บทที่102 ชีวิตนี้อย่าพยายามหาทางกำจัดผม
ฉูเจ๋อหยางนั่งลงเบาๆถัดจากเป้ยฉ่ายเวย การเคลื่อนไหวนั้นทั้งอ่อนโยนและทั้งขัดขืนจับมือของเธอซึ่งพยายามเอามาปิดบังใบหน้าเอาไว้ มีห้อเลือดบนผิดหน้าที่ขาวบริสุทธิ์ ใบหน้านูนบวมปรากฏเห็นเส้นเลือดเล็กๆ
ที่มุมปากนั้นเป็นรอยแผล เลือดสีแดงเข้มตัดกับริมฝีปากของเธอ
ทุกๆแห่งทำให้น่าสลดใจ ถึงแม้จะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่เมื่อเห็นมันก็ยังกระทบความรู้สึกเขา คลื่นใต้น้ำในดวงตาของเขาดูเหมือนจะโค่นพังทลายออกมา
ปลายหัวใจเขาเหมือนถูกเครื่องมืออะไรเสียบแทง คิ้วเขาขมวดเป็นปมแน่น
“ฉันไม่เป็นไร แค่เจ็บนิดหน่อยเท่านั้น” เป้ยฉ่ายเวยเห็นเขามองที่บาดแผลบนใบหน้าของเธอและนิ่งเงียบไป เธอไม่อยากให้เขาเห็นเธอในลักษณะนี้ เธอจึงเบนหน้าหนี
ฉูเจ๋อหยางเลิกเสื้อผ้าของเธอขึ้น ผิวอันขาวนวลถูกปกคลุมไปด้วยรอยแผลขนาดต่างๆ แม้ว่าจะทายาแล้ว แต่ว่ามันก็ยังดูน่าตกใจอยู่ดี
เขาไม่รู้ว่าตัวเองมีอารมณ์แบบไหน เมื่อเห็นบาดแผล สิ่งที่เขาคิดอย่างแรกเลยก็คือต้องให้ผู้หญิงคนนั้นชดใช้หนักกว่านี้อีกสิบเท่า
หากไม่ใช่เพราะเหตุผลเดียวที่คอยบอกกับเขาอยู่ในหัว ว่าอย่าทำแผนการที่วางเอาไว้มานานพังลงด้วยอารมณ์ชั่ววูบ มันไม่ใช่แรงกายแรงใจของเขาคนเดียว แต่ว่ามันเป็นหยาดเหงื่อของพวกเขาทั้งหมด
“ขอโทษ”
เป้ยฉ่ายเวยหรี่ตาลง มือทั้งสองข้างจับเขาเอาไว้แน่น เธอกลัวว่าตัวเองจะพลั้งระบายความคับข้องใจทั้งหมดกับชายตรงหน้าโดยไม่ได้ตั้งใจ
เธอน่าจะหิวมากจริงๆ จะได้ยินคำขอโทษจากฉูเจ๋อหย่างได้อย่างไร
ทั้งสองตาของเขาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา
“ฉันเหนื่อยแล้ว อยากจะนอน คุณไปเถอะ”
เป้ยฉ่ายเวยคิดว่าจะผ่านสองสามวันนี้ไปได้อย่างง่ายดาย เรื่องที่ควรเป็นก็ไม่ได้เกิดขึ้น ถ้าหากว่าฉูเจ๋อหยางไม่ได้ปรากฏตัว เธอจะหลอกตัวเองว่าอย่างไร
แต่ว่าจู่ๆเขาก็ปรากฏตัวขึ้น จู่ๆก็พูดคำนี้ออกมา
ฉูเจ๋อหยางเห็นเธอมองและหลบสายตา เขาจึงเอื้อมมือออกไปโอบกอดเธอไว้ ขากรรไกรของเขาวางอยู่บนไหล่ของเธอ เขาพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำที่ข้างหูของเธอ “เป้ยฉ่ายเวย ทำไมถึงโง่นักนะ”
ไม่รู้จักป้องกันตัวเองเลยสักนิด ทำไมถึงต้องยอมเจ็บตัว
เป้ยฉ่าวเวยกัดริมฝีปากและพูดเนิบๆ “ฉันเป็นหนี้หล่อน”
“ครั้งหน้าอย่าใจอ่อน” ในมุมที่เป้ยฉ่ายเวยมองไม่เห็น ผู้ชายคนที่สงบนิ่งมาตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่ดวงตาที่คมลึกของเขาเต็มไปด้วยเจตนาของฆ่า
