ตอนที่ 31 แต่งงาน (เสียวเล็ก)
เกี้ยวเจ้าสาวคันโตสีแดง ด้านในมีเจ้าสาวผู้งดงามสวมชุดสีแดง มีผ้าคลุมปิดหน้าปักลวดลายงดงาม อาภรณ์ที่นางสวมใส่นั้น ท่านอ๋องจัดเตรียมไว้ให้นางก่อนที่นางจะรับปากแต่งงาน งานแต่งงานนี้แม้จะเกิดขึ้นกะทันหันก็ตามแต่ไม่มีสิ่งใดขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อยนิด
จวนท่านแม่ทัพที่เป็นน้องเขยของนางก็จัดสินเดิมให้นางมากโข ฟางหรงตื้นตันใจยิ่งนักที่มีน้องเขยดีงามเช่นนี้ อีกทั้งน้องสาวของนางนั้นก็ดีใจที่พี่สาวผู้นี้ได้พบความสุขเสียที คุ้มค่านักกับการที่นางสูญเสียความทรงจำและได้คนที่แสนดีเช่นท่านอ๋อง ต่อไปท่านอ๋องผู้นี้ก็เป็นพี่เขยของนางแล้ว
เสี่ยวชุนน้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความตื้นตันใจ นางมองเห็นพี่สาวขึ้นเกี้ยวสีแดง และมีท่านอ๋องนั่งอยู่บนอาชาตัวใหญ่เหมือนดั่งที่นางฝันไม่มีผิดเพี้ยนสักนิด ใบหน้าของท่านอ๋องนั้นยิ้มไม่หุบเพราะเขาดีอกดีใจจนออกนอกหน้า เหล่าขุนนางหากเห็นใบหน้าของท่านอ๋องตอนนี้ตกตกใจเป็นแน่ เพราะเขาคือบุรุษผู้เย็นชา ไร้ความรู้สึกอีกทั้งยังโหดเหี้ยมไม่แพ้ท่านแม่ทัพสหายของเขาสักนิด
เกี้ยวสีแดงถูกห้ามออกจากจวนท่านแม่ทัพ ชาวบ้านต่างยืนสองข้างทางเพื่อดูงานมงคลของท่านอ๋อ ผู้ที่หล่อเหลา ใบหน้าของเขานั้นยิ้มแย้ม สตรีน้อยใหญ่ที่มิเคยเห็นยามเมื่อเขายิ้ม แต่ละนางนั้นก็อดที่เคลิบเคลิ้มกับรอยยิ้มของเขาไม่ได้ มี่ซินสาวน้อยที่ได้รับการไว่วาน นางยืนอยู่ปะปนกับฝูงชน นางก็อดที่จะดีใจด้วยไม่ได้ ที่ผู้มีพระคุณมีความสุขเช่นนี้
ส่วนถงหยางจงและภรรยาเช่นผิงอันนั้น ก็นั่งอยู่ที่เหลาอาหารร้านของเขา บัดนี้ถงหยางจงดูแลเอาใจใส่ภรรยาของเขาอย่างดีเยี่ยม เพราะอายุครรภ์ของนางก็หลายเดือนและท้องโตขึ้นทุกวัน นับตั้งแต่วันที่ผิงอันเป็นลมไป ถงหยางจงบุรุษมักมากในราคะ กับตัวติดภรรยายิ่งนัก
สองข้างทางมีแต่เหล่าผู้กล่าวแสดงความยินดี เสียงดังกึกก้อง แน่นอนว่างานแต่งงานจะต้องมี เชื้อพระวงศ์ร่วมงานด้วยเป็นแน่ หนึ่งในนั้นคือพี่ใหญ่ ไท่จื่อ หรือก็คือญาติผู้พี่ของเขา ไท่จื่อผู้ที่สง่างาม ควบอาชาเคียงข้าผู้เป็นน้องชาย เขาดูใบหน้าของน้องชายที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข ก็อดที่จะนึกอิจฉาไม่ได้ และดีใจที่น้องชายผู้นี้มีสตรีที่รักเขาด้วยใจจริง ส่วนตัวเขานั้นยังไม่ได้แต่งงานเพราะยังไม่มีคนที่เขาชมชอบอยากจะครองคู่ด้วย
