โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่ 141 ให้เธอจัดการดูแล

บทที่ 141 ให้เธอจัดการดูแล

วันถัดมาเป้ยฉ่ายเว่ยได้รับสายโทรศัพท์จากเบอร์ที่ไม่คาดคิดว่าจะโทรมา

คุณหยางที่ไม่ได้ติดต่อกันมาหลายวัน วันนี้นัดให้เธอออกไปเจอกันตามลำพัง

เป้ยฉ่ายเว่ยคิดอยู่สักพักถึงได้ตอบตกลงคำขอของคุณหยางไป ในเมื่อเธอมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เต็มๆ จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องล้มเลิกกลางคัน อีกอย่างเธอก็อยากรู้บทสรุปสุดท้ายของคดีนี้ด้วยว่าจะเป็นอย่างไร

รอจนกระทั่งถึงเวลาพักเที่ยง เธอจึงได้หาข้ออ้างออกไปข้างนอกเพียงคนเดียว

สถานที่ที่คุณหยางนัดเจอไม่ได้อยู่ไกลจากที่ทำงานเธอเท่าไหร่

เมื่อมองไกลๆก็เห็นคุณหยางที่สวมแว่นตาดำ นั่งอยู่ติดหน้าต่างด้วยบนใบหน้าอ่อนล้าเล็กน้อยและนั่งเงียบๆรอเธออยู่ตรงนั้น

เป้ยฉ่ายเวยเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เปิดประตูดินเข้าไป จากนั้นก็นั่งลงตรงหน้าของคุณหยาง

“คุณเป้ย คงรบกวนคุณแย่ที่ต้องมา”

เป้ยฉ่ายเวยส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรู้ว่าคุณหยางอยากเจอฉันเพราะมีเรื่องอยากคุยจริงๆ”

รอไปสักพักหนึ่ง คุณหยางก็ล้วงหยิบแฟลชไดร์ฟจากกระเป๋าที่อยู่ข้างๆมาวางไว้บนโต๊ะและเลื่อนไปตรงหน้าของเป้ยฉ่ายเว่ย “ฉันรู้ว่าคดีนี้จะดีขึ้นได้หรือไม่คงขึ้นอยู่กับคุณเป้ย ฉันเลยเอาไฟล์เสียงกับรูปภาพมาเป็นหลักฐาน”

“คุณหยางพูดเกินไปแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฉันต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว ในเมื่อคุณมีหลักฐานฉันว่าคุณเอาไปให้ทนายความดีกว่านะคะ”

เป้ยฉ่ายเวยไม่ได้รับมา แม้กระทั่งมองแฟลชไดรฟ์นั่นเธอก็ไม่ชำเลืองมองแต่ตาเป็นประกายสวยกลับจ้องมองคุณหยางที่มีใบหน้าเรียบนิ่ง

เธอเป็นแค่ผู้ช่วย นำหลักฐานที่สำคัญขนาดนี้มาให้เธอมันจะไม่ดูผิดปกติไปหน่อยหรอ ถึงอย่างไรพวกเธอก็เคยเจอกันแค่สองครั้งเอง จะว่าเพื่อนก็ไม่ใช่ มากสุดก็น่าจะคนแปลกหน้าที่คุ้นเคยกันเสียมากกว่า

แต่คุณหยางกลับเอาเบื้องหลังที่ตัวเองรู้ออกมาพูดอย่างไม่คิดอะไร

“คุณเป้ยใจดี ต้องเข้าใจความอึดอัดของฉันอยู่แล้ว ที่จริงฉันรู้ว่าควรส่งแฟลชไดร์ฟอันนี้ให้กับทนาย แต่ฉันรู้มาว่า ทนายความที่ฉันว่าจ้างอยู่ตอนนี้ถูกเขาติดสินบนอยู่ ถ้าส่งหลักฐานพวกนี้ให้เธอไปมันก็เท่ากับว่าทุกอย่างจะเสียเปล่า”

ทนายถูกติดสินบน? หมายถึงหลี่วอานหรานงั้นหรอ?

ไม่รู้ทำไมเป้ยฉ่ายเวยถึงได้คิดว่าประโยคนี้มันขัดแย้งกันแปลกๆ ในเมื่อก็รู้แล้วว่าทนายความของตนเองถูกคนอื่นติดสินบนอยู่ แล้วทำไมไม่เปลี่ยนทนายใหม่ให้มันจบๆไปล่ะ แต่กลับเลือกมาขอความช่วยเหลือจากผู้ช่วยตัวเล็กๆอย่างเธอแทนเนี่ยนะ

