โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

ทัณฑ์รักอสูรร้าย

บทที่ 19 จำเลย 1.1

ศาสตราจอดรถหน้าบ้านของปรางค์รวี ก่อนจะก้าวลงจากรถ โดยไม่ทันสังเกตเห็นรถคันหรูคันหนึ่งที่จอดอยู่ตรงข้ามบ้านของเธอ เพราะเขาสนใจเพียงแค่ คนที่อยู่ในบ้านหลังนี้เท่านั้น

ในขณะเดียวกัน ดวงตาสีเขียวมรกตของเจ้าของรถยนต์คันหรูคันนั้นเจิดจ้าร้อนแรงขึ้นทันใด เมื่อเห็นร่างของชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดี แต่งกายภูมิฐาน เดินเข้าไปในบ้านของปรางค์รวีอย่างคุ้นเคย คนที่คิดกับปรางค์รวีในแง่ไม่ดี คิดเองเออเองว่า ชายคนดังกล่าวคงจะเป็นเหยื่อรายใหม่ของเธอที่เข้ามาติดพัน ทว่าวิตโตริโอก็นิ่งเฉย รอดูสถานการณ์อยู่เงียบๆ แต่ใจร้อนรุ่ม

“ปรางค์ คุณไปไหนมา ผมเป็นห่วงคุณแทบแย่ ติดต่อคุณไม่ได้เลย” ศาสตราเอ่ยถามทันทีที่เห็นปรางค์รวีเดินออกมาจากบ้านพร้อมกับถือกระเป๋าเดินทางออกมาด้วย

“ปรางค์ขอโทษบอสด้วยนะคะ ที่ไม่ได้โทรไปบอกบอส”

“แล้วปรางค์ไปอยู่ที่ไหน แล้วปรางค์กำลังจะไปไหน” ศาสตรายิงคำถามใส่สองคำถามในคราเดียว

“บอสมาก็ดีแล้วค่ะ ปรางค์ตั้งใจว่าจะโทรไปบอกบอสพอดีว่า ปรางค์ขอลาออกจากงานนะคะ พอดีว่าปรางค์ได้งานใหม่แล้วค่ะ”

คำพูดของปรางค์รวี ทำให้ศาสตรายืนนิ่ง ตกใจและแปลกใจในเวลาเดียวกัน เขาแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองว่า เธอจะลาออกเพราะมันไม่มีสัญญาณใดๆ บอกให้เขาล่วงรู้เลย

“ปรางค์ทำผมงง ปรางค์มีเหตุผลอะไรถึงต้องลาออก”

“ปรางค์ได้งานทำใหม่ค่ะ เป็นงานที่ปรางค์ชอบและใฝ่ฝัน ปรางค์ไปเป็นครูสอนพิเศษกับเด็กคนหนึ่งที่อยู่ต่างจังหวัดคะ ปรางค์ต้องไปแล้วนะคะ เจ้านายของปรางค์รออยู่ที่รถ” ปรางค์รวีขอตัวทันทีเมื่อเวลาที่วิตโตริโอกำหนดกำลังจะหมดลง

ศาสตราตั้งท่าจะถามคำถามที่ตนสงสัย หากแต่สาวน้อยร่างบางรีบเดินออกไปจากบ้านอย่างรีบร้อน แต่ศาสตราก็ไม่ยืนนิ่งเฉย เขาวิ่งตามร่างของปรางค์รวีไปติดๆ

“เดี๋ยว...ปรางค์” ศาสตราวิ่งมาดักหน้าปรางค์รวี

“คะบอส”

“ผมไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงว่าการลาออกของปรางค์คืออะไร แต่อยากให้ปรางค์รู้ว่า ถ้าปรางค์มีปัญหาบอกผมได้ทุกเมื่อผมยินดีรับฟังปัญหาของปรางค์เสมอ” คำพูดอ่อนโยน นุ่มนวล ที่ได้ยินปรางค์รวีซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ศาสตราดีกับเธอมาตลอด เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่เธอรู้สึกอบอุ่นยามที่ใกล้ชิด หากแต่ความรู้สึกที่เธอมีให้เขา มีแค่ความเป็นเพื่อน เป็นพี่ และเป็นเจ้านายเท่านั้น

