โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

ตอนที่ 118 เจ้าหน้าที่จดบันทึก

ตอนที่ 118 เจ้าหน้าที่จดบันทึก

หลูเสี่ยวหยาจูงมือเป่ยฉ่ายเวยออกมาจากห้องทำงานของหลินไห่ แล้วแอบพูดเบาๆ “เวยเวย รุ่นพี่เหมือนจะชอบเธอนะ”

เป่ยฮ่ายเวยรีบโต้แย้งกลับไปทันที “เสี่ยวหยาไม่ต้องมาพูดไร้สาระเลย ฉันกับเลขาหลินเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องทั่วไป”

หลูเสี่ยวหยายื่นนิ้วก้อยไปอยู่ตรงหน้าของเป่ยฉ่ายเวยแล้วส่ายไปมา “ฉันมองคนไม่ผิดหรอก สายตาที่รุ่นพี่มองเธอมันไม่เหมือนที่มองคนอื่น”

“เสี่ยวหยา เธอต้องสอนสิ่งที่ใช้ได้จริงให้ฉันสักหน่อยละ” เป่ยฉ่ายเวยไม่ได้ใส่ใจเรื่องหลูเสี่ยวหยา แต่หลินไห่จะมาชอบเธอได้ยังไง

หลูเสี่ยวหยาเห็นว่าเป่ยฉ่ายเวยไม่อยากจะคุยต่อ ก็เลยพยักหน้า “เอาล่ะ บ่ายนี้จะมีคดีการฟ้องหย่า พอถึงเวลาเธอก็มากับฉันละกัน”

“อื้ม ฉันจะไปดูกรณีตัวอย่างก่อน” เป่ยฉ่ายเวยหอบเอกสารที่สูงเท่าคางเธอ

ก่อนจะเดินไปหลูเสี่ยวหยาก็ไม่ลืมที่จะพูด “ดี เวยเวยอย่าลืมดูเครือข่ายภายในนะ แล้วเธอจะพบความสุขที่ไม่คาดคิด”

“รู้แล้ว” เป่ยฉ่ายเวยพยักหน้า ในใจเธอยังคงอยู่กับกรณีตัวอย่างที่มือของตัวเอง เยอะขนาดนี้เมื่อไหร่จะอ่านหมด

จากนั้นเป่ยฉ่ายเวยก็กลับไปที่โต๊ะของตัวเอง และเธอก็ไม่มีเวลาที่จะดูเครือข่ายภายในที่หลูเสี่ยวหยาบอก เธอจดจ่ออยู่กับคดีความต่างๆและพบว่าคนในคดีเหล่านี้น่าสนใจมาก

บางคนก็ทำหมายเหตุอย่างละเอียด รูปแบบการเขียนสื่อถึงความเด็ดเดี่ยวและทรงพลัง สามารถรู้ได้เลยว่าคนที่เขียนนั้นเป็นคนเก่งและมีรากฐานที่แข็งแรงมาก คนที่บันทึกจะต้องเป็นผู้ชายแน่ๆ

เธออยากรู้ว่าผู้ชายคนที่สามารถเขียนตัวอักษรได้งดงามขนาดนี้เขาทำได้ยังไง

สมองเธอก็นึกไปถึงเค้าโครงหน้าของคนคนหนึ่ง จะใช่เขาไหมนะ?

เธอยังไม่แน่ใจ แต่ลางสังหรณ์เธอทำให้นึกภาพของฉูเจ๋อหยางขึ้นมา

เวลาผ่านไปสองชั่วโมงโดยที่เธอไม่รู้เนื้อรู้ตัว เป่ยฉ่ายเวยก็พบว่าตัวเองกำลังอ่านไปอย่างเพลิดเพลิน ทุกการบันทึกมีความละเอียด และไม่จืดชืดเหมือนกับในรายการโทรทัศน์ที่น่าเบื่อจนไม่อยากดู

“เวยเวย เธอกำลังทำอะไรอยู่ ไม่เห็นเธอข้อความที่ฉันส่งให้หรอ?” ใบหน้าอ้วนกลมของหลูเสี่ยวหยาปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ

เป่ยฉ่ายเวยที่ยังไม่เตรียมตัวตกใจทันทีเมื่อพบว่าคนอยู่ตรงหน้าคือหลูเสี่ยวหยา “ขอโทษทีเสี่ยวหยา ฉันจดจ่อกับมันมากเกินไปจนลืมดูเวลาน่ะ”

