ในสายตาของเขานางมีความนุ่มนวลอ่อนนุ่ม รูปลักษณ์ภายนอกอ่อนแอแต่ภายในมีหัวใจที่อบอุ่น
และสามารถแยกแยะถูกผิดอย่างชัดเจน
เพียงแค่คําว่ามือนี้ ฝีมือการวาดเขียนนี้ ถ้าฝีมือดีขนาดนี้เป็นคนทั่วไปคงจะฝึกฝนมาเป็นเวลานับสิบปี
คังเสว่มี่ เท้าคางตัวเองกวาดสายตามองดู นิ้วมือของนางเคาะโต๊ะเป็นจังหวะ
นางมองดูเขาเมื่อเห็นเขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดอะไรต่อ สายตาก็กวาดมองทั่วทั้งห้อง นอกจากเครื่องตกแต่งโต๊ะหนังสือที่น่าเบื่อ บนโต๊ะที่กว้างใหญ่นี้ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ
โต๊ะหนังสือตัวใหญ่มาก ความยาวประมาณสองเมตร สีสันที่ชัดเจนแสดงถึงฝีมือของช่างที่แสนจะประณีต
พู่กันการเขียนชนิดต่างๆถูกวางอยู่บนโต๊ะ
น้ำหมึกที่แสนจะเข้มข้นอยู่ในถ้วยหิน สะท้อนให้เห็นถึงชั้นวางหนังสือที่แค่เห็นก็เหนื่อยล้า
ทุกๆวันต้องอ่านหนังสือเยอะขนาดนี้
มิน่าล่ะสมองของจี้อี้ถึงได้ดี อย่างไรก็ตาม ทํางานหนักเกินไป
'ตายเพราะความขยัน สิ'
คิดอย่างน่าเบื่อ ทันใดนั้นหลังจากเห็นหนังสือกองหนึ่งแล้วที่ด้านข้างเผยให้เห็น อาหารว่างโผล่ออกมาครึ่งแผ่น
ภายในจานมีก้อนสี่เหลี่ยมโรยหน้าด้วยสีเหลือง มองดูแล้วมันน่าดึงดูดมาก
คังเสว่มี่ตาสว่างขึ้นมาทันที นั่นคือเค้กโปรดของนางใช่ไหม?
เมื่อมองเห็นขนมที่อวบอิ่มมีสีสัน มื้อนี้นางรู้สึกหิวขึ้นมาเล็กน้อย
จ้องมองจี้อี้แวบหนึ่ง เขาบอกว่าจะไม่ชวนนางไปกินอาหารกลางวัน งั้นก็กินของหวานได้สิ
ครั้งก่อนเขาก็ทำของหวานให้นางสองก้อน
คังเสว่มี่ยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็ว เพื่อจะดึงจานขนมหวานนั้น ดึง!ไม่ขยับ
ดึงอีกทีก็ยังไม่ขยับ นี่จานอะไร ทำไมถึงหนักเพียงนี้ ในจานก็มีเค้กเพียงไม่กี่ชิ้นหรือว่านี่คือจานทองคํา?
คังเสว่มี่โกรธออกแรงสุดกำลังแขน ไม่ขยับ
คังเสว่มี่รู้สึกหงุดหงิดกำมือแน่นพลางค่อยๆดึงจานออกตอนที่ดึงจานออกก็มีวงแสงสีเหลืองราวกับพายุหมุนพุ่งมาทาง คังเสว่มี่!
นี่มันอะไรกันเนี่ย!
คังเสว่มี่ปล่อยมือทันทีเพื่อรับลูกบอลสีเหลืองที่พุ่งเข้ามาปะทะที่หน้าอกของนางอย่างแรง คังเสว่มี่ ยกมือขวางไว้ตรงหน้าอกและคว้าจับของสิ่งนั้น เอาไว้!
