ตอนที่ 17 หัวใจแตกสลาย
รถม้าคันใหญ่เดินทางออกจากน้ำตกเมื่อตอนบ่าย ๆ เพื่อให้ภรรยารักทั้งสองมีเวลาดื่มด่ำกับธรรมชาติมากที่สุด และผู้ที่มีความสุขจนใบหน้าของนางนั้นอมยิ้มอยู่ตลอดเวลาช่างทำให้เขานั้นสุขใจยิ่งนัก ร่างบางของฮูหยินรองนั่งในรถม้ามีเบาะหนานุ่มรองเอาไว้ ส่วนฮูหยินเอกนั้นตรากตรำเป็นเวลานาน นางจึงพักสายตาเอาแรงก่อนถึงจวนในไม่อีกกี่ชั่วยามข้างหน้า
รางบางระหงทอดสายตามองทิวทัศน์ด้านนอกรถม้าที่เคลื่อนไหวไม่เร็วและไม่ช้าช่างนุ่มนวลยิ่งนัก ศีรษะน้อย ๆ สั่นไหวตามเคลื่อนตัวของรถม้าที่โคลงเคลงไม่มาก ดีที่มีเบาะรองไม่เช่นนั้นนางคงจะปวดเมื่อยเนื้อตัวเป็นแน่ ว่าแล้วร่างบางระหงนั้นทอดสายตามองเห็นสามีที่ควบอาชาขนาบข้างอย่างไม่ปล่อยให้นางห่างหายจากสายตาของเขาสักนิด นางจึงแย้มยิ้ม เย้าหยอกสามี จนเขานั้นชักสีหน้าใส่นางด้วยความเสน่ห์หา
“ท่านพี่ เคี่ยวกรำพี่สาวมากเกินไปหรือไม่ ดูนางสิหลับไม่รู้เรื่องเลย” เสี่ยวชิงเอ่ยหยอกเย้าสามีที่หล่อเหลา ใบหน้าของเขานั้นจะว่าคมคายก็ได้ จะว่าสวยหวานเหมือนสตรีก็ไม่ผิด ใครใช้ให้สามีของนางเป็นบุรุษที่หล่อเหลาล่อลวงสตรีเช่นนี้เล่า
“พี่ชอบ ปากดีนัก เห็นที...ถึงจวนเจ้าต้องปรนนิบัติพี่เสียแล้ว” เขาว่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มกรุ้มกริ่ม
“ท่านพี่ ข้าไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ ปวดเมื่อยไปทั้งตัว” นางเอ่ยปฏิเสธเพราะเขาจัดชุดใหญ่ให้นางเสมอจนเนื้อตัวของนางมีแต่ร่องรอยของเขาทั่วเรือนร่างของนางไปหมด ไม่ว่าตรงไหนส่วนไหนก็รอยจูบที่เขาตีตรานางไว้
“เช่นนั้นให้พี่หาภรรยาเพิ่มอีกสักคน สองคนดีหรือไม่เล่า” ที่เอ่ยออกไปนั้นเขาเพียงแกล้งเย้าแหย่ภรรยาตัวเล็กอยากรู้ว่านางจะรู้สึกอย่างไร รักเขาบ้างหรือไม่ก็เท่านั้น
“น้องมิกล้า แล้วแต่ท่านพี่เจ้าค่ะ” เมื่อนางกล่าวออกไป ดวงตาของนางก็ดูเหมือนจะเอ่อคลอด้วยน้ำใสๆ ใช่นางน้อยใจที่เขาจะมีภรรยาเพิ่ม แต่นางเป็นเพียงภรรยารองที่ไม่ได้แต่งงานอย่างออกหน้าออกตาเหมือนฮูหยินเอก นางเป็นเพียงคณิกาที่พื้นเพนั้นต่ำต้อยเรี่ยดินเหลือเกิน และเขาก็คงจะรักนางเพียงแค่ภายนอกเท่านั้นกระมังถึงได้เอ่ยเช่นนี้ออกมา ความน้อยเนื้อต่ำใจจึงทำให้นางนั้นไม่เอ่ยตอบ พลางปิดผ้าม่านและหลั่งน้ำตาอย่างเงียบๆ
ร่างหนาเมื่อเห็นภรรยาปิดผ้าม่านแล้วไม่เอ่ยพูดจาดูท่าว่านางจะโกรธเขาเป็นแน่ หรือไม่นางอาจจะไม่พูดกับเขาเลยก็ว่าได้ แต่อย่างน้อยก็ยังได้รับรู้ว่านางรักเขาเหมือนที่เขานั้นรักนาง เขาไม่คิดจะมีภรรยาเพิ่มให้ปวดหัวหรอก ที่มีสองคนก็เพียงพอแล้วและไม่ร้องขออะไรให้มากกว่านี้แล้ว เพราะพวกนางรักใคร่กันดี เขาจึงยกยิ้มอย่างพึงใจ จากนั้นก็ควบอาชาขนาบข้างไป แสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าภรรยาตัวน้อยนั้นน้อยใจเรื่องอันใด
“เสี่ยวชิงหิวหรือไม่ ข้างหน้ามีโรงเตี้ยม” เขาแกล้งเอ่ยถามภรรยาเนื่องเพราะว่าพวกนางนั้นรับอาหารเช้ามาเพียงน้อยนิดเท่านั้น
“แล้วแต่ท่านพี่เจ้าค่ะ” ร่างบางเช็ดน้ำตาออก พยายามทำเสียงเรียบเหมือนเช่นเคย เพื่อที่สามีจะไม่รับรู้ว่านางนั้นร้องไห้เพราะเสียใจ
“ท่านพี่ข้าหิว แวะโรงเตี้ยมข้างหน้าเถิดเจ้าค่ะ” ฮูหยินเอก รีบเอ่ยขึ้น เมื่อนางนอนพักเอาแรงเมื่อครู่ จากนั้นนางก็ดูแล้วว่า ข้างหน้ามีโรงเตี้ยมที่อาหารของที่นั่นอร่อยมากทีเดียว เพราะเมื่อครั้งหนึ่งนางเคยมากินที่นี่
“เช่นนั้น อาเฟิงแวะโรงเตี้ยมข้างหนา เดี๋ยวข้าจะไปคอย เจ้าดูแลฮูหยินทั้งสองให้ดีเล่า” เขาเอ่ยกำชับ พลางควบอาชาไปคอยที่โรงเตี้ยมข้างหน้า คาดว่าจะถึงภายในอีกหนึ่งก้านธูป (15 นาที) เขาควบม้าอย่างรวดเร็วเพื่อจะไปเตรียมอาหารให้ภรรยาทั้งสอง
“ขอรับนายท่าน” อาเฟิงขานรับ พลางตีอาชาเคลื่อนตัวให้สม่ำเสมอเพื่อที่ไม่ให้ ฮูหยินทั้งสองนั้นปวดเมื่อยเนื้อตัว อาเฟิงมองแผ่นหลังหนาแกร่งของเจ้านายที่ควบอาชาลาลับจนพ้นสายตาของเขาไป สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าทึบที่มีต้นไม้น้อยใหญ่ให้ร่มเงา สร้างความร่มรื่นยิ่งนัก
“อาเฟิง นายท่านไปแล้วหรือ” ร่างบางแน่งน้อยของฮูหยินรองเอ่ยถามขึ้น เพราะดูเหมือนว่าสามีของนางจะมิได้ง้องอนนาง เช่นนี้นางคงต้องทำใจแล้ว
“ขอรับฮูหยินรอง” อาเฟิงเอ่ยตอบ สองมือหนายังจับเชือกควบอาชาตัวใหญ่อย่างต่อเนื่อง รับคำสั่งจากเจ้านายดูแลฮูหยินทั้งสองให้ดี
“แถวนี้น่ากลัวยิ่งนัก อาเฟิงเร่งรถม้าเถิด ข้ารู้สึกใจคอไม่ค่อยดีเลย” ภรรยารองรู้สึกว่าไม่ชอบบรรยากาศเช่นนี้เลยสักนิด ที่สามีทอดทิ้งให้นางนั่งรถม้ากับพี่สาวเพียงสองคนและอาเฟิงบ่าวรับใช้ที่มากด้วยฝีมือ บรรยากาศที่เย็นยะเยือกผิดปกติกว่าทุกครั้งทำให้นางนั้นรู้สึกเหมือนจะเกิดเรื่องไม่ดี
เพราะนางเป็นคนที่ไวต้องความรู้สึก หากรู้ว่าตัวเองไม่ปลอดภัยแล้วละก็ร่างกายของนางนั้นจะร้อนและเย็นมากกว่าทุกครั้ง แม้กระทั่งเสี่ยวชุนน้องสาวของนางด้วยเช่นกัน นางสองคนพี่น้องเกิดมามีสัมผัสพิเศษ เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ใครรู้ความลับของพวกนางมารดาที่แท้จริงจึงได้ฝากพวกนางไว้กับมารดาบุญธรรม
พวกนางสามารถทำนายอนาคตได้ แต่...เพียงแค่ แปดส่วนเท่านั้น พวกนางสองคนพี่น้องจึงรู้ดีว่า อนาคตต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่ก็มิคิดว่าวันนี้นางจะต้องพบเจอกับภัยอันตรายที่จะผ่านเข้ามาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหวังว่าวันนี้นางจะโชคดีและมีชีวิตรอดกลับไป นางมองเห็นสามี มีภรรยาเพิ่มอีกคนและในนั้นไม่มีนางกระทั่งฮูหยินเอก มันเป็นเพียงแค่บางส่วนที่นางไม่สามารถปะติดปะต่อกันได้
“อาเฟิง จอดก่อน ข้า...จะเข้าในป่าสักครู่” ฮุหยินเอก เอ่ยนางปวดท้องอยากเข้าป่าเพื่อปลดปล่อยเช่นนั้นนางจึงได้ให้อาเฟิงจอดรถม้า
อาเฟิงสารถีมากความสามารถจอดรถม้าตามคำสั่งของฮูหยินเอก ร่างบางของภรรยาเอกลงจากรถม้า กำลังจะก้าวเข้าไปในป่า แต่ต้องชะงักเท้าเอาไว้ก่อน พลางผินหน้าเข้ามาที่รถม้า เอ่ยเรียก น้องสาว “น้องสาวไปเป็นเพื่อน พี่สาวได้หรือไม่ พี่สาวมิกล้าเข้าไปผู้เดียว” คำกล่าวที่เอ่ยเช่นนั้นนั้น ทำให้เสี่ยวชิงหน้าซีดเผือด มิคิดว่าพี่สาวผู้นี้เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
“พี่สาว ข้าขออยู่ที่รถม้า มิกล้าเข้า ข้ากลัว” เสี่ยวชิงเอ่ยอย่างหวาดกลัว เพราะหากเข้าไปจะต้องเจอกับพวกนั้น นางเห็น นางของอยู่กับอาเฟิงจะดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดด้วย
“ฮูหยินท่านเข้าไป อย่าลึกมาก็เพียงพอแล้ว ถนนเส้นนี้มีผู้สัญจรไม่มากนัก หลังต้นไม้ก็ได้ขอรับ ข้าจะหันหลังให้ท่าน” อาเฟิงรีบเอ่ย เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับฮูหยินทั้งสอง
“ได้ ๆ พวกเจ้าช่างน่านัก” หวังมี่หลินเดินเข้าไปอย่างอารมณ์เสีย มิคิดว่าสตรีน้อยนางนี้นั้นจะระแวดระวังตัว เช่นนั้นเห็นทีว่านางจะต้องเป็นผู้สั่งการให้ไปที่รถม้าแล้วกระมัง ไม่นานเสียงหวีดร้องก็ดังขึ้นส่งผลให้อาเฟิงได้ยินเสียงของฮูหยินเอก จึงได้รีบทะยานตัวเข้าไปดู แต่ทว่า...เขาลืมฮูหยินรองที่เอ่ยไม่ให้เขาเข้ามาข้างในป่า
แต่ภาพที่เห็นเบื้องหน้านั้นคือ ฮูหยินถูกกลุ่มชายชุดดำที่มีราวสักห้าสิบคน หนึ่งในนั้นมัดมือของฮูหยินเอกเอาไว้ ใบหน้าที่งดงามนั้น ฟกช้ำไปมาก จนแทบไม่เหลือความงามให้เห็นเลย
“อาเฟิงรีบหนีไป” นางรีบเอ่ยให้อาเฟิงหนีไป เพราะพวกนี้มีมากกว่า แต่มันเป็นแผน ใบหน้าที่งดงามเป็นสีม่วงคล้ำ เพราะถูกพิษที่นางพกติดตัวเอาไว้แล้วทางมันที่ใบหน้า จากนั้นก็เกิดเป็นรอยช้ำจ้ำ ๆ เหมือนถูกทำร้าย เพื่อให้สมจริง
“ฮูหยิน ไม่ขอรับ พวกเจ้าปล่อยตัวฮูหยินเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นจะหาว่าข้าไม่เตือน” อาเฟิงทะยานตัวลอย ละลิ่วจากนั้นมือหนาดึงอาวุธลับที่อยู่ในสาบเสื้อออกมา เป็นมีดสั้น สองอัน พลางผิวปากเรียกเงาที่แฝงกายมีราวสักห้าคนให้ออกมาช่วยเขาจัดการกับพวกนี้ทันที
