งานแต่งแบบไทยๆถูกจัดขึ้นที่บ้านของฝ่ายสาวสู่ขอและทำพิธีสงฆ์ในตอนเช้าคู่บ่าวสาวตักบาตรและรับพรจากพระ จามาลดูจะตื่นเต้นมากกว่าฝ่ายหญิงเพราะธรรมเนียมของที่นี่ไม่เหมือนกับที่อัลไบม่า มณีอินกระซิบถามเบาๆ
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
จามาลหันมาส่งยิ้มให้เขินๆ
“เปล่าเพียงแต่ผมเมื่อยน่ะ”
“ใกล้เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวก็ได้พักแล้ว”หญิงสาวบอกและยิ้มหวานให้กับเขา
เวลาผ่านไปไม่นานพิธีทุกอย่างก็เสร็จสิ้นเหลือแต่เลี้ยงแขกที่มาร่วมงานในครั้งนี้ซึ่งหญิงสาวก็เลือกเชิญเฉพาะญาติผู้ใหญ่และเพื่อนที่สนิทเท่านั้น คู่บ่าวสาวเดินออกมาตอนรับแขกต่างก็ชื่นชมทั้งคู่ว่าเหมาะสมกันดีเจ้าบ่าวก็หล่อเจ้าสาวก็สวย
“วันนี้พี่อินสวยที่สุดเลยนะคะ” ยามีนะยืนมองคู่บ่าวสาวอย่างชื่นชมเคียงข้างอยู่กับกาซิมและนาธาลซึ่งต่างก็ยิ้มอย่างมีความสุข
“ใช่ครับแล้วเมื่อไรจะถึงคิวของผมเสียทีล่ะครับ” กาซิมกระซิบถามแฟนสาว
“ต้องรอดูก่อนว่าคุณรักฉันจริงแค่ไหน” ยามีนะหันมายิ้มยั่วอีกฝ่าย
“ มาหลบกันอยู่ตรงนี้เอง” ฮาติมและฟีน่าเดินเข้ามารวมกลุ่มด้วยอีกคู่
“พี่ฮาติมเห็นคุณพ่อหรือเปล่าคะ” ยามีนะถามและชะเง้อมองหาบิดา
“พี่เห็นนั่งคุยกับคุณแม่ของมณีอินอยู่ด้านในบ้านน่ะ” ฮาติมบอกและกระชับมือที่เอวของแฟนสาวเอาไว้อย่างหวงแหน
“คุณเสียใจหรือเปล่าที่ไม่ได้เป็นคนที่ยืนคู่กับพี่จามาล” ชายหนุ่มถาม
“ไม่ค่ะ เพราะฉันมีคุณเข้ามานั่งอยู่เต็มหัวใจแล้วนี่คะ” หญิงสาวบอกและอิงศีรษะลงกับไหล่กว้างของชายหนุ่ม
“อย่าบอกนะว่าติดใจผมเข้าให้แล้ว” ชายหนุ่มกระซิบบอกอย่างยั่วเย้า หญิงสาวจึงตีเข้าที่ต้นแขน 1 ที และหัวเราะชอบใจกับสายตากรุ่มกริ่มของเขา
“หวานกันซะจนน่าอิจฉาเชียวนะคะ” นิตยาพูดแซวทั้งคู่ขึ้นและทำให้ฝ่ายหญิงถึงกับอายม้วนไป
“อย่าแซวกันซิคะคุณนิด” หญิงสาวบอก
“แล้วเมื่อไรคุณนิดจะหาคู่บ้างล่ะคะ” หญิงสาวย้อนถาม
“เนื้อคู่ของนิดคงยังไม่เกิดมั่งคะ” หญิงสาวบอกและหัวเราะ วันนี้ทุกคนต่างก็มีความสุขกันทั่วหน้ามีเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้แก่กัน
คู่บ่าวสาวนั่งพับเพียบอยู่ต่อหน้าประภาวดีและอูลดาซึ่งเป็นช่วงสำคัญของการส่งตัวเข้าหอ
“แม่ขอให้ลูกทั้งสองมีความสุขมีอะไรที่ไม่เข้าใจกันก็หันหน้าเข้าหากันพูดจากันดีๆเปรียบเหมือนน้ำกับไฟ ถ้าอีกฝ่ายเป็นไฟ อีกฝ่ายก็ต้องเป็นน้ำนะลูกจำไว้” ประภาวดีพูดให้พรแก่ทั้งสอง
