เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว มณีอินอยู่ที่นี่เกือบ 1 อาทิตย์แล้วหญิงสาวรวบรวมข้อมูลได้มากพอสมควรแต่ก็ยังไม่ใช่จุดขายของที่นี่
“เราจะต้องค้นหาสิ่งที่ประเทศอื่นไม่มี มันน่าจะเป็นจุดขายให้ประเทศนี้ได้” หญิงสาวนอนเอามือกายหน้าผากและคิดถึงสถานที่แต่ละที่ที่เธอไปมาแต่ก็ยังนึกไม่ออก
“คุณอินคะ คุณอิน” อารีอาเคาะเรียกหญิงสาว
“มีอะไรจ้ะ” หญิงสาวตะโกนถามกลับไป
“คุณซาฮาให้มาเชิญไปพบที่ห้องค่ะ”
“เดี๋ยวฉันออกไป” มณีอินจัดเสื้อผ้าให้ดูเรียบร้อยและเปิดประตูออกมา เธอเดินตามเด็กสาวไปทางห้องที่อยู่ทางปีกซ้ายซึ่งอยู่ก่อนที่จะถึงห้องของยามีนะ
“คุณยามีนะ” มณีอินอุทานอย่างแปลกใจที่เห็นหญิงสาวนั่งเล่นอยู่ข้างซาฮา
“นางฟ้า มานี่ซิ ฉันมีของจะให้” ยามีนะเดินเข้ามาดึงมือหญิงสาวให้ไปนั่งข้างๆเธอ
“หลับตาซิ” หญิงสาวสั่ง มณีอินจึงหลับตาลงความเย็นที่สัมผัสอยู่รอบคอทำให้หญิงสาวแปลกใจแต่ก็ยังไม่ลืมตาขึ้นจนอีกฝ่ายบอกให้ลืมตาเธอจึงลืมตาขึ้น
“สวยจังเลยค่ะ” เธอมองสร้อยทับทิมสีแดงที่คอของตนเองใช้มือลูบคลำอย่างทนุถนอม
“หนูใส่แล้วขึ้นมากเลยนะผิวชาวนวลตัดกับสีของทับทิม” ซาฮาบอกยิ้มๆ
“นางฟ้าสวยที่สุดเลย ฉันให้นางฟ้านะ” หญิงสาวตบมืออย่างดีใจ
“แต่ว่ามันคงมีค่ามากฉันเกรงว่า....”
“ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้นยามีนะเขาให้เธอๆก็รับไว้แล้วกันเขาเป็นคนเลือกเองเลยนะ”
“เลือกให้เอง” มณีอินมองอย่างงงๆ ซาฮาหัวเราะและขยายความให้หญิงสาวเข้าใจ
“วันนี้ฉันพาหลานสาวของฉันออกไปเที่ยวที่ตลาดมาต้องขอบใจเธอที่ทำให้ยามีนะทานยาตรงเวลาและทานข้าวได้มากอาการจึงดีขึ้นมา เขาเห็นรูปที่เธอเอามาให้ดูจึงอยากออกไปเที่ยวบ้าง”
“จริงหรือคะคุณยามีนะออกไปเที่ยวมาสนุกหรือเปล่าคะ” หญิงสาวหันไปถาม
“ใช่ ข้างนอกสนุกมากเลยมีคนตั้งเยอะแยะเลยฉันชอบเอาไว้เราไปกันอีกนะป้าพานางฟ้าไปด้วยนะ” ยามีนะเขย่าขาผู้เป็นป้า
“จ้า ได้จ้ะ งั้นวันอาทิตย์นี้เราไปปิกนิกกันดีกว่านะคะเลือกที่ๆมีคนไม่มากคุณยามีนะจะได้สนุกได้เต็มที่” หญิงสาวแนะนำและสาวใหญ่ก็เห็นด้วยกับความคิดของเธอ
“ชวนจามาลไปด้วยเราจะได้ไปพักผ่อนกันทั้งครอบครัวเลย” หญิงสาวหุบยิ้มทันทีที่ได้ยินชื่อของชายหนุ่มเพราะคิดว่าเขาคงไม่ไปแน่นอนหญิงสาวได้ยินเขานัดกับฟีน่าว่าจะไปเที่ยวกัน
“ใช่ๆ ชวนพี่ชายไปด้วย” หญิงสาวยิ้มอย่างร่าเริง
