ตอนที่ 117 คนเพียบพร้อมที่ไม่อาจเอื้อม
เป่ยฉ่ายเวยกล่าวขอโทษ “ขอโทษจริงๆนะ คืนนี้ฉันมีธุระนิดหน่อยก็เลยไปกับพวกเธอไม่ได้”
“ทำไมล่ะ? ฉันไม่เห็นจะจำได้เลยว่าคืนนี้เธอมีธุระอื่นด้วย” อวี๋ซือซือพูดเสริมน้ำเสียงเข้าไป
หลูเสี่ยวหยาใช้ไหล่ชนเธอ “ซือซือเธอไม่ต้องพูดแบบนั้นก็ได้ ไม่แน่เวยเวยอาจจะมีนัดก็ได้”
ตอนแรกคิดว่าซือซือแค่พูดเล่น แต่พอเห็นหยดน้ำตาในตาของเธอ เป่ยฉ่ายเวยจะไม่พูดก็ไม่ได้ “คืนนี้จื่อเชียนนัดฉันไปกินข้าว”
สีหน้าของอวี๋ซือซือที่แสดงออกก่อนหน้านี้เริ่มพยักหน้าให้รู้ว่าเธอเข้าใจ
“จื่อเชียน? คุ้นชื่อนี้จัง เป็นแฟนกับเวยเวยหรอ?” พอหลูเสี่ยวหยาได้ยินชื่อนี้ก็รู้สึกคุ้นหูเหมือนเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนมาก่อน
“ไม่ใช่แฟน” เป่ยฉ่ายเวยตอบไปอย่างไม่มีทางเลี่ยง
อวี๋ซือซือที่นั่งอยู่ข้างๆช่วยพูดเสริม “ใช่ๆ ไม่ใช่แฟนแต่เป็นคนที่กำลังจีบเวยเวยน่ะ”
“ฉันนึกออกแล้ว” หลูเสี่ยวหยาใช้กำปั้นทุบไปที่ฝ่ามือตัวเอง แล้วก็พูดทันที “คือคนแซ่หลี่คนนั้นที่ชื่อหลี่จื่อเชียนใช่ไหม?”
“โห เสี่ยวหยา เธอรู้ข่าวเร็วมากเลยนะเนี่ย” อวี๋ซือซือยักคิ้ว
ดวงตาเล็กๆของหลูเสี่ยวหยาก็เป็นประกายขึ้นมา แล้วพูดเหมือนกำลังจินตนาการเพ้อฝันอยู่ “ไม่ใช่ว่าฉันข่าวไวหรอก หลี่จื่อเชียนนับว่าเป็นหนุ่มโสดสุดฮอตที่สื่อข่าวหลายสำนักกำลังให้ความสนใจมากที่สุดในตอนนี้ เรียนจบนอกและกำลังกลับมาสืบทอดกิจการของครอบครัว”
“ได้ยินมาว่าเขาสุภาพมีมารยาท กับผู้หญิงก็ด้วย เป็นอัศวินขี่ม้าขาวในใจของผู้หญิงหลายคนเลยล่ะ”
“ถ้าหลี่จื่อเชียนขี่ม้าขาวก็น่าจะเป็นไปได้อยู่นะ” อวี๋ซือซือคิดภาพนั้นในหัวแล้วพยักหน้าเห็นด้วย
แต่แล้วเธอก็หยุดชะงักก่อนจะพูดขึ้นมา “เสี่ยวหยาเธอนี่สองจิตสองใจจังนะ ตอนแรกเธอบอกว่าชอบเจ้านายฉัน แล้วทำไมเปลี่ยนได้ไวขนาดนี้”
“ไม่ใช่นะ มันก็เหมือนเธอตามดาราเกาหลี เธออยากได้เป็นสามีหรือเปล่า? มันก็เหมือนที่ฉันเป็นนั่นแหละ” หลูเสี่ยวหยาพยายามอธิบาย
อวี๋ซือซือหลุดขำออกมาอย่างอดไม่ได้ “จริงๆทุกคนก็เข้าใจเธอแต่แรกแล้วแหละ”
