“แม่งเอ๊ย!!” โรเจอร์สบถเสียงดัง กระสุนปืนนับสิบที่ปล่อยออกไป ไม่อาจทำอะไรกระจกนิรภัยได้ เขาพยายามคิดหาวิธีใหม่เพื่อจะเข้าไปด้านใน ไปปลิดชีวิตของวิตโตริโอศัตรูของเขาให้สิ้นซาก ระเบิดจึงเป็นวิธีสุดท้ายที่เขาคิดได้
วิตโตริโอกับลูกน้องที่อยู่ด้านนอก ค่อยๆ จัดการกับลูกน้องของโรเจอร์ทีละคนอย่างเงียบกริบ อาวุธที่เขาใช้คือมีด เป็นอาวุธที่ปลิดชีวิตได้เงียบที่สุด จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสามสี่ห้าหกเจ็ด โรเจอร์กำลังปลดสลักระเบิดเพื่อพังกระจกนิรภัยที่ประตู หากแต่เสียงปืนดังขึ้นเสียก่อน ทำให้เขาจำต้องเก็บระเบิดหันไปมองลูกน้องที่ปล่อยกระสุนออกจากรังเพลิง
“คุณโรเจอร์ ไอ้วิโตมันอยู่โน่น” ลูกน้องของผู้รุกรานตะโกนบอก โรเจอร์หันไปมองร่างของวิตโตริโอที่เดินอาดเข้ามาหาตนอย่างมเกรงกลัว
“ไอ้โรเจอร์ มึงมาสู้กับกูตัวต่อตัว ศัตรูของมึงคือกู คนอื่นไม่เกี่ยว” วิตโตริโอร้องท้าอีกฝ่ายเสียงเข้ม โรเจอร์จ้องมองร่างของศัตรูด้วยความวาวโรจน์ มีหรือที่เขาจะไม่รับคำท้า เขาจะทำให้ศัตรูตรงหน้ามอดม้วยด้วยมือของเขาเอง
“กูรับคำท้า” สองร่างวิ่งเข้าหากันเมื่ออีกฝ่ายพูดจบ ร่างสูงใหญ่สองคนสู้กันอย่างสูสี หากเปรียบเหมือนการชกมวย ก็เหมือนมวยคู่เอก ที่ไม่มีใครเป็นรองใคร การต่อสู้ของทั้งสองเป็นไปอย่างเข้มข้น เลือดไหลซึมออกมาจากมุมริมฝีปากของทั้งสอง หน้าตาบวมช้ำ
ทิพย์ธาราขับรถกลับบ้านหลังจากเดินทางไปซื้อของใช้ส่วนตัวให้กับปรางค์รวี นางไม่รู้ว่าเกิดเรื่องร้ายที่นี่ รถยนต์คันงามเคลื่อนตัวเกือบมาถึงหน้าบ้าน สายตาของทิพย์ธารามองเห็นประตูรั้งพังยับไม่อาจใช้การได้ สัญชาติญาณของมาดามใหญ่แห่งตระกูลดิมาร์ชีรู้ทันทีเลยว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน นางจอดรถแอบข้างทาง เลือกที่จะเดินลงจากรถ เดินเข้าไปในบ้านอย่างเงียบๆ
“ติดต่อมาดามได้หรือยัง” อเล็สซานโดรเดินเป็นหนูติดจั่น เขาเพียรติดต่อภรรยาหลายสิบครั้ง แต่ทุกครั้งหาได้เป็นผลสำเร็จไม่ วันนี้ทิพย์ธาราออกไปซื้อของใช้ส่วนตัวให้กับปรางค์รวี โดยไม่มีบอดี้การ์ดติดตามไปด้วย เนื่องจากภรรยาของเขาต้องการเดินทางไปคนเดียว
