ตอนที่216 ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง
กลับไม่ได้คิดว่า เธอกับภูผาจะมีวันที่ได้เจอกันอีก
และสายตาที่ภูผามองเธอ ยังคงร้อนแรง ยังคงบ้าคลั่ง ปิยะรู้ ในใจของภูผาก็ไม่เคยลืมเธอได้
แต่แล้วอย่างไรล่ะ?
ถึงแม้ว่าจะเจอกันอีก เธอกับเขาก็ไม่มีทางเป็นไปได้
ปิยะเก็บความรู้สึกทั้งหมดไว้ ใบหน้าไม่แสดงสีหน้าอารมณ์ใดๆ
เวลานี้ จู่ๆวารีก็แตะเบาๆที่ไหล่ปิยะ ยิ้มเจิดจ้าแล้วพูดว่า “พี่สาว คิดไม่ถึงว่าคุณยังอยู่กับพี่นิทัศน์ ฉันคิดว่าฉันมาครั้งนี้คุณจะไม่อยู่แล้ว นี่มันดีมากเลยยังมีพี่สาวอยู่ ฉันก็มีคนรู้จักเพิ่มอีกคน หลังจากนี้ฝากตัวกับพี่ด้วยนะ”คำพูดนี้ดูเหมือนจะเกรงใจอยู่มาก แต่แท้จริงแล้วเต็มไปด้วยการประชดประชัน ยิ่งคู่กับเสียงงามที่ฉอเลาะของวารีด้วยแล้ว ทำให้คนฟังรู้สึกไม่โอเคจริงๆเลย
ปิยะยกมือมาปัดมือเล็กของวารีที่วางอยู่บนไหล่ของเธอ พูดอย่างเย็นชาว่า “พ่อแม่ฉันมีลูกแค่ฉันกับน้องชาย ฉันไม่รู้ว่าฉันยังมีน้องสาวอีกคนนะเนี่ย ดังนั้น กรุณาอย่าเรียกฉันมั่วๆอีก” ตอนที่อยู่หมู่บ้านซาลา เธอไม่ได้ขอคำแนะนำขึ้นตอนนพวกนั้นของวารีสักนิด ตอนนี้ปากกลับมาเรียกเขาว่าพี่สาว เหอะก็แค่อยากจะเน้นว่าวารียังวัยรุ่นกว่าเธอ ย่อมมีทุนดีกว่า
วารีเจอเข้ากับเข็มที่ไม่แข็งไม่อ่อนซะแล้ว ใบหน้าอดไม่ได้ที่จะชาวาบ ทันใดนั้นก็พูดอย่างไม่เกรงใจว่า “ฉันแค่เห็นว่าคุณอายุมากแล้ว ดังนั้นก็เลยเรียกอย่างเคารพว่าพี่สาว ในเมื่อเธอไม่ยอม งั้นหลังจากนี้ฉันก็จะเรียกชื่อเธอตรงๆแล้วกัน ปิยะ” ปิยะปิดตา เอนตัวพิงกับเบาะรถ ขี้เกียจจะสนใจวารีแล้ว
ปิยะรู้ วารีพอมาก็หยอกเล่นเขาก็ต้องเพราะว่านิทัศน์ แต่ตอนนี้เธอไม่คิดที่จะไปสู้รบกับผู้หญิงคนไหนเพื่อนิทัศน์แล้ว เธอไม่มีอารมณ์นั้นอีกแล้ว
ภูผาได้ยินวารีพูดไม่เคารพปิยะ แต่เขาไม่ใช่คนถนัดพูด ก็เลยไม่ได้พูดอะไรออกมาห้ามวารี เพียงใช้สายตาไม่เป็นมิตรมองค้อนวารี
วารีที่ถูกภูผามองค้อนอย่างประหลาด แต่เธอก็ไม่ได้เอามาใส่ใจ ตอนนี้ทั้งใจทั้งสมองของเธอล้วนมีแต่นิทัศน์ และก็ “ก่อกวน” ปิยะของนิทัศน์
ผ่านไปสิบกว่านาที รถก็มาถึงคฤหาสน์ของนิทัศน์แล้ว สาวรับใช้ชาวฟิลิปปินสองคนก็ออกมาจากบ้านทันที ยืนต้อนรับอยู่ที่หน้าประตู
ปิยะยังไม่ลงจากรถ เพียงหันไปสั่งกับพวกเธอว่า “พวกเธอไปเตรียมห้องแขกห้องนึง ให้กับคุณวารีท่านนี้หน่อย เธออาจจะอยู่ที่นี่สักพักนึง”
“ค่ะ!”
