นาราภัทร นาราพรรณรวมทั้งนักศึกษาหญิงชายต่างชาติต่างภาษาหลายร้อยคนต่างเดินออกมาจากอาคารเรียนพร้อมกับเสียงพูดคุยกันดังเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณเมื่อทุกคนได้ทำข้อสอบวิชาสุดท้ายแห่งการเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังเก่าแก่ภายในเมืองบอสตันผ่านไปเรียบร้อยแล้ว
ฝาแฝดสองสาวแสนสวยแห่งสยามต่างก็เอ่ยปัดเอ่ยปฏิเสธเพื่อนๆ ที่ได้ชักชวนให้ไปร่วมงานปาร์ตี้ฉลองจบการศึกษาด้วยกัน สองสาวได้เดินมาทรุดตัวลงนั่งใต้ร่มใหญ่รอเวลาที่เจ้าชายซารีฟร์หรืออาจจะเป็นหนึ่งในองครักษ์ของเจ้าชายหนุ่มที่จะมารับพวกเธอกลับไปที่อพาร์ทเม้นท์
“ในที่สุดก็เรียนจบสักที” นาราพรรณฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
“เราก็ดีใจเหมือนกัน ต่อไปจะได้ทำงานได้เต็มที่ช่วยกันเก็บเงินซื้อบ้านซื้อโรงแรมของพวกเรากลับคืน”
ถึงจะใจหายอยู่บ้างที่ต้องจากบ้านจากเมืองดินแดนศิวิไลซ์ที่ได้มาพำนักอาศัยเป็นเวลานานหลายปี แต่ในอีกนัยหนึ่งนาราภัทรก็ดีใจที่จะได้กลับไปสู่อ้อมกอดของแผ่นดินเกิด
“จะอยู่ที่บอสตันต่อไหมน้ำหนาวหรือว่ากลับบ้านเราเลย”
นาราพรรณถามความคิดเห็นของแฝดพี่ด้วยเธอเองก็อยากกลับเมืองไทยเต็มแก่ อยากกลับไปสู่อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของผู้ที่เป็นบิดา
“กลับเลยสิน้ำค้าง จัดการเรื่องเรียนเรื่องอพาร์ทเม้นท์เรียบร้อยแล้วก็ไปจองตั๋วกลับเมืองไทยเลย”
“น้ำหนาว...”
นาราพรรณเอ่ยเรียกพี่สาวเสียงทุ้มลึกกำลังชั่งใจว่าจะเอ่ยถามดีหรือเปล่า ในที่สุดความอยากรู้ความอึดอัดใจก็เป็นฝ่ายชนะร่ำร้องให้เอ่ยถามแฝดพี่เพื่อให้หายข้องใจ
“อะไรน้ำค้าง มีอะไรจะถามหรือเปล่า”
“เอ่อ...แล้วเรื่องของตัวกับเจ้าชายซารีฟร์จะว่าไง”
นาราภัทรหน้าถอดสีเล็กน้อยกับคำถามที่แทงใจดำของแฝดน้อง ความรักที่เกิดจากเธอแค่เพียงฝ่ายเดียวนั้นมืดมนหาคำว่าบรรจบไม่ได้ ในขณะเดียวกันความใคร่ลุ่มหลงในรสสิเสน่หาที่ถูกปลุกเร้าจากเจ้าชายซารีฟร์กลับลุกโชติช่วงจนเธอนึกละลายใจที่ตนเองทำตัวไม่ต่างกับนางในฮาเร็ม หญิงสาวเงยใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตามองแฝดน้องก่อนจะเอ่ยตอบเสียงสั่นเครือ
“จบกันแค่นี้ เรากลับเมืองไทย เจ้าชายซารีฟร์กลับอัลนูรีนคงมีหญิงสาวสวยๆ รอรับเจ้าชายซารีฟร์เต็มแผ่นผืนทะเลทราย”
“ไม่ได้น่ะน้ำหนาว ตัวจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้ไง ทำไมไม่ลองคุยเรื่องนี้กับเจ้าชายซารีฟร์ก่อน”
นาราพรรณตกใจกับคำพูดการตัดสินใจของพี่สาวด้วยรู้ดีว่าแฝดพี่นั้นรักเจ้าชายซารีฟร์มาก
“คุยได้แล้วอะไรขึ้นมา น้ำค้างไม่เห็นตอนที่เจ้าชายพานางแบบดังที่ชื่อลอเรนไปกินข้าวที่ร้านอาหารของแซม เขาจูบกอดกันอย่างดูดดื่มโดยไม่สนใจว่ามีเรายืนอยู่ตรงนั้น ตอนที่เจ้าชายสวมแหวนทับทิมให้ที่นิ้วเราดีใจแอบหวังลึกๆ ว่าเจ้าชายอาจมีใจรักในตัวเราบ้าง แต่เปล่าเลย...เจ้าชายซารีฟร์เป็นนักรักที่มีเงินทองล้นมือจะซื้อแหวนให้ใครก็ได้ตามที่ใจต้องการ แม้แต่ลอเรนเองก็ยังได้ของกำนัลเป็นแหวนเพชรวงงาม”
นาราภัทรเอ่ยบอกน้องสาวด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ระคนเจ็บปวดกับการกระทำของเจ้าชายซารีฟร์ที่สร้างบาดแผลลึกทำให้เธอลืมไม่ลงจนถึงทุกวันนี้
“น้ำหนาว เราขอร้อง...ตัวลองคุยกับเจ้าชายก่อนได้ไหม อย่าเพิ่งคิดทึกทักด่วนตัดสินใจไปเอง”
“ไม่ล่ะ เราไม่คุย เราไม่อยากเจ็บปวดไปมากกว่านี้ ทันทีที่ก้าวพ้นจากบอสตันเราจะลืมทุกอย่างทิ้งความรักความภักดีที่มีต่อเจ้าชายแห่งทะเลทรายไว้ที่นี่”
นาราภัทรเอ่ยปฏิเสธความต้องการของน้องสาวใช่ว่าเพิ่งด่วนตัดสินใจเสียเมื่อไหร่เธอได้ครุ่นคิดตรึกตรองถึงความรักที่มิอาจเป็นไปได้มานานหลายสัปดาห์แล้ว
“น้ำหนาว...copy right hot novel pub