เสียงประตูห้องนอนถูกเปิดออก หลังจากที่ถูกปิดตายมาสามวัน อาหารและเครื่องดื่มจะถูกนำมาวางไว้ที่ช่องขนาดกลาง ที่เขาทำขึ้นความกว้างของมันมากพอที่จะสอดถาดอาหารเข้ามาเท่านั้น พอเธอรับประทานเสร็จก็จะยกมาวางไว้ที่เดิม ลูกน้องของวิตโตริโอจะเป็นคนนำไปเก็บ และนำมาวางไว้ให้ใหม่ในมื้อต่อไป จะทำเช่นนี้ทุกครั้งที่เขาไม่อยู่ หากเขาอยู่อาหารจะนำมาเสิร์ฟถึงในห้อง
ปรางค์รวีมองร่างสูงใหญ่ที่เดินเข้ามาใกล้ วันนี้เธอตัดสินใจที่จะขออะไรเขาบางอย่าง หลังจากที่ตัดสินใจอยู่หลายวัน ริมฝีปากบางตั้งใจจะเผยอพูดในสิ่งที่ตนคิด หากแต่มีสิ่งหนึ่งทาบทับปิดเสียงที่กำลังจะเอ่ยออกมาจนสิ้น ความซาบซ่านไหลอาบไปทั่ว ยามที่เขาแทรกซอนลิ้นหนาที่ยังคงความตื่นเต้นได้ทุกครั้งที่ล่วงล้ำเข้ามา ร่างกายของสาวน้อยเริ่มสั่นไหว ลิ้นหนายังคงรุกรานอย่างหนัก หิวโหย ถวิลหา กระหวัดลิ้นนุ่มที่ตอบสนองสัมผัสของเขาด้วยความเร่าร้อน กระแสสวาทกระทบกับร่างกายหนา ปลุกอารมณ์ที่อัดอั้นมาตลอดสามวันให้ลุกพรึบ มือใหญ่วางแนบลงบนทรวงอกนุ่มเต็มมือ เคล้นคลึงตามอารมณ์ส่วนลึกที่ก่อเกิด ร่างบางถูกผ่อนให้นอนลงบนที่นอน ความคิดถึงและโหยหากำลังถ่ายทอดออกทางร่างกาย
หัวสมองของปรางค์รวีหลงลืมความคิดที่จะบอกกับเขา เมื่อถูกกองเพลิงเสน่หาครอบงำ ความรัญจวนตีแผ่เป็นระลอกคลื่นถาโถม ร่างบางให้อ่อนระทวยอยู่ภายใต้ร่างแกร่ง มือแข็งแรงทำงานอย่างเชี่ยวชาญ ปาดป่ายไปตามเนื้อนวล เสียดสีกับอาภรณ์ที่หญิงสาวสวมใส่ ทำให้เกิดประกายไฟลามเลียไม่มีที่สิ้นสุด
ปลายจมูกโด่งสูดดมความหอมจากแก้มสาว หลังจากที่ถอนจูบแสนเร่าร้อน ดอมดมกลิ่นกายหอมดังหัวน้ำหอมชั้นเยี่ยมสูดดมอย่างลึกซึ้ง ลำคอระหงถูกใบหน้าคมซุกไซ้ไปรอบลำคอ มือหนาดึงรั้งชายเสื้อยืดมากองอยู่บนอก ฝ่ามือใหญ่เฟ้นบัวตูมเบ่งบานเต็มมือ แรงบีบนั้นมากพอที่จะเรียกเสียงครางให้กับปรางค์รวี ไม่ใช่เพราะแรงบีบ แต่เป็นเพราะปลายนิ้วใหญ่ เย้าทรวงของเธอต่างหาก ก่อนที่เรียวปากหนาร้อนผ่าวจะเข้ามาทำหน้าที่แทนนิ้วมือ
เสียงเคาะประตูห้องนอนดังรัว ก่อนจะหยุดและดังขึ้นอีกหลายครั้ง ส่งผลให้ใบหน้าคมที่ซุกซบตรงทรวงอกสล้าง รู้สึกหงุดหงิดที่มีคนมาขัดจังหวะ วิตโตริโอจูบซ้ำๆ เนินอกหลายครั้ง พึมพำอะไรบางอย่าง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่ประตูด้วยใบหน้าเอาเรื่อง
“มีอะไร ใครจะตายถึงต้องเคาะดังขนาดนี้” วิตโตริโอถามผู้เคาะประตูที่ยืนนำหน้าเจื่อน หากไม่มีเรื่องด่วนรังสรรค์ไม่มีทางเคาะประตูเด็ดขาด รู้ดีว่าเวลานี้เจ้านายต้องการความเป็นส่วนตัวมากที่สุด
“คือว่าโกดังสินค้าของเราถูกวางเพลิงครับครับ”
