โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่163 ให้เวลาคุณเท่าไหร่ถึงจะสมควร

บทที่163 ให้เวลาคุณเท่าไหร่ถึงจะสมควร

ชายสองคนซึ่งกำลังพูดคุยกันเดินเข้ามา

ใบหน้าของถังฉีตงไม่ได้เปลี่ยนแปลง เขาพูดยิ้มๆ “ผมจะส่งพวกคุณกลับบ้านก่อน”

เป้ยฉ่ายเวยไม่กล้าสบตาฉูเจ๋อหยาง เธอกุมมือที่บาดเจ็บของตัวเองและพูดว่า “ฉันอยากอยู่ต่ออีกคืน คุณส่งซือซือกลับไปก่อนเถอะ”

“เวยเวยคุณวางใจเถอะ พวกเราไปถามทางโรงพยาบาลให้แล้ว คุณกลับบ้านได้เลย” ถังฉีตงตัดข้ออ้างของเป้ยฉ่ายเวย

เป้ยฉ่ายเวยเหลือบมองอวี๋ซือซือทางด้านข้างอย่างกระอักกระอ่วน ข้ออ้างที่จะอยู่ต่อหายไปแล้ว

อวี๋ซือซือได้รับการขอความช่วยเหลือจากเป้ยฉ่ายเวย เธอจึงเอ็ดขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจ “งี่เง่า คนเจ็บไม่ใช่คุณนี่ คุณไม่ได้เป็นไร ฉันว่าให้เวยเวยอยู่พักอีกสักคืน คอยสังเกตอาการก่อนน่ะดีแล้ว”

“ช่วงเวลาพิเศษ ก็ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษหน่อยไม่ใช่รึ” คราวนี้ระเบิดของลิ่วเอ่อร์ไม่ได้กระทบถูกเขา อาเจ๋อไม่มีทางปล่อยให้เวยเวยอยู่ที่โรงพยาบาลคนเดียวแน่

“ช่วงเวลาพิเศษอะไร พวกเธออยู่ที่นี่ พวกเขาก็อาจจะส่งคนมาที่โรงพยาบาลก็ได้” อวี๋ซือซือโบกไม้โบกมืออย่างกระวนกระวายใจ คนในโรงพยาบาลออกจะเยอะแยะ คิดจะทำอะไรคงไม่ใช่เรื่องง่าย

เป้ยฉ่ายเวยไม่ต้องหันศีรษะไปมองเธอก็รู้สึกได้ถึงสายตาอันคมเข้มของฉูเจ๋อหยาง ไม่ต้องจดจ้องเธอก็ได้ เธอไม่มีทางเลือกสักหน่อย

“เวยเวยเธอกลับไปกับซือซือเถอะ คนของลิ่วเอ่อร์ไม่ได้ล้อเล่น คุณอยู่โรงพยาบาลคนเดียวจะเป็นอันตราย” ถังฉีตงไม่ปกปิดแล้ว เขาบอกเธอถึงผลร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น

“ฉันดูแลตัวเองได้” เป้ยฉ่ายเวยปฏิเสธเขาด้วยประโยคง่ายๆ

ถังฉีตงพูดกับเป้ยฉ่ายเวยไปหมดทุกอย่างแล้วแต่เธอก็ยังยืนกราน เขาได้แต่โยนเรื่องนี้กลับไป “อาเจ๋อ คุณว่าอย่างไร”

สายตาอันเย็นยะเยือกของฉูเจ๋อหยางจ้องมองไปที่เป้ยฉ่ายเวยอยู่เป็นเวลานาน ก่อนที่เขาจะกล่าวขึ้นลอยๆว่า “หาคนมาเฝ้าสองคน”

“อื้อ รับทราบ” ถังฉีตงพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าไม่มีปัญหา

“เรื่องนี้ฝากคุณด้วย ผมยังมีเรื่องต้องไปจัดการ” พูดจบฉูเจ๋อหยางก็ไม่มองเป้ยฉ่ายเวยอีก เขาหมุนตัวเดินออกจากห้องคนไข้ไป

มือซือซือกำผ้าปูที่นอนอยู่เป็นเวลานาน นานจนกระทั่งนิ้วของเธอซีดเซียวไป ไม่ว่าฉูเจ๋อหยางจะว่าอย่างไร เธอจำเป็นต้องยืนกรานเช่นนี้

“ซือซือ ฉันอยากพักผ่อนแล้ว”

อวี๋ซือซืออ้าปากค้าง สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ลากดึงถังฉีตงออกไป

“เอาล่ะเธอพักผ่อนซะ พรุ่งนี้ฉันจะมารับ มีเรื่องอะไรโทรหาฉันนะ”