แต่ว่าตั้งแต่ที่น้องชายพาคู่หมั้นเข้ามาอยู่ที่จวนเขาก็รู้บ้างแต่ก็ไม่เคยเห็นหน้าของนางมาก่อนสักครั้ง เนื่องด้วยว่า เจ้าน้องชายตัวดีไม่ให้เขาเข้าไปที่จวนเลยอดเห็นหน้าของว่าที่ภรรยาของน้องชาย
เกี้ยวขันงามใหญ่โตหยุดที่หน้าจวนของท่านอ๋อง บรรยากาศข้างในจวนประดับประดาด้วยผ้าสีแดงและโคมไฟสีแดง เต็มจวนไปหมด แขกเหรื่อก็พากันทยอยเข้าไปด้านใน และบริเวณที่คู่บ่าวสาวจะต้องเข้าพิธีไหว้ฟ้าดิน ฟางหรงนั้นไม่เคยพบมารดาของนางมาก่อนและไม่เคยรู้ว่ามารดาของนางอยู่ที่ไหน มีเพียงแม่เล้าลู่เท่านั้นที่นางรู้แต่ไม่เคยเอ่ยกล่าวอันใดให้นางฟัง
พิธีกราบไหว้ฟ้าดิน เป็นไปตามธรรมเนียมและก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่เจ้าสาวต้องเข้าห้องรอฝ่ายเจ้าบ่าวมาเปิดผ้าคลุมหน้าเป็นอันไว้ พิธีทั้งหมดนั้นเสร็จสิ้น ท่านแม่ทัพสหายคนสนิทกลับทำท่ายึกยักถ่วงตัวท่านอ๋องไม่ให้เขามาที่ห้องหอสักที ร่วมด้วยไท่จื่อพี่ใหญ่ของเขาอีกคน กาสุราตั้งเรียงรายจำนวนสามสิบกา ท่านอ๋องต้องดื่มให้หมดเสียก่อน พวกเขาถึงจะปล่อยตัวมา
“พี่ใหญ่พอแล้ว ข้าเมาแล้วพอเถอะ” ท่านอ๋องใบหน้าแดงก่ำเพราะเริ่มเมาเสียแล้ว
“ไม่ได้ เจ้าต้องดื่มอีก ยกเข้าไปเร็ว ๆ เข้านั่นแหละ” ไท่จื่อเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม จับกาสุราเทใส่จอกให้น้องชายไปหลายจอก ผู้เป็นเจ้าบ่าวนั้นก็อยากจะหลีกเลี่ยงพี่ชาย แต่ด้วยสาตาขึงขัง พยักพเยิดชูให้น้องชาย เขาจึงได้เพียงทำใจ
“ท่านอ๋อง คืนนี้ข้าสหายของท่านขอคารวะ ขอให้ท่านมีความสุขมาก ๆ นะ” ท่านแม่ทัพเอ่ยขึ้น พลางยกจอกสุราชูแล้วใส่ปากของตนเองรวดเดียว พลางมือของเขาจับกาสุราที่ไท่จื่อวางเมื่อครู่ รินใส่ให้ท่านอ๋อง อีกครั้ง
“เจ้าบ้า เจ้ามอมเมาข้าหรือ คอยดูเถิดข้าจะเอาคืนให้สาสม” ท่านอ๋องเอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด
“เพ่ย ๆ น้องสาม เร็ว ๆ เข้าดื่มอีก อีก อีกจอกเร็ว จะหมดแล้ว” ไท่จื่อเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เขาเทสุราให้ครั้งแล้วครั้งเล่า ผู้เป็นน้องชายก็บึ้งตึงขึ้นมากนัก แขกเหรื่อในงามต่างทยอยกันกลับแล้ว คงเหลือเพียงพี่ชายและสหายของเขาที่ยังกลั่นแกล้งเขาไม่เลิกรา “เอาเร็ว ๆ กาสุดท้ายแล้ว” ไท่จื่อเอ่ยขึ้นอีก เขามองดูกาสุราที่ล้มระเนระนาดเพราะพวกเขานั้นหวังมอมเมาให้น้องชายผู้นี้เมามาย