“ยัง ไม่ได้เลยครับเจ้านาย สงสัยมือถือของมาดามแบตจะหมดน่ะครับ ถึงติดต่อไม่ได้” โรเบตโตเอ่ยตอบผู้เป็นเจ้านาย หัวใจของคนฟังเต้นรัว เป็นห่วงภรรยาสุดที่รักเป็นอย่างมาก สิ่งที่เขากลัวที่สุดในตอนนี้คือ ทิพย์ธารากลับมาที่บ้านในเวลานี้เวลาของนาทีเป็นนาทีตาย
ภาพของลูกชายที่ชกต่อยกับคู่อริตัวฉกาจทำให้ทิพย์ธาราตกใจ เพราะวิตโตริโอพลาดพลั้งถูกโรเจอร์ใช้เท้ากระแทกที่หน้าท้องอย่างแรง จนลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น นางจึงวิ่งตรงไปที่ร่างของลูกชายทันที เพื่อปกป้อง
“หยุดนะ อย่าทำอะไรลูกฉัน” โรเจอร์มองมารดาของศัตรูนิ่ง ความคิดอันชั่วร้ายผุดขึ้นมาในสมองอันแสนเลวทันที
อเล็สซานโดร วิตโตริโอ แม้อยู่คนละสถานที่ หากแต่ปฏิกิริยาเหมือนกันไม่มีผิด ดวงตาเข้มเบิกกว้าง หัวใจทั้งสองเต้นเร็วและแรง ความกลัววิ่งพล่านเข้ามาในจิตใจ ความเป็นห่วงพุ่งทะยาน สาเหตุมาจากภาพนั้น ภาพของทิพย์ธาราที่อยู่ข้างกายโรเจอร์ โดยมีปืนจ่ออยู่ที่ขมับขวา
“ปล่อยแม่กูเดี๋ยวนี้นะ ไอ้โรเจอร์” วิตโตริโอร้องตะโกนบอกดังลั่น อเล็สซานโดรกดปุ่มกระจกนิรภัยด้านประตูมุขให้เปิดออก เขาวิ่งออกมาจากคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว
“มึงปล่อยเมียกูเดี๋ยวนี้ ถ้ามึงไม่อยากตาย” มาเฟียรุ่นเก๋าพูดเสียงดัง โรเจอร์ยิ้มอย่างเป็นต่อ คนพวกนี้ไม่กล้าทำอะไรเขา หากมีทิพย์ธาราอยู่ข้างกายเขา
“กูปล่อยก็ได้ แต่มึงไอ้วิโตมึงต้องคลานมากราบตีนกูและต้องตายแทนแม่มึงด้วย ชีวิตแลกด้วยชีวิต”
“ตกลง มึงปล่อยแม่กู กูจะทำตามที่มึงพูดทุกอย่าง” วิตโตริโอตอบแบบไม่คิด ความตายของเขาแลกกับชีวิตของบุพการีผู้มีพระคุณล้นหัว ถือว่าคุ้ม ไม่เสียชาติเกิด
“ไม่นะลูกอย่าทำแบบนี้” ทิพย์ธาราร้องค้าน นางทนเห็นลูกชายนางตายไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้
“รักกันดีเหลือเกินนะครอบครัวนี้ กูนึกสนุกอยากเห็นตอนที่มึงตายแล้วไอ้วิโต อยากรู้นักระหว่างพ่อกับแม่ใครจะตายตามมึงไป มามึงคลานมากราบตีนกูเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นแม่มึงตาย” โรเจอร์กดปลายกระบอกปืนไปตรงขมับของทิพย์ธารา คล้ายจะบอกกับทุกคนในที่นี้ว่า เขาพูดจริงทำจริง
วิตโตริโอคุกเข่าลงบนพื้นคลานไปหาโรเจอร์ตามคำสั่ง เขามาหยุดนิ่งอยู่แทบเท้าของโรเจอร์ เงยหน้ามองคู่อริด้วยสายตาของมัจจุราช