“พ่อก็ขอให้อยู่กันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยกันนะลูก พยายามปรับตัวเข้าหากันให้ได้ อย่าใช้อารมณ์เข้ามาตัดสิน จามาลเจ้าเป็นผู้ชายต้องคอยดูแลน้องน่ะ” อูลดายิ้มให้
“เราออกกันไปดีกว่านะคะบ่าวสาวเขาจะได้พักผ่อนพรุ่งนี้จะต้องเดินทางอีกไม่ใช่หรือคะ” ประภาวดีหันมาชวนอีกฝ่าย อูลดาพยักหน้าและลุกขึ้นเดินนำหน้าออกไปก่อน เมื่อเหลือคู่บ่าวสาวเพียงสองคนชายหนุ่มก็ประคองหญิงสาวลุกขึ้นมานั่งบนเตียง
“คุณเหนื่อยหรือเปล่า” ชายหนุ่มถาม
“นิดหน่อยค่ะ คุณไปอาบน้ำเถอะค่ะจะได้พักผ่อนกัน พรุ่งนี้เราต้องเดินทางกันอีกนะคะ” หญิงสาวบอก เพราะพรุ่งนี้พวกเธอต้องไปที่อัลไบม่าเพื่อทำพิธีแต่งงานกันอีกครั้งแต่เป็นในแบบของอัลไบม่าซึ่งป้าของชายหนุ่มได้เตรียมการเอาไว้หมดแล้ว
“แต่ผมอยากกอดคุณไว้แบบนี้นี่นา วันนี้คุณสวยมากเลยนะ”
“เพิ่งสวยวันนี้หรือคะ” หญิงสาวค้อนให้
“เปล่าสำหรับผมคุณสวยเสมอครับ” ชายหนุ่มบอกและหอมเข้าที่แก้มนวล 1 ที หญิงสาวยกมือกุมแก้มตัวเอง
“เอาเปรียบ” หญิงสาวตีเขาที่แขนและชายหนุ่มก็หัวเราะชอบใจ
“เอาเปรียบที่ไหน ผมให้หอมคืนก็ได้” ชายหนุ่มเอียงแก้มให้หญิงสาว
“ไม่พูดด้วยแล้ว ไปอาบน้ำดีกว่า” หญิงสาวลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในห้องน้ำชายหนุ่มจึงรีบตามเข้าไปอีกคน
หลังจากพิธีเสร็จบ่าวสาวก็ถูกปล่อยทิ้งไว้เพียงลำพังภายในกระโจมใหญ่กลางทะเลทราย
“คุณเสียใจหรือเปล่าที่แต่งงานกับฉัน” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้น ชายหนุ่มกระชับอ้อมแขนที่โอบรอบเอวให้แน่นขึ้นอีก “ไม่เลยผมดีใจที่มีคุณเป็นแม่ของลูกผม อีกไม่กี่เดือนผมก็จะได้เห็นหน้าลูกแล้วซิน่ะ” .ชายหนุ่มลูบหน้าท้องของหญิงสาวแผ่วเบา มณีอินอิงซบไหล่ชายหนุ่มเงยหน้ามองท้องฟ้า
“ดาวที่นี่สวยจังเลยนะคะ”
“แต่ผมเพิ่งเห็นว่ามันสวยก็วันนี้เอง” ชายหนุ่มบอกและหยิบมาห่มขึ้นมาพันรอบตัวทั้งของเขาและเธอ
“อากาศเย็นแล้วเข้าข้างในกันดีกว่านะอิน”
“ฉันอยากนอนมองท้องฟ้ากับคุณที่นี่ได้หรือเปล่าฉันยังไม่ง่วงเลย” มณีอินหันมามองหน้าสามี
“ได้ซิ ผมอยากให้คุณแทนตัวเองว่าอิน ฟังดูแล้วน่ารักดี”
“ค่ะ”
“จามาลฉันถามจริงๆนะคะ ตอนแรกคุณแค้นฉันมากขนาดนั้นเลยหรือคะ”
“ไม่ใช่แค้นหรอกเพียงแต่ผมเสียหน้าที่ถูกปฏิเสธจากผู้หญิง” ชายหนุ่มบอก
