บทที่425 ไอคิวไม่ถึง
ฉูเจ๋อหยางยังคงทำท่าทางเหนือ นั่งยกขาไขว้ห้างบนโซฟา พูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม : “ใช่ไหม? งั้นผมก็จะรอคอยด้วยความคาดหวังและกระตือรือร้น เป้ยฉ่ายเวย ให้ผมได้เห็นว่าคุณมีความสามารถมากเท่าไร!”
สายตาที่มองด้วยหางตาและน้ำเสียงที่เหน็บแนบเยาะหยัน เป้ยฉ่ายเวยใบหน้าเย็นชา ปิดวิดีโอคอล
เธอบ้าไปแล้วที่คิดว่าจะคุยกับเขาดีดี
ถูกฉูเจ๋อหยางกระตุ้นจิตวิญญาณการต่อสู้ เป้ยฉ่ายเวยรีบลุกเปลี่ยนเสื้อผ้า
ฟ้องร้องคดีจะไม่มีทนายได้ยังไง?
งานทนายของฉูเจ๋อหยางนั้นมีชื่อเสียงมาก ชื่อเสียงของตัวเขาก็กว้างไกลมาก แต่ว่าเธอก็ไม่เชื่อ ว่าเมืองที่พัฒนาอย่างเมืองจิ่นอัน จะหาคนที่สองที่มีฝีมือพอพอกันกับฉูเจ๋อหยางไม่ได้
ฉูเจ๋อหยางมองหน้าจอที่เป็นสีดำอย่างฉับพลัน คิ้วที่สมาร์ตเลิกขึ้น ตกตะลึงไปครึ่งวินาที หลังจากนั้นมุมปากทั้งสองข้างก็ค่อยค่อยยกขึ้น
ที่แท้ก็เป็นสาวน้อยที่ไม่ได้กระตุ้น ไม่รู้จริงๆ ว่าไม่มีสมองหรือว่าไอคิวไม่ถึงกันแน่
เจอะเจอะ!
เขารอที่จะปิดอินเทอร์เน็ต
“รุ่ยรุ่ย อร่อยไหม ตอนนี้พวกเราจะไปตรวจร่างกายกันแล้ว”
รุ่ยรุ่ยเสียงไม่เบาไม่หนักตอบปากรับคำ
ถนนที่พารุ่ยรุ่ยไปตรวจสุขภาพ มีถนนก้อนหินกรวดขนาดปานกลางที่ใช้เดินเป็นพิเศษ รุ่ยรุ่ยเดินอยู่ด้านบน ขาเล็กๆ ไม่มั่นคง มีเอียงเล็กน้อย
ฉูเจ๋อหยางยืนมือไปจับมือเล็กๆ ของเขา รุ่ยรุ่ยทำเสียงไม่พอใจ รู้สึกตัวหดมือเข้ามา
ฉูเจ๋อหยางยืนนิ่ง: “เด็กอารมณ์ฉุนเฉียว?”
“เปล่า! รุ่ยรุ่ยเดินเองได้” รุ่ยรุ่ยนิ่งเงียบไปแป๊บหนึ่งแล้วพูด
หลังจากนั้นก้าวขาเล็กๆ กวัดแกว่งเพื่อเร่งความเร็ว
หลังศีรษะสีดำดำหันเข้าหาฉูเจ๋อหยาง ทำให้เขารู้สึกตลก
สาวเท้าสองข้างตามเขาไป ฉูเจ๋อหยางเข้าไปดึงคอเสื้อของเขาขึ้นโดยตรง
“ปล่อย……ปล่อยผม……พ่อ……” ความรู้สึกที่ถูกลอยสูงขึ้น (ไปในอากาศ) นั้นไม่สบาย รุ่ยรุ่ยถีบขา ร้อง
ฉูเจ๋อหยางปล่อยทิ้งไว้แล้วพูด : “ลูกบอกพ่อก่อนว่าโกรธอะไร”
รุ่ยรุ่ยปิดปากแน่นสนิท หน้าบึ้งตึง ก็ทำท่าขรึมไม่พูดตลอดทาง
ทำอย่างนี้ เริ่มทำให้ฉูเจ๋อหยางรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
คิดไปคิดมา เด็กน้อยยังยากที่จะง้อเหรอ?