“ฉูเจ๋อหยาง ถ้าหากว่าคุณหวังดีกับฉันจริงๆก็ปล่อยฉันไปเถอะ หรือว่าตอนนี้คุณจะเสนอเงื่อนไขที่สามออกมา” เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ชายทที่อยู่ๆก็กลับกลายเป็นอ่อนโยน เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกว่าเธอค่อนข้างสบายใจ
เธอแค่อยากจะพารุ่ยรุ่ยเข้ารับการผ่าตัด และหนีให้ไกลความขัดแย้งในเรื่องนี้
ฉูเจ๋อหยางกอดเป้ยฉ่ายเวยแน่น ลมหายใจที่ปลายจมูกก็หนาแน่นขึ้น “เป้ยฉ่ายเวย คุณคิดแต่จะหนีไป”
อันตรายที่เข้ามาใกล้ข้างกายเธอเช่นนี้
เป้ยฉ่ายเวยกัดริมฝีปาก ตาเธอหรี่ลง ไม่ใช่เธอว่าเธอไม่อยากอยู่สงบสุขสบายใจ ไม่ใช่ที่เธอคิด เรื่องทั้งหมดสามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดาย
หลังจากนั้นเธอก็ได้ยินตัวเองถามออกไป “คุณเลิกกับหนานฉิงได้ไหมล่ะ”
ความเงียบกดดันทำให้บรรยากาศซับซ้อนยิ่งนัก
และนั่นเอง เธอก็ได้รับคำตอบนี้ เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกว่าบาดแผลในใจเธอถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง ยากแม้กระทั่งจะหายใจเพราะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เธอยังคงยืนกรานพูดช้าๆทีละคำ “ฉูเจ๋อหยาง ถ้าคุณทำไม่ได้ ก็ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่ต้องการจะเจ็บอีกต่อไปแล้ว”
หัวใจของเธอเต็มไปด้วยบาดแผล ไม่มีทางที่จะซ่อมแซมทั้งหมดได้ในคราเดียว
ฉูเจ๋อหยางคิดว่าเป้ยฉ่ายเวยไม่อยากจะเจ็บเพราะตัวเขาอีกแล้ว แต่ว่าเขาก็มีเหตุผลที่เขาพูดออกมาไม่ได้ แต่จะให้เขาปล่อยเธอไปก็ทำอย่างนั้นไม่ได้อีกเช่นกัน ถ้าจะเจ็บ ถ้าอย่างนั้นก็เจ็บด้วยกันเถอะ
อย่างน้อยที่เธอเจ็บก็เพราะว่าเธอยังมีเขาอยู่ในใจใช่ไหมล่ะ
“เป้ยฉ่ายเวยคุณยอมแพ้เถอะ ชีวิตนี้คุณกำจัดผมไปไม่ได้หรอก”
ฉูเจ๋อหยางกระซิบที่ข้างหูเป้ยฉ่ายเวยเหมือนกับเป็นคู่รัก ราวกับว่าพวกเขาทั้งคู่ได้ผ่านเรื่องราวอันเลวร้ายมา ร่างกายอดสั่นไหวไม่ได้
“ในเมื่อคุณไม่สามารถกำจัดผมไปได้ ถ้าอย่างนั้นคุณก็ควรพยายามอย่างหนักที่จะติดอาวุธให้ตัวเอง ให้แข็งแกร่งพอที่จะอยู่กับผม” เสียงชัดเจนของฉูเจ๋อหยางเป็นเหมือนลูกธนูที่ยิงผ่านหูของเป้ยฉ่ายเวยไป มันปักติดอยู่ในใจเธอ
เป้ยฉ่ายเวยพูดอย่างหนักแน่น “ฉูเจ๋อหยาง ถ้าหากไม่รู้ว่าคุณไม่ชอบฉัน ฉันคงคิดว่าคุณกำลังบอกรักฉันอยู่”