“มึงปล่อยแม่กูได้แล้ว” วิตโตริโอร้องบอก โรเจอร์กระชากคอเสื้ออีกฝ่ายรั้งให้ลุกยืนขึ้น มืออีกข้างผลักร่างของทิพย์ธาราให้เป็นอิสระ ก่อนจะใช้กำปั้นตะบันไปที่ใบหน้าคมเข้มของอีกฝ่ายหลายหมัด
“นี่สำหรับมาเรียน้องสาวกูหมัดนี้และหมัดต่อๆ ไปสำหรับกู” โรเจอร์ประเคนกำปั้นใส่ใบหน้าของวิตโตริโอหลายหมัดติดต่อกัน ระบายความเจ็บปวดที่เขาได้รับครั้งก่อน มันเจ็บฝังลึกเกินกว่าที่เขาจะปล่อยเลยผ่านไป
ทิพย์ธารามองดูลูกชายถูกทำร้าย หัวใจของคนเป็นแม่ร้าวราน เจ็บปวด นางกอดร่างสามีแน่น ใครๆ คิดว่าคนอย่างวิตโตริโอจะหมดหนทาง ยอมเป็นฝ่ายรับฝ่ายเดียว เสือร้ายย่อมเป็นเสือร้ายอยู่วันยังค่ำ จำต้องซ่อนคมเล็บไว้ตะปบเมื่อมีโอกาส อเล็สซานโดรจึงยืนดูอยู่เฉยๆ ไม่ทุกข์ร้อน
วินาทีของวิตโตริโอมาถึง เขาฉวยจังหวะที่โรเจอร์ไม่ทันตั้งตัว ส่งสัญญาณให้มือให้บิดา อเล็สซานโดรวิ่งจูงมือภรรยาเข้าไปในบ้าน กดปุ่มกระจกนิรภัยให้ทำงานอีกครั้ง
“คุณซานโดร แล้ววิโตล่ะ ไปช่วยลูกก่อน” นางร้องบอกเสียงหลง เมื่อเข้ามาภายในบ้าน โดยมีลูกน้อง พร้อมอาวุธครบมือ กระจายอยู่เต็มบริเวณ
“ไม่ต้องห่วง วิโตจัดการได้ เชื่อใจลูก ลูกเป็นเสือ ไก่อ่อนอย่างไอ้โรเจอร์ลูกเราจัดการได้” เขาพูดอย่างมั่นใจ ฝีมือของลูกชายไม่เป็นรองใคร
โรเจอร์ถึงกับผงะเมื่อถูกของมีคมบางอย่าง แทงทะลุเนื้อบริเวณท้อง ความเจ็บปวดพุ่งพรวด เมื่อมีดนั้นถูกชักออกไป เลือดสีแดงฉานไหลออกมาเป็นทาง วิตโตริโอนอนหมอบกับพื้น หยิบปืนที่เหน็บอยู่ที่ข้อเท้าออกมา ยิงไปที่ร่างของลูกน้องโรเจอร์ที่ยืนตะลึง คนของโรเจอร์ถูกกระสุนปืนวิ่งเข้าใส่ ร่างหล่นไปกองอยู่บนพื้นทีละคน เหลือเพียงเขาและโรเจอร์เท่านั้น ที่ต้องห้ำหั่นกันต่อไป
“มึงคิดผิดไอ้โรเจอร์ที่บุกมาถึงถ้ำของกู เสืออย่างกูไม่มีทางให้ลูกหมาอย่างมึงมาฆ่าถึงในถ้ำง่ายๆ หรอก”
วิตโตริโอพูดเสียงเข้ม เสียบปลายมีดเข้าไปที่ท้องของอีกฝ่ายบิดไปมาไล้วนเป็นรอบวงกลม เพิ่มความเจ็บปวดให้กับโรเจอร์หลายสิบเท่า เสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
“มีดเล่มนี้จะเหมือนธนูที่มึงยิงออกมาจากหน้าไม้เข้าทะลุร่างของปรางค์...ฉึก”
