โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

พายุรักแห่งเม็ดทราย

บทที่ 11 (2)

นาราภัทรรู้สึกเสียววูบไปทั่วตัวเมื่อมือใหญ่ร้อนรุ่มแตะลงมาพร้อมกับลูบไล้สัมผัสหนักหน่วงบนบ่าเนียนแล้วเลยมาวางแน่นิ่งเหนือปทุมคู่งาม

“ทำไมมือร้อนจังเลยน้ำค้าง”

หญิงสาวเอื้อมมาจับมือร้อนรุ่มไว้เอ่ยถามเสียงเบาพร้อมๆ กับเปิดเปลือกตาขึ้นมองน้องสาว แต่แล้วก็เบิกตาโตร้องเสียงหลงผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงเมื่อได้เห็นคนที่นั่งยิ้มกริ่มให้เธอ

“เจ้าชายซารีฟร์ มาอยู่ที่ห้องน้ำหนาวได้ไง”

ความเย็นของเครื่องปรับอากาศที่ยังคงทำงานอยู่ได้ลอยมาปะทะกับดอกบัวปริ่มน้ำงดงามทำให้นาราภัทรต้องก้มลงมองหน้าอกตนเองด้วยความสงสัยจากนั้นก็กรี๊ดเสียงดังลั่นด้วยความตกใจ

“กรี๊ดดดดด!!!...ไอ้คนฉวยโอกาส”

“น้ำหนาว หยุดกรี๊ดก่อน”

เจ้าชายซารีฟร์ผุดลุกขึ้นก้าวถอยห่างจากเตียงใหญ่หลายก้าวพร้อมกันนั้นยกมือขึ้นปิดหูทั้งสองข้างเมื่อนาราภัทรไม่หยุดกรี๊ดสักที

นาราภัทรยังคงกรีดร้องไม่เลิกมือเล็กพยายามคว้าผ้าห่มขนแกะมาปกปิดกายและเมื่อขยับตัวเล็กน้อยก็รับรู้ได้ถึงความปวดระบมทั่วกายโดยเฉพาะตรงกุหลาบงามที่รู้สึกเจ็บแปลบจนต้องสูดปากเบาๆ ใบหน้างามก้มลงมองหลักฐานซึ่งปรากฎเป็นรอยจ้ำแดงๆ ทั่วทั้งปทุมอวบอิ่มทั้งสอง กระดาษ...ที่ว่าขาวซีดก็ไม่เท่ากับใบหน้าของนาราภัทรในขณะนี้ เรียวปากอวบอิ่มกัดเม้มเข้าหากันแน่น ดวงตาคู่สวยมีหยาดน้ำตาหล่อเลี้ยงก่อนจะร่วงเผาะลงมาตามพวงแก้มโดยปราศจากเสียงร่ำไห้ ความเจ็บปวดเสียใจสูญเสียศรัทธาต่อเจ้าชายแห่งอัลนูรีนเผยออกมาให้เห็นทั่วทั้งใบหน้างามและดวงตากลมโตแดงก่ำ

“คุณมันอสูรร้าย ปีศาจซาตานกลับชาติมาเกิด”

น้ำเสียงที่ต่อว่าเย็นยะเยือก หยาดน้ำตาใสที่ร่วงพร่างพรูจากดวงตาคู่สวยที่จ้องมองมาราวกับกวางสาวได้รับบาดเจ็บทำเอาเจ้าชายซารีฟร์ผู้แข็งแกร่งรู้สึกปวดร้าวลงไปถึงปลายเท้า

“น้ำหนาว...เจ้าฟังเราอธิบายก่อน”

เจ้าชายหนุ่มครางร้องขอเสียงแผ่วเบารู้อยู่แล้วว่าผลพวงที่ตามมาจะต้องเป็นเช่นนี้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว

“หยุดอยู่ตรงนั้นน่ะ”

นาราภัทรชี้นิ้วตวาดลั่น ใบหน้างามแดงก่ำด้วยความโกรธเคืองระคนเสียใจกับการกระทำของเจ้าชายหนุ่มที่ฉวยโอกาสในขณะที่เธอไม่รู้สึกตัวเมาพั้นซ์ที่แองจิล่าเอามาให้ดื่ม

“คุณฉวยโอกาสทำลายน้ำหนาวตอนที่น้ำหนาวเมาไม่รู้เรื่อง”

ด้วยความเข้าใจผิดทำให้นาราภัทรชี้หน้าด่าเจ้าชายซารีฟร์ไม่ได้หยุดหย่อน คิดว่าคนคออ่อนอย่างเธอกินเหล้าหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ด้วยแค่ไม่กี่แก้วก็ทำให้เมาได้

เจ้าชายแห่งแผ่นผืนทะเลทรายกล้ำกลืนความเจ็บร้าวได้อย่างยากเย็นสาวเท้าเข้าหามือใหญ่เอื้อมไปจับต้นแขนเนียนพร้อมกับกระซิบร้องขออีกครั้ง

“ฟังเราพูดก่อนสิน้ำหนาว”

“บอกว่าอย่าเข้ามา”

นาราภัทรตวาดลั่นปัดต้นแขนแข็งแกร่งออกอย่างแรงหันไปคว้าแก้วนมอุ่นขว้างใส่ใบหน้าคมเข้มสุดแรงเกิด

ปึ้ก!...เพล้ง!...”