“ขอบคุณมากค่ะ สำหรับทุกอย่าง แต่ปรางค์ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้นค่ะ ปรางค์ต้องไปแล้ว ปรางค์ขอตัวนะคะ” หญิงสาวยิ้มแทนคำอำลา ก่อนที่เธอจะก้าวเดินผ่านร่างหนาของศาสตรา แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อศาสตรารั้งร่างอิ่มเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตน ความตกใจทำให้กระเป๋าในมือของปรางค์รวีหลุดมือ

“ผมไม่รู้ว่า คุณมีปัญหาอะไร แต่ขอให้รู้ไว้ ผมอยู่กับคุณเสมอ ผมรักคุณนะปรางค์” ศาสตราบอกความรู้สึกที่มีต่อสาวในอ้อมแขน ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้บอก ส่วนคนถูกบอกรักก็ยืนนิ่ง ไม่ไหวติงเนื่องจากตกใจกับการกระทำและคำพูดของเขา จนหลงลืมไปชั่วขณะว่า เธอไม่ได้มาที่นี่คนเดียว

วิตโตริโอมองภาพนั้นผ่านกระจกภายในรถ ดวงตาสีเขียวมรกตลุกโชน ความไม่พอใจพุ่งสูง เขาไม่ชอบให้ใครมาอยู่ใกล้เธอ ทนไม่ได้ที่เห็นเธออยู่ในอ้อมแขนของชายอื่น อยากจะลงไปกระชากร่างอรชร แล้วกระหน่ำหมัดใส่ชายคนดังกล่าวให้คลายความรู้สึกที่เป็นอยู่

เสียงบีบแตรดังสนั่นรัวเร็วหลายครั้ง จากฝ่ามือของวิตโตริโอที่เอื้อมมือมากดซ้ำๆ อย่างไม่กลัวคนด่า หลังจากดูภาพบาดตานั้นไม่ไหว

เสียงแตรรถที่ดังไม่หยุด เรียกสติของปรางค์รวีให้มาอยู่กับตัว เธอดันร่างสูงของเจ้านายออกห่างตัว ก่อนจะขยับร่างถอยมาหนึ่งก้าว

“ปรางค์ขอบคุณสำหรับความรักที่บอสมีให้นะคะ แต่ปรางค์ตอบรับความรู้สึกที่บอสมีให้ไม่ได้จริงๆ ค่ะ ปรางค์ขอตัวนะคะ” พูดจบ เธอก็ก้มลงหยิบกระเป๋า ก่อนจะเดินไปยังรถยนต์เจ้าของเสียงแตรสนั่นหวั่นไหว โดยมีสายตาละห้อยของศาสตรามองตามไป

“ทำไมไม่ไปนอนกับมัน ล่ำลาบนเตียงซะเลยล่ะ ไม่ใช่มายืนกอดกันหน้าบ้านอย่างนี้” เขาตวาดเสียงดังลั่นรถ ขณะที่รังสรรค์ขับรถเคลื่อนออกไป กดปุ่มปิดกระจกทึบกั้นระหว่างตอนลง เพราะรู้ดีว่าเวลานี้ เจ้านายต้องการความเป็นส่วนตัว

“ปรางค์ไม่ได้กอดคุณศาสตรานะคะ เขากอดปรางค์เอง” เธอพูดเสียงเบา ไม่กล้ามองสบตาแรงกล้านั้น

“อ้อ! ไม่ได้กอดมัน แต่ยืนให้มันกอด ผู้ชายคนนี้ใช่ไหม ที่เธอฆ่าลูกของฉัน เพื่อไปอยู่กับมัน ใช่ไหม...ใช่มันใช่ไหม ชู้รักของเธอน่ะ”

เสียงตวาดถามดังลั่น ร่างสมส่วนสะดุ้งโหยง กระเถิบหนีเขาจนชิดประตูรถ แต่เธอก็หนีเขาไม่พ้น วินาทีต่อมา ร่างของปรางค์รวีก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของอสูรร้าย

“ว่าไง...ตอบมา เพราะมันใช่ไหมที่ทำให้เธอฆ่าลูกของฉัน” เสียงเข้มห้วนถาม นัยน์ตาแข็งกระด้าง

“ไม่ใช่ค่ะ ไม่มีใครเป็นสาเหตุทั้งนั้น มันเป็นอุบัติเหตุค่ะคุณเสือฟังปรางค์ก่อนนะคะ” ปรางค์รวีพยายามอธิบายให้เขาฟัง หากแต่เขาหาได้ฟังเหตุผลของเธอไม่ ตอนนี้เขาไม่มีสติพอที่จะฟังอะไรทั้งนั้น

“ไม่! ฉันไม่ฟัง ฉันฟังเรื่องชั่วช้าของเธอมามากแล้ว ฉันจะไม่ฟังอะไรเธออีกแล้ว ต่อไปนี้สิ่งที่ฉันจะฟังก็คือ เสียงร้องไห้และเสียงคร่ำครวญของเธอที่เปรียบเสมือนเสียงเพลงอันไพเราะที่สุดสำหรับฉันปรางค์รวี” เสียงที่เธอกำลังจะกรีดร้องหายไป เมื่อริมฝีปากหนาจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว รุนแรง จนเธอเจ็บร้าวไปทั้งริมฝีปาก แรงบดจูบเต็มไปด้วยความแค้นเคือง ทุกสัมผัสของเขาคือความเจ็บปวด ที่ไม่สามารถอธิบายได้ ซึ่งเธอเองก็ไม่อาจห้ามการกระทำใดๆ ของเขาได้เลย

ร่างของปรางค์รวีถูกผลักลงไปยังเบาะที่นั่ง มือแกร่งถลกเสื้อสีหวานขึ้นสูงเหนือเนินอก กระชากเสื้อในลายเซ็กซี่ขาดติดมา เผยให้เห็นดอกอุบลสองช่อ ก่อนที่เขาจะก้มหน้าโอบล้อมยอดถันด้วยอุ้งปากอุ่น กัดจนเธอกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ดูดเม้มเนินอกขาวเกิดรอยจ้ำกระจายไปทั่ว ทรวงอกอีกข้างถูกมือหนาบีบอย่างแรง แทบจะแหลกเหลวคามือ

“ไม่คุณเสือ อย่าทำปรางค์แบบนี้ ปล่อยปรางค์” ปรางค์รวีทนความเจ็บปวดนั้นไม่ไหว ผลักร่างแกร่งให้ถอยห่าง แต่ดูเหมือนยิ่งออกแรงผลักมากเท่าไหร่ ร่างของเขายิ่งโถมน้ำหนักตัวทับร่างของเธอมากเท่านั้น ปรางค์รวีเริ่มอ่อนแรง หัวใจอ่อนล้า แรงต้านทานหดหาย ความเสียใจอาบไปทั่ว

ปราการสองชิ้นล่างถูกถอดออกจากเรียวขางาม เธอหลับตานิ่งยอมรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างร้าวรานใจ นิ้วแกร่งทำหน้าที่เบิกทางเข้าไปในความเป็นอิสตรีเพศ ออกแรงขยับในจังหวะเร่าร้อน เธอบิดตัวไปมาความกระสันก่อกำเนิดในหัวใจที่พยายามต้านทานแรงอารมณ์ ยอดทรวงเป็นที่หมายของความอร่อย เปรียบดั่งเนื้อวิปครีมนุ่มที่ถูกละเลงอยู่บนไอศกรีม ตวัดเลียด้วยปลายลิ้นชิมเนื้อครีม กลืนกินไอศกรีมรสสตอเบอร์รี่แสนอร่อย

