โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

ตอนที่40 เธอเป็นควีนที่ใจร้าย

ตอนที่40 เธอเป็นควีนที่ใจร้าย

ร่างสูงของหลี่จื่อเชียนนั่งอยู่ในรถสายตามองไปที่คอนโคเธอยังไม่ยอมให้เขาเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวเธออีกหรอ

เป้ยฉ่ายเวยถือกระโปรงตัวเองลงบันไดก็เห็นหลี่จื่อเชียนยืนอยู่หน้ารถตอนเห็นเธอดวงตาก็สว่างขึ้นจากนั้นก็ชม “เวยเวยวันนี้เธอสวยมากเลย”

“ขอบคุณ” เป้ยฉ่ายเวยตอบอย่างหน้าแดงเธอไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองสวยขนาดไหนก็แค่แต่งหน้าเบาๆก็ถือแค่ว่าหลี่จื่อเชียนพูดไปงั้นๆ

ในใจหลี่จื่อเชียนรู้ดีว่าเขาไม่ได้พูดไปงั้นๆชุดราตรีสีดำราวกับตัดมาเพื่อให้เธอใส่โดยเฉพาะทำให้ผิดสีขาวของเธอดูเด่นชัดขึ้น

และไหปลาร้าที่ทำให้คนหลงใหลบวกกับหุ่นที่รัดรูปของเธอ

ข้างหน้าก็ดูเหมือนเป็นชุดราตรีปกติแต่ดูจากด้านหลังก็รู้จุดประสงค์ของดีไซเนอร์เลยเพราะแผ่นหลังที่สวยของเป้ยฉ่ายเวยเผยให้เห็นเป็นครึ่ง

“ถ้าได้ฉันไม่อยากให้เธอไปงานเลยอยากเก็บซ่อนไว้ดูในบ้านคนเดียว”

“จื่อเชียนไม่คิดว่าคุณจะพูดเก่งขนาดนี้นะ” เป้ยฉ่ายเวยโดนสายตามี่เร้าร้อนของหลี่จื่อเชียนจ้องจนเริ่มอาย ชุดนี้เธอไม่เคยใส่บวกกับเธอก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องงานแบบนี้เลยไม่ได้ส่องกระจก

ไม่รู้ว่าตอนตัวเองยิ้มมันสวยขนาดไหน

แต่ว่าก็ตอบตกลงไปแล้วจะให้เบี้ยวนัดก็ไม่ได้

หลี่จื่อเชียนสตาร์ทรถแล้วขับไปที่โรงแรมตี้หาว

เป็นที่ที่คนชนชั้นสูงชอบไปกันราวกับมาที่แพงหรูแบบนี้ถานะก็จะสูงกว่าคนอื่นอีกหนึ่งระดับ

พอพวกเธอมาถึงตรงนี้ข้างนอกก็มีแต่รถคันหรูจอดเต็มไปหมดคนพวกมีหน้ามีตาในสังคมและมีคาราชื่อเสียงดังก็มา

นักข่าวก็รออยาข้างนอกเพื่อหาหัวข่าววันที่สอง

เป้ยฉ่ายเวยควงแขนหลี่จิ่เชียนเดินเข้าไปในงานข้างในก็เป็นอีกแบบบานแก้วที่มีความประณีตอย่างสวยสอดส่องไปทั่วงานเป็นงานเลี้ยงแบบบุฟเฟต์ทุกคนเดินผ่านไปมาๆ

ดูบรรยากาศก็เป็นมิตรดี

เป้ยฉ่ายเวยเห็นมีหลายคนเข้ามาทักทายหลี่จื่อเชียนก็รู้ว่าหลี่จื่อเชียนก็ถือว่ามีชื่อเสียงในเมืองนี้

หนานฉิงมาตบหลังเป้ยฉ่ายเวย “เวยเวยพวกเธอมาแล้วหรอเมื่อกี้ฉันเกือบจำเธอไม่ได้”