“ช่างมันๆ รีบไปเถอะ ผู้หญิงคนนั้นมาแล้ว” หลูเสี่ยวหยาไม่ได้สนใจปัญหาเล็กๆนั่น เธอแค่มาเตือนเป่ยฉ่ายเวยเฉยๆ

“อื้ม” เป่ยฉ่ายเวยหยิบเอกสารแล้วเก็บมันไว้อย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เดินตามหลูเสี่ยวหยาไปที่ห้องประชุมเล็ก

ก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าไป พวกเธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดฟอร์มบริษัทแล้วสวมแว่นกันแดดสีดำอันใหญ่นั่งรออยู่ข้างใน

หลูเสี่ยวหยาเปิดประตูเข้าไปก่อนแล้วเป่ยฉ่ายเวยก็เดินตามเข้าไป

“ขอโทษที่ให้รอนานนะคะคุณหยาง” ท่าทางของหลูเสี่ยวหยาดูเป็นมืออาชีพมาก

“ไม่เป็นไร ฉันเองก็เพิ่งมาเหมือนกัน” คุณหยางพูดเบาๆ

เป่ยฉ่ายเวยเทน้ำใส่แก้วแล้ววางไว้ที่ฉากด้านหน้าของคุณหยาง “คุณหยางคะ ดื่มน้ำสักหน่อยนะคะ”

เธอฟังออกว่าผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าเธอไม่ได้สงบอย่างที่เห็น และเสียงของเธอก็ค่อนข้างแหบพร่า

คุณหยางเห็นอย่างนั้นเธอมองไปที่เป่ยฉ่ายเวย “ขอบคุณนะคะ”

สักพักหลูเสี่ยวหยาก็เริ่มเข้าเรื่อง “คุณหยางคะ ได้โปรดบางข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมดให้เราทราบหน่อยนะคะ เพื่อที่พวกเราจะได้นำข้อมูลไปให้กับทนายความ”

“คุณหยางพยักหน้า เธอเล่าด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบและสงบมากเหมือนกับไม่ได้กำลังเล่าเรื่องสำคัญอยู่

“สามีของฉันนอกลู่นอกทาง เขาไปรักกับนักเรียนหญิงโรงเรียนศิลปะที่ยังเรียนไม่จบ ตอนนี้ในมือฉันก็มีรูปของพวกเค้า”

เธอหยุดไปชั่วคราว เหมือนกับมีเรื่องยากที่จะพูดออกมา เธอกำลังคุมร่างกายตัวเองไม่ให้สั่น แล้วค่อยๆพูดอย่างช้าๆ “แล้วก็มีภาพของสลิปการโอนเงินในแชท ตอนนี้ฉันอยากหย่า แล้วฉันก็ต้องการหุ้นส่วนบริษัทและทรัพย์สินที่เป็นของฉัน”

“คุณหยางคะ ในสลิปการโอนเงินนั้นมีชื่อของสามีคุณและผู้หญิงคนนั้นไหมคะ? รูปถ่ายคู่กันนั้นเป็นรูปทั่วไปหรือเป็นรูปภาพที่ไม่เหมาะสมคะ” หลูเสี่ยวหยาถามอย่างสุภาพนุ่มนวล

“พวกเขาใช้แชทเล็กๆที่ไม่มีการตั้งชื่อ แต่จะเจอมันในโทรศัพท์ของเขา ส่วนรูปภาพเป็นภาพที่พวกเค้ากำลังออกเดทกัน ผู้หญิงถ่ายส่งให้เพื่อนแล้วฉันก็เก็บไว้อีกที” พอพูดถึงตรงนี้คุณหยางก็ยังคงนิ่งอยู่

หลูเสี่ยวหยารู้สึกลำบากใจเล็กน้อย ในทางกฎหมายแล้วหลักฐานพวกนี้ไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ รูปคู่นั้นคู่กรณีสามารถพูดได้ว่าแค่เพื่อนธรรมดาที่ถ่ายรูปด้วยกัน

วันนี้เป่ยฉ่ายเวยเพิ่งอ่านกรณีตัวอย่างเรื่องการฟ้องหย่ามาพอดี เธอจึงเริ่มเอ่ยปากถาม “คุณหยางคะ ขออนุญาตถามหน่อยนะคะ คุณกับคุณผู้ชายรู้จักกันได้อย่างไรคะ?”