“อ้อ...แสดงว่าคนอย่างคุณไม่เคยถูกผู้หญิงปฏิเสธ” น้ำเสียงของหญิงสาวเปลี่ยนไป
“ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ ผมไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนนอกจากคุณ” หญิงสาวหันมามองอย่างไม่อยากเชื่อ
“จริงน่ะ ผมไม่ใช่ผู้ชายมากตัณหาแบบนั้น เป็นความสัตย์จริงถามกาซิมกับนาธาลด้วยก็ได้” ชายหนุ่มยกมือขึ้นเป็นเชิงสาบาน
“ฉันเชื่อคุณค่ะ” หญิงสาวยิ้มอย่างภูมิใจ
“จามาลคะอินมีอยู่ที่หนึ่งที่อยากจะไปคุณช่วยพาไปหน่อยนะคะ” หญิงสาวใช้มือสอดเข้าไปที่ท้ายทอยของชายหนุ่มและก้มหน้าลงมาหาใช้หน้าผากชนกับหน้าผากของเขาอย่างยั่วเย้า“ได้ซิ บอกมาว่าอยากไปไหน” หญิงสาวกระซิบข้างหูของชายหนุ่ม...เขาหัวเราะในลำคอ“แค่นี้เองสบายมากจ้ะ” ชายหนุ่มโน้มคอหญิงสาวลงมาหาและจูบเธออย่างดูดดื่มท่ามกลางแสงดาวบนฝากฟ้า ภายในวิหารแห่งคู่รักหญิงสาวนั่งคุกเข่าลงต่อหน้ารูปปั้นและพนมมือหลับตานิ่ง ...เรื่องของคุณทั้งคู่สร้างศรัทธาความรักให้เกิดกับฉันและทำให้ฉันกลับมาที่นี่อีกครั้ง ขอให้ดวงวิญญาณของพวกคุณอยู่คู่กันตลอดไป...หญิงสาวลืมตาขึ้นและเงยหน้าขึ้นมองรูปปั้นองค์เทพีอีกครั้ง จามาลเดินเข้ามาดูหญิงสาวเพราะหายเข้ามานานแล้ว“คุณอธิษฐานอะไรอยู่หรือที่รัก”“ฉันนึกถึงคำพูดของมนัสค่ะที่บอกกับฉันว่าถ้าใครดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์เข้าไปจะต้องกลับมาที่นี่อีก ตอนนั้นฉันไม่เชื่อแถมยังหัวเราะเขาอีกด้วย ไม่นึกว่าจะต้องกลับมาที่นี่อีกจริงๆ” หญิงสาวมองหน้าสามีก่อนจะยิ้ม จามาลเข้ามาประคองหญิงสาวลุกขึ้นและออกมานั่งที่เก้าอี้ไม้ใต้ต้นสาระที่แผ่กิ่งก้านออกปกคลุมให้ร่มเงากับผู้ที่มาเยือน“ดื่มน้ำก่อนซิที่นี่อากาศร้อนเดี๋ยวคุณจะไม่สบาย” จามาลส่งขวดน้ำดื่มให้หญิงสาว“เมื่อก่อนอินก็คิดว่ามันร้อนมาก แต่มาในครั้งนี้ทะเลทรายที่ร้อนระอุและมีสีทองกลับกลายเป็นทะเลทรายสีน้ำผึ้งแทนเพราะว่าอินมีคุณมาอยู่เคียงข้าง ขอบคุณนะคะจามาลที่คุณรักอินและสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ให้กับอิน” หญิงสาวมองจ้องหน้าของชายหนุ่ม...จามาลดึงตัวหญิงสาวเข้ามากอดอย่างอ่อนโยนและถนุถนอม“คุณคือดวงใจของผมนะอินจำเอาไว้ ผมรักคุณ” คำบอกรักของชายหนุ่มดังกังวานไปทั่วทุกห้องหัวใจของหญิงสาว นับจากนี้ไปชีวิตของเธอจะมีเขาอยู่เคียงข้างเสมอ
copy right hot novel pub