“บ้าเอ๊ย! ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง คนของเราไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกันหมด ปล่อยให้โกดังไฟไหม้” วิตโตริโอตะโกนถามอย่างเหลืออด คนของเรามีฝีมือมากพอ ไม่น่าเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นได้มันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่นอน
“คาร์บอมบ์ครับ มีคนขับรถมาจอดรถใกล้ๆ กับโกดังตั้งเวลาระเบิดไว้ คนของเราเห็นเหตุการณ์แต่กู้ไว้ไม่ทันครับ ผมคิดว่าคนที่ทำไม่ได้ตั้งใจจะทำโกดังเสียหาย แค่ขู่เท่านั้นครับ” รังสรรค์คาดเดาหลังจากที่ได้รับรายงาน เพราะถ้าหากระเบิดหวังผล คงต้องใช้ระเบิดที่มีอานุภาพมากกว่านี้
“ฝีมือใคร” น้ำเสียงเข้มเอ่ยถามด้วยความสงสัย อยากรู้
สายตาของรังสรรค์มองเข้าไปในห้อง เขาเห็นร่างของปรางค์รวีนั่งอยู่บนเตียง ทำให้รังสรรค์นึกถึงคำพูดของภัทราที่เอ่ยไว้กับเขาว่า หากปรางค์รวีติดต่อไปหามารดาของเธออีกครั้งก็คงดี ยัยจอมยุ่งจะได้เลิกคิดไปในแง่ลบ รังสรรค์มัวแต่คิดถึงภัทรา มองปรางค์รวีนิ่ง ส่งผลให้วิตโตริโอไม่พอใจ ก้าวเดินออกมาจากห้องนอน ปิดประตูโครมใหญ่ เรียกสติของรังสรรค์กลับคืนมาทันที
“ถ้าแกมองปรางค์อย่างนี้อีก แกตายแน่” วิตโตริโอพูดเสียงดัง กระชากคอเสื้อรังสรรค์ ดึงเข้าหาลำตัวแกร่งของเขา ลูกน้องคนสนิทเริ่มรู้ถึงความหึงหวงที่กระจายอยู่รอบตัวเจ้านายหนุ่ม รู้สึกหวั่นๆ ว่าจะโดยนมือหรือเท้าของวิตโตริโอ เขาไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับปรางค์รวีเลย แต่ถ้าเป็นภัทราแม่จอมยุ่งที่วิ่งวนเข้าหาเข้ามาในหัวใจก็ไม่แน่
“ผมไม่เคยคิดอะไรกับคุณปรางค์เลยนะครับ ผมกำลังคิดว่าถ้าเจ้านายให้คุณปรางค์ติดต่อกับแม่ของเธอบ้างก็น่าจะดี ทางบ้านของคุณปรางค์จะได้ไม่สงสัยและไม่เป็นห่วง” รังสรรค์รีบพูดเร็ว ก่อนที่เขาจะไม่มีโอกาสได้พูดอีก
“ดูท่าทางแกจะเป็นห่วงความรู้สึกของปรางค์เกินไปหรือเปล่า ไอ้เสก” คราวนี้นำเสียงนั้นทั้งเข้มทั้งดุดัน
“ผมเป็นห่วงเจ้านายต่างหาก คิดดูนะครับ ถ้าหากทางบ้านคุณปรางค์ติดต่อกับคุณปรางค์ไม่ได้ แล้วไปแจ้งตำรวจ เจ้านายจะลำบากนะครับ ผมว่าให้คุณปรางค์ไปหาแม่เค้าสักครั้งหนึ่งหรือไม่ก็โทรไปหาแม่ของเธอก็ได้ครับ ทุกคนจะได้ไม่สงสัยที่หายไปไม่ติดต่อกลับมาเลย คุณปรางค์รักและเป็นห่วงแม่มาก ถ้าได้พูดคุยกับแม่สักครั้งก็ดีนะครับ”
รังสรรค์บอกความคิดให้เจ้านายหนุ่มได้รับรู้ หวังในใจว่าเหตุผลของเขาจะทำให้อารมณ์ของวิตโตริโอผ่อนคลายลง
“นายรู้ได้ยังไงว่าปรางค์รักและห่วงแม่มากเรื่องนี้ฉันน่าจะรู้ดีกว่าแกนะ เพราะฉันเป็นแฟนกับปรางค์มาก่อน” เขาถามด้วยน้ำเสียงคาดคั้น
“โธ่...ไม่ยากเลยครับเจ้านาย คุณปรางค์กับแม่มีกันอยู่สองคน ถ้าคุณปรางค์ไม่รัก ไม่เป็นห่วงแม่ แล้วจะให้ไปห่วงใครละครับ”
รังสรรค์ไม่อาจบอกวิตโตริโอได้ว่าที่เขารู้เป็นเพราะภัทราเป็นคนบอก จึงต้องใช้ข้อสันนิษฐานมาเป็นข้ออ้างแทน