แก้วทรงสูงกระทบตรงหน้าผากเจ้าชายซารีฟร์ก่อนจะตกลงพื้นแตกกระจายไปทั่วบริเวณ นมสีขุ่นไหลรินลงมาตามใบหน้าคมเข้มพร้อมๆ กับเลือดอุ่นแดงฉาน

เสียงแก้วนมตกแตกดังลั่นเป็นตัวเรียกให้องครักษ์ทั้งสองทั้งราชิตและอาดิลเปิดประตูผั้วะเข้ามาด้วยความเป็นห่วง

“พระองค์ เกิดอะไรขึ้นพะยะค่ะ”

ราชิตเป็นผู้ตะโกนถามเสียงดังด้วยความเป็นห่วงกำลังจะเข้าไปสำรวจความปลอดภัยให้กับเจ้าเหนือหัวกับดอกไม้งามแห่งอัลนูรีนก็ถูกตวาดลั่นจนสะดุ้งเฮือก

“ออกไป!...”

เจ้าชายซารีฟร์กระโจนขึ้นไปบนเตียงแล้วคว้าผ้าห่มมาคลุมร่างบางเปล่าเปลือยให้อย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้องเข้ามา

“กระหม่อมขอเข้าไปอารักขาความปลอดภัยพะยะค่ะ”

อาดิลเป็นผู้ออกโรงด้วยความดื้อแพ่งแล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงก้าวถอยหลังไปหลายก้าวเมื่อเจอตวาดลั่นอีกหน ถ้าหากได้ตวาดเสียงห้วนจัดแบบนี้แล้วแสดงว่าเจ้าชายองค์รองแห่งแผ่นผืนทะเลทรายกำลังเดือดพล่านราวกับพายุ ใครหน้าไหนบังอาจเข้าไปขวางก็ล้วนแต่เจ็บตัวทั้งนั้น

“เราบอกให้ออกไปไม่ได้ยินหรือไง”

เจ้าชายซารีฟร์ตวาดโดยไม่ได้หันหน้าไปมองเหล่าองครักษ์ซึ่งต่างก็ตกใจรีบถอยฉากออกจากห้องนอนใหญ่แทบไม่ทัน ดวงตาคมกริบจับจ้องมองนิ่งที่ใบหน้างามหวานไม่สนใจสายเลือดอุ่นที่ยังไหลไม่หยุด

นาราภัทรตกใจหน้าซีดถอดสีเมื่อเห็นเลือดอุ่นๆ ไหลลงเป็นทางยาวอยากเอื้อมมือไปเช็ดคราบเลือดอยากถามว่าเจ็บมากไหมอยากเอ่ยขอโทษกับการกระทำของตนเองแต่ก็ไม่กล้าเมื่อได้เห็นใบหน้าคมเข้มที่จ้องมองถมึงทึงด้วยความโกรธเคือง

เจ้าชายซารีฟร์ดึงผ้าห่มทิ้งเมื่อรู้ว่าองครักษ์ทั้งสองได้ออกไปจากห้องและปิดประตูให้เรียบร้อยแล้ว มือหนาเอื้อมไปจับบ่าเนียนแล้วบีบแน่นกระชากร่างบางเข้ามาปะทะกับอกกว้างแข็งแกร่ง

“เรามันปีศาจร้าย ซาตานกลับชาติมาเกิดเหมือนที่เจ้าว่าและปีศาจร้ายก็ไม่จำเป็นต้องมอบความปราณีให้กับคนที่ตกเป็นเหยื่อ”

นาราภัทรยกมือยันอกกว้างไว้ไม่ให้ปทุมอวบอิ่มของตนเองแนบไปกับเรือนกายล่ำสันที่สร้างกระแสไฟแห่งความร้อนรุ่มวาบหวิวให้ทั่วเรือนกายของเธอ

“คนเราถ้าหากทำผิดแล้วจักสำนึกผิดก็สมควรที่จะให้อภัยแต่หากผิดแล้วยังทำซ้ำคิดว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นถูกต้องก็ไม่สมควรได้รับการให้อภัย”

ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีต่อเจ้าชายแห่งทะเลทรายถูกทำลายไปพร้อมกับความสะอาดบริสุทธิ์ของตนเอง น้ำเสียงที่เอ่ยประชดประชันนั้นเต็มไปด้วยความร้าวราน ใบหน้างามเบือนหนีไม่อยากสบตากับใบหน้าคมเข้มที่ยังเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือดเนื่องจากกลัวใจตนเองจะอ่อนยวบเผยความสงสารออกมาให้เจ้าชายซารีฟร์ได้เย้ยหยัน

อารมณ์โกรธเคืองของเจ้าชายองค์รองแห่งอัลนูรีนเดือดพล่านขมวดเป็นเกลียวเมื่อถูกมองด้วยสายตาว่างเปล่าและเมินหนีอย่างไม่แยแส มือใหญ่จับปลายคางมนแล้วบีบไว้บังคับให้เบือนหน้ามาสบตากัน ริมฝีปากร้อนรุ่มสีสดลดลงมากดแนบชิดเรียวปากสีกุหลาบจากนั้นได้เอ่ยเยาะหยันให้เจ็บปวดเลือดอาบด้วยกันทั้งสองฝ่าย

“ใช่เราผิด แต่ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกน่ะน้ำหนาว เจ้าเองก็ตอบสนองอารมณ์ดิบของเราได้เร่าร้อนรุนแรงพอๆ กันทั้งที่เบาะหลังรถ ทั้งในอ่างอาบน้ำซึ่งให้ความสำราญดีไม่หยอก”

“เบาะหลังรถกับห้องน้ำงั้นหรือ.copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์