่เบิกตากว้างแล้วมองดูหมัดของเซวหยวนป้าที่กำลังพุ่งในหน้าเขา

“พรึ่บ!”

เมื่อเห็นว่าหมัดของเซวหยวนป้ากำลังจะกระแทกกับใบหน้าของเย่หัว และในชั่วพริบตานั้น หยางเฉินก็ยืนมือออกไปคว้าหมัดของเซวหยวนป้าอย่างง่ายดาย

“ในเมื่อคุณชอบทำร้ายคนอื่นมากนัก งั้นผมขอตัดวิถีบู๊ของคุณก็แล้วกัน”

หยางเฉินพูดอย่างเฉยเมย “ผมก็อยากรู้เหมือนกัน เจ้าชายสามของตระกูลเซวที่ได้รับความสำคัญด้วยวิถีบู๊ในตัว ถ้าไม่มีวิถีบู๊แล้ว เขายังจะได้รับโอกาสในการเป็นเจ้าตระกูลเซวอีกไหม?”

ทันใดนั้น เซวหยวนป้ารู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่แย่มาก และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

“ตุ้ม!”

ทันใดนั้น เสียงกระแทกที่ทุ้มต่ำดังขึ้น หยางเฉินเตะไปที่ตำแหน่งตันเถียนของเซวหยวนป้าอย่างแม่นยำ

เซวหยวนป้าถึงกับกระอักเลือดออกมา ใบหน้าของเขาซีดลงทันที และสีหน้าก็เต็มไปด้วยความตกใจ “แก แกทำลายวิถีบู๊ของข้าจริงๆ!”

สำหรับตระกูลเดอะคิงแล้ว วิถีบู๊ของคนคนหนึ่งนั้นสำคัญมาก

และเหตุผลที่เขาเป็นลูกชายสุดที่รักของเจ้าตระกูลเซว ก็เพราะเขาเคยฝึกศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก ซึ่งในตระกูลเซวนั้น เขาถือว่าเป็นนักสู้ระดับต้นๆ ของตระกูลก็ว่าได้

แต่ตอนนี้หยางเฉินทำลายวิถีบู๊ของเขาไปแล้ว

เพราะที่ผ่านมา เขาฝึกศิลปะการต่อสู้มาตลอด ดังนั้นจึงไม่มีความสามารถในด้านการทำธุรกิจเลย

และตอนนี้ยังถูกตัดวิถีบู๊ไปแล้วด้วย ถ้าแบบนี้ ในตระกูลเซวเขาก็คงกลายเป็นคนไร้ค่าไปแล้วจริงๆ

ซึ่งเป็นไปไม่ได้ว่าเจ้าตระกูลเซวจะส่งเสริมคนที่ไม่มีพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้หรือไม่มีพรสวรรค์ทางด้านธุรกิจเลย

ยิ่งคิด เซวหยวนป้าก็ยิ่งเสียใจ เขาหากสามารถย้อนเวลาได้ เขาจะไม่ท้าทายหยางเฉินอีก

แต่ที่น่าเสียดายก็คือ บนโลกนี้ไม่มียารักษาความเสียใจ ในเวลานี้ ทุกอย่างมันก็สายเกินไปแล้ว!

“หยางเฉิน คุณฆ่าผมเถอะ!”

ทันใดนั้น เซวหยวนป้าก็พูดอย่างสิ้นหวัง “ถ้าจะให้ผมเชิญเจ้าบ้านของเหล่าเศรษฐีมาให้คุณ ผมทำไม่ได้แน่นอน!”

“ตอนนี้คุณทำลายวิถีบู๊ของผม ผมเกลียดจนอยากฆ่าคุณทิ้ง แล้วผมจะช่วยคุณได้ยังไง?”

“แต่ผมจะบอกคุณนะ ตระกูลเซวไม่ปล่อยคุณไว้แน่!”

หยางเฉินแสยะยิ้มออกมา “จริงเหรอ?”

ทันใดนั้น เขาก็ดีดนิ้ว จากนั้นชายร่างใหญ่สองคนก็เดินเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มที่มีใบหน้าเปื้อนเลือด

“พ่อ! ผมยังไม่อยากตาย ผมยังไม่อยากตายครับ! ช่วยผมหน่อย! พ่อช่วยผมหน่อยครับ!”

เมื่อชายหนุ่มเห็นเซวหยวนป้า เขาก็ตะโกนร้องไห้ออกมาทันที

“อาข่าย!”