เป้ยฉ่าน้วยหันไปมองหนานฉิงแล้วยิ้มตอบ “หนานฉิงคืนนี้เธอสวยสุดแล้ว”

ในคงามเป็นจริงในคืนนี้หาคนที่แต่งตัวสวยเหมือนหนานฉิงไม่เจอแล้วจริงๆชุดราตรีสีชมพูแบบเกาะอกบวกกับกระโปรงที่บานลงมาและจุดประกายมาตกแต่งยิ่งมีแสงสะท้อนจากแก้วก็ยิ่งทำให้ดูเด่น

บวกกับเธอสวยอยู่แล้วและแต่งหน้าแนวหวานแหววราวกับเจ้าหญิงในนิทาน

และเจ้าชายของเธอก็ยืนอยู่ข้างเธอใส่สูทสีดำล้วนใส่ในตัวเขายิ่งทำให้ดูมีเกียรติและยางเย็นชา

ราวกับนอกจากหนานฉิงที่อยู่ข้างๆในสายตาไม่มีคนอื่นแล้ว

ในสายตาคนอื่นพวกเขาถือว่าเป็นคู่นักที่หน้าตาดีและเหมาะสมกันมาก.......

เป้ยฉ่ายเวยอดที่จะมองตัวเองไม่ได้ใส่ดำทั้งชุดเหมือนเป็นนางร้ายในนิทานยิ่งทำให้ดูเหมือนประชด

“เวยเวนเธอนี่ตาถึงจริงๆ”

หนานฉิงก็รู้สึกว่าที่ตัวเองตางตัวมาในวันนี้มันสำเร็จมากๆถึงแม้เวยเวยจะสวยแบบเซ็กซี่และเท่าที่เธอรู้อาเจ๋อเหมือนชอบผู้หญิงหวานแหววมากกว่า

แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นสายตาของฉูเจ๋อหยางสักคน

“อือ” เป้ยฉ่ายเวยตอบกลับไปพร้อมยิ้ม

ถ้าบอกว่าหนานฉิงคือกุหลาบที่ถูกเลี้ยงมาดีงั้นเป้ยฉ่ายเวยก็เหมือนเป็นดอกลิลลี่ที่รอคนมารับเลี้ยง

เป็นคนละแนวแต่มีเสน่ห์ของตัวเอง

ผู้ชายหลายคนอึ้งกันไปหมด

แต่มีสายตาเย็นชามองไปผู้ชายหลายคนก็ตัวสั่นเลยจำเป็นต้องเก็บสายตา

ก็แค่มองเนื้อก็ไม่ได้หายสักหน่อยขี้เหนียวจังแต่ถ้าผู้หญิงของเขาดึงดูดคนอื่นแบบนี้พวกเขาก็อาจจะทำแบบนั้น

“เวยเวนเดียวมีเต้นอีกพวกเธอห้ามพลาดนะ” เพื่องานคืนนี้หนานฉิงเชิญครูมาสอนเด้นด้วย เพื่ออยากเป็นจุดเด่นในงานวันนี้

และแน่นอนว่าอยากดึงดูดความสนใจจากผู้ชายข้างๆมากที่สุด

“ฉันเต้นไม่ค่อยเป็น” เป้ยฉ่ายเวยพูด

ฉูเจ๋อหยางยกคิ้ว โกหก เขาจำได้ว่าเมื่อก่อนเขามาเธอมางานแบบนี้เธอเต้นได้ดีมากดีจนทำให้เขาตกใจ

เป้ยฉ่ายเวยไม่หันไปก็รู้สึกได้ถึงสายตาของฉูเจ๋อหยางคนอื่นไม่รู้แต่ฉูเจ๋อหยางรู้แต่ว่าคืนนี้เธอไม่อยากเต้น

“ฉันจำได้ว่าตอนเรียนมหาวิทยาลัยเธอเต้นเป็นอยู่ไม่ใช่หรือไง?” หนานฉิงพูดข้างๆอย่างน่าเสียดาย

