ตอนที่ 349 ไม่มีอีกแล้ว
วิสาข์รับมันมาด้วยความเกรงใจ จากนั้นก็เปิดมันออกต่อหน้าทุกๆคน และค่อยๆหยิบของในกระเป๋าออกมาทีละชิ้น :ลิปกลอส ดินสอเขียนคิ้ว แป้งฝุ่น ทิชชู่ โทรศัพท์ ปากกา สมุดเล็กๆ……
ในทุกครั้งที่หยิบของแต่ละชิ้นออกมา ทุกคนก็รอลุ้นตามทุกชิ้น และแต่ละครั้งที่วางลง ใจของทุกคนก็ตกลงไปด้วย
สายตาของทุกคนนั้นต่างก็จ้องมองไปที่มือของวิสาข์ และสิ่งของเล็กๆในมือแต่ละชิ้นที่ถูกหยิบออกมาจากกระเป๋า
แต่ใครมีใครสังเกตุว่า ดนุพลนั้นได้กวักมือเรียกบริกรมา จากนั้นก็กระซิบไปที่หูสองสามประโยค บริกรคนนั้นก็เดินไปเงียบๆ สีหน้าของดนุพลยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปและยืนอยู่ข้างๆปาลี
เมื่อสิ่งของเล็กๆในกระเป๋านั้นถูกเอาออกมาจนเกือบจะหมดแล้ว และในขณะที่นิ้วของวิสาข์นั้นจับไปถึงมุมล่างสุดของกระเป๋า สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปกระทันหัน เธอเงยหน้ามองไปที่ปาลี สายตานั้นเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
ทันทีที่ทุกคนเห็นสีหน้าของวิสาข์ก็เข้าใจในทันที ดูแล้วเหมือนวิสาข์จะเจอกับอะไรเข้าแล้ว
เมื่อขวัญชีวีเห็นอย่างนั้น ก็รอไม่ได้และรีบพูดขึ้นมาว่า : “ แม่ แม่จับไปโดนอะไรใช่ไหม รีบเอาออกมาให้หนูดูหน่อย ”
พูดจบ ก็ไม่รอให้วิสาข์ตอบกลับ รีบดึงมือของเธอที่ยังอยู่ในกระเป๋าออกมาทันที
“ โอ้ว ! ”
ทุกคนร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกัน และต่างก็ตกใจจนเปล่งเสียงออกมา
เพราะว่า ของที่อยู่ในมือของวิสาข์นั้นก็คือแหวนที่ขวัญชีวีทำหายไป
เมื่อเห็นอย่างนั้น โสรจก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง นั่นคือการหัวเราะเยาะหลังจากความสำเร็จแล้ว
ในเวลานี้ มีบริกรคนหนึ่งถือถาดผ่านมาทางเธอพอดี และเธอที่กำลังภูมิใจกับมัน จึงเอื้อมมือไปหยิบแก้วไวน์แดงบนถาดนั้นมา และแกว่งมันเบาๆด้วยความดีใจพร้อมกับวางท่าและมองไปที่ดนุพลกับปาลี เธออยากจะดูว่าต่อไปดนุพลจะช่วยอะไรปาลีได้อีก
อย่างที่พูดไป วางกับดัก แล้วจับขโมย ตอนนี้ ปาลีถูกสายตาของทุกคนจับจ้องมาแล้ว !