ฉูเจ๋อหยางกระพริบตา ไม่นานลำแสงเจิดจ้าเหมือนดาวตกก็ได้หายวับไปจากดวงตาของเขา เขาแค่โอบเธอเอาไว้และไม่พูดอะไร
เป้ยฉ่ายเวยก็ไม่คิดว่าผู้ชายที่ด้านหลังจะให้คำตอบกับเธอได้ เธอได้แต่หัวเราะเยาะตัวเอง ที่หนีไม่พ้นความเป็นจริงที่ว่า เธอต้องยืนหยัดต่อสู้เพื่อตัวเธอเอง
“ฉันไม่อยากให้หนานฉิงรู้ว่าคุณกับฉันยังมีความสัมพันธ์กันอยู่”
“ได้”
ทันใดนั้นเป้ยฉ่ายเวยก็ค้นพบว่าความอดทนของคนยังไม่ถึงจุดที่เจ็บที่สุดแต่ยังเจ็บยิ่งกว่า แม้ว่าใจเธอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ก็ยังห้ามความเจ็บปวดนั้นไว้ไม่ได้
เธอพยายามคุมเสียงตัวเองให้สงบลง “ฉันหวังว่าเงื่อนไขที่สามจะเสร็จสมบูรณ์ในไม่ช้า”
นี่คือวัตถุประสงค์สูงสุดของเธอ ขอเพียงเสร็จสิ้นเงื่อนไขทั้งสามข้อ ก็สามารถเอาเช็คไปขึ้นเงิน เธอก็จะสามารถพารุ่ยรุ่ยหนีไปจากผู้ชายที่เป็นปีศาจนรกคนนี้ได้
ฉูเจ๋อหยางเริ่มลังเล เขาเข้าใจว่าผู้หญิงในอ้อมแขนมีแรงจูงใจของตัวเอง แต่เมื่อเห็นร่างกายเธอเจ็บ เอาก็ทนปฏิเสธไม่ได้ “ได้ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”
“อื้อ แต่ฉันหวังว่าจะไม่นานเกินไป” เป้ยฉ่ายเวยไม่วางใจจึงพูดเสริมขึ้นอีกประโยค
“เป้ยฉ่ายเวยที่แท้คุณมีเรื่องสำคัญอะไรที่จะต้องทำ บอกกับผมได้นะ” ฉูเจ๋อหยางไม่รู้ว่าเธอเพียรพยายามที่จะทำอะไร“มันเป็นเรื่องของฉัน” เธอไม่ต้องการให้เขาตั้งคำถามฉูเจ๋อหยางประนีประนอม “ผมไม่ถามต่อก็ได้ แต่ว่าตอนนี้คุณให้ผมพาคุณไปโรงพยาบาลเถอะ”“ฉันไม่ไป” เป้ยฉ่ายเวยนึกถึงความทรงจำที่ไม่ดีในการไปโรงพยาบาลครั้งก่อนนี้เธอจึงรีบปฏิเสธขึ้นทันทีฉูเจ๋อหยางก็เหมือนจะนึกได้ถึงวันที่พาเธอไปโรงพยาบาลครั้งนั้น เธอมีปฏิกิริยารุนแรง และก้าวถอยไปอีกก้าว “ไม่ไปโรงพยาบาลก็ได้ แต่ต้องให้ผมทายาให้คุณใหม่อีกครั้งก่อน”“ไม่ต้อง ซือซือเปลี่ยนยาให้ฉันแล้ว” เป้ยฉ่ายเวยไม่ต้องการให้เขาเห็นบาดแผลที่เธอได้รับบาดเจ็บฉูเจ๋อหยางยังต่อรองต่อไป “คุณไม่ยอม สิ่งที่เราเพิ่งจะพูดไปก่อนหน้านี้ก็เป็นโมฆะ”เป้ยฉ่ายเวยกัดฟัน เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้กำลังขู่เธอ เธอจึงพูดอย่างไม่เต็มใจ “ได้ แต่ว่าคุณห้ามซุกซนนะ”ฉูเจ๋อหยางนิ่งอึ้งไปอีกครั้ง เขากระซิบข้างหูเธอด้วยเสียงอันแหบห้าว “วางใจเถอะ ผมไม่ได้เป็นซาโดมาโซคิสม์(พึงพอใจในความเจ็บปวดของผู้อื่น)”“ฉูเจ๋อหยาง!!” เป้ยฉ่ายเวยตะโกนเสียงหลงผู้ชายคนนี้ช่างไร้ยางอาย ลามก ป่าเถื่อน!
copy right hot novel pub