ตอนที่ 111 สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจ

“คุณลุงคะ ฉันโอเคแล้ว” เป่ยฉ่ายเวยยังคงยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ดูผ่อนคลาย

มีลูกค้าอีกสองสามคนเดินเข้ามา “เถ้าแก่ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสามชาม แล้วก็เนื้ออีกครึ่งโล”

“ลุงมีอะไรก็รีบไปทำเถอะค่ะ อย่าให้ลูกค้ารอนาน” เป่ยฉ่ายเวยรู้ว่าคุณลุงมีเรื่องจะถาม ก็เลยรีบเปลี่ยนเรื่อง

คุณลุงทำได้แค่ถอนหายใจ หันหน้ามาหาลูกค้าแล้วตะโกนบอก “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ กำลังจะได้แล้ว”

“แม่ครับ ผมกินเสร็จแล้ว” รุ่ยรุ่ยพูดพลางเอามือตบท้องเบาๆ

เป่ยฉ่ายเวยหยิบกระดาษทิชชูจากบนโต๊ะขึ้นมาเช็ดปากเขา “โอเคครับ เดี๋ยวแม่พากลับบ้านนะ”

“อื้อ” รุ่ยรุ่ยยิ้มพร้อมพยักหน้ารับคำ

เป่ยฉ่ายเวยอาบน้ำให้รุ่ยรุ่ย ก่อนที่จะเล่นเกมเป็นเพื่อนเขา เมื่อเขาหลับแล้วเธอจึงค่อยๆเดินออกจากห้องไป

เมื่อเธอกลับมาที่ห้อง กลับพบว่ามีคนหนึ่งอยู่ที่ประตู

“เวยเวย อย่าถือสาเลยนะที่ฉันมารอเธออยู่ที่นี่”

“จื่อเชียน นี่คุณมาทำไม” เป่ยฉ่ายเวยคิดว่าไม่ได้ดูข้อความโทรศัพท์ เลยจะหยิบออกมาดูว่าไม่ได้รับสายเขาหรือเปล่า

หลี่จื่อเซียนที่เหมือนจะรู้ความคิดเธอ พูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน “ไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหรอกเวยเวย ฉันไม่ได้โทรหาเธอ”

หลังจากเขาไป ทางบริษัทก็เกิดเรื่องด่วนขึ้นกะทันหัน จำเป็นต้องออกไปข้างนอกทันที หลายวันมานี้เขายุ่งมาก ทุกวันตอนดึก ก็จะต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู

ถึงจะเป็นข้อความเดียว เขาก็จะดูซ้ำๆ แต่ว่าในนั้นมันไม่มีข้อความจากเวยเวยเลยสักข้อความ

เขาบอกกับตัวเองว่าช่วงนี้จะต้องอดทนไว้ เวยเวยอาจจะยุ่งจนไม่มีเวลาตอบข้อความก็ได้ จนกลับมาก็ยังไม่มีข้อความอะไรอยู่ดี เขาก็เลยทำตามหัวใจตัวเองด้วยการมาหาเธอ

ตอนที่เจอเธอ เขาถึงเข้าใจว่าในใจเขาคิดถึงและเรียกร้องหาเธอมากแค่ไหน

“จื่อเชียน ช่วงนี้คุณยุ่งนี่” เป่ยฉ่ายเวยไม่รู้ว่าทำไมสายตาของหลี่จื่อเชียนดูร้อนรน และล่อกแล่กผิดธรรมชาติขนาดนี้

“อื้อ พอดีที่บริษัทมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ ก็เลยไม่ได้ติดต่อเธอเลย” หลี่จื่อเชียนดูค่อนข้างจะระวังตัวกับเป่ยฉ่ายเวยเล็กน้อย ในใจมีแต่ความกลัดกลุ้ม คงเป็นเพราะช่วงที่เขาไม่ได้อยู่กับเธอ เกิดเรื่องสำคัญบางอย่าง ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาต้องกลับไปอยู่ที่จุดเดิม

เพราะเขาทำได้ไม่ดีพอ หรือเพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรรุ่ยรุ่ยไม่เคยยอมให้เขาเข้าใกล้เลย

“ไม่เป็นไรหรอก จื่อเชียน...สีหน้าคุณดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย ช่วงนี้ไม่ได้พักผ่อนเลยหล่ะสิ คุณควรจะกลับเร็วหน่อยไปพักผ่อนนะ” เป่ยฉ่ายเวยไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกทำตัวไม่ถูก พอเห็นแววตาที่อ่อนโยนของหลี่จื่อเชียน เธอก็ยิ่งอยากจะหนีออกไป

อีกอย่างหลายวันมานี้จื่อเชียนไม่ได้ติดต่อเธอเลย แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไร

“ฉันไม่เป็นไร ก็แค่อยากมาดูว่าเธอเป็นไงบ้าง” จริงๆแล้วหลี่จื่อเชียนเพิ่งลงเครื่อง สัมภาระก็ยังไม่ได้เอาไปเก็บ ก็รีบขับรถตรงมาเลย แต่ว่าสิ่งที่เขารอคอยมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ใจเขาคิดไว้

“ฉันดีขึ้นแล้วล่ะ พรุ่งนี้ก็ไปทำงานแล้ว” ลมที่พัดผ่านมาทำให้ผมของเป่ยฉ่ายเวยยุ่งเล็กน้อย เธอเลยรีบจัดทรงผมของตัวเอง แต่ว่ายิ่งรีบ ผมก็ยิ่งยุ่งเข้าไปใหญ่

หลี่จื่อเชียนยื่นมือไปช่วยปัดผมที่ยุ่งเหยิงของเธอไปไว้ที่หลังหูอย่างแผ่วเบา ก่อนจะมองไปที่เธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน “แบบนี้แหละ โอเคแล้ว”

“ข...ขอบคุณนะจื่อเชียน” เป่ยฉ่ายเวยหยุดนิ่งไปชั่วขณะ รอให้หลี่จื่อเชียนเอามือออกไป

เธอยังคงรอต่อไป แต่มือของเขาก็ยังอยู่ที่หลังหูเธอ เธอไม่เข้าใจว่าในดวงตาคู่นั้นต้องการจะสื่ออะไร เมื่อเธอพยายามคิดดูแล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรอยู่ดี

“ฉันไม่ได้เป็นไรแล้ว ตอนนี้ก็ไม่มีลมแล้วด้วย....”

หลี่จื่อเชียนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะค่อยๆลดมือลงมา “ได้ยินว่าเธอไปทำงานที่บริษัทของฉูเจ๋อหยางแล้ว”

นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขามาที่นี่ ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าความรู้สึกมันค่อยๆเปลี่ยนไป คงเป็นเพราะเขาเลือกที่จะจัดการเรื่องของบริษัท ก็เลยทอดทิ้งเธอหรอ?

ไม่ เขาไม่ยอมรับความจริงข้อนี้

“ช...ใช่แล้ว ตอนแรกก็ไปทำงานกับพี่อวี๋เฮ่า แต่ได้ยินว่าเขาไม่รับคนเพิ่มแล้ว พอดีฉันกับซือซือไปทำงานที่ตึกด้วยกัน เธออยู่ชั้นบนมีคนดูแลอย่างดี”

ตอนที่เป่ยฉ่ายเวยพูดเธอไม่กล้าสบตากับหลี่จื่อเชียน กลัวว่าเขาจะดูออกว่าในใจเธอกังวลแค่ไหน

หลี่จื่อเชียนถามด้วยท่าทีที่สบายๆ “อืมม เขาทำให้เธอทำสิ่งที่ยากลำบากไหม?”

“เปล่าเลย ฉันก็แค่ผู้ช่วยเล็กๆคนหนึ่ง ไม่ค่อยได้เจอหน้าเขาหรอก” เป่ยฉ่ายเวยรีบชี้แจงความสัมพันธ์

แต่ยิ่งเป่ยฉ่ายเวยรีบชี้แจงความสัมพันธ์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงออกให้เห็นว่าระหว่างทั้งสองคนนี้ไม่ปกติ หลี่จื่อเชียนกำมือทั้งสองข้างไว้ เขาจะไม่ยอมให้เวยเวยกลายเป็นเหยื่อของฉูเจ๋อหยางกับหนานฉิงแน่นอน