ลูกบอลสีเหลืองเหมือนกับรู้ว่าตัวเองนั้นยังทำได้ไม่ดี จึงกางกรงเล็บออกมาบนหลังมือของคังเสว่มี่หมุนตัวไป ครึ่งหนึ่งและกระโดดลงไปหยุดยืนที่พื้น
จะว่าช้าก็ช้าจะว่าเร็วก็เร็ว คังเสว่มี่ยื่นมือออกไปหวังจะจับก็คว้าได้แต่อากาศแต่ เมื่อมองลงไปที่ลูกบอลสีเหลืองอ่อนก็ตะลึงทันใด
เจ้าลูกบอลสีเหลืองนั่น ใช้กรงเล็บเกาะอยู่ที่ข้างจานขนมดอกกุ้ยฮวาแน่นและ พยายามที่จะดันจานไปไว้ด้านหลังโต๊ะ
คังเสว่มี่ จ้องพิจารณาเจ้าลูกบอลสีเหลืองนั่นอย่างละเอียด เจ้าลูกบอลมีหูแหลมสองข้าง ดวงตากลมสีครามทั้งสองข้างที่ดูเหมือนหลอดไฟแทบจะ
กินพื้นที่ใบหน้าเล็กไปเกือบครึ่งและมีสายฟ้าสีดำอยู่ที่หน้าผาก หางใหญ่นุ่มฟูแกว่งไปมาอยู่ด้านหลัง
มันเหมือนกับแมวอ้วนน่ารักที่อยู่ในอินุยาฉะมันน่ารัก จนอดไม่ได้ที่อยากจะเข้าไปลูบหัวของมัน
ทว่ามันดูค่อนข้างจะเจ้าเล่ห์อยู่หน่อย
ดูแล้วมันอยากกินขนมกุ้ยฮวาแต่กลับตั้งใจโจมตีและพุ่งเข้าใส่หน้าอกของนาง
เมื่อดึงดูดความสนใจของนางไปได้แล้วก็รีบเข้ามาแย่ง ขนมกุ้ยฮวาไปทันที!
คังเสว่มี่หรี่ตามอง สองนิ้วประสานกันข้างใต้จานขนมอย่างเงียบๆ
ดูเหมือนว่าเจ้าแมวอ้วนนั่นจะให้แรงดึงไปดึงมาดึงแล้ว ดึงอีกอยู่นานก็เพิ่งรู้ว่าดึงไม่ได้ก็เดินวนรอบจาน ทันใดนั้นก็ใช้มือหยิบขนมกุ้ยฮวาแต่ละชั้นเข้าปากด้วย ความไวปานสายฟ้า!
เจ้าตัวเล็กแต่ฤทธิ์เยอะนักเชียว ว่าแล้วว่าต้องกินขนมกุ้ยฮวาตัวเดียวจนหมด!
คังเสว่มี่มองจานขนมชิ้นสุดท้ายกำลังจะถูกแย่งไปจึงนำ พู่กันใส่ปากของเจ้าแมวด้วยความไว แล้วหยิบขนมเข้าปากพลางสั่นศีรษะ
ทำให้ เจ้าแมวอ้วนอยากที่จะเข้ามาแย่งขนมจากนางไป!
เจ้าแมวอ้วนเห็นว่านางทานอย่างภูมิใจก็หันหลังกลับไป เพื่อที่จะกินขนมชิ้นอื่นต่อแต่ในปากก็ดันมีพู่กันอยู่ในปากจึงทำได้แค่จ้องมอง
หมุนตัวไปหาจี้อี้ที่ยืนมองทั้งคู่ทะเลาะกันอยู่ข้างๆ กรงเล็บทั้งสี่เกาอยู่บนเสื้อสีม่วงดวงตาแสดงออกถึง ความน้อยใจ
“เมี้ยวๆ!”
จี้อี้แสดงใบหน้าเรียบนิ่ง ดวงตาที่ปกคลุมไปด้วยหมอกมืดละสายตาจากคังเสว่มี่ ยกมือจับแมวอ้วนที่พยายามทำตัวน่ารักลงมา!
คังเสว่มี่ปรบมือ เอาไปปล่อยก็ดี!
เจ้าแมวอ้วนตัวน้อยกลิ้งไปมาในอากาศสะบัดพู่กันที่อยู่ ในปากไปกระแทกกำแพงจนเกิดเสียงดัง
คังเสว่มี่ใจสั่นเงยหน้าขึ้นมองจี้อี้ ใบหน้าของเขายังคงเรียบนิ่งเหมือนเดิมสายตาหลุบ มองต่ำไปยังหนังสือบนโต๊ะจึงไม่ได้ยินเสียงร้องของ เจ้าแมวอ้วน
ไม่รู้ว่าเจ้าแมวอ้วนนั่นเคยโดนตีจนสลบไหม?
