ตอนที่28 เลี้ยงข้าว
ยังดีที่หลี่จื่อเชียนจองห้องไว้ก่อนคนเข้าไปเยอะขนาดนี้ก็ยังดูไม่อัดมากไป
พอสั่งอาหารเสร็จบนโต๊ะทุกคนก็ต่างมองหน้ากันว่าจะให้ใครเปิดปากพูดก่อนสุดท้ายทุกคนก็หันหน้าไปมองเสี่ยวซงกันหมด
เสี่ยวซงขมวดคิ้วอย่างไม่มีความสุขทำหน้าแบบฉันอีกแล้วหรอแต่พอเห็นสายตาคนอื่นที่มองอย่างมั่นคงก็รู้ว่าไม่เปิดปากไม่ได้แล้ว
“คุณหลี่ยังไม่รู้เลยนะคะว่าคุณทำงานที่ไหน”
เป้ยฉ่ายเวยยกคิ้วแล้วมองสี่ห้าตาที่เอาแต่มองหลี่จื่อเชียนก็รู้สึกคนพวกนี้ดูตื่นเต้นมากกว่าการกินข้าวหรือว่าคนพวกนี้มีความลับอะไร
เสี่ยวซงทำเป็นมองไม่เห็นสายตาที่สงสัยของเป้ยฉ่ายเวย เธอไม่รู้อะไรสักอย่างเป็นเพียงหญ้าน้อยที่ไร้เดียงสาอือแค่ลมพัดก็ปลิวไปได้
แต่หลี่จื่อเชียนแค่ถามก็ตอบ “ฉันพึ่งกลับมาจากเมืองนอกไม่นานแล้วทำงานธุรกิจในบ้าน”
เสียงคุยซุบซิบ
“ยังหนุ่มอยู่ก็มีความสำเร็จ”
“ธุรกิจในบ้าน”
“แถมยังเคยไปเมืองนอกอีก”
“อนาคตมีโอกาสอีกเยอะแยะ......”
แล้วมีคนเปิดปากถามต่อ “คุณหลี่พึ่งกลับมาไม่รู้ว่าจะอยู่ชินหรือเปล่าถ้าอยู่คนเดียวแล้วเบื่อก็มาหาพี่เป้ยพวกเราได้นะ”
“ถ้าฉันมีเวลาก็จะไปหาเวยเวยเองถึงแม้พึ่งกลับมาจากเมืองนอกแต่ก็ยังมีเพื่อนที่เล่นด้วยกันบ่อยๆอยู่”
ปลาหาปลา กุ้งหากุ้ง คนไม่ดีก็ต้องหาอึ่งอ่างถึงแม้การเปรียบเปรยนี้ไม่ค่อยเหมาะสมกับหลี่จื่อเชียนแต่ในนั้นนอกจากเป้ยฉ่ายเวยผู้หญิงคนอื่นตาสว่างกันหมด
“เพื่อนของคุณหลี่คงจะเหมือนคุณหลี่ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังหนุ่มอยู่สินะส่วนใหญ่ก็มัวแต่ยุ่งเรื่องงานไม่รู้ว่าคุณมารู้จักพี่เป้ยพวกเราได้ยังไงคะ”
“พรหมลิขิตเป็นของที่แปลกดีนะถ้าฉันได้รู้จักผู้ชายดีๆแบบคุณหลี่คงจะยิ้มแม้แต่อยู่ในฝันนะคะ”
คำถามอ้อมมาไปอ้อมมาแต่เป้าหมายก็ชัดเจนดีคุยมาหลายประโยคหลี่จื่อเชียนก็รู้ว่าคนพวกนี้ต้องการอะไรก็ยิ้มอ่อนแล้วตอบเขาอย่างมีความอดทน “เพื่อนฉันส่วนใหญ่ก็ยังโสดอยู่แต่ว่านิสัยขี้เล่นไปหน่อยผู้หญิงที่ชอบพวกเขาก็คงจะลำบากหน่อยนะ”
ชะงักไปสักแป๊บสาบตาที่อบอุ่นของหลี่จื่อเชียนมองไปที่เป้ยฉ่ายเวย “ฉันกับเวยเวยเคยเรียนโรงเรียนเดียวกันตั้งแต่ที่ฉันเห็นเธอครั้งแรกฉันก็ชอบเธอแล้วและฉันก็รู้สึกดีใจที่ตัวเองรอจนได้เธอ”
ใบหน้าเป้ยฉ่ายเวยแดงเธอไม่คิดว่าหลี่จื่อเชียนจะมาบอกรักเธอต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ทำเอาผู้หญิงหลายคนหลงใหลไปอีกเธอก็อึดอัดนะเลยต้องทำเป็นถือแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม
“โคตรโรแมนติกเลยถือว่าเป็นรักใสในวัยเรียนสินะ”
“แต่ว่าพี่เป้ยนี่โคตรไม่สนุกเลยแอบซ่อนไว้นานขนาดนี้ทุกครั้งที่ถามว่ามีแฟนหรือเปล่าก็ไม่ค่อยตอบมีพิรุธนะ”
“ก็เข้าใจนะถ้าฉันมีแฟนดีขนาดนี้พอมาเจอผู้หญิงที่เหมือนหมาป่าเหมือนเสืออย่างพวกเธอก็จะซ่อนไว้”
คำพูดของผู้หญิงคนนี้ทำเอาทุกคนในนั้นหัวเราะกันหมด
มีแต่เสี่ยวซงที่ทำหน้างงแล้วพูด “แต่ว่าผู้ชายที่มารับพี่เป้ยครั้งทีแล้วมองจากแผ่นหลังมันไม่ค่อยเหมือนคุณหลี่......”
อยู่ๆรอบตัวก็เงียบไปหมดเสี่ยวซงรู้สึกได้ถึงตัวเองพูดผิดคำเลยยิ้มแห้งๆแล้วบอก “อันนั้นอะไรนะตอนฉันเห็นมีนเป็นตอนกลางคืนอาจจะเพราะมันมืดไปฉันดูผิดก็ได้”
ทีแรกเธอก็อยากรู้ว่าแฟนของพี่เป้ยเป็นใครแต่เพราะกลางคืนเอาแต่ซีรี่ย์แป๊บเดียวก็ลืมเรื่องนี้ไปถ้าไม่ใช่เพราะที่พูดขึ้นวันนี้เธอก็จำไม่ได้แล้วว่าเคยมีเรื่องนี้
เป้ยฉ่ายเวยตกใจไม่คิดว่าเสี่ยวซงจะเห็นที่ฉูเจ๋อหยางมารับตัวเองยังดีที่ไม่เห็นหน้าตรงถ้าหนานฉิงมาหาเธอแล้วได้ยินคงงานเข้าแล้วแหละ
“เสี่ยวซงนี่สายตาเธอเริ่มสั้นขึ้นเรื่อยไปหรือเปล่าเนี่ยจะไปตัดแว่นไหมแค่นี้ก็ดูผิด”
มีคนเห็นบรรยากาศเริ่มอึดอัดก็รีบพูด “ว่างั้นแหละสายตาไม่ดีจนดูพี่เป้ยผิดคนอีก”
“ก็คงจะแบบนั้นแหละวันนั้นฉันดูซีรี่ย์จนหลับดึกขนาดตายังเปิดไม่ค่อยได้” เสี่ยวซงทำเป็นพูดต่อเขาแต่ในใจเธอรู้ว่าที่เห็นในวันนั้นไม่ใช่คุณหลี่แน่นอนและต้องยืนยันด้วย
ว่าสายตาเธอเป็น5.0
หลี่จื่อเชียนก็รู้ว่าผู้ชายปริศนาในปากเสี่ยวซงนั้นไม่ใช่ตัวเองเขากับเวยเวยพึ่งคบได้ไม่กี่วันและคงจะไม่จอดรถห่างรอให้เวยเวยเดินมาหาในใจก็แอบคิดว่าผู้ชายปริศนานี้เป็นใครในใจเขาก็พอจะรู้
แต่ว่าเวยเวยไม่อยากมีอะไรเกี่ยวข้องกับคนนั้น เขาก็ทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วกัน
พอดีกับที่พนักงานมาเสริฟอาหารพอดีเลยผ่านพ้นไปได้และหลี่จื่อเชียนก็เป็นพวกที่ฉลาดแป๊บเดียวก็เปลี่ยนจุดสนใจของคนอื่นบวกกับที่ทุกคนปกติก็ไม่ค่อยมีโอกาสมาที่หรูแบบนี้ก็โดนอาหารบนโต๊ะดึงดูดความสนใจไปหมด
เป้ยฉ่ายเวยแค่ตอบบ้างบางคำแล้วกินไม่กี่คำให้ดูมีมารยาทจากนั้นก็ฟังคนอื่นคุยกันตลอด
ถึงแม้หลี่จื่อเชียนจะตอบคำถามคนอื่นอยู่แต่ความสนใจทั้งหมดอยู่ที่เป้ยฉ่าน้วยคนเดียวเห็นเธอไม่ได้กินอะไรเยอะก็ถาม “เวยเวยเป็นอะไรหรือเปล่าอาหารพวกนี้ไม่ถูกปาก?”