“นี่ๆพวกเจ้าไปช่วยเราเลือกเสื้อผ้าหน่อยนะ” หญิงสาววิ่งออกไปจากห้องเหล่าสาวใช้จึงต้องรีบวิ่งตามไป
“คุณยามีนะพูดรู้เรื่องขึ้นมากเลยนะคะ”
“ใช่ แต่ก็ยังมีอาการตื่นกลัวผู้ชายแปลกหน้าอยู่บ้างเป็นครั้งคราว” ซาฮาบอก
“ต้องให้ทานยาอย่างสม่ำเสมอนะคะจะได้หายขาด”
“เมื่อก่อนมีแค่ฉันและพี่ชายเขาเท่านั้นที่จะหยุดการอาละวาดของยามีนะได้แต่ก็บังคับให้เขาทานยาตรงตามเวลาแบบเธอไม่ได้” ซาฮาถอนหายใจ
“คงเป็นเพราะท่านรักคุณยามีนะมากไม่อยากบังคับจิตใจเธอส่วนคุณจามาลก็เป็นผู้ชายจึงไม่รู้จักวิธีที่อ่อนโยนก็เลยดูเป็นเรื่องยากนะคะ” หญิงสาวบอก
“ฉันว่าจะถามเธอหลายครั้งแล้ว เธอรู้จักกับจามาลมาก่อนหน้านี้ใช่หรือเปล่า”
“ใช่ค่ะ”
“แล้วไปรู้จักกันตอนไหนก็จามาลกับพ่อของเขาบอกว่าจะไปหมั้นหมายกับหญิงไทยแต่อีกสองวันต่อมาก็โทรมาบอกว่าการหมั้นถูกยกเลิก” นางมองหน้ามณีอินอย่างสงสัย
“คู่หมั้นของคุณจามาลก็คือพี่สาวของอินเองค่ะ แต่พี่สาวของอินมีคนรักอยู่แล้ว คุณจามาลก็เลยยกเลิกการหมั้นนะคะ” หญิงสาวบอกแต่ก็บอกไม่หมดเสียทีเดียว
ผู้สูงวัยผยักหน้า “มิน่าล่ะถึงจามาลถึงพูดแปลกๆกับเธอ”
“เรียกว่าเกลียดขี้หน้าอินจะดีกว่านะคะ” หญิงสาวหัวเราะในลำคอ แต่ในสายตาของผู้ที่ผ่านโลกมามากอย่างเธอและเป็นคนเลี้ยงหลานชายมากับมือทำไมจะดูไม่ออกว่าหลานชายเกลียดผู้หญิงคนนี้หรือเปล่า เธอจะไม่พูดอะไรให้หนุ่มสาวเขาจัดการกันเองถ้าทั้งสองเป็นคู่กันจริง
“ว่าไงจ้ะที่รัก” ฟีน่าสะดุ้งกับคำทักทายของฮาติม และหันไปมองรอบๆบริเวณลานจอดรถของห้างสรพสินค้าโชคดีที่ไม่มีใครอยู่แถวนี้
“พูดอะไรระวังปากบ้างนะฮาติม ฉันไม่ใช่ที่รักของนาย ฉันเป็นแฟนของพี่ชายนาย” หญิงสาวมองเขาตาเขียว
“จริงหรือแล้ววันนั้นเราเป็นอะไรกันหรือว่าต้องให้ฉันประกาศให้ทุกคนรู้” ฮาติมใช้มือเท้ากับกำแพงเพื่อขังหญิงสาวไว้ในอ้อมแขน
“ถ้าแกขืนบอกใครแกก็จะไม่ได้อะไรเลยทั้งทรัพย์สินและตัวฉัน” เธอเชิดหน้าอย่างท้าทาย
“ฉันชักไม่แน่ใจซะแล้วว่ายังต้องการเธอหรือเปล่าในเมื่อมีผู้หญิงสาวสวยเข้ามาให้ฉันเลือกอีกคน ส่วนทรัพย์สมบัติมันต้องเป็นของฉันอยู่แล้ว เธอต่างหากที่ต้องทำตัวดีๆอย่าให้ฉันโมโห” ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจ ฟีน่ากำมือแน่น นึกเสียใจที่วันเปิดตัวผลงานชิ้นใหม่ของบริษัทจามาลหญิงสาวเผลอดื่มไวท์ไปมากจนมึนหัวและก็สลบไป พอมารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ในโรงแรมกับฮาติมเสียแล้วความสาวที่ห่วงแหนเอาไว้ต้องมาหมดสิ้นเพราะผู้ชายคนนี้ ความเจ็บช้ำครั้งนี้เธอไม่มีวันลืมแน่นอน