ถึงแม้ลูกชายบ้านเขาจะไม่เหมือนเด็กคนอื่น
วางคนลง ฉูเจ๋อหยางย่อตัวลงนั่งยองๆ ปรับอารมณ์กับรุ่ยรุ่ย มองตา: “บอกพ่อ ว่าคิดอะไรอยู่กันแน่? อย่าใช้มุกแบบที่หลอกย่ามาใช้กับพ่อ”
เด็กน้อยตื่นมาตอนเช้าคาดไม่ถึงว่าอยู่ที่ไหนพูดกับคุณนายฉู ทั้งแกล้งทำเป็นเด็กดี ทั้งคิดถึงแม่ ทั้งพ่อไม่ดีอะไรประมาณนั้น ทำเอาคุณนายฉูถลึงตาใส่เขาหลายรอบ
รุ่ยรุ่ยมุ่ยปาก ตอนนี้ก็ไม่ปิดบังอารมณ์แล้ว ดวงตาน้อยแดงขึ้นมาทันใด ถลึงตาต่อว่าฉูเจ๋อหยาง: “พ่อจะแต่งงานกับยัยแม่มดนามสกุลหนานคนนั้นใช่ไหม?”
ฉูเจ๋อหยางขมวดคิ้ว: “รุ่ยรุ่ย เป็นเด็กพูดอย่างนี้ไม่ได้ ถึงจะเกลียดยังไงก็ต้องอบรมสั่งสอน!”
“เหอะ เพราะพ่อจะแต่งงานกับเธอเลยไม่ให้ผมพูด อย่าเอาการอบรมสั่งสอนเด็กมาพูด แม่ผมสอนมาเยอะมากเลยนะ” รุ่ยรุ่ยมองบนใส่เขา ท่าทางปนดูถูก
ฉูเจ๋อหยางถูกโกรธแล้ว แต่ถึงแม้ว่าเด็กน้อยนี้จะหน้าตาเหมือนเขามาก แต่ดวงตาสีดำขาวคู่นั้น ตอนนี้มองเขาอย่ากล่าวโทษและทำท่าทางแข็งแกร่ง มักกลับจะทำให้เขารู้สึกว่าเหมือนเป้ยฉ่ายเวยมาก
ฉูเจ๋อหยางดึงเข้ามาในอ้อมกอดอย่างรวดเร็ว ยกฝ่ามือขึ้นสูงตีลงไปที่ก้นของเขาเบาๆ ตามมาด้วยเสียงตบอันไพเราะ
รุ่ยรุ่ยคิดไม่ถึงว่าจะถูกซุ่มโจมตี จ้องมาเขาด้วยความโกรธแค้น มือทั้งสองรีบจับไปที่ก้น
“พ่อตีผม! ผมจะบอกย่า!” รุ่ยรุ่ยยังรู้เรื่องเข้าใจเหตุผล รู้ว่าคนที่คุมเขาได้มีแค่คุณนายฉู
ฉูเจ๋อหยางเลิกคิ้ว: “พ่อตีลูกเป็นหลักการที่ถูกต้องอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าลูกไม่เชื่อฟัง ครั้งต่อไปจะไม่ตีเบาอย่างนี้แล้ว”
รุ่ยรุ่ยเอียงหัวมองเขาครู่ใหญ่ เมื่อตอนที่เห็นว่าฉูเจ๋อหยางอยากจะพูดต่อ รุ่ยรุ่ยร้องไห้ออกมาทันที
ฉูเจ๋อหยางตกใจมาก รีบพุ่งเข้าไปดู “เป็นอะไร? เป็นลูกผู้ชายร้องไห้ทำไม?”
“ฮือ……” รุ่ยรุ่ยขยี้ตาเบาเบา ร้องไห้อย่างน่าสงสาร ไม่สนใจฉูเจ๋อหยางเลย
ฉูเจ๋อหยางขมวดคิ้ว เขาไม่เคยเห็นรุ่ยรุ่ยร้องไห้ ในตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เด็กน้อยปกติดูเป็นคนฉลาดหลักแหลม พูดจาจัดการชัดเจนแจ่มแจ้ง มีบางครั้งก็ทำให้คนลืมไปเลยว่าเขาแค่สี่ขวบ
ฉะนั้นส่วนใหญ่แล้วฉูเจ๋อหยางไม่ได้มองเขาว่าเป็นเด็กน้อยจริงจริง
เพราะคำพูดที่เขาพูดเมื่อกี้? หรือเป็นเพราะว่าเขาตีไป?
ไม่รอให้ฉูเจ๋อหยางคิดได้ ก็ได้ยินเสียงเท้าเข้ามาจากด้านหลัง หลังจากนั้นแม่ที่บางครั้งก็ฉลาดหลักแหลมบางครั้งก็ตