ตอนที่ 29 เด็กดื้อของพี่
ภายในห้องสี่เหลี่ยมของท่านอ๋อง ร่างบางนอนราบบนเตียงนอน โดยที่ท่านอ๋องนั้นคร่อมร่างของฟางหรงเอาไว้ สายตาของเขานั้นสะกดดวงตาของนางจนอยู่หมัด ฟางหรงไม่ขัดขืน เพราะสายตาคู่นั้นที่อบอุ่น อีกทั้งยังแฝงด้วยความร้อนรุ่ม
“วันนี้พี่ขอทำโทษเจ้า เด็กดื้อ” เขาว่าพลางดึงสายคาดเอวของนางออกอย่างรวดเร็ว โดยที่ตัวของนางเองยังไม่รู้ว่าเขาดึงออกตอนไหน ช่างรวดเร็วเสียจริง ริมฝีปากของเขาบดขยี้จูบที่ริมฝีปากของนางอย่างเร่าร้อน มือหนาแหวกสาบเสื้อของนางออกเผยให้เห็นเอี้ยมสีขาวบางเบา
มือของเขายังซุกซนล้วงเขาไปในเอี้ยมตัวบางบีบคลึงเต้างามของนาง อย่างรุนแรง “อ่า หรงเอ๋อ ช่างนุ่มเหลือเกิน พี่ของดูดกลืนกินเจ้าจะได้ไหม พี่ขอเถิด” เขาว่าพลางไม่ฟังคำทัดทานจากนางสักนิด ใบหน้าของนาง แดงระเรื่อเพราะความเขินอาย
“ท่านอ๋อง หรงเอ๋อ” นางพูดไม่ขาดคำ เขาก็จูบที่ริมฝีปากของนางอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้นั้นกลับรุนแรงมากมายนัก นางมิอาจจะต้านทานไหว “อืม อืม อ่า” เสียงครางกระเส่าของนางก็ดังขึ้นเบาๆ เพราะความรู้สึกที่รุ่มร้อนจนยากจะเกินห้ามไหว เพราะเขาทั้งบดขยี้ที่ริมฝีปากอย่างโหยหา อีกทั้งเขายังคลึงเต้างามของนาง ทั้งสองข้างอีกทั้งยังเล่นซนดึงยอดถันของนาง จนร่างของนางนั้นกระตุกเกร็ง
“ท่านอ๋อง เบาๆ หรงเอ๋อเจ็บ” นางว่า เพราะเขานั้นบดขยี้ที่ช่องกุหลาบของนางอย่างรุนแรง จนนางนั้นรู้สึกเจ็บขึ้นมา
“เจ็บหรือ พี่จะเบาๆ นะทนอีกนิดนะคนดีของพี่” เขาพลางดูใบหน้าของฟางหรงที่ขึ้นสีแดง ด้วยความเขินอาย เวลาที่นางอายนั้นช่างน่ารักจนเขาไม่อยากที่จะกลั่นแกล้งสตรีนางนี้ได้ลงคออีกแล้ว เขาเพียงอยากให้นางนั้นรักเขาบ้างก็เท่านั้นเอง เขารับรู้ว่านางมีใจให้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่า นางรักเขาเหมือนที่เขารักนางหรือไม่ อีกทั้งวันนี้เขาก็ล่วงเกินนางมากแล้ว
“อ่า อ่า ท่านอ๋อง ช่วยหรงเอ๋อด้วยไม่ไหวแล้ว เจ็บเหลือเกิน โอ๊ย” นางว่า พลางบิดด้วยความเสียวกระสัน ช่องกุหลาบรักของนางก็มีน้ำหวานไหลออกมา นั่นแสดงว่านางมีอารมณ์ร่วม ในขณะที่ฝ่ายท่านอ๋องนั้นคิดว่าเขาล่วงเกินนางจนอยากจะหยุดมือลง แต่ได้ยินเสียงหวานของความช่วยเหลือ เช่นนั้นเขาก็มิขัดศรัทธาของร่างบางที่เรียกร้องให้เขาช่วยปัดเป่าความเจ็บปวด ให้คงเหลือแต่เพียงความรุ่นร้อน และความหวาบไหว
“พี่จะเบามือนะ ทนอีกนิดเดียว เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” เขาว่า พลางถอดชุดของนางออกจนหมด เผยให้เห็นเรือนร่างระหงที่งดงามมากมานัก ซาลาเปาคู่ใหญ่เด่นตา สีสันนั่นน่าลงลิ้นดูดชิมยิ่งนัก เขาก็ไม่ละเลยแม่แต่น้อย ค่อย ๆ ลงลิ้น ละเลงเล็มเลียที่ยอดถันอย่างแผ่วเบา จนร่างบางนั้นเกร็งสะท้านไปทั้งตัว ด้วยความเสียวซ่านที่มิเคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน
เขาละจากการสำรวจช่องกุหลาบมาบีบคลึงเต้างามของนางก่อนที่เขาจะแทรกกายเขาตรงกลางระหว่างขา เขาจับขาของนางยกขึ้นสูงพาดที่ไหล่หนาของเขา ก่อนที่เขาจะบรรเลงเพลงรัก “ฟางหรง ต่อแต่นี้เจ้าคือ พระชายาของพี่แล้ว พี่ขอเปลี่ยนข้าวสารเป็นข้าวสุก พี่จะมีเพียงเจ้าผู้เดียวเท่านั้น หากพี่ผิดคำขอให้ฟ้าดินลงโทษ” เขาว่า พลางประทับริมฝีปากหยักของเขาลงที่หน้าผากมนของนาง อีกทั้งยังหอมแก้มทั้งซ้ายและขวาของนางด้วย
ใบหน้าของฟางหรงนั้นแย้มยิ้มพร้อมกับดวงตาคู่งามของนางที่หวานเยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดที่เขาเอ่ยออกมา เช่นนี้แล้วนางยอมเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น และต่อแต่นี้สามีของนางก็มีเพียงเขาคนเดียว “เจ้าค่ะท่านอ๋อง” นางว่า พลางโอบกอดที่ท้ายทอยของเขา ก่อนที่เขาจะนำเจ่ลูกชายตัวใหญ่ ถูไถหยอกล้อที่เนินสวาทของฟางหรง
เจ้าลูกชายนั้นถูไถที่กลับกุหลาบด้านนอก ก็รู้สึกร้อนรุ่มทันทีทันใด ร่างหนาของเขาถึงกลับเกร็งสะท้านไปทั้งตัว ด้วยไม่เคยรู้สึกวาบหวาม กับสตรีคนใดมาก่อน เพียงแค่เห็นดวงตาของนางเขาก็ลุ่มหลง และหลงใหลจนมิอาจจะปล่อยนางไปได้ และวันนี้เขาก็เป็นเจ้าของเรือนร่างนี้อย่างสมบูรณ์
เขาขยับสะโพกช้า ๆ เพื่อที่ไม่ให้คนนอนใต้ร่างนั้น เจ็บไปมากกว่านี้ ที่น่าแปลกคือนางทั้งคับและแน่น จนเขาจะแตกอยู่รอมร่อ “อ่า อ่า หรงเอ๋อ ของพี่ พี่มีความสุขนัก” เขาว่า แก่นกายของเขายังขยับขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ในช่องกุหลาบนั่น
นางเองก็สุขสมไม่แพ้กัน “ท่านอ๋อง หรงเอ๋อรักท่านอ๋องนะเจ้าคะ” นางว่า เขาโน้มใบหน้าลงมาจุมพิตที่ริมฝีปากบางของนางอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ทั้งอ่อนนุ่ม และนุ่มนวลช่างหวานหอมเหลือเกิน นางโต้ตอบเหมือนกัน ทั้งคู่ต่างแลกลิ้นเกี่ยวกระหวัดควานหาน้ำหวานของอีกฝ่าย
เรือนร่างบอบบางที่ขวาเนียนละเอียดเหมือนดั่งหิมะ ขึ้นสีแดงตามตัวเพราะว่าความร้อนรุ่มในกายของนางได้ปะทุออกมาแล้ว และเขาก็ไม่ต่างกัน สีหน้าของเขาช่างดูเร่าร้อนเสียจริง กายหนาของเขาค่อย ๆ ขยับแล้วซอย ถี่ จนร่างบางนั้นเกาะที่ต้นคอของของเขาเอาไว้แน่น ราวกับว่านางไม่ต้องการให้เขาหายจากไป