“เวยเวยอย่ากลัวคืนนี้มีฉันอยู่ ฉันสอนให้” หลี่จื่อเชียนเขื่อสกิลการเต้นของตัวเองถ้าเวยเวยเป็นนิดหน่อยเขสก็พอเป็นผู้นำเต้นได้

“จื่อเชียนฉัน......” เป้ยฉ่ายเวยจะหาข้ออ้างให้ตัวเองอีกแล้ว

ฉูเต๋อหยางที่ไม่พูดอะไรเลยอยู่ๆก็พูดขึ้นมา “คุณหลี่มีความมั่นใจขนาดนี้คุณเป้ยจะปฏิเสธทำไมล่ะครับอีกอย่างคนเยอะขนาดนี้คงไม่มีใครสนใจข้อผิดพลาดเล็กน้อยของคุณหรอก”

เป้ยฉ่ายเวยได้ยินที่ฉูเจ๋อหยางบอกตอนสุดท้ายว่า ‘ข้อผิดพลาดเล็กน้อย’ เหมือนมีอะไร

ฟังผิด ต้องฟังผิดไปแล้วแน่ๆ

ผู้ชายคนนี้อยู่ๆมาพูดแบบนี้มันคงไม่หวังดีแน่ตกลงไม่ได้

แต่เห็นสายตาของหลี่จื่อเชียน เป้ยฉ่ายเวยไม่อยากตกลงก็ไม่ได้เลยต้องยิ้มแล้วบอก “ก็ได้”

ในใจเธอมันปฏิเสธและน้ำตาอยากจะไหล

ที่ไม่ไกลมีสายตาคู่หนึ่งมองมาหนานฉิงรีบยิ้มกลับแล้วไปควงแขนฉูเจ๋อหยางแล้วพูดกับเป้ยฉ่ายเวย “เวยเวยเดียวค่อยคุยนะพ่อแม่ฉันเรียกไปหา”พูดจบก็มองผู้ชายข้างๆการเขินอายของผู้หญิงบ่งบอกได้ว่าพวกเขาถึงขั้นที่ไปเจอผู้ใหญ่กันแล้วเป้ยฉ่ายเวยมองฉูเจ๋อหยางที่ไม่มีท่าทีอะไรเลยเวลาแบบนี้เขาดูเหมือนห่างไกลเข้าใกล้ไม่ได้ “อือพวกเธอรีบไปสิอยากให้คุณลุงคุณน้ารอนานล่ะ”หวังว่าฉูเจ๋อหยางจะลืมความทรงจำน่าอายพวกนั้นได้ไม่อย่างงั้น......“เวยเวยเธออยากดื่มอะไรไหม” หลี่จื่อเชียนถามเป้ยฉ่ายเวยไม่ได้ปฏิเสธแล้วตอบ “เอาน้ำผลไม้ให้ฉันก็พอ”“ได้เธอรอฉันตรงนี้แป๊บนึงนะ” หลี่จื่อเชียนออกมาจากเป้ยฉ่ายเวยเป้ยฉ่ายเวยพยักหน้าแต่สายตากลับมองไปที่ฉูเจ๋อหยางและหนานฉิงแถมยังมีพ่อแม่ที่ใจดีและหนานฉิงถือเป็นลูกสาวคนเดียวในตระกูลหนานตั้งแต่เด็กก็มีแต่คนรักคนหวงขนาดพ่อหนานที่ว่าโหดยังยิ้มแย้มกับบูกสาวตัวเองและยังมีแม่ที่ทางบ้านฐานะดีนิสัยหนานฉิงขี้โอ้อวดก็พอจะเข้าใจมองไปไกลๆมันช่างเป็นภาพที่เหมาะสมเหลือเกินผู้แต่งกำลังแต่งอยู่ โปรดอดใจรอสักพัก

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์