หลูเสี่ยวหยามองเป่ยฉ่ายเวยด้วยความประหลาดใจ คำถามนี้มันเกี่ยวกับคดียังไง? แม้ว่าเธอจะงงๆเล็กน้อย แต่เธอก็เชื่อว่าที่หลูเสี่ยวหยาถามแบบนี้เธอจะต้องมีเหตุผล

คุณหยางนึกถึงผู้ชายเจ้าชู้คนนั้น เธอเริ่มจับปลายนิ้วของตัวเองอย่างไม่เป็นธรรมชาติ เป่ยฉ่ายเวยเห็นก็รู้รายละเอียดแล้ว แต่เธอก็ไม่ถามอะไรต่อ และอดทนรอให้เธอพูดเอง

หลังจากที่คุณหยางเหมือนจะทำใจได้บ้างแล้ว เธอก็ค่อยๆพูดขึ้น “ฉันกับสามีเป็นเพื่อนร่วมชั้นสมัยเรียนมหาวิทยาลัย พอจบแล้วพวกเราก็ทำงานอย่างหนัก ด้วยการสนับสนุนของพ่อแม่ฉันถึงได้มีธุรกิจในตอนนี้ ต่อมาฉันก็ตั้งท้อง เพื่อที่ขาจะให้ฉันพักผ่อนอย่างเต็มที่ เขาก็เตือนให้ฉันกลับไปที่Antai ฉันคิดว่าฉันได้เจอผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิตฉัน ไม่คิดว่าสุดท้ายมันก็แค่เรื่องตลก”

“จริงๆแล้วตอนนั้นเขาก็อยู่กับผู้หญิงคนนั้นด้วย แต่เพราะฉันยังมีหุ้นอยู่ในมืออีก 40% ของบริษัททำให้เขายังไม่กล้าที่จะชัดเจนกับผู้หญิงคนนั้น หลังจากที่ฉันคลอดลูก เขาก็เกลี้ยกล่อมให้ฉันขยายบริษัท แล้วให้ฉันโยนหุ้นบางส่วนออกไป”“เขาค่อยๆเอาหุ้นของฉันออกไปอย่างช้าๆ แม้ว่าฉันจะยังอยู่ในบริษัท แต่ก็ไม่มีอำนาจอะไรทั้งสิ้น เขาพาผู้หญิงคนนั้นมาที่บริษัท ให้ทุกคนในบริษัทก็เรียกเธอว่าเถ้าแก่เนี้ย แล้วเขาก็ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยที่จะพาเธอออกงานด้วยกัน”“ฉันสามารถที่จะหย่าร้าง ฉันไม่เอาอะไรเลยก็ได้ แต่ฉันอยากให้ลูกได้สิ่งที่แกควรจะได้ ได้ยินว่าผู้หญิงคนนั้นก็ตั้งท้อง แล้วก็อาจจะมีลูกชายด้วย”“ผู้ชายกากๆ!” หลูเสี่ยวหยาอดไม่ได้ที่จะต่อว่า พอมองไปที่คุณหยาง เธอก็รีบกล่าวขอโทษทันที “ขอโทษนะคะคุณหยางที่พลั้งปากพูดอะไรไม่ดีไป”“ไม่เป็นไร มันก็เรื่องจริงไม่ใช่หรอ?” คุณหยางพูดอย่างนุ่มนวลผู้หญิงที่เคยอ่อนแอ กลายเป็นแม่ที่เข้มแข็งเป่ยฉ่ายเวยเพิ่งจะเข้าใจประโยคนี้อย่างลึกซึ้งจากเหตุการณ์นี้แหละ ชายหงส์ที่ค่อยๆใช้ฝ่ายหญิงไต่เต้าไปจนประสบความสำเร็จ เขาบ้ามากที่คิดจะเขี่ยภรรยาตัวเองทิ้ง แล้วไปคว้าเอาเด็กสาวอายุน้อยมาทำเมียพล็อตเรื่องเดิมๆ ถึงแม้จะโหดร้าย แต่มันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นบ่อยๆ“คุณหยางคะ คุณแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าผู้หญิงคนนั้นตั้งครรภ์จริงๆ?” นี่มันก็เป็นหลักฐานสำคัญไม่ใช่หรอ?

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์