“พี่ก็รักเจ้าเช่นกัน และรักมากด้วย” เขาว่า พลางขยับแก่นกายของตนเองให้ลึกที่สุด เท่าที่จะลึกได้และหวังว่านางจะชมชอบ บทเพลงรักที่เขามอบให้ ความนุ่มนวล ความอ่อนโยนที่เขามีให้นางนั้น นางรับรู้ได้ดี และวันนี้ก็เช่นเดียวกัน เขาไม่ได้โหดร้ายป่าเถื่อน กลับมีแต่ความอ่อนโยน และอ่อนหวานให้นาง เขาไม่ได้รุนแรงจนนางต้านรับไม่ไหว เขาอ่อนนุ่มและทะนุถนอมนางยิ่งนัก
เขาพยายามข่มใจของตนเองมิให้ ฟางหรงตื่นตระหนกตกใจไปกว่านี้ เพราะความต้องการของเขานั้นมีมากมายล้นเหลือยิ่งนัก อีกทั้งสูดกลิ่นกายจำเพาะของนางยิ่งแล้วใหญ่ ช่างมีกลิ่นกายที่หอมยั่วยวนเขาเหลือเกิน เขาจับร่างบอบบางเหมือนไร้เรี่ยวแรงขึ้นให้หันหลังให้เขา จากนั้นเขาก็จับแก่นกายของตนเอง สอดใส่เข้าที่ช่อกุหลาบรักนั้นทันที จากนั้นเขาก็เร่งจังหวะให้เร็วขึ้น
มือหนาสองมือนั้นกอบกุมที่เต้างาม พลางบีบคลึง จนร่างบางต้องร้องครางออกมา อีกทั้งเมื่อบีบคลึงเต้างามอย่างพอใจแล้ว เขาขยำที่ก้นขาว ๆ เนียน ๆ ของด้วย อีกทั้งยังมีเสียงเนื้อกระทบกัน ดัง ตับ ตับ ตับ ตับ ตับ อยู่ในห้องนอนของเขา ซึ่งไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามา นอกเสียจากพ่อบ้านฉาง และพ่อบ้านผู้นี้ก็มิกล้าเข้ามายามนี้เช่นกัน
“หรงเอ๋อ ของพี่ พี่มีความสุขนัก อ่า อ่า พี่เสียวจนจะขาดใจ อ๊า” เขาทั้งร้องครางอีกทั้งยังพรั่งพรูไปด้วยความสุขสม พวงมะนาวสองลูกนั้นกระทบกับช่องด้านหลังของฟางหรง จนนางรู้วาบหวามยิ่งนัก
“อ่า อ่า ท่านอ๋อง เบา ๆ หน่อย หรงเอ๋อเจ็บไปหมดแล้ว” นางว่า เพราะเขากระแทกเข้ามาจนนางจะรับไม่ไหวกับ ความสุขสมเช่นนี้
“เจ็บหรือ อีกนิดเดียวนะ จะเสร็จแล้วอ่า อ่า” เขาว่าไม่นาน น้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งเข้าไปในช่องกุหลาบของนาง นางตกใจมากหวั่นเกรงว่านางจะตั้งครรภ์ เพราะเขาไม่ปลดปล่อยสายธารนี้ออกด้านนอก กลับปล่อยสู่ในช่องกุหลาบของนาง เขาจงใจหรือว่าเขาไม่รู้กันแน่
“หรงเอ๋อ มีลูกให้พี่สักคน สองคนนะ” เขาสวมกอดทั้งที่แก่นกายอันใหญ่โตของเขายังคาอยู่ในช่องกุหลาบ เขาอยากมีภรรยาและลูกน้อยวิ่งเล่นในจวน คงจะจะมีชีวิตชีวาขึ้นมากโข การได้มีนางอยู่เคียงข้าก็ย่อมมีความสุขมากมายแล้ว และจะมีบุตรจากคนที่เขารักและหวงมากก็ย่อมจะมีความสุขมากขึ้นไปอีก เมื่อคิดเช่นนั้นเขาจึงได้ปล่อยสายธารสีขาวเข้าไปอย่างไม่ลังเลสักนิด
ด้านจวนของถงหยางจง ที่ภรรยาเช่นผิงอันเป็นลมล้มพับลงไปนั้น ได้สร้างความตื่นตระหนกตกใจให้ผู้เป็นสามียิ่งนัก เขารับร่างภรรยาพร้อมกับอุ้มนางขึ้นแล้วเร่งฝีเท้าเข้าไปในเรือน ปากของเขาเอ่ยสั่งการสาวใช้ให้นำยาหอมมาให้ ก่อนเอ่ยสั่งให้คนไปตามหมออย่างรวดเร็ว สาวใช้ต่างกุลีกุจอทำหน้าที่ของตนเอง