เมื่อเห็นหน้าลูกชายของตน เซวหยวนป้าก็ตกใจและตะโกนออกมา “พวกแกปล่อยลูกชายข้าเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

“ปล่อยลูกชายคุณได้ แต่คุณต้องติดต่อพวกเขาเดี๋ยวนี้” หยางเฉินพูดอย่างเย็นชา

ไม่ใช่ว่าหยางเฉินตั้งใจจะใช้เซวข่ายมาข่มขู่เซวหยวนป้า แต่ในช่วงที่เขาพยายามตามหาเซวหยวนป้านั้น ลูกชายของเขาเซวข่ายถูกจับมาด้วย

เซวหยวนป้ายังส่งคนไปลอบสังหารคนรอบกายของหยางเฉินได้เลย แล้วถ้าหยางเฉินจะใช้ลูกชายของเซวหยวนป้ามาเป็นตัวประกันจะผิดไหม?

“หยางเฉิน ผมจะฆ่าคุณ! ผมจะฆ่าคุณ!”

ดวงตาของเซวหยวนป้ากลายเป็นสีแดง และดูเหมือนเขาจะสูญเสียสติไปแล้ว

“เอาเซวข่ายลงไป ฝังทั้งเป็น!”

หยางเฉินโบกมือออกคำสั่ง

“ครับ!”

ชายร่างใหญ่สองคนลากเซวข่ายออกไปทันที

“พ่อ ช่วยผมด้วย! ช่วยผมด้วยครับ! ผมยังเด็กอยู่นะ ผมยังไม่อยากตาย! พ่อช่วยผมด้วย! ช่วยผมด้วย!”

เซวข่ายส่งเสียงโหยหวนอย่างเสียงดัง

“ผมจะติดต่อ! ผมจะโทรติดต่อตอนนี้เลย! ช่วยปล่อยลูกชายผม ปล่อยลูกชายผมไป!”

ในที่สุดเซวหยวนป้าก็เข้าใจแล้วว่าเขากำลังเล่นกับคนที่น่ากลัวมากแค่ไหน และเขาก็รีบอ้อนวอนทันที

หยางเฉินกวักมืออีกครั้ง และชายร่างใหญ่สองคนนั้นก็หยุดลง

“เซวหยวนป้า คุณต้องเข้าใจนะ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น คุณเป็นคนบังคับผมเอง!”หยางเฉินพูดอย่างเย็นชา “เรื่องที่คุณส่งคนไปลอบสังหาร ผมจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ก่อน แต่ถ้าคุณจัดการเรื่องที่ผมขอไม่ได้ แสดงว่าคุณกับลูกชายก็ไร้ประโยชน์แล้ว!”เซวหยวนป้ากัดฟันพูด “คุณไว้ใจเถอะครับ ผมรู้ว่าควรทำอย่างไร!”ถึงแม้เขาจะไม่เต็มใจ แต่ก็ทำได้เพียงทำตามคำสั่งของหยางเฉินเท่านั้น“แจ้งข่าวออกไป อีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า ให้เหล่าหัวหน้าของตระกูลซุนไปเฉลิมฉลองที่โรงแรมเยี่ยนตู!”เซวหยวนป้ารีบโทรสายออกไปทันที“ผมทำตามที่คุณขอแล้ว ตอนนี้คุณปล่อยผมกับลูกชายได้แล้วใช่ไหม?”เซวหยวนป้ากัดฟันพูด“ผั๊วะ!”ก่อนที่เซวหยวนป้าจะตั้งตัวได้ หยางเฉินบีบกรามของเซวหยวนป้า จากนั้นยัดยาเม็ดสีดำเข้าไปในปากของเขา“แค่ก แค่ก แค่ก คุณอะไรเนี่ย?”เซวหยวนป้าหน้าซีดด้วยความตกใจและกำมือแน่น เจ่พยายามจะคายสิ่งที่หยางเฉินป้อนให้เขาแต่ว่า ยาเม็ดนั้นได้กลืนเข้าไปในท้องของเขาแล้ว แล้วเขาจะคายออกมาอย่างไร?“นี่คือยาดูดจิต ทุกๆ สามเดือนจะมีหมอนนับหมื่นตัวกัดกินหัวใจของคุณ ทำให้คุณต้องเจ็บปวดจนสุดขีด”หยางเฉินพูดต่ออย่างเฉยเมย “จากนี้ไป ทุกๆ สามเดือนคุณจะต้องมาหาผมเพื่อขอยาแก้พิษ แต่แน่นอน คุณจะไม่มาหาผมก็ได้ แต่ว่าถ้าพลาดเวลาสำคัญไป ต่อให้คุณกินยาแก้พิษ มันก็จะไร้ประโยชน์!”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซวหยวนป้าก็เต็มไปด้วยความตกใจ “คุณจะควบคุมผมเหรอ?”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์