“พี่ใหญ่ ข้าไม่ไหวแล้ว” เสียงยาน ๆ อีกทั้งร่างกายโงนเงน ใบหน้าแดงก่ำเหมือนผลเชอรี่ก็ไม่ปาน
“เอาละเจ้าสาม พี่ปล่อยเจ้าไปเข้าหอได้แล้ว” ไท่จื่อว่า พลางลุกขึ้น สะบัดแขนของตนเองแล้วหมุนกลับสองเท้าของเขาเดินอย่างสง่างามน่าเกรงขาม ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขที่ได้แกล้งเจ้าน้องชายผู้นี้
ส่วนท่านแม่ทัพนำสารจากภรรยาฝากถึงท่านอ๋อง ใจความนั้นมีเพียงว่า ฝากดูแลพี่สาวของนางด้วย พวกนางมีเพียงสองคนพี่น้องเท่านั้น ท่านอ๋องรับปากจะดูแลนางอย่างดีที่สุด และจะรักนางเพียงคนเดียว คำที่เขาฝากกลับไปนั้น ทำให้ท่านแม่ทัพสหายของเขายกสองมือประสานกัน โค้งคารวะให้ท่านอ๋องไปหนึ่งครั้งจากนั้นเขาก็กลับไปที่จวน
“หรงเอ๋อ พี่มาแล้ว พี่รักเจ้าหรงเอ๋อ ภรรยารัก” คำพูดที่เขากล่าวเมื่อค่อยเดินเข้ามาเกือบจะถึงประตูห้องหอ พ่อบ้างฉางประคองร่างเจ้านายอีกทั้งยังยิ้มแย้ม หัวเราะที่ว่าเจ้านายของเขาเมาได้น่ารักยิ่งนัก
“นายหญิงดูท่า ท่านอ๋องจะเมามากนะเจ้าคะ” ถิงถิง เด็กน้อยน่ารักที่อยู่ในเรือนหอแห่งนี้คอยดูแล ปรนนิบัติฟางหรง
“อืม ไม่เป็นไรหรอก ข้ารับมือไหว” ฟางหรงนั่งหลังตรงอยู่บนเตียงสีแดง อีกทั้งนางแย้มยิ้มอยู่ภายใต้ผ้าคลุมหน้าสีแดงที่ลายปักนั้นงดงามยิ่งนัก มือเรียวของนางดูท่าว่าจะสั่นเล็กน้อย ถึงแม้ว่านางจะผ่านค่ำคืนเช่นนั้นมาแล้ว แต่ก็อดที่จะประหม่าไม่ได้ และอีกอย่างคืนนี้นางและเขาเข้าหอกันจริง ๆ เป็นครั้งแรก ก็ย่อมต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา ใจของนางเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะแทบจะทะลุออกมาเสียอย่างนั้น
ร่างกายที่นั่งตัวตรงก็เหมือนนางจะเกร็งไปมากด้วยท่าทางที่นั่งไม่สบาย “นายหญิง ตื่นเต้นหรือเจ้าคะ” ถิงถิงเอ่ยถามเมื่อเห็นนายสาวของตนตัวแข็งทื่อ
“อืม นิดหน่อย” นางว่า แต่แล้วประตูก็ถูกเปิดออก นางมองเห็นเพียงรองเท้าสีดำของเขาเท่านั้นที่หยุดยืนอยู่เบื้องหน้า เขาก้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อให้ความสูงของตนเองพอดีกับภรรยา
“พี่มาแล้วหรงเอ๋อของพี่ รอนานหรือไม่ พี่ขอโทษที่ ปล่อยให้รอเสียนาน หิวหรือไม่” คำกล่าวที่แสนจะอบอุ่น เขาใช้ไม้เปิดผ้าคลุมหน้าสีแดงออก จากนั้นก็ประคองร่างของฟางหรงให้เดินเคียงคู่เขาไปนั่งลงที่เก้าอี้