“โอเค”

สามคนเรียงแถวกันออกจากห้องไป เหลือเธออยู่ในวอร์ดเพียงคนเดียว ไม่ทันไรพระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว เหลือเพียงแสงที่โผล่พ้นดินขึ้นมาเท่านั้น จนในที่สุดมันก็หรี่ลับตาไป

เป้ยฉ่ายเวยมองแล้วก็รู้สึกหดหู่อยู่บ้าง จนมีเสียงคนเคาะประตูดังขึ้น

---ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ทุกจังหวะเหมือนกระทบถูกหัวใจเธอ เธอหวนนึกถึงความทรงจำไม่ดีเมื่อวานนี้ เป้ยฉ่ายเวยเผลอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เธอกำมันไว้อย่างตื่นเต้น

“ใครคะ”

“ฉันเอง”

เมื่อได้ยินเสียงของหนานฉิงเป้ยฉ่ายเวยก็ตกใจ หนานฉิงมาที่นี่ได้อย่างไร หล่อนรู้ได้อย่างไรว่าเธออยู่ที่โรงพยาบาล

หนานฉิงซึ่งรออยู่ด้านนอกประตูก็รู้สึกร้อนใจ เธอไม่รอให้เปิดฉ่ายเวยมาเปิดประตู เธอถือวิสาสะเปิดประตูเดินเข้าไปเลย

ถ้ารู้ว่าประตูไม่ได้ล็อค เธอก็คงไม่เสียเวลาเคาะประตูเหมือนคนโง่

เมื่อเธอเห็นเป้ยฉายเวยหน้าซีดเซียวอยู่บนเตียง เธอค่อนข้างพึงพอใจและกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ได้ข่าวว่าเธอเข้าโรงพยาบาล แค่มือเจ็บนิดหน่อยก็ต้องมานอนโรงพยาบาล ใจเสาะเสียจริง”

ตอนนี้เป้ยฉ่ายเวยไม่มีคำพูดอะไรจะพูดกับหนานฉิง เมื่อเพื่อนที่เคยสนิทเดินมาถึงเส้นทางแห่งการแข่งขัน ทุกอย่างมันพังหมดแล้ว

“เป็นอย่างไร ฉันมาเยี่ยม เธอไม่ดีใจหน่อยเหรอ” หนานฉิงจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ เธอหัวเราะเหอะเหอะสองครั้งพร้อมกล่าวอย่างมีเมตตา “เป้ยฉ่ายเวยเธออยู่โรงพยาบาลคนเดียวช่างเงียบเหงา คงจะไม่มีใครมาเยี่ยมเธอเลยล่ะสิ ออกจะน่าสมเพชเกินไปนะว่าไหม”

เป้ยฉ่ายเวยมองเธออย่างนิ่งเฉย ถ้าหากเธอบอกหล่อนว่าห้องผู้ป่วยที่เงียบเหงานี้ ชายคนซึ่งเธอทั้งรักทั้งหลงเป็นคนตระเตรียมให้ล่ะก็ ไม่รู้เธอจะว่าอย่างไรนะ

เธอไม่อยากให้คนสองคนที่เป็นเพื่อนกันไม่ได้ ต้องกลายมาเป็นศัตรูกัน

“เป้ยฉ่ายเวย เธอทำอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร” หนานฉิงมีสีหน้าน่าเกลียดอยู่พักหนึ่ง ความรู้สึกว่าเหนือว่าในใจของหล่อนถูกทำลายลงด้วยการแสดงออกอันสงบนิ่งของเป้ยฉ่ายเวย

ผู้หญิงสารเลวเดินมาถึงจุดนี้ ยังจะทำสงบนิ่งอยู่ได้ แน่นอนว่าคนชั้นต่ำก็คงจะมีบรรทัดฐานต่ำๆ

เป้ยฉ่ายเวยถอนหายใจและพูดอย่างเสียไม่ได้ “เธอมาหาฉันมีเรื่องอะไร”

“แน่นอนว่าฉันมาเยี่ยมเธอ ไม่ว่าอย่างไร เราก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นกันไม่ใช่รึ” หนานฉิงพูดนุ่มๆ แต่สายตานั้นเย็นชา เธอก้าวไปข้าวหน้าด้วยความเย่อหยิ่ง และหยุดฝีเท้าลงห่างจากเตียงราวครึ่งเมตร