อีกอย่างเธอก็ไม่เชื่อว่าหลี่วอานหรานจะตัดอนาคตตัวเองเพียงเพราะแค่ข้อเสนอเล็กๆนั่น หลี่วอานหรานสามารถไปได้ไกลถึงขั้นทนายความระดับดีเยี่ยมเลยด้วยซ้ำ ถ้าเจอสิ่งดึงดูดใจคงไม่ใช่มีแค่สิ่งนี้แน่ หรือถ้าหลี่วอานหรานมีปัญหาจริงๆ ฉูเจ๋อหยางคงรู้ตั้งนาน และคงไม่ยอมปล่อยให้เรื่องมันเลยมาจนถึงตอนนี้แน่

เธอยังจำแววตาที่ดูสื่อความหมายบางอย่างของฉูเจ๋อหยางตอนที่ถามเธอเรื่องที่ต้องดูแลคดีการหย่าของคุณหยางได้ ตอนนี้เมื่อนึกย้อนกลับไปคิดดูก็เหมือนเขาตั้งใจจะเตือนอะไรเธอบางอย่าง

ดังนั้นพฤติกรรมของคุณหยางก็ยิ่งทำให้รู้สึกแปลกใจ

เป้ยฉ่ายเวยตั้งสติ พูดด้วยโทนเสียงเรียบนิ่งว่า “ต้องขอโทษด้วยค่ะคุณหยาง ส่งแฟลชไดร์ฟมาให้ฉันก็คงไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าคุณคิดว่าทนายของคุณทำงานมีปัญหาสามารถยื่นเรื่องกับทนายฉูก็ได้นะคะ ฉันมั่นใจว่าทนายฉูต้องจัดการเรื่องนี้ให้คุณได้แน่ๆ”

ไม่รู้ว่าทำไมในเวลาแบบนี้ เธอถึงเอนเอียงไปทางคำพูดของฉูเจ๋อหยางมากกว่า

ดวงตาที่ซ่อนอยู่หลังเลนส์แว่นสีดำของคุณหยางเป็นประกายวูบไหวขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าเป้ยฉ่ายเวยจะปฏิเสธ เสียงพูดจึงได้ดูอ่อนลง

“ฉันรู้ว่าคุณเป้ยคงสงสัยฉัน ถ้าฉันไปหาทนายฉูโดยตรงมันก็อาจจะลดความยุ่งยากไปได้มากจริงๆนั่นแหละค่ะ แต่คุณก็น่าจะรู้ดีว่าทนายฉูจะรับหรือไม่รับทำคดีของฉัน เขาก็อาจจะแค่ส่งเรื่องนี้ให้คนที่เป็นลูกน้องจัดการก็ได้”

เสียงพูดของเธอเริ่มห้วนขึ้น พูดขึ้นอีกว่า “และแน่อยู่แล้วว่าฉันไม่ได้ระแวงอะไรทนายฉู ก็แค่พยายามหลีกเลี่ยงปัญหาแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นอีกความหมายของฉันก็คืออยากให้คุณเป้ยช่วยฉันส่งแฟลชไดร์ฟอันนี้ให้กับคนที่คุณคิดว่าเชื่อถือได้ แบบนี้เราก็ไม่จำเป็นต้องรบกวนทนายฉูแล้วไม่ใช่หรอคะ?”

เป้ยฉ่ายเวยตอบกลับออกไปตรงๆ “ขอโทษคุณหยางอีกครั้งแล้วกันค่ะเรื่องนี้ฉันช่วยไม่ได้จริงๆ อีกอย่างฉันเชื่อว่าทนายทุกคนจากบริษัทของเรามีความรู้ความสามารถในด้านวิชาชีพของตนเองอยู่แล้ว ไม่ทำให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่ๆ”

คุณหยางถอนหายใจอย่างหงอยๆ ถอดแว่นดำที่อยู่บนหน้าออก ในที่สุดก็เผยใบหน้าเต็มๆให้เป้ยฉ่ายเวยเห็น เป้ยฉ่ายเวยอุทานอย่างตกใจ“คุณหยาง นี่คุณ......”

“มันดูน่าขำใช่ไหมล่ะคะ นี่แหละสิ่งที่แลกมาด้วยหลักฐานสำคัญ”

วันนี้คุณหยางแต่งหน้าเต็มมาก แต่ก็ปกปิดรอยม่วงช้ำที่หางตาไม่ได้ ตรงโหนกแก้มก็มีรอยบวมช้ำ เธอยกมือขึ้นเสยหน้าม้าขึ้น บนหน้าผากยังมีรอยบวมน้อยๆด้วย

รอยทุกที่บนใบหน้าดูแล้วช่างน่าตกใจ

เธอรอจนกระทั่งเป้ยฉ่ายเวยมองทุกรอยจนชัดเจน เธอทำอย่างกับคนไม่ได้เป็นอะไรมาก จากนั้นก็ปัดผมลงมาปกปิดอย่างเคย และนำแว่นตาดำสวมกลับคืนไป เพื่อปกปิดรอยแผลบนใบหน้า หัวเราะสมเพชตัวเองแล้วพูดขึ้นว่า “ขอโทษคุณเป้ยด้วยที่ทำให้ตกใจนะคะ ฉันไม่เชื่อคนอื่นจริงๆ เลยมาหาคุณนี่แหละ”

“ไม่คิดเลยว่าจะทำให้คุณเป้ยลำบากใจขนาดนี้ ฉันคิดอะไรโดยไม่นึกถึงใจคนอื่นเลย”

เป้ยฉ่ายเวยมองรอยแผลของคุณหยาง ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรดี การที่คุณหยางต้องพบเจอกับผู้ชายพรรค์นั้น เธอรู้สึกเวทนาจริงๆ แต่ว่าที่คุณหยางมาหาเธอจะเป็นเพราะเหตุผลนี้จริงหรอ?