เป่ยฉ่ายเวยรีบเอามือบังหน้าแสร้งทำเป็นไม่รู้จักพวกเธอด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม
หัวข้อสนทนาที่ผู้หญิงจะคุยได้อย่างไม่รู้จบคือเรื่องนินทา
หัวข้อสนทนาที่ผู้ชายจะคุยได้อย่างไม่รู้จบคือเรื่องธุรกิจ
ดังนั้นผู้ชายและผู้หญิงก็ยังคงมีบางอย่างที่เหมือนกัน
เวลาพักเที่ยงผ่านไปแล้วเกินครึ่ง เป่ยฉ่ายเวยเห็นพวกเค้ายังคุยกันอย่างเพลิดเพลิน
ใกล้ถึงเวลางาน หลูเสี่ยวหยาถามขึ้นมา “ซือซือ เวยเวย ทำไมพวกเธอไม่ใช้เครือข่ายภายในของบริษัทล่ะ เราจะได้คุยกันง่ายขึ้น”
“ยังมีของแบบนี้อยู่อีกหรอ” อวี๋ซือซือไม่รู้
แต่เป่ยฉ่ายเวยรู้ “ฉันยังไม่ได้ลงทะเบียน”
“รอพวกเธอไปลงทะเบียนก่อนก็ได้” อยู่ๆหลูเสี่ยวหยาก็พูดด้วยเสียงเบาเบา “ตอนนี้ที่ตึกกำลังเปิดโหวตหนุ่มหล่อสิบคน ให้ทุกคนได้ร่วมลงคะแนน”
“.....ตึกเรายังมีเรื่องแบบนี้อีกหรอ?” ประกวดหนุ่มหล่อ รู้สึกเหมือนกันการประกวดนางงามยังไงยังงั้น
แต่อวี๋ซือซือดูเหมือนค่อนข้างสนใจ “ประกวดหนุ่มหล่อ ดีๆๆๆ มีใครน่าเลือกบ้าง”
“คนที่เป็นที่นิยมตอนนี้ต้องเป็นทนายฉูของพวกเราอย่างแน่นอน แล้วก็ยังมีคุณเฉินซี ไอดอลเด็กหนุ่มจากแผนกไอทีชั้นแปด ต้องติดอยู่ในเครือข่ายภายในของเราแน่ๆ” หลูเสี่ยวหยาพูดอย่างดีอกดีใจ
พอเป่ยฉ่ายเวยนึกภาพของฉูเจ๋อหยางที่นิ่งเหมือนภูเขาน้ำแข็งนั่นอยู่ในเว็บ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
“ฉูเจ๋อหยางจะให้พวกเธอทำอะไรได้ขนาดนั้นเลยหรอ?” อวี๋ซือซือรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
เป่ยฉ่ายเวยก็คิดแบบนั้น เธอไม่คิดว่าฉูเจ๋อหยางสามารถปล่อยให้คนอื่นมาวิพากษ์วิจารณ์ แล้วก็มองไปที่หลูเสี่ยวหยาด้วยความประหลาดใจ
“แน่นอนว่าไม่ได้ แต่พวกเธอก็รู้ ทนายฉูเนี่ยงานยุ่งทั้งวัน จะเอาเวลาที่ไหนไปดู”
“เยี่ยมมาก” อวี๋ซือซือปรบมือ
“โอเค รีบไปทำงานเถอะ ถึงเวลาละ” เป่ยฉ่ายเวยมองนาฬิกา
ทั้งสามคนก็กลับไปทำงานของตัวเอง
เป่ยฉ่ายเวยจำได้ว่าหลินไห่บอกให้เข้าไปหาหลังพักเที่ยง
เธอเดินตรงไปที่ห้องทำงานของหลินไห่แล้วเคาะประตู “เลขาหลิน ฉันเวยเวยนะคะ ตอนนี้คุณว่างหรือเปล่า?”