“แล้วฉันจะรับไว้พิจารณาก็แล้วกันนายไม่ต้องเป็นห่วงปรางค์หรอก ห่วงตัวเธองดีกว่า รีบไปหาข้อมูลเรื่องระเบิดมาให้ฉันในเย็นนี้ ไม่งั้นลูกปืนของฉันจะระเบิดอยู่ในสมองของนาย” สิ้นคำพูดของวิตโตริโอ มือหนาเปิดประตูและเดินเข้าในห้องนอนตามด้วยเสียงปิดประตูโครมใหญ่ รังสรรค์รีบไปทำงานตามคำสั่งทันที เพื่อให้ทันเวลาที่ชายหนุ่มขีดเส้นตายเอาไว้
“มีอะไรหรือเปล่าคุณเสือ” ปรางค์รวีถามด้วยความเป็นห่วง เสียงพูดคุยระหว่างวิตโตริโอกับรังสรรค์ที่ได้ยินไม่สู้ดีเอาเสียเลย หารู้ไม่ว่าแรกเริ่มคือเรื่องของงาน ต่อจากนั้นคือเรื่องของเธอทั้งสิ้น
“ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับกับเธอหน่อย” วิตโตริโอทรุดตัวลงนั่งข้างหญิงสาว ใช้ลำแขนหนาโอบเอวบางรั้งร่างนุ่มเข้ามาหาอกกว้างของเขา
“ปรางค์ก็มีเรื่องที่จะขอร้องคุณเสือเหมือนกันค่ะ” เธอตัดสินใจพูด
“ว่ามา” เขาเปิดโอกาสให้หญิงสาวพูดก่อน
“ปรางค์อยากไปหาแม่ ปรางค์ไม่ได้ติดต่อแม่มาเป็นเดือนแล้ว แม่คงเป็นห่วงปรางค์ ถ้าคุณเสือไม่ให้ปรางค์ไปให้ปรางค์โทรศัพท์ไปหาแม่ก็ได้ค่ะ” วิตโตริโอตีสีหน้ายุ่ง เมื่อได้ยินคำพูดของปรางค์รวี อะไรมันจะพอเหมาะพอเจาะกับคำพูดและความคิดของรังสรรค์ขนาดนี้ เชลยสาวหน้าถอดสี เริ่มกลัวกับสีหน้าของชายหนุ่มที่เริ่มบึ้งตึง
“เธอสนิทกับไอ้เสกมันมากแค่ไหน ดูท่าทางเธอกับลูกน้องฉันจะใจตรงกันเหลือเกินนะ” เขาไม่ตอบ กลับถามสวนชนิดที่เรียกว่าปรางค์รวีไม่ทันตั้งตัวและสงสัยกับคำถามของเขา ไม่เพียงแต่น้ำเสียงที่หนักแน่นเท่านั้น ฝ่ามือใหญ่บีบแก้มนวลสวยของทั้งสองข้างด้วยมือเพียงมือเดียว ออกแรงบีบจนเธอเจ็บปวดไปหมด มือนุ่มจับข้อมือหนา พยายามจะดึงออกเพราะไม่อาจทนกับความเจ็บปวดที่เขาออกแรงบีบมากยิ่งขึ้นได้
“ตอบมาเธอไปสนิทกับไอ้เสกตอนไหน” เขาตะคอกถาม หัวใจของคนถามรุ่มร้อนเหมือนมีไฟมาสุมอยู่ในอก เขาคลายมือที่บีบแก้มนวลออกเพื่อเพียงให้เธอตอบคำถามของเขา
“ปรางค์ไม่ได้สนิทคะ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ปรางค์ไม่ได้คุยกับคุณเสกเลยค่ะ” เธอตอบเสียงเบา หลบสายตาดุดันของเขา วิตโตริโอมองดวงหน้าของเชลยสาวนิ่ง สับสนกับความรู้สึกของตัวเองที่ตีกันยุ่ง ใจหนึ่งเกลียด คิดเพียงว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเครื่องระบายความใคร่ยามเพลิงกามครอบงำ แต่อีกใจไม่คิดเช่นนั้น เขารู้สึกหึงหวงไม่ชอบใจยามที่มีชายอื่นมองเธอไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ คิดถึงผิวกายหอมหวานเป็นธรรมชาติ เป็นกลิ่นกายสาวที่ไม่พึ่งพากลิ่นน้ำหอม เนื้อนวลนุ่มนิ่มยามเขาจับต้อง แค่คิด แค่จินตนาการ มันมากพอที่จะทำให้เสือน้อยของเขาตื่นตัวได้อย่างไม่ยาก ผิดกับกมลเนตร ในห้วงคำนึงของเขามีผู้หญิงชื่อนี้อยู่น้อยมาก นับตั้งแต่เขาเดินทางกลับเมืองไทย