เธอไม่แน่ใจเลย “คุณหยางเรื่องนี้ฉันเห็นใจคุณนะคะ แต่ว่าคำขอของคุณฉันตกปากรับคำไม่ได้จริงๆค่ะ แต่ฉันช่วยพูดกับทนายฉูให้คุณได้นะคะ”

นี่เป็นขีดจำกัดที่เธอช่วยได้มากที่สุดแล้ว เธอเชื่อว่าถ้าคุณหยางเป็นฝ่ายถูกทำร้ายจริง ฉูเจ๋อหยางคงไม่นิ่งนอนใจนั่งมองเฉยๆแน่

คุณหยางจับปลายช้อนคนกาแฟเบาๆ แสงอาทิตย์ส่องผ่านกระจกใสกระทบกับความวาวของช้อน จนเกิดเป็นแสงวาววับแสบตา

เป้ยฉ่ายเวยหลับตาลงอย่างไม่ชินกับแสง ไม่รู้ว่าทำไม เหมือนเมื่อครู่เธอมองเห็นแววตาใต้แว่นตาดำของคุณหยางทอประกายแววดุร้ายขึ้นมา รอจนแสงแสบตานั่นหายไป เธอจึงมองใหม่อีกครั้ง แต่ก็เหลือเพียงแว่นสีดำ ไม่เห็นความผิดปกติใดๆ

บางทีเธออาจจะตาฝาดไปเอง คุณหยางจะมีแววตากับเธอแบบนั้นได้ยังไงกัน

“งั้นฉันไม่กวนคุณเป้ยแล้วล่ะค่ะ” สุดท้ายคุณหยางก็ไม่ได้บังคับอะไรเป้ยฉ่ายเวย

เป้ยฉ่ายเวยถอนหายใจทั้งโล่งอกทั้งกังวล “คุณหยางถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ” ความรู้สึกมันบอกเธอว่าไม่ควรเข้าใกล้คุณหยาง เธอดูซ่อนเงื่อน ไม่ใช่ว่าเป้ยฉ่ายเวยดูไม่ออก“คุณเป้ย เดี๋ยวก่อนค่ะ” คุณหยางหยุดการเคลื่อนไหวของเป้ยฉ่ายเวย ภายใต้สายตาสงสัยของเป้ยฉ่ายเวย เธอก็ล้วงหยิบซองกระดาษอันหนึ่งออกมาจากกระเป๋าไปวางไว้ตรงหน้าของเป้ยฉ่ายเวย พูดขึ้นเสียงนุ่มว่า “คุณเป้ยคะ นี่เป็นแค่คำขอบคุณเล็กๆน้อยๆ หวังว่าคุณเป้ยจะไม่ปฏิเสธนะคะ” เป้ยฉ่ายเวยมองซองที่นูนออกมา ไม่ต้องดูก็รู้ว่าข้างในต้องมีธนบัตรหลายใบ จู่ๆเธอก็รู้สึกว่าน่าขำสิ้นดี มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ไม่ถึงหนึ่งเดือน ก็มีคนให้เงินเธอตั้งสองครั้ง เธอรู้สึกตกใจจริงๆที่ได้รับอะไรแบบนี้ ครั้งก่อนคุณหญิงเหาให้เงินเธอก็เพื่อปิดปาก มาครั้งนี้คุณหยางให้เงินเธอก็เพื่อจะขอบคุณงั้นหรอ เธอไม่ได้คิดว่าตัวเองทำเรื่องยิ่งใหญ่อะไรพอที่จะให้คุณหยางมาติดสินบนเธอ“คุณเป้ยขำอะไรคะ?” เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเป้ยฉ่ายเวยมีแววขำขันอยู่ คุณหยางจึงถามขึ้นอย่างสงสัย“เปล่าค่ะ แค่คิดถึงเรื่องตลกน่ะค่ะ แล้วก็ ต้องขอโทษคุณหยางด้วยนะคะฉันไม่คู่ควรได้รับอะไรตอบแทนหรอกค่ะ ความปรารถนาดีของคุณฉันจะขอรับไว้แล้วกันค่ะะ ขอตัวนะคะ” เป้ยฉ่ายเวยพูดเสร็จก็ไม่รอช้า เหยียดกายดันเก้าอี้ออก เดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์