ส่วนสตรีที่มาใหม่นั้นก็เพียงได้นั่งนิ่งๆ มองดูสามีที่เป็นห่วงภรรยาคนนี้มากมายนัก และนางจะเข้ามาเป็นส่วนเกินเช่นนั้นหรือ แน่นอนว่านาพบเขาครั้งแรกก็ตกหลุมรักบุรุษผู้นี้เข้าให้แล้ว แต่เขาและนางกำลังมีลูกด้วยกัน มี่ซินหรือสตรีที่ได้รับค่าจ้างมากโข นางสามารถที่จะตั้งตัวด้วยเงินจำนวนไม่น้อย ที่ผู้สูงศักดิ์มอบให้ แต่นางก็ต้องขอทำตามใจของนางบ้างเพื่อที่จะให้ได้อยู่กับถงหยางจง
และเมื่อมาที่จวนกลับเห็นเขาซึ่งเป็นสามีที่ดูแลเอาใจใส่ ภรรยาที่ตั้งครรภ์ ส่วนตัวมี่ซินนั้นก็เป็นสตรีคณิกามาก่อน นางเข้าใจว่าสามี มีภรรยาได้หลายคน แต่นางก็เป็นสตรีที่รู้สึกถึงการถูกแย่งของรักนั้นเป็นเช่นไร เพียงแค่นางรองเวลาให้ภรรยาของเขาฟื้นขึ้นก่อน นางจะขอลากลับไปอยู่บ้านเกิด มิอยู่ที่จวนนี้สร้างความลำบากใจให้ ภรรยาเอก ผู้ที่มิรู้เรื่องราวอันใด มี่ซินนางผิดเองและนางจะถอนตัวออกไปเสีย
“มี่ซิน หิวหรือไม่” ถงหยางจงเอ่ยอย่างเป็นห่วง
“ไม่เจ้าคะ ท่านดูแลภรรยาของท่านไปเถิด ข้าจะอยู่เงียบ ๆ รอนางฟื้น” มี่ซินเอ่ย พลางนั่ง นิ่ง ๆ ที่เก้าอี้ภายในห้องนอนของผิงอัน
“เช่นนั้นหรือ ออกเดินเล่นข้างนอกก็ได้นะ ในนี้อุดอู้เดี๋ยวจะไม่สบายอีกคน” คำเอ่ยที่ห่วงใยนั่นทำให้มี่ซินยิ้มแย้ม
“ไม่เป็นไรเจ้าคะ ข้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับฮูหยินของท่านจึงอยากนั่งในห้องนี้สักครู่ รอนางฟื้น” ใบหน้ายิ้มแย้มของนางส่งให้ถงหยางจง จนเขานั้นยิ้มตอบกลับ สายตานั่นมีแต่ความจริงใจและบริสุทธิ์
“ท่านพี่ ท่านพี่” ผิงอันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาเมื่อสติของนางกลับมาแล้ว ได้ยินเสียงสนทนาของทั้งชายและหญิงแต่ได้ยินไม่ถนัด ใบหน้าติดซีดของนางนั้นทำให้มี่ซินมองอย่างสงสาร สตรีมีครรภ์ช่างลำบากยิ่ง
“เจ้าฟื้นแล้ว ดื่มน้ำเสียหน่อยเถิดนะ” เขาจับถ้วยชาที่รินเมื่อครู่ จ่อที่ปากของภรรยา สายตาของนางจดจ้องใบหน้าของสามีอย่างรักใคร่ รอยยิ้มเล็ก ๆ ค่อย ๆ ปรากฏบนใบหน้าของผิงอัน ผู้เป็นสามียิ้มตอบกลับด้วยเช่นกัน ทั้งคู่ส่งสายตาหวานฉ่ำจนอีกคนที่เป็นส่วนเกิน กระแอมไอออกมา
“ขออภัยฮูหยิน ข้ามีเรื่องอยากพูดกับท่าน” มี่ซินเอ่ยขึ้น พลางมองใบหน้าของผิงอันที่นางเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
“เจ้ามีอะไร ก็พูดมาเถิด หรือว่าอยากได้เรือนหลังใหญ่ข้าก็ให้เจ้าได้” ผิงอันคิดว่า สตรีที่มาด้วยอยากได้เรือนหลังใหญ่กระมังจึงได้ขอคุยกับนาง หากนางอยากได้ก็ให้นางไป เพราะเรือนหลังนั้นไม่ใช่ของนาง เป็นเรือนของเขาที่เก็บไว้ให้ภรรยาของเขาที่เสียไปแล้ว