“ไม่ใช่ฉันกินเยอะแล้ว” เป้ยฉ่ายเวยเขย่าหัวแล้วมองตามสายตาของหลี่จื่อเชียนที่มองถ้วยตัวเองที่ยังสะอาดอยู่ไม่เหมือนที่ตัวเองพูดออกมาสักนิดว่า ‘กินเยอะแล้ว’
ทั้งตัวก็ดูไม่ธรรมชาติ “เออคือฉันกินอิ่มแล้วจริงๆ”
“อือ” หลี่จื่อเชียนก็ไม่ได้บังคับให้เธอกินต่อ
มื้อนี้จบโดยที่เป้ยฉ่ายเวยยังคิดกังวลเรื่องอื่นอยู่หลี่จื่อเชียนขับรถไปส่งเธอที่คอนโดก่อนลงรถเขาเรียกเธอ “เวยเวยเมื่อกี้เธอมีอะไรจะบอกฉัน”
มือเป้ยฉ่ายเวยที่จะเปิดประตูก็ชะงักมันผ่านโอกาสเวลาที่จะคุยไปแล้วและเธอไม่มีความกล้าที่จะพูดมันออกมาและตอบไป “ไม่มีอะไรก็แค่เรื่องเล็กน้อยดึกแล้ว จื่อเชียนเธอขับรถระวังหน่อยนะ”“ดึกขนาดนี้แล้วจะให้ฉันขึ้นไปเป็นเพื่อนไหม” หลี่จื่อเชียนเห็นเป้ยฉ่ายเวยที่แอบตกใจก็ยิ้มแล้วอธิบาย “อย่าเข้าใจผิดนะ ฉันก็แค่ไม่ไว้ใจให้เธอไปคนเดียว”“ฉันรู้แต่จื่อเชียนคุณไว้ใจได้เพราะระบบที่นี่มันปลอดภัยดีไม่ต้องรบกวนเธอก็ได้”เป้ยฉ่ายเวยก็รู้ว่าหลี่จื่อเชียนไม่ใช่คนแบบนั้นหลายวันก่อนเพราะความชั่ววูบของตัวเองเลยย้ายไปอยู่กับเขาเธอก็นอนในห้องนอนรับแขกหลังจากนั้นเพราะมีเรื่องส่วนตัวเธอรู้สึกไม่สะดวกเลยย้ายออกมาต่อ“อือ” หลี่จื่อเชียนพยักหน้าเขาอยากเป็น ‘คนแบบนั้น’ ในปากเธอมากกว่าแต่เขาก็ไม่อยากไปเร่งเธออยากให้เธอยอมรับเขาไปช้าๆดีกว่าเป้ยฉ่ายเวยลงจากรถก็มองรถหลี่จื่อเชียนที่หายไปในประตูใหญ่แล้วค่อยหันหลังเดินเข้าไปกลางคืนที่ฟ้ามืดมีแค่ไฟสีเหลืองข้างทางมาส่องทางเดินส่วนใหญ่ก็เป็นที่มือหมดยื่นมือออกไปไม่เห็นห้านิ้วของตัวเองบวกกับกลางคืนมีแต่เป้ยฉ่ายเวยคนเดียวบรรยากาศดูตื่นเต้นขึ้นมาทันทีถ้ารู้แบบนี้ตั้งแต่แรกคงให้จื่อเชียนมาเป็นเพื่อนเป้ยฉ่ายเวยรู้สึกข้างหลังมีสายตาคู่ไม่หวังดีที่มองตามตัวเองอยู่ก็เริ่มเดินเร็วขึ้นใจก็ระแวงขึ้นมานี่เธอก็คงไม่ซวยขนาดนี้หรอกมั้งพึ่งบอกจื่อเชียนว่าที่นี่ปลอดภัยดีก็มาเจอคนไม่ดีเข้า
copy right hot novel pub