“ตามฉันมานี่” ชายหนุ่มกระชากหญิงสาวไปที่รถของตนเองและพาเข้าไปที่โรงแรมที่อยู่ใกล้ๆกับห้างสรรพสินค้าแห่งนั้น
ฟีน่ากลับมาถึงบ้านในสภาพอิดโรยวันนี้บิดาและมารดาของเธอไปงานเลี้ยงของเพื่อนจึงไม่มีใครเห็นสภาพของหญิงสาว ฟีน่าใช้ผ้าขัดไปทั่วทั้งตัวจนแดง
“ฉันจะหาทางกำจัดแกให้ได้ไอ้ฮาติม” หญิงสาวปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมาพร้อมกับน้ำจากฝักบัว เธอรู้สึกขยะแขยงตัวเองเป็นที่สุดแล้วถ้าจามาลชายคนที่เธอรักรู้เรื่องเข้าจะเป็นยังไงหญิงสาวไม่อยากคิดแม้แต่น้อย
“คุณฟีน่าคะ” สาวใช้เคาะประตูเรียกนายสาวของตนเอง ฟีน่าเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี
“มีอะไรอีกฉันบอกแล้วไงว่าต้องการอยู่คนเดียว” หญิงสาวตวาดใส่
“แต่ว่าคุณจามาลมาขอพบนะคะ จะให้ดิฉันเรียนเขาว่ายังไงคะ”
“จามาลมา” หญิงสาวอุทานเบาๆ
“ไม่ต้องบอกเขาว่าอีก 10 นาทีฉันจะลงไป”
“ค่ะ”
ฟีน่ารีบแต่งตัวให้ดูสดใสและใช้ครีมลบรอยช้ำตามแขนและขาเพื่อไม่ให้ชายหนุ่มผิดสังเกตก่อนจะเดินยิ้มหวานลงมาจากชั้นบน“ลมอะไรหอบคุณมาถึงที่นี่ได้คะจามาล” “ก็ลมรักไงจ้ะ” ชายหนุ่มบอก“พอดีผมมาธุระทางนี่ก็เลยแวะมาหาคุณแล้วพ่อ แม่ของคุณไม่อยู่หรือครับ” ชายหนุ่มถาม“ไม่อยู่หรอกค่ะพวกท่านไปทานเลี้ยงที่บริษัทของเพื่อนนะคะกว่าจะกลับก็คงดึกๆ คุณอยู่ทานข้าวเป็นเพื่อนฟีน่านะคะ” หญิงสาวทำเสียงออดอ้อนจนชายหนุ่มใจอ่อน มณีอินนั่งเขียนสคริปไปชะเง้อมองไปทางหน้าต่างที่เปิดเอาไว้เพื่อคอยดูชายหนุ่มว่าเมื่อไรจะกลับเพราะมันก็ดึกมากแล้วหรือว่างานที่บริษัทมีปัญหา คืนนั้นเธอทำงานไม่รู้เรื่องเลยจนกระทั่งเสียงรถแล่นเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์ หญิงสาวแอบมองอยู่หลังผ้าม่านหนาได้ยินเขาคุยกับแม่บ้านชราที่เดินมารับเขา“ทำไมกลับดึกจังเลยล่ะคะ” แม่บ้านถาม“ผมแวะไปทานข้าวที่บ้านของฟีน่ามานะครับและก็อยู่เป็นเพื่อนจนดึกนะครับไม่มีอะไรมาก นี่เขาเข้านอนกันหมดแล้วหรือครับ” ชายหนุ่มถาม“ค่ะ เหลือแต่คุณอินคงยังทำงานอยู่เมื่อกี้ป้าเดินผ่านมาเห็นไฟยังเปิดอยู่” “หรือครับ ป้าก็ไปนอนได้แล้วเดี๋ยวให้ กาซิมกับนาธาลจัดการเองนะครับ” ชายหนุ่มบอกอย่างสุภาพ จามาลเดินขึ้นมาและอดไม่ได้ที่จะหันไปมองทางห้องของหญิงสาวซึ่งอยู่คนละฝั่งกัน “สงสัยจะเข้านอนแล้ว” ชายหนุ่มพูดกับตนเอง
copy right hot novel pub