บทที่179 วางแผนไว้แล้ว
“จับพอแล้ว” ตั้งแต่ออกโรงกับลิ่วเอ่อร์ก็ยังไม่ได้อาบน้ำเลย พอออกมาก็เห็นเธอทำท่าทำทางอย่างกับหัวขโมย ตอนนี้ก็ยังมาโผใส่หน้าอกเขาลูบๆคลำๆอีก
“ใครจับคุณ คุณไม่เห็นหรอว่าฉันยืนไม่เป็นสุขแล้ว” เป้ยฉ่ายเวยคิดอยากโมโห ใครกันกลางวันแสกๆกลับมาอาบน้ำ อีกอย่างเสียงสักนิดก็ไม่มี
เธอลุกยืนขึ้น ยังไม่ทันได้อ้าปากพูดก็ปะทะเข้ากับนัยน์ตาขุนเขาของเขา เธอกลืนน้ำลายลงคอโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว มีสัญญาณเตือนขึ้นในหัวให้เธอรีบหนีไปให้ไว
แต่ว่าขาทั้งสองกลับเหมือนมีรากงอกไม่สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว
ร่างสูงใหญ่เหมือนกับรุกล้ำเข้ามา เสียงแหบอยู่ในลำคอเปล่งออกจากปลายจมูก “หิวหรอ”
เป้ยฉ่ายเวยขมวดคิ้ว คำพูดบ้าบออะไรกัน “ไม่---”
ตัวละครสีแดงผุดขึ้นในหัวสมอง พี่ชายเชิญทานกล้วยลูกใหญ่ก่อน
เธอรู้ว่าตัวเองกำลังเสื่อมเหมือนกับซือซือแล้ว ในช่วงเวลาวิกฤต เป้ยฉ่ายเวยกลับเลือกที่จะหันไปนวดน้ำมันลงบนฝ่าเท้า
มีคนเข้าใจความคิดของเธออย่างลึกซึ้งได้รวดเร็วกว่าตัวเธอเองอีก เขายืดแขนออกไป และโอบเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างง่ายดาย
เสียงทุ้มต่ำของฉูเจ๋อหยางเปล่งออกมาเหมือนฟ้าผ่าลงกลางกระหม่อม “คิดหนี”
ซวยแล้ว
เสื้อผ้าบางๆของเป้ยฉ่ายเวยแนบแน่นไปกับผิวกายของชายหนุ่ม หยดน้ำบนร่างกายของเขาชุ่มไปทั้งชุดของเธอ ประสานลมหายใจร้อนแรงของเขา มันเหมือนกับไฟซึ่งแผดเผาทรมานทั้งจิตใจและร่างกายเธอ
“ฉูเจ๋อหยาง ปล่อย”
“ใครแอบถ้ำมอง” มีอาหารเลิศรสส่งมาถึงที่ ไม่กินมันจะได้หรอ
เป้ยฉ่ายเวยตาลอยโอบหน้าอกของเขาและกล่าวอย่างหมดแรง “ฉันเรียกคุณแล้ว คุณเองที่ไม่ได้ยิน ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าคุณอาบน้ำอยู่”
เธอพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดออกจากเขา แต่ความแข็งแกร่งของเธอก็เหมือนกันมดน้อยที่พยายามจะเขย่าต้นไม้ใหญ่
เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกในทันใดว่ามีของบางอย่างตกลงบนพื้น ด้วยจิตใต้สำนึกเธอจึงก้มศีรษะลงเพื่อมองดู เธอไม่เพียงไม่สามารถขยับตัวออกได้
เธอยังทำผ้าเช็ดตัวที่พันรอบเอวของใครบางคนหลุดลง เมื่อนึกถึงชายทางด้านหลังว่ากำลังแก้ผ้าอยู่
เสียงเธอก็สูงปรี๊ดขึ้นมา “อ้า---ฉูเจ๋อหยางไอ้ลามก!”