“ถิงถิง ออกไปแล้วไม่ต้องเข้ามาอีก” ท่านอ๋องเอ่ยขึ้น สาวใช้ตัวน้อยก็ออกไปทันที ภายในห้องสี่เหลี่ยมที่ประดับประดาด้วยผ้ามงคลสีแดง มีร่างของทั้งสองแนบอิงกัน ใบหน้าทั้งคู่นั้นแย้มยิ้มให้กันและกัน
ตักหนาแกร่งถูกร่างบางนั่งทับไว้ เพราะเขาจับให้นางนั่งบนตักของเขา เพื่อที่เขานั้นจะดื่มสุรามงคลแบบแนบชิดและหวานหอม สองแขนคล้องกันและกันไว้ สายตาสบตากันและกัน ใบหน้าของทั้งคู่นั้นก็ดูจะมีความสุขมากมายนัก
“ดื่ม พี่สัญญาจะรักเจ้าเพียงผู้เดียว” เขาว่า
“ข้าสัญญาจะรักท่านตราบสิ้นลมหายใจ” นางเอ่ยตอบ
ท่านอ๋อง คีบอาหารทั้งหลายป้อนเข้าปากให้ภรรยาอย่างเป็นภาพที่อบอุ่นยิ่งนัก นางอ้าปากรับอาหารจากเขาที่ป้อนให้นางไม่หยุดหย่อน เขาตั้งใจจะดูแลนางแบบนี้ทุกวัน จะทำให้นางมีความสุขที่สุด
“ท่านอ๋อง ไม่กินบ้างหรือ”
“เรียกอันใด ท่านพี่สิหรือไม่ก็สามีรัก” เขากระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบา ทำให้ผู้ฟังนั้นใจเต้นระส่ำระสายไม่เป็นจังหวะ ลมหายใจของเขารดต้นคอของนาง จิตใจของนางก็กระเจิดกระเจิงไปหมด
“เจ้าค่ะ ท่าพี่” เมื่อนางพูดจบ ร่างของนางถูกยกลอยขึ้นไปบนอากาศ ด้วยมือข้าหนึ่ง ส่วนอีกข้างหนึ่งนั้นเขากวาดอาหารทั้งหลายที่อยู่บนโต๊ะลงพื้นอย่างไม่ไยดี เสียงข้างครองดังออกถึงข้างนอก แต่ไร้ซึ่งผู้คนในเขตเรือนหลังนี้ ร่างบางที่ถูกยกลอยขึ้นพาดที่ไหล่เมื่อครู่ ถูกวางลงที่โต๊ะอย่างนุ่มนวล
มือหนาของเขารีบถอดเครื่องประดับและชุดที่รุงรังของนางออกจนหมดภายในพริบตาเดียว มือเรียวทั้งสองข้างปิดที่ยอดถันที่เปลือยเปล่าใบหน้าของนางนั้นแดงซ่านเพราะความเขินอาย ที่สามีของนางช่างใจร้อนเสียจริง พริบตาเดียวอาภรณ์ของเขาก็ถูกถอดออก โยนไปตรงไหนบ้างก็ไม่รู้
รู้เพียงว่า ตอนนี้เขาและนางจะหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ริมฝีปากหยักประกบเข้ากับริมฝีปากบางอย่างโหยหา ทั้งเร่าร้อน และอ่อนหวาน และนุ่มนวลและเนิบนาบ ทำให้ฟางหรงนั้นเคลิบเคลิ้มในรสจูบที่แสนหวานของเขามอบให้นาง มือหนาของเขากอบกุมบีบคลึงเต้างาม อีกทั้งยังสะกิดยอดถันของนางไปมา จนร่างของนางนั้นเกร็งสะท้านด้วยความเสียว