แต่ทว่าเธอกลับไม่ได้สังเกตว่าแก้วไวน์ที่ถืออยู่ในมือนั้นมีบางอย่างผิดปกติ
ส่วนทางด้านนี้ ทันที่ขวัญชีวีเห็นแหวนในมือของวิสาข์ ก็รีบแย่งมันมาด้วยความดีใจ จากนั้นก็ชูขึ้นให้กับทุกคนดู และพูดเสียงดังว่า : “ ทุกคนดูว่านี่คืออะไร มันคือแหวนที่ฉันทำหายไป ดูเถอะ ฉับมองไม่ผิดคน เธอเป็นหัวขโมยจริงๆ ”
ทันใดนั้น ทุกคนก็ผงกหัว
“ ใช่นี่นา คนนี้นี่เอง…… ”
“ ดูกันที่ภายนอกไม่ได้เลยจริงๆ สวยขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่าจะทำตัวสกปรก ……. ”
“ ครั้งนี่คนที่น่าอับอายที่สุดเกรงว่าจะเป็นท่านนายกเทศมนตรีแล้ว เอาขโมยมาเป็นคนรัก…… ”
ทุกคนต่างก็ซุบซิบนินทา แสดงความเห็นมากมายไม่หยุด
แต่นายกเทศมนตรี “ น่าอับอายที่สุด ” ที่พวกเขาพูดถึงกันในตอนนี้นั้นไม่ได้มีท่าทีเปลี่ยนไปเลย มือหนึ่งยังคงจับปาลีไว้เหมือนเดิม และอีกมือหนึ่งก็ถือแก้วไวน์ จากนั้นก็ค่อยๆจิบมันทีละนิด
สายตาของขวัญชีวีนั้นมองไปยังสองคนนี้ ทันใดนั้นก็เดินไปข้างหน้าด้วยความโกรธ จากนั้นก็จ้องไปที่ปาลีและพูดขึ้นมาว่า : “ ตอนนี้มีหลักฐานแล้ว เธอหัวขโมยที่หน้าไม่อายนี้ ตอนนี้ฉันจะแจ้งความ เธอรอเข้าคุกได้เลย ! ”
ได้ยินดังนั้น ทุกคนก็สะดุ้งและแสดงสีหน้าที่ตกใจออกมา คิดว่าเจอแหวนแล้ว เรื่องนี้ก็จะจบ แต่ไม่คิดเลยว่าคุณหญิงคนที่สองคนใหม่ของตระกูลกันตพัฒน์นั้นจะไม่ยอม และแม้ว่าปาลีจะผิด แต่ยังไงเธอก็มากับดนุพล แล้วดนุพลเป็นใคร เขาเป็นคนที่มีอำนาจที่สุดในเมืองนี้นะ ขวัญชีวีทำแบบนี้ก็เท่ากับไม่ไว้หน้าดนุพลเลย
และเมื่อวิสาข์ได้ยินดังนั้นเธอก็คิ้วขมวดทันที จากนั้นก็ดึงขวัญชีวีมาและพูดว่า : “ หวาน แม่ว่าเรื่องวันนี้ช่างมันเถอะ….. ”
ถึงแม้ว่าพฤติกรรมของปาลีจะทำให้เธอผิดหวังผิดหวังมาก แต่ว่า เธอไม่ได้ต้องการให้ปาลีติดคุก และยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่า ปาลีเป็นคนของดนุพล และตอนนี้เธอก็มีปัญหากับธนัท เธอไม่ต้องการที่จะวุ่นวายกับดนุพลอีก ไม่อย่างนั้น ถ้าวันไหนที่ธนัทลงมือกับจักรกฤษ ถึงวันนั้นจักรกฤษจะไม่มีแม้แต่คนที่จะช่วยเขาเลย
แต่ไม่คิดเลยว่า เธอยังพูดไม่ทันจบ ปาลีที่สงบเงียบมาโดยตลอดก็ได้พูดขึ้นว่า “ เรื่องนี้จบไปแบบนี้ไม่ได้แล้วล่ะ ! ฉันก็จะแจ้งความเหมือนกัน ! ”เสียงของปาลีไม่ได้ดัง แต่มันกลับทรงพลัง และมีอิทธิพลมาก อีกทั้งทุกคนก็กำลังรอฟังอยู่ ทั้งห้องโถงนั้นเงียบมาก เลยทำให้ทุกคนสามารถได้ยินสิ่งที่ปาลีพูดอย่างชัดเจนและทันใดนั้น ผู้คนก็ส่งเสียงดังอีกครั้งการแสดงออกและคำพูดของปาลีนั้นเกินความคาดหมายของพวกเขามาก เมื่อเห็นท่าทีที่สงบของปาลี ทุกคนต่างก็เกิดความสงสัยว่าเรื่องนี้มันเป็นมายังไงกันแน่ เมื่อเห็นอย่างนี้ โสรจก็ตกใจเหมือนกัน ในเวลานี้ปาลีควรจะตื่นตระหนก แต่เธอไม่โกรธ ไม่อธิบาย แล้วยังเรียบๆเฉยๆ ในตอนนี้ แม้แต่โสรจเองก็ไม่เข้าใจว่าปาลีกำลังทำอะไรอยู่
copy right hot novel pub