“เวยเวยถ้าเธอต้องการก็มาทำงานที่บริษัทฉันได้นะ เงินเดือน สวัสดิการดีกว่าฉูเจ๋อหยางแน่นอน อีกอย่างจะได้ไม่ต้องเจอพวกเขาสองคนให้เป็นก้างขวางคออีกด้วย”

เป่ยฉ่ายเวยอยากตอบรับมาก แต่หลังจากที่เธอผ่านเรื่องราววันนั้นมาได้ เธออยากซ่อนตัวอยู่ให้ห่างจากฉูเจ๋อหยางกับหนานฉิง แต่น่าเสียดายที่เธอกับฉูเจ๋อหยางเคยมีข้อตกลงร่วมกัน

ทำได้แค่ปฏิเสธความหวังดีของเขาอย่างสุภาพ “ตอนแรกฉันก็คิดแบบนี้แหละ แต่ว่าตอนที่ฉันไปหาคุณที่บริษัทคุณก็ไม่อยู่ ฉันก็เลยตอบรับเข้าทำงานของหนานฉิง ไปทำงานที่เดียวกับฉูเจ๋อหยาง ตอนนี้ก็คุ้นเคยกับงานแล้วคงไม่เปลี่ยนแล้วแหละ”

พอรู้ว่าเป่ยฉ่ายเวยไปหาที่บริษัท ในใจของหลี่จื่อเชียนก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ราวกับเมฆหนาที่มีแสงอาทิตย์รอดผ่านเข้ามา “เวยเวย ทำไมเธอถึงไม่โทรหาฉัน”

เขายังคิดว่าเวยเวยเลือกฉูเจ๋อหยางโดยตรง

เป่ยฉ่ายเวยยิ้มเจื่อนๆ “เลขาของคุณบอกว่าคุณไปทำงานข้างนอก”

หลี่จื่อเชียนก็คิดได้ว่าที่บ้านเขาจัดหาเลขาไว้ให้ การที่เป่ยฉ่ายเวยไปหาเขาคงต้องลำบากใจแน่ๆ และเขาก็รู้สึกว่ามีส่วนผิดจึงอยากจะขอโทษ “ขอโทษนะเวยเวย ฉันน่าจะบอกเธอก่อน”

ถ้าเขาไม่ตัดสินใจอย่างกะทันหัน แล้วเลือกที่จะรอเวยเวย ผลลัพธ์มันคงไม่ออกมาเป็นแบบนี้ เขารู้เพียงแค่เขาไม่เคยรู้สึกเสียใจขนาดนี้มาก่อน

“ไม่เป็นไรแล้ว ตอนนี้ฉันก็ดีขึ้นแล้ว คุณทำงานมาเหนื่อยๆ รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ” เป่ยฉ่ายเวยพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูสงบ ทั้งที่ในใจเธอมีความกังวลว่าถ้าหลี่จื่อเชียนรู้เรื่องเธอกับหนานฉิง เขาจะรู้สึกยังไงกับเธอ

เธอวางจื่อเชียนไว้ในตำแหน่งของเพื่อนที่ดีมากๆคนนึงเท่านั้นหลี่จื่อเชียนมองเธอด้วยแววตาที่มีความหวัง “เอ่ออ พรุ่งนี้ตอนเย็นหลังเลิกงาน ฉันไปรับเธอได้ไหมเวยเวย?”เป่ยฉ่ายเวยลังเลนิดหน่อย ก่อนจะพยักหน้า “ได้สิ”พอได้คำตอบที่ต้องการแล้ว ใบหน้าของหลี่จื่อเชียนก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา “โอเค งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะ เธอก็รีบพักผ่อนล่ะเวยเวย”“อื้ม” เธอหยักหน้าเป่ยฉ่ายเวยมองจนรถของหลี่จื่อเชียนขับออกไป แล้วค่อยกลับเข้าไปในที่อยู่สับปะรังเคเล็กๆของตัวเองเมื่อมองไปที่คอนโดที่มืดมน ในใจก็รู้สึกหดหู่เธอกำลังรออะไรอยู่ รอฉูเจ๋อหยางกลับมาอย่างงั้นหรอ?เป่ยฉ่ายเวยหัวเราะเยาะตัวเอง แล้วเดินเข้ามาในห้องนอนที่มืดสนิทผู้ชายคนนั้นไม่กลับมาอีกแล้วในคืนนี้

copy right hot novel pub