“ท่านพี่ ข้าอืม อ่า อืม อ๊ะ” นางเสียวจนพูดไม่ออก อยากจะบอกว่าอย่าทำแบบนี้นางจะทนไม่ไหว“อืม หวานยิ่งนัก” เขาละจากริมฝีปากแล้วเอ่ยขึ้น ดวงตาของเขาฉ่ำเยิ้มมากกว่าฟางหรงยิ่งนัก จากนั้นเขาลงลิ้นดูดที่ซอกคอขาวระหงของภรรยา จนเสียงดัง จ๊วบ ๆ ๆ คองามของนางเป็นสีแดงเพราะรอยดูดเมื่อครู่ เขายังไม่อิ่มหนำ ยังลากลิ้นจากคอของนาง ผ่ากลางลงมาที่เต้างามของนางลิ้นอุ่น ๆ ของเขาดูดเข้าที่ยอดถันของนาง จนเกิดเสียงดัง จ๊วบ ๆ ๆ ๆ ๆ “อ่า อ่า ท่านพี่ ข้าเสียวจะขาดใจแล้ว” เสียงครางไม่เป็นภาษาเอ่ยกล่าวออกมา เขาและนางยังอยู่บนโต๊ะตัวนั้น ร่างของนางนอนบนโต๊ะ ส่วนเขายืนอยู่ที่พื้นเบื้องล่าง มือหนาของเขานั้นคลึงอยู่ที่เนินอวบอูมเบื้องล่างของภรรยาตัวเล็ก ที่สีหน้าของนางก็รู้ว่านางเสียวขนาดไหน“หืม จะขาดใจเลยหรือ หากพี่ลงชิมที่...เจ้าจะไม่ตายลงเลยหรืออย่างไร” เขาพูดไม่พอยังสัมผัสที่รอยแยกอีกทั้งยังบดขยี้เม็ดทับทิมสีหวานของนางเสียอย่างนั้น เขาหมายถึงหากเขาเลียแล้วดูดที่ประตูถ้ำ นางคงจะสิ้นใจลงกระมัง ใบหน้าของเขาแย้มยิ้มอย่างชั่วร้าย หมายกลั่นแกล้งร่างบางให้ทุกข์ทรมานแจ๊ะ แจ๊ะ แจ๊ะ แจ๊ะ แจ๊ะ แจ๊ะ เสียงของนิ้วมือของเขามุดเข้าไปในถ้ำสำรวจหาน้ำตกและเป็นดั่งที่คาดไว้ น้ำตกไหลออกมาแล้ว เขาลงอ้าขานางออกแล้วมุดเข้าถ้ำเสียงเอง ลิ้นซากอุ่นร้อนเมื่อสัมผัสถูกกลีบกุหลาบ ร่างบางถึงกับสะดุ้งเฮือกขึ้นมา มือเรียวของนางนั้น จับที่เส้นผมสีน้ำหมึกของสามี ที่เขาซุกซนลงลิ้นที่ปากถ้ำอ่า อ่า อ่า อ่า อ่า เสียงร้องครางกระเส่าปานจะขาดใจ ร่างบางของนางบิดเกร็งไปมาด้วยความเสียวกระสัน เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้นเลยเร่งจังหวะการเลียและดูดดึงให้เร็วขึ้นไปอีก “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ไหวแล้ว” นางว่า เพราะนางนั้นเสียวจนจะขาดใจลงเสียให้ได้ เขาเลียเก่งไม่เบาและช่ำชองนัก เขาไม่เคยมีสตรีใดมาก่อน แต่ชำนาญเรื่องการเล้าโลมนางเช่นนี้ ช่างน่าแปลกใจยิ่งเขาไม่รอช้าจับมังกรตัวใหญ่ถูไถสัมผัสที่กลีบสีแดงทั้งสองก่อนที่จะสะกิดเม็ดทับทิมที่เขาทั้งดูด ทั้งดึงเมื่อครู่ น้ำหวานของเขาไหลออกจากหัวเห็ดสีม่วงเช่นกัน จากนั้นเขาก็ นำมังกรตัวโตมุดเข้าโพรงกุหลาบ กลับสีแดงทั้งสองข้างหุ้มเนื้อหนังของมังกรตัวใหญ่จนแน่ เขาจึงได้มีสีหน้าที่บิดเบี้ยว“โอ๊ยแค่ใส่ก็จะ...แล้ว หรงเอ๋อของพี่เจ้าทั้งหวานและแน่นขนาดนี้ พี่จะกินเจ้าทั้งคืนให้หายหิวทีเดียว”
copy right hot novel pub