วิตโตริโอลุกขึ้นนั่ง ปลดกางเกงยีนส์ร่นลงถึงหัวเข่า จับร่างบางนั่งคร่อมร่างของเขา แทรกซอนตัวตนที่ขยายเต็มพิกัด เข้าไปในความเป็นอิสตรี บังคับร่างบางให้ขยับด้วยมือหนาที่จับมั่นตรงเอวเล็ก ร่างงามสะท้านขึ้นลงด้วยจังหวะเร็วแรง เขาออกแรงอย่างไม่กลัวเธอเจ็บและบอบช้ำ น้ำหนักของร่างเล็กยามที่กระแทกลงมาสร้างความเจ็บปวดให้เธอไม่น้อย ทรวงอกกระเพื่อมไหวถูกครอบครองด้วยเรียวปากหนา กัดบ้างขบบ้าง สลับดับดูดกลืน“คุณเสือพอค่ะ ปรางค์เจ็บ” เธอร้องบอกพยายามขืนตัวเต็มกำลัง ตอนนี้ร่างกายของเธอร้าวระบมไปทั้งร่าง แรงกระแทกมีพลังมหาศาล ส่งผลให้ร่างกายของเธอระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ กระจัดกระจายจนมองหาเศษเนื้อหนังไม่เจอ“แต่ฉันยังไม่พอ” เขายกลำตัวของเธอขึ้นสูง จับร่างของเธอนอนลงบนเบาะ จับเรียวขาอีกข้างพาดบนพนักพิงศีรษะ ส่วนอีกข้างถูกยกลอยขึ้นสูง ก่อนจะแทรกร่างกายเข้าไปในความเป็นถ้ำสวรรค์อีกครั้ง“คุณเสือ” เธอร้องครางระบายความเจ็บปวดที่เกาะกินตามผิวกายทุกสัดส่วน ทุกท่วงท่าที่เขาขยับสอดแทรก กลีบปากหนาที่กระแทกจูบบดคลึง เกี่ยวพันลิ้นนุ่มที่พ่ายแพ้หมดหนทางสู้อย่างสำราญ ขยับถาโถมกระโจนจ้วงราวกับเสือร้าย วิ่งด้วยความเร็วสูงสุดที่มี ไล่ล่าเหยื่ออันโอชะ ที่วิ่งหนีตายตรงหน้าให้แดดิ้นสูญสิ้นอิสรภาพภาพของชายอื่นตะคองกอดปรางค์รวียังวนเวียนในหัว นำพาให้แรงที่ส่งเข้าหาความเป็นร่างงามอย่างไม่ออมแรง จาบจ้วง รุนแรง จนเธอแทบจะทานทนไม่ได้ อยากให้ช่วงเวลาเลวร้ายนี้ผ่านพ้นโดยเร็ว จากนาทีเวลาเริ่มเคลื่อนย้ายไปเป็นสิบ เข็มนาฬิกายังคงเดินต่อไป พร้อมกับร่างสาวที่กำลังแหลกสลาย หัวใจแหลกละเอียด จนกระทั่งทุกอย่างหยุดสิ้นลงหลังจากที่เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงไม่ขาดไม่เกิน เขาผละออกจากร่างปรางค์รวีทันที ขยับกายนั่งแล้วจัดการสวมกางเกงให้เรียบร้อย สีหน้าของวิตโตริโอนิ่งเฉย ไม่สะทกสะท้านเรื่องที่ตนทำลงไปเมื่อครู่ ไม่แม้แต่ชายตามองร่างสาวที่พยายามลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบากเลยแม้แต่น้อย ไม่ปลอบโยน ไม่สนใจ กลับทำในสิ่งที่เธอแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่“ใส่เสื้อผ้าได้แล้ว เมื่อไหร่เธอจะท้องซักที ฉันขยะแขยงและเหม็นสาบกลิ่นคาวความเน่าเฟะของเธอเต็มทนแล้ว รู้ไหมว่าฉันต้องทำใจมากแค่ไหนที่นอนกับเธอ ผู้หญิงร่านอย่างเธอ ฉันสนองให้แค่นี้ก็นับว่าบุญแล้ว” วิตโตริโอคว้ากางเกงของปรางค์รวี ปาใส่ดวงหน้าของเธออย่างแรง แต่นั่นไม่เจ็บเท่าคำพูดของเขา หญิงสาวแต่งตัวอย่างเชื่องช้า ปวดร้าวไปทั่วสรรพางค์กาย ก่อนจะกระเถิบกายไปนั่งชิดกับประตูอีกด้าน ปล่อยความเสียใจเป็นหยาดน้ำตาอยู่เงียบๆ ตามคนเดียว

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์