ราวกับว่าถ้าเข้าไปใกล้อีกนิดจะสัมผัสถูกเชื้อโรค

“หนานฉิง สิ่งที่ฉันติดหนี้เธอฉันก็ชดใช้คืนให้หมดแล้ว ฉันว่าเราน่าจะเดินไปข้างหน้าอย่างไม่มีเรื่องขัดแย้งกันได้แล้วนะ” เป้ยฉ่ายเวยยังคงรู้สึกเจ็บปวดเพราะน้ำมือของหนานฉิงอยู่

“ชดใช้ให้หมดแล้วหรอ”

หนานฉิงทำราวกับว่าได้ยินเรื่องน่าขัน เธอหัวเราะคำโต รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆหุบลงทีละน้อย ในขณะที่จับจ้องไปที่เป้ยฉ่ายเวยสีหน้าเธอก็หนาวเหน็บ “เป้ยฉ่ายเวยสิ่งที่เธอติดหนี้ฉันอยู่นั้น ไม่ใช่บาดแผลเล็กๆน้อยๆจะได้ใช้คืนกันหมดได้ง่ายๆ”

เธอหยุดชะงัด น้ำเสียงค่อยๆผ่อนคลายลง “แน่นอนว่าเห็นแก่ความเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเราด้วยกันมาหลายปี ขอแค่เพียงเธอออกไปจากเมืองจิ่นอันและไม่หวนกลับมาอีกเลย ฉันก็จะลืมเรื่องทั้งหมดนี้ไปเสีย”

ถ้าหากว่าเป้ยฉ่ายเวยยินดีที่จะจากที่นี่ไปจริงๆ เธอก็จะปล่อยหล่อนไป อย่างไรเสียก็เคยเป็นเพื่อนเรียนด้วยกันไม่ใช่เรอะ แค่ก่อนจะจากไปหล่อนถ่ายวิดีโอไว้ก็พอ

เป้ยฉ่ายเวยไม่มีผู้ชายก็ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ ในฐานะที่เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ดี แน่นอนว่าเธอก็ต้องตอบสนองความปรารถนาดีของเป้ยฉ่ายเวย หาผู้ชายสักโหลส่งให้หล่อน ถือว่าเป็นของกำนัลก่อนจากกันก็แล้วกันจะเป็นขอทาน คนจรจัด คนบ้าก็ไม่เลวนะ ขอแค่เป็นผู้ชายก็พอแล้วไม่ใช่รึเมื่อคิดเช่นนั้น ใบหน้าของหนานฉิงก็มีรอยยิ้มเบิกกว้างปรากฏขึ้นจากไปหรอ หล่อนจะไป แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้ เป้ยฉ่ายเวยพูดตรงๆ “ขอโทษนะหนานฉิง ตอนนี้ฉันยังมีเรื่องที่จัดการยังไม่เรียบร้อย รอให้จัดการธุระเสร็จสิ้นแล้วฉันจะไป”หนานฉิงพูดอย่างใจบุญ “โอ้ ถ้าหากว่าเธอตอนนี้เธอขมขื่นล่ะก็ ฉันเปย์ให้เธอได้นะ เพียงพอให้เธอมีชีวิตที่สุขสบายเลยล่ะ บ้านเธอจนมากไม่ใช่หรอ”ถ้าหากว่าเป้ยฉ่ายเวยไม่ยอมที่จะออกไปจากอาเจ๋อ และยังจะหาเหตุผลห่วยๆมาอ้าง เธอเห็นหล่อนอายุสามขวบหรืออย่างไรเป้ยฉ่ายเวยมองดูท่าทางเย้ยหยันของหล่อน เธอปิดกั้นความเจ็บปวดไว้และพูดเนิบๆ “ฉันบอกว่าฉันจะไป ฉันก็จะไป แค่ขอเวลาฉันอีกสักหน่อย”หนานฉิงเดินเฉียดไปใกล้เป้ยฉ่ายเวยและเยาะเย้ย “หรอ หนึ่งวัน สองวัน หรือว่าหนึ่งเดือนล่ะ หรือว่าจะต้องให้เธออีกสักครึ่งปี”“หนานฉิง…” จะให้เธอพูดอะไรอีก ขอเพียงแค่ฉูเจ๋อหยางยื่นเงื่อนไขข้อที่สาม เมื่อเธอทำสำเร็จก็จะรีบจากไปทันที แต่ถ้าบอกไปหนานฉิงก็จะยิ่งโมโหไปกันใหญ่น่ะสิเธอไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอสองคนต้องกลายเป็นแบบนี้ ตอนนี้พอมีหนทางที่จะทำให้สงบลงได้บ้าง ถ้ายิ่งพูดก็จะยิ่งไปกันใหญ่ ไม่ว่าเธอจะพูดอย่างไร หนานฉิงก็คงคิดว่าเธอแค่หาคำแก้ตัว

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์