“อ๊าก!!” เสียงของโรเจอร์ตะโกนลั่น ปลายมีดแหลมคมปักไปบริเวณใต้ราวนม เขากดให้ลึกลงไปจนสุดบิดในแบบฉบับที่บิดาสอนมาตั้งแต่เด็ก โรเจอร์แม้จะหมดหนทางต่อสู้ แต่เขาพยายามมองหาวิธีเอาตัวรอด ดวงตาของโรเจอร์มองปืนที่อยู่ไม่ไกล เขาจึงแกล้งทำเป็นล้ม ดิ้นทุรนทุราย วิตโตริโอยืนมองร่างของอีกฝ่าย หยิบปืนสีเงินของเขาที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา บรรจุกระสุนเข้าไปใหม่ โดยไม่รู้ตัวว่าโรเจอร์เอื้อมมือไปหยิบปืนสีดำสนิทสูงขึ้น ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนพร้อมกับส่องปลายกระบอกปืนมายังร่างของวิตโตริโอ
“ปัง” เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด สะกดหัวใจของทุกคนให้หยุดนิ่ง
“วิโต!!” เสียงของทิพย์ธาราและอเล็สซานโดรร้องออกมาพร้อมกัน เมื่อเสียงปืนดังขึ้น ก่อนที่ร่างของใครคนหนึ่งจะทรุดลงนอนบนพื้นหญ้า
“ปรางค์” วิตโตริโอครางเรียกชื่อคนรัก เขากระพริบตาหลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าภาพที่เขาเห็นนั้นไม่ใช่ความฝัน ปรางค์รวีที่เวลานี้นั่งอยู่บนพื้นกำลังลดปืนที่อยู่ในมือลง หลังจากปล่อยกระสุนเข้าไปในร่างของโรเจอร์
ย้อนกลับไปเมื่อครู่ใหญ่
ปรางค์รวีรู้สึกตัวหลังจากที่วิตโตริโอเดินออกไปจากห้องนอนได้ประมาณห้านาที ครั้งแรกที่เธอลืมตาตื่นขึ้นมานั้น สายตาหวานสอดส่ายเหมือนหาใครบางคนที่พร่ำบอกคำรักและเสียงปลุกให้เธอตื่น
คนที่เพิ่งตื่นจากนิทราลุกขึ้นนั่ง หลังจากได้ยินเสียงปืนหลายสิบนัด ก่อนที่เธอจะก้าวลงจากเตียง แต่ความที่นอนหลับมานานหกเดือน ทำให้ขาของเธอค่อนข้างแข็ง ขยับไม่ได้สะดวกตามใจคิด เธอจึงนั่งเหยียดขาตรง แล้วค่อยๆ ขยับช้าๆ ปรับสมดุลและคลายกล้ามเนื้อ ดีที่ว่า วิตโตริโอทำกายภาพให้ปรางค์รวีทุกวัน ทำให้แขนขาและร่างกายของเธอไม่ตึงมากและไม่ให้เส้นยึด จนเดินเหินไม่ได้ ไม่นานเธอก็ฟื้นตัวได้ทีละน้อย จนในที่สุดปรางค์รวีก็ลุกขึ้นยืนได้ แม้ว่าจะไม่ถนัดเหมือนเมื่อก่อน
ดวงตาสวยมองเห็นปืนในลิ้นชักที่เปิดอ้าอยู่ ในวินาทีนั้นเธอไม่รู้เลยว่า ตัวเองก้มลงไปหยิบมันขึ้นมาได้อย่างไร ปรางค์รวีมีความรู้ว่า ตนเองต้องพึ่งพามัน จากนั้นเธอก็ค่อยๆ เดินไปยังประตูห้องนอนที่อยู่ไม่ไกล แต่ก็ใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะเดินไปถึง ก่อนที่เธอจะพยายามเร่งฝีเท้าให้เร็วกว่าเดิม เพื่อไปยังเสียงปืนที่เริ่มจะหยุดปรางค์รวีเดินบ้าง บางครั้งก็นั่งขัดตัวไปเพราะจะเร็วกว่า เธอมานั่งหยุดหอบอยู่หน้าบ้านของคนรัก มองดูเหตุการณ์ที่อยู่บริเวณสนามหญ้า ภาพที่เธอเห็นคือ ภาพการต่อสู้ของวิตโตริโอกับโรเจอร์ก่อนที่ทิพย์ธาราจะเดินแกมวิ่งเข้ามาหาทั้งคู่ที่ต่อสู้กัน สาวชาวไทยใช้มือทั้งสองข้างยันตัวลุกขึ้นยืน ขยับเท้าเดินให้เร็วที่สุด ซึ่งครั้งนี้เธอสามารถทำได้ แม้ว่าจะตึงขาก็ตาม ทว่าแรงฮึดที่เห็นคนรักตกเป็นรอง ทำให้เธอเกือบจะวิ่งได้ ก่อนที่จะสะดุดล้มลง เธอจึงใช้วิธีนั่งขัดไปจนใกล้ถึงจุดเกิดสงคราม “ปัง” ปรางค์รวีที่วิตโตริโอสอนยิงปืนมาได้ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะเป็นเจ้าหญิงนิทรา ส่งผลให้เธอมีทักษะในการใช้ปืนพอสมควร และตอนที่วิตโตริโอฝึกให้เธอยิงปืน ปรางค์รวีมีความแม่นยำพอสมควร เธอรวบรวมสมาธิ เล็งปลายกระบอกปืนไปยังร่างของโรเจอร์ จากนั้นก็ปล่อยกระสุนออกจากรังเพลิง ลูกตะกั่ววิ่งเข้าไปยังร่างกายของศัตรูแบบไม่พลาดเป้า“ปรางค์ของพี่” วิตโตริโอทิ้งปืนที่อยู่ในมือ วิ่งเข้าสวมกอดร่างน้อยที่เขารักดุจดวงใจไว้แน่น ปรางค์รวีสวมกอดร่างหนาไว้อย่างแนบแน่นไม่แพ้กัน ไม่มีคำพูดใดเอ่ยออกมา มีเพียงหยาดน้ำตาแห่งความดีใจท่วมท้น เอิบอิ่ม ให้ดวงใจทั้งสองดวงเท่านั้นการรอคอยของวิตโตริโอเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด ปรางค์รวีตื่นขึ้นมาจากนิทราที่หลับใหลไปนานเหลือเกิน นานจนเขาคิดว่า เธอจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว ในความสิ้นหวังยังมีความหวังเพียงน้อยนิด เขาหวังว่าสักวันเธอต้องตื่นขึ้นมา เธอจะได้ยินเสียงของเขาที่พร่ำปลุกทุกเมื่อเชื่อวัน แล้วจะบอกประโยคหนึ่ง เป็นประโยคที่วิตโตริโอตั้งใจจะบอกกับปรางค์รวีในวันที่เธอตื่น“พี่รักปรางค์ รักที่สุดในโลกเลย” อ้อมแขนอบอุ่นกระชับร่างเล็กไว้แน่น ปรางค์รวีซึมซับไออุ่นและคำรักแสนหวานของเขาไว้ในหัวใจ อเล็สซานโดร ทิพย์ธารา รวมทั้งลูกน้องทุกคน มองภาพแสนหวานด้วยรอยยิ้ม ในที่สุดการรอคอยของใครหลายคนได้สิ้นสุดลงเสียที ความสุข ความรัก โอบล้อมร่างของชายหญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของกันและกัน สานต่อความรัก ถักทอเป็นสายใย เดินไปตามเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบไม่มีใครขัดขวาง ไม่มีใครคิดร้าย ทั้งสองเดินเกี่ยวก้อยไปตามเส้นทางที่เต็มไปด้วยความสุข โดยไม่มีเครื่องกีดขวางใดๆ แม้แต่ชิ้นเดียว
copy right hot novel pub