หลังจากนั้นเธอแทบจะคลุ้มคลั่งเมื่อบางอย่างที่ร้อนแรงกำลังแผดเผาระหว่างต้นขาของเธอ
เสียงกระเส่าของฉูเจ๋อหยางทำให้เวยเวยเป็นใบ้ “เป้ยฉ่ายเวย คุณจงใจแน่นอน”
“ฉันพลาด ไม่ได้ตั้งใจ” เป้ยฉ่ายเวยแทบจะร้องไห้โดยปราศจากน้ำตา เธอจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ใครใช้ให้เขาจับเธอเอาไว้ล่ะ
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ปล่อยมือก่อน” เธอพยายามหาทางกำจัดวัตถุที่กำลังเติบโตอยู่ข้างหลังเธอ อุณหภูมิเหล็กอันร้อนแรงก็ทำให้เธอหลอมละลายได้เช่นกัน
ฉูเจ๋อหยางไม่ปล่อยและอุ้มคนขึ้นมา เขาถีบประตูออกและคว้ามือที่ของปัดป่ายของเธอเอาไว้
เขายันประตูไว้ ริมฝีปากบางเซ็กซี่และเย็นยะเยือกประทับจูบที่เป้ยฉ่ายเวยซ้ำๆ
เป้ยฉ่ายเวยตัวสั่นเทา เธอเริ่มเสียศูนย์ ลิ้นของชายคนนั้นเข้าครอบงำอย่างไม่มีเหตุผล ลอดผ่านความอ่อนนุ่มลุ่มลึกไม่หยุดหย่อน ทรมาน ยั่วยวน
จนกระทั่งประสาทสัมผัสทั้งหมดของเธอเป็นอัมพาต ปอดขาดออกซิเจน ร่างอ่อนระทวย
ฉูเจ๋อหยางอุ้มหญิงสาวบอบบางอ่อนระทวยขึ้น มีรอยยิ้มในแววตาอันมืดมิด เขาฉีกเสื้อผ้าของเธอออกด้วยความคุ้นเคย กล้ามเนื้อขาอันแข็งแกร่งบีบระหว่างขาของเธอ มือเขาจับไปที่ต้นขาอันนุ่มลื่นและคร่อมเอวลง
อาวุธหนักทิ่มแทงไปที่ใจกลาง
ภายใต้แสงสลัวเป้ยฉ่ายเวยเห็นสีหน้าของฉูเจ๋อหยางไม่ชัด แต่เธอก็ยังรู้สึกได้ว่าสายตาอันเร่าร้อนคู่นั้นกำลังจับจ้องไปที่เธอซึ่งกำลังละลายอยู่ตรงหน้า
ความเจ็บปวดนั้นแผดเผา เธอสั่นไปทั้งร่าง และยิ่งด้วยท่าที่น่าอับอายเช่นนี้ เธอแทบจะกรีดร้องออกมา
ฉูเจ๋อหยางไม่ให้โอกาสเธอได้ตอบสนองใดๆ เขารวบเอวระหงส์ของเธอไว้ จากนั้นก็มุดลง บุกเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามของเธอในทันที
เป้ยฉ่ายเวยครางออกมา คอเรียวงามของเธอเอนไปทางด้านหลัง เผยให้เห็นไหปลาร้าสุดเซ็กซี่ มือข้างหนึ่งเธอก็คว้าแขนเขาเอาไว้ไม่ให้ตัวเองลื่นไถลไป
“เบา...หน่อย…”
แต่ละครั้งล้วนเหมือนสัตว์ป่าที่ดุร้าย
เป้ยฉ่ายเวยคำรามอย่างไม่พอใจเมื่อชายบนร่างหัวเราะออกมา ราวกับว่าไม่แคร์กับความทรมานของเธอ มือใหญ่ลากสะโพกของเธอไปที่ช่วงล่างของเขา เอาสองขาของเธอพาดไว้ที่ข้างเอวของเขา
ด้วยจังหวะเร็วช้าที่เขาเด้งขึ้นลง หลายครั้งที่เป้ยฉ่ายเวยกลั้นไม่อยู่และเผลอร้องออกมา
เป็นครั้งแรกที่เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกว่าประตูทางเข้าและเตียงช่างห่างกันนัก ร่างเธออ่อนระทวยอยู่หลายครั้ง ชายบนร่างเธอดูเหมือนกำลังสนุก เดิมทีเขาตั้งใจจะวางเธอลงบนเตียง ตอนนี้เอายกเธอเดินไปรอบห้องนอนอยู่หลายรอบ