“เวยเวย เข้ามาก่อนสิ” เสียงหลินไห่ลอดผ่านประตูกระจกมา
นอกจากประตูไม้เนื้อแข็งของฉูเจ่อหยางแล้ว ทั้งหมดในห้องทำงานล้วนเป็นกระจกที่โปร่งแสงทั้งหมด เพื่อให้ง่ายต่อการมองจากข้างนอกเข้ามาข้างใน และแน่นอนว่าได้มีการติดมู่ลี่ไว้ด้วย
เมื่อเวยเวยผลักประตูเข้าไป ก็เจอหลินไห่กำลังหาอะไรบ้างอย่างที่ชั้นวางของ เขาหันหลังพูดกับเธอ “นั่งก่อนสิเวยเวย รอฉันสักแปป”
“ค่ะ” เป่ยฉ่ายเวยรับคำ แล้วก็ลากเก้าอี้ออกมานั่งรอ
ผ่านไปสักพัก ในที่สุดหลินไห่ก็เจอของที่ตัวเองกำลังหา แล้วเอาของสิ่งนั้นมาวางตรงหน้าเป่ยฉ่ายเวยอย่างตื่นเต้นดีใจ “เวยเวย หลังเลิกงานแล้วเอาของพวกนี้กลับไปดูนะ”
เป่ยฉ่ายเวยก้มหัวลงมองกองเอกสารที่ตั้งอยู่ตรงหน้าตัวเอง “พี่ไห่ นี่คือ?”
“อ้อ พวกนี้เป็นเอกสารราชการ ตอนแรกหน้าที่หลักของการเป็นผู้ช่วยก็คือการบันทึกคดีของผู้ฟ้องร้อง แต่สุดท้ายหน้าที่นี้ก็เอาไปให้ทนายรับผิดชอบ”
หลินไห่อธิบายต่อ “โดยปกติผู้ช่วยแบบนี้จะมีแค่ทนายระดับค่อนข้างสูง บริษัทของพวกเรายังมีเธอเป็นผู้ช่วยคนนึง และทนายระดับสูงอีกสองคน รองลงมาก็มีทนายฝึกหัดที่ช่วยเรื่องนี้ ดังนั้นต่อไปนี้เธอจะต้องไปฝึกกับทนายฝึกหัดให้มากๆ”
“ถ้ามีปัญหาอะไรก็ถามฉันได้ ที่สำคัญที่สุดคือต้องฟังการจัดการของทนายฉู แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการให้เธอบันทึกการประชุมอย่างเดียว แต่เธอต้องจำให้ได้ว่าหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบของเธอคืออะไร”เป่ยฉ่ายเวยพยักหน้าแบบเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ ความหมายของหลินไห่ก็คือ ต่อไปนี้เธอไม่เพียงแต่จะต้องเก็บกวาดบันทึกการประชุมของฉูเจ๋อหยาง แต่ยังต้องเชื่อฟังเขาตลอดเวลา ถ้าเขาไม่ต้องการเธอ ก็ต้องบันทึกคดีความของผู้ฟ้องร้องขณะเดียวกันก็มีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอกหลินไห่ให้คนเข้ามา เป่ยฉ่ายเวยก็เห็นว่าหลูเสี่ยวหยากำลังเล่นหูเล่นตากับเธออยู่“เวยเวย ต่อไปนี้เธอก็เริ่มบันทึกกับหลูเสี่ยวหยานะ” หลินไห่มองหลูเสี่ยวหยาที่ขยิบตาให้แล้วหัวเราะเล็กน้อยหลูเสี่ยวหยาแสดงท่าทางเหมือนสุนัขไม่ผิด “ไม่มีปัญหาค่ะรุ่นพี่”“รุ่นพี่?” เป่ยฉ่ายเวยมองไปที่หลินไห่ ทำไมเธอไม่เคยได้ยินเสี่ยวหยาพูดเรื่องนี้ให้ฟัง“อ้อ เสี่ยวหยาเป็นรุ่นน้องที่คณะน่ะ แต่เราห่างกันหลายรุ่น” หลินไห่ยิ้มแล้วพูดต่อ “รู้มาว่าทั้งสองคนสนิทกัน ต่อไปนี้ก็ทำงานร่วมกันไปนะ”“ดีจังเลย” หลูเสี่ยวหยาพูดด้วยความดีใจ ต่อไปเธอจะได้ไม่ต้องไปบันทึกคนเดียวแล้วเป่ยฉ่ายเวยก็รู้สึกดีใจเช่นกัน โชคดีที่หลินไห่ให้เธมาทำงานด้วย ไม่ใช่คนอื่น“โอเค พวกเธอออกไปทำงานต่อเถอะ” หลินไห่ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำ ก็เลยให้ทั้งสองคนออกไปก่อน
copy right hot novel pub