แต่หารู้ไม่ว่า เสี่ยวชิงนั้นถูกกลุ่มชายชุดดำตามไล่ลา นางหนีเข้ามาในป่าเพื่อให้อาเฟิงช่วย แต่นางไม่สามารถที่จะหลบหลีกหนี กลุ่มชายพวกนี้ที่มีมาก ราวสามสิบคนเห็นจำได้ นางเป็นเพียงสตรีอ่อนแอ ไยต้องเล่นงานนางถึงขนาดนี้ด้วย และหลงคิดว่าพี่สาวจะเป็นผู้ที่มีจิตใจดีงาม แต่นางคิดผิด ในความฝันของนางเป็นเรื่องของอนาคตเพียงแปดส่วน อีกสองส่วนนั้นจะไม่ค่อยที่จะเชื่อถือได้ และวันนี้นางต้องรับชะตากรรม
หากวันนั้น นางไม่บอกให้ท่านแม่ของนางให้คุณชายถงไถ่ตัวนางออกมาแล้วละก็นางก็จะต้องเป็นสตรีต้องห้ามของวังหลวงที่ตายที่วังอย่างน่าอนาถ นางหวาดกลัวมาก จึงมีเพียงให้คุณชายถงประมูลค่ำคืนแรกของนางและด้วยค่าตัวที่สูงลิ่ว ทำให้ท่านแม่ของนางนั้นเบิกบานใจยิ่งนัก และวันนี้นางได้รู้ความจริงเสียแล้ว ว่าหลีกหนีอย่างไรก็ไม่พ้น เหล่าเงาทะยานตัวออกมาจากการอำพรางตัว และได้เข้าจัดการกับพวกชายชุดดำจนพวกมันสังเวยชีวิตจนหมดสิ้น
และมีเงาเพียงคนเดียวที่เข้าไปช่วยเสี่ยวชิง แต่ก็ถูกเล่นงานจนแทบเอาชีวิตไม่รอด จากนั้นเสี่ยวชิงก็ถูกมีดสั้นที่อาบไปด้วยพิษ ร่างของนางตกจากหน้าผาลงสู่สายธารที่ไหลเฉี่ยว เงาผู้นั้นเห็นกับตา แต่ด้วยที่เขามีบาดแผลมากเกินไปจนทำให้เขาสลบลงที่หน้าผา พลางมือของเขายืนลงไปเพื่อหวังช่วยฮูหยินรองของนายท่าน แต่ก็ไม่ทันการเสียแล้ว ลูกธนูหลายดอกปักลงที่แผ่นหลังของเงาผู้นี้ จนเขาไม่อาจจะมีชีวิตรอดเพื่อไปรายงานนายท่าน
“เรียบร้อยไปกลับกันเถอะ” เหล่าชายชุดดำทำงานตามใบสั่งเสร็จเรียบร้อย จึงได้ทะยานหายตัวไปจากพื้นที่ดังกล่าว อาเฟิงประคองร่างกายที่บอบช้ำของ ฮูหยินเอกขึ้นรถม้า และเขาตกใจมากที่สุด เมื่อไม่เห็นร่างของภรรยารองของนายท่าน เขารีบออกตามหาทันที
ร่างกายของเขาที่มีบาดแผลจนโลหิตไหลซึมออกมา เสื้อผ้าก็ขาดไปเกือบทั่วทั้งตัว เหล่าเงาด้วยเช่นกัน และมิคิดว่ากลุ่มชายชุดดำ พวกนี้จะมากด้วยฝีมือ ทำให้พวกเขาที่คิดว่าเก่งกล้าเป็นถึงเงาขององค์ชายกลับได้รับบาดเจ็บมากมายถึงเพียงนี้ และต่อแต่นี้ต้องฝึกฝนให้มากกว่าเดิม เพื่อไม่ให้ผิดพลาดแต่ ฮูหยินรองจะเป็นเช่นไร
“แยกย้ายกันตามหา” เสียงเข้าเอ่ยสั่งการ ตามหาภรรยารองของเจ้านาย ที่หาอย่างไรก็หาไม่เจอ อาเฟิงมองเห็นร่องรอยการต่อสู้ จึงได้ดูบริเวณใกล้เคียง ป่าไม้รกทึบอีกทั้งต้นไม้สูงใหญ่ ทำให้การหาตัวของเสี่ยวชิงนั้นยากนัก และเขาเดินมาเรื่อย ตามรอยเลือดที่หยดบนใบไม้เล็ก ๆ เป็นทาง และคาดว่าน่าจะอยู่ข้างหน้าสองเท้าหนาไม่รอรี รีบก้าวย่างอย่ารวดเร็วและไม่นานก็เห็น เงา สหายของตนนั้นไร้วิญญาณ มือของสหายนั้นยื่นลงไปเบื้องล่าง และคาดว่า ฮูหยินรองตกหน้าผาลงไปแล้ว เขามองลงไปด้านล่างที่มองอย่างไรก็มีแต่สายน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก พลางเห็นเศษผ้าสีฟ้าของฮูหยินรองเกี่ยวอยู่บนกิ่งไม้ด้านล่างเขาจึงทะยานตัวลงไป พลางมือหนาเก็บเศษผ้าชิ้นนั้นที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดขึ้นมา เก็บเข้าไว้ในสาบเสื้อด้านในทันที สายตาสอดส่องหาร่างของฮูหยินรอง แต่มองอย่างไรก็หาไม่เจอแล้วเขาจะเอาหน้าไปพบนายท่านได้เช่นไร เขาทำงานหละหลวมจนทำให้ ฮูหยินรองต้องสังเวยชีวิตและคิดว่าตนเองไม่สามารถที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปไม่นานถงหยางจงก็เร่งเท้าตามเขามา ภาพเบื้องล่างที่เขามองดูนั้น ทำให้เขาหลั่งน้ำตาที่ไม่คิดว่า เขาจะเสียน้ำตาให้ภรรยาที่เขาเพิ่งจะได้อยู่ด้วยกันกับนางเพียงไม่นาน เขาหวังว่าอีกสักสองเดือนจะแต่งงานกับนางให้นางได้เชิดหน้าชูตา แผนการทั้งหมดที่เขาตั้งใจจะทำให้นางนั้นล้มไม่เป็นท่า เพราะเขาได้สูญเสียภรรยาที่เขานั้นเฝ้ามองดูนางมาเป็นเวลานาน“เสี่ยวชิง เสี่ยวชิง พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ เสี่ยวชิง ฮือ ๆ ๆ ” ร่างหนาร้องไห้แทบจะขาดใจ หัวใจเขาปวดร้าวไม่เหลือชิ้นดี แล้วเขาจะทำอย่างไร หัวใจของเขามอบให้นางไปหมดแล้ว ความรักที่เขาเฝ้ามองและโหยหา ได้จากไปเสียแล้ว เขาไม่น่าจะปล่อยนางไว้เลย ร่างหนาของผู้เป็นสามี ร้องไห้ จนเส้นเลือดนั้นปูดโปนที่ใบหน้า ดวงตาแดงก่ำแห่งความเสียใจ ความสูญเสียนี้ถาโถมเข้ามาโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัวสักนิด แล้วชีวิตเขาจะอยู่เช่นไรถ้าไม่มีนาง“ท่านพี่ ข้าผิดเอง ที่ทำให้น้องสาวด่วนจากไป เป็นเพราะข้าไม่ดีเอง ท่านพี่โปรดลงโทษขาเถิด” ร่างระหงที่ใบหน้าขอนางนั้นฟกช้ำไปทั่ว มือหนาของสามีโอบกอดร่างบางของภรรยาไว้แนบอก หัวใจของเขานั้นแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดีเสียแล้ว ในเมื่อไม่มีนางอยู่ เช่นนั้นเขาจะทำเช่นไรต่อแต่นี้ทุกอย่างที่เขานั้นสร้างขึ้นมาด้วยสองมือเพียงแค่อยากให้เสี่ยวชิงได้อยู่สุขสบายแต่มิคิดว่านางจะด่วนจากเขาไปเร็วขนาดนี้ “ไม่เป็นไร เรากลับกันเถิด อาเฟิงให้ อาหวง และอาหลิง ตามหานางด้วย ส่วนเจ้ากลับจวนรักษาตัว” เขาว่าพลางประคองร่างบางของภรรยาเอกกลับจวน ถึงแม้ว่าเขาไม่อยากจะกลับก็ตามแต่ด้วยภรรยาเอกของเขาก็บาดเจ็บ เขาจึงต้องจำใจพานางกลับเพื่อรักษาตัว
copy right hot novel pub