“ข้าไม่ได้ต้องการเรือนหลังใหญ่ของท่าน เพียงแต่อยากบอกให้ท่านรับรู้ว่า ข้าจะมิขออยู่เป็นส่วนเกินของที่นี่ ครอบครัวของท่านต้องสมบูรณ์และพรั่งพร้อมด้วยบิดา และมารดารักใคร่” มี่ซินเอ่ย พลางเดินเข้าไปหาผิงอันที่นอนราบบนเตียง
“นายท่านข้ามีเรื่องสำคัญขอพูดกับนางสองคนได้หรือไม่” มี่ซินว่า พลางส่งสายตาอ้อนวอนไปให้ร่างหนาของถงหยางจง ที่จับมือภรรยาไม่ห่าง
“ได้สิ” เขาว่า พลางลุกเดินออกไปด้านนอกห้องนอน
“เจ้าคิดจะทำอะไรข้า” ผิงอันรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา นางไม่รู้ว่าสตรีคนนี้ร้ายกาจหรืออ่อนโยนกันแน่
“ฮูหยินอย่างห่วงเลย ต่อแต่นี้ข้าและเขาจะไม่เจอกันอีก และอีกอย่างเรื่องสำคัญที่ข้าจะบอกและให้เก็บไว้ หากท่านยังอยากจะให้เขาอยู่ข้างกายท่าน ต่อไปนี้ห้ามเอ่ยชื่อ เสี่ยวชิงหรือฟางหรงอีกเด็ดขาด มิเช่นนั้นท่านอ๋องจะสังหารท่านและครอบครัวโปรดจำไว้ให้ดี ฟางหรงคือคู่หมั้นของท่านอ๋อง ส่วนเสี่ยวชิงนางตายไปแล้ว เข้าใจหรือไม่” มี่ซินกล่าวแกมข่มขู่ให้ ผิงอันหวาดกลัวท่านอ๋อง เพื่อที่นางจะจากไปโดยไม่ต้องกังวลว่าเรื่องราวทั้งหมดจะไม่ถูกเปิดเผย“ข้าเข้าใจแล้ว” จวนท่านอ๋องสองร่างที่ผ่านบทเพลงรัก ไปสองสามยก ก็พากันหลับใหล ฟางหรงนอนหนุนแขนแกร่งของเขา โดยที่แขนอีกข้างของเขานั้นโอบกอดเอวคอดของนางไว้ ใบหน้ายามหลับของเขาช่างดูคมคายยิ่งนัก เปลือกตาที่ปิดสนิทลงของทั้งคู่นั้น แต่มีบางสิ่งบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ด้านนอกห้อง ที่เปิดประตูไว้ แต่มีม่านมุขเป็นสายยาวกั้นประตูเพื่อที่จะไม่ให้เห็นเรือนร่างของภรรยาของเขาที่นอนหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องราวอันใด“เรียนท่านอ๋อง เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เงาดำนายหนึ่งกล่าวรายงานความเคลื่อนไหวที่เขามอบหมายให้ไปติดตามดูผลงานว่าเป็นเช่นไรบ้าง“ทุกเรื่องเช่นนั้นหรือ” เขาว่า“พ่ะย่ะค่ะ นางขอกลับบ้านเกิด” เงาดำกล่าวรายงานเสริมขึ้นอีก มือหนาของคนที่นอนอยู่บนเตียงโบกปัดให้เงาดำนั้นกลับไปพักได้ สายตาของเขามองใบหน้าของภรรยาที่เพิ่งจะหลับได้ไม่นาน เพราะเขาเคี่ยวกรำนางไปสอง สามยกแต่ก็ยังไม่อิ่มหนำเสียที รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาเกลี้ยงเกลาของเขา เรือนผมยาสลวยของเขาพาดลงที่ไหล่หนา เมื่อเขาประทับริมฝีปากของตนเองลงที่หน้าผากมนของฟางหรง อีกทั้งพวงแก้มทั้งสองข้าง ก่อนจะประทับจูบที่แผ่วเบาราวกับขนนกที่ริมฝีปากบางของนาง“ต่อไปนี้จะไม่มีเรื่องกวนใจเสียที พี่รักเจ้ามากนักรู้หรือไม่เด็กดื้อ รักแรกพบพี่มิเคยรักใครมาก่อน พี่มีเพียงเจ้าเท่านั้นหากเจ้าไปแล้วพี่คงขาดใจเป็นแน่ เจ้าเด็กดื้อ”
copy right hot novel pub