สาวรับใช้ชาวฟิลิปปินตรงเข้าไปช่วยวารียกกระเป๋า
“ว้าว บ้านทั้งสวยทั้งใหญ่!”
วารียืดหลัง ลงรถอย่างทุลักทุเล หลังจากนั้นก็เหมือนกับคุณยายที่เข้าอุทยาน เสียงแหลมร้องอย่างตื่นเต้น หลังนั้นเหลือบมองนี่ที จับนู่นที ตามสาวรับใช้ชาวฟิลิปปินเข้าคฤหาสน์ไป
ปิยะหมุนตัวไปมองยังภูผาที่ยังนั่งอยู่เบาะหลัง พยายามพูดด้วยน้ำเสียงปกติ “ตลอดทางมานี่ นายมาส่งวารีถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแล้ว ตอนนี้ฉันจะไปส่งนายที่สถานีรถกลับหมูบ้านซาลา”
ภูผาส่ายหน้าอย่างเสียใจ “ไม่ ผมไม่กลับ ผม...ยายของผมท่านไปแล้ว ป่วยตายเมื่อครึ่งเดือนก่อน เกี่ยวกับหมู่บ้านซาลา ผมไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ทุกวันหลังจากนั้นผมเฝ้ารอที่จะอยู่...คุณ”
“ข้างกาย”สองคำนี้ยังไม่ทันที่จะออกจากปากภูผาปิยะก็รีบพูดตัดบทเขาทันทีว่า “ความหมายของนายก็คือนายต้องการที่จะอยู่ที่นี่?”
พูดจบ มองค้อนภูผาหนึ่งที เพื่อที่จะบอกว่าในรถนอกจากเธอและเขา ยังมีคนขับรถที่เป็นคนสนิทของนิทัศน์อีก เจ้าเด็กโง่คนนี้ถ้ายังพูดมั่วซั่วออกมาอีก จะต้องเกิดเรื่องวุ่นๆไม่ช้าก็เร็วแน่
ภูผาเข้าใจความหมาย หลังจากนั้นก็พยักหน้ารับ “ครับ ผมต้องการอยู่ที่นี่ ทั้งท่านประธานนิทัศน์ยังรับปากให้ผมมาเฝ้าประตู หลังจากนี้ ผมก็เป็นยามของที่นี่แล้ว
ปิยะได้ยินแบบนี้ก็ตกใจมึนงงทันที
นี่มันอะไรกัน ทำไมเรื่องอะไรมันมารวมเกิดขึ้นวันนี้? ตอนนี้ชีวิตของปิยะยังยุ่งเหยิงไม่พออีกหรือ?
“โอเค นายอยู่ก็อยู่สิ ตอนนี้ฉันมีนัดแล้ว มีเรื่องต้องไปคุย นายลงรถไปก่อนเถอะ กลับมาแล้วฉันจะคุยรายละเอียดกับนาย”
ปิยะดูเวลาบนโทรศัพท์ อีกครึ่งชั่วโมงที่เธอนัดกับธวัฒน์ไว้ตอนนี้ก็ผ่านมานานแล้ว เธอกำลังจะสายแล้วภูผาได้ยินปิยะมีธุระต้องไปจัดการก็รีบลงจากรถทันทีใครจะรู้ว่า....เขาเปิดประตูรถไม่เป็น ใบหน้าหล่อขึ้นสีแดงที่ไม่สามารถเปิดประตูรถออกได้นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มเข้าเมือง และก็เป็นครั้งแรกที่สัมผัสรถปาลีอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ทันใดนั้นก็ปลดเข็มขัดนิรภัยตัวเองออก ย่อตัวลงช่วยบิดประตูรถออกและเธอที่ย่อตัวอยู่นี้ แน่นอนว่าทำให้ระยะห่างระหว่างเธอกับภูผาเข้าใกล้กันมาก ภูผาถึงขั้นได้กลิ่นหอมของปิยะ ทันใดนั้นก็หน้าแดงขึ้นมารู้สึกถึงอารมณ์ที่ผันแปรของภูผา ปิยะรีบหดตัวกลับอย่างเขินอายทันที ใจดวงนี้ไม่สามารถควบคุมที่จะไม่ให้เต้นตึกตักได้
copy right hot novel pub