แมวอ้วนที่กลิ้งไปมาในอากาศและรับรู้ได้ถึงสายตาของนางจึงเงยหน้ามองไปทางคังเสว่มี่ที่กำลังแยกเขี้ยวใส่ก็เลยร้อง
“เมี้ยวๆ"
เรียกอย่างสนใจและปีนไปบนตัวของจื้อี้
ดวงตาทั้งสองข้างเปล่งแสงแวววับ กรงเล็บเล็กเกาะนิ้วมือของจี้อี้แน่นแล้วก็เอาแต่ร้อง เรียก
“เมี้ยวๆ! เมี้ยวๆ!”
แต่จี้อี้ก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองมันและแมวอ้วนก็ สะบัดตัวหนีไปอีกครั้ง
แมวอ้วนปืนกลับขึ้นมาอีกครั้งและกอดนิ้วมือเอาไว้ แน่น...
ทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา
คังเสว่มี่รู้สึกว่าเจ้าแมวตัวนี้สั่นไปสั่นมาจนในที่สุดจี้อี้ก็ ต้องก้มมองเจ้าแมวอ้วนที่ประจบสอพลอเกาะอยู่ที่นิ้วแน่นพลางพูดกับแมวอ้วนด้วยน้ำเสียงคล้ายเรียกว่า
“โควโคว ครั้งหน้ายังจะไปพุ่งใส่คนอื่นอีกไหม?"
“เมี้ยวๆ!”
มันไม่ใช่แค่พุ่งใส่คนทั่วไปนะมันน่ะพุ่งใส่คนที่สวยนั่นแหละนะ
จี้อี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ว่าไง?”
แมวอ้วนเงยหน้ามองสีหน้าของเจ้านายตน แม้ว่าสีหน้าของเจ้านายจะเหมือนปกติอย่างทุกทีแต่ก็รับรู้ได้ถึงท่าทีน่ากลัวที่แฝงอยู่
มันหันไปมองคังเสว่มี่อย่างสงสัยสายตาเต็มไปด้วย ความเจ็บปวด
มันก็ทำแบบนี้มาตั้งหลายปีแล้วทำไมครั้งนี้สีหน้าของเจ้านายถึงได้ดูผิดปกติไปมากขนาดนี้กัน!
หรือว่าเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้?จี้อี้หรี่ตา “ถ้ายังทำอีก วันหลังจะไม่ให้ตามข้ามาแล้ว...”“เมี้ยวๆ! เมี้ยวๆ!” ไม่ทำแล้วๆแมวกับคนคุยกันอย่างไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา “เมี้ยวๆ”คนที่โกรธกลับเป็นคังเสว่มี่มือไม้นั้นสั่นไปหมดพร้อมกับชี้ไปที่แมวอ้วน “มันคือโควโควหรือ?”จี้อื้อมยิ้มและพยักหน้า“ใช่”“มันคือโควโควจริงๆหรือ?”“อืม”หลังจากยืนยันคำตอบอีกครั้งคังเสว่มี่ก็จ้องมองจี้อี้ด้วย สายตาโกรธเคืองและถามด้วยความโมโหว่า“ข้าเป็นแม่หญิงที่งดงามราวกับหยกและดอกไม้ ทำไมถึงได้ไปเหมือนเจ้าแมวอ้วนอัปลักษณ์และเจ้านี่สวมควรตายนะจี้อี้! เจ้าดูสิ มันเหมือนข้าตรงไหน! ดวงตาเจ้าก็ออกจะงดงามแล้วไยสายตาเจ้าถึงได้แย่ ขนาดนี้?”โควโควพยายามปีนขึ้นมาที่ไหล่ของจี้อี้และเลืยกรง เล็บของมันไปมา พลางมองคังเสว่มี่ด้วยสายตารังเกียจเจ้ามีขนที่นุ่มฟูสวยงามแบบข้าไหม? มีดวงตาที่ฉ่ำวาวและหูแหลมแบบข้าไหม? ที่สำคัญที่สุด....สิ่งมีชีวิตที่ไม่มีขนน่าเกลียดที่สุด!..
copy right hot novel pub