“อย่าให้รู้นะว่าเธอสนิทกับคนของฉันหรือว่าผู้ชายคนไหน ถ้าฉันรู้เธอเตรียมตัวต่อโลงได้เลย” เขาพูดเสียงดัง ร่างบางสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
“ค่ะ” เธอรับคำเสียงแผ่ว
“ส่วนเรื่องที่เธอขอ ฉันตกลงตามนั้น ฉันจะพาเธอไปหาแม่เอง” วิตโตริโอพูดออกมาในที่สุด คำพูดของรังสรรค์ย้ำเตือนให้เขาคิดว่าเปิดโอกาสให้ปรางค์รวีได้เจอหน้ามารดาครั้งหนึ่งก็ยังดี มารดาของเธอจะได้ไม่เป็นห่วง“จริงๆนะคะ คุณเสือจะให้ปรางค์ไปหาแม่จริงๆนะคะ” เธอกอดร่างหนาด้วยความดีใจ ลืมตัวไปว่าเธอมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร เขาจะพูดจริงหรือพูดปด สุดแต่ใจเขาบัญชา วิตโตริโออดใจไม่ไหวที่จะโอบกอดร่างสวยอย่างลืมตัวเช่นกัน รอยยิ้มสวยๆ ที่เขาไม่ได้เห็นมานาน ทำให้เขาใจเต้นแรง ภายในใจเบิกบาน แช่มชื่นอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเห็นรอยยิ้มนี้ หลงลืมความบาดหมางเสียสนิท“จริงสิแต่ฉันต้องขอรางวัลล่วงหน้าจากเธอก่อนนะ” ร่างเล็กไม่มีสิทธิ์ต่อรองใดๆ ปล่อยให้อสูรร้ายเพียรขอรางวัลจากเนื้อกายสาวของตน ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกว่าเขาจะพึงพอใจภัทรามองคนกลุ่มใหญ่ที่เดินออกจากลิฟต์อย่างสนใจ ดวงตาหวานเบิกกว้าง เมื่อเห็นมือเล็กของเพื่อนสนิทตกอยู่ในอุ้งมือมารของวิตโตริโอ ท่าทางวิตโตริโอเปลี่ยนไป เมื่อเห็นชายหลายคนมองมาที่ปรางค์รวี มือหนาปล่อยมือเรียวเล็กให้เป็นอิสระ ก่อนจะโอบเอวคอดเล็กไว้แน่นอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ สายตาขวางมองหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ที่มองมายังร่างของปรางค์รวีเขม็ง ซึ่งชายเหล่านั้นก็พากันหลบสายตาเป็นทิวแถว“ใช่ปรางค์จริงๆ ด้วย คุณเสือร้ายจับตัวปรางค์มาไว้ที่นี่เอง มีเหตุผลอะไรที่คุณเสือร้ายถึงทำแบบนี้ เรื่องนี้ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ฉันต้องรู้ให้ได้” ภัทราสวมวิญญาณนักสืบสาว ถอดชุดทำงานที่แสนจะเชยออกเหลือเพียงชุดลำลองที่เธอสวมอยู่ด้านใน ค่อยๆ ย่องตามคนกลุ่มนั้นไปอย่างกระชั้นชิด โดยลืมไปว่าเธอไม่มีรถยนต์ที่จะขับตามรถยนต์คันหรูของวิตโตริโอไป จะเรียกแท็กซี่ก็ไม่มีผ่านมาสักคันทำให้โอกาสทอง หลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย“โธ่เอ๊ย! คลาดกันจนได้ สงสัยต้องหาแผนใหม่เสียแล้ว” ภัทราบ่นกับตัวเอง หากแต่เธอหาได้ลดความพยายาม จะทำทุกทางที่จะช่วยเหลือเพื่อนของเธอให้รอดพ้นจากอสูรร้ายให้จงได้ ยกมือท่วมหัวขอพรจากฟากฟ้า ให้ประทานแสงสว่างนำทางให้เธอช่วยปรางค์รวีเพื่อนผู้น่าสงสาร โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเทวดาจากเบื้องบนประทานนางฟ้าผู้ใจดี เปี่ยมด้วยความเมตตาและความยุติธรรมลงมาช่วยเธอแล้ว
copy right hot novel pub