“ไอ้...บ้า...ฉัน...จะ...ตาย...แล้ว…”
เสียงของชายคนนั้นไม่เยือกเย็นเหมือนเช่นปกติ เหงื่อบนร่างกายของเขาไหลไปตามหุบเขาอันมีเสน่ห์ของเป้ยฉ่ายเวย ลมหายใจอันหนักหน่วง “คนดี อย่าออกแรงเยอะ ทำตัวสบายๆ”
กินอย่างตะกละตะกลาม เขาจะทำให้เธอคลั่งจนเป็นบ้าอยู่แล้ว
เวลาแบบนี้จะให้ทำตัวสบายๆได้ที่ไหน เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกมีความสุขอยู่สักพัก ร่างกายเธอก็เกร็งขึ้นและชักกระตุกโดยไม่รู้ตัว
สูดลมหายใจเย็นๆจากผู้ชาย จากนั้นก็มีการะโจมตีที่รุนแรงบุกเข้ามา “เป้ยฉ่ายเวย คุณคือนางฟ้า”
เขาจู่โจมไม่ยั้ง
เป้ยฉ่ายเวยอยากปฏิเสธ แต่เมื่อเปิดปากออกมาก็กลายเป็นเสียงครวญคราง เธอรีบหุบปากอย่างรวดเร็ว จะจ้องไปที่ชายที่อุ้มเธออยู่ด้วยความเจ็บใจ
ใครเป็นนางฟ้า เธอไม่ได้ทำอะไรเลยสักหน่อย เหอเหอ เอวที่น่าสมเพชของเธอกำลังจะพังแล้ว
มีเพียงเสียงกลองแห่งความรักดังกึกก้องในห้องอันเงียบสงบ
เป้ยฉ่ายเวยหมดแรงอยู่ในอ้อมแขนของฉูเจ๋อหยาง เขาพลิกตัวเธอไปมาก่อนที่จะเป็นลมเป้ยฉ่ายเวยเห็นความอ่อนโยนที่อยู่ลึกลงไปในสายตาของฉูเจ๋อหยาง เธอคงจะตาฝาดไปฉูเจ๋อหยางจะมีสายตาอ่อนโยนเช่นนี้ได้อย่างไร….ฉูเจ๋อหยางจ้องมองหญิงสาวซึ่งสลบไม่รู้สึกตัวท่ามกลางแสงสลัว เขาได้แต่รีบจบ และอุ้มเธอกลับไปยังห้องน้ำ เขาวิ่งพล่าน เช็ดตัวคนให้สะอาด และวางกลับลงบนเตียงทุกครั้งล้วนพลาดช่วงเวลาสำคัญ ดูเหมือนว่าจะต้องออกกำลังกายเป็นประจำแล้วนะความบ้าคลั่งในตอนหัวค่ำ นั่นเป็นเหตุให้เป้ยฉ่ายเวยนอนสลบไสลไปจนถึงบ่ายวันรุ่งขึ้น ตำแหน่งด้านข้างนั้นยังคงว่างเปล่าเป้ยฉ่ายเวยไม่อยากขยับแม้เพียงปลายนิ้ว ร่างเธอถูกห่อไว้ด้วยผ้านวมบางๆ ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหนฉูเจ๋อหยางรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของฉูเจ๋อหยางก็มักจะสะท้อนอยู่รอบตัวเธอเสมอทำให้เธอหนีไม่พ้นเมื่อนึกถึงฉากอันร้อนแรงเมื่อวาน เป้ยฉ่ายเวยก็โอดโอยอยู่ครู่หนึ่ง ทำไมเธอถึงได้อ่อนนักถึงคิดว่าฉูเจ๋อหยางไม่ได้โกรธเขาวางแผนไว้แต่แรกแน่นอน!!ทุกครั้งเลยที่หนีแผนการของฉูเจ๋อหยางไม่พ้น สำหรับเป้ยฉ่ายเวยตอนนี้ดูเหมือนกับเหาที่รังแต่จะคันมากยิ่งขึ้น หนี้สินยิ่งอินุงตุงนังเข้าไปอีก กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว จะแก้ตัวก็คงไม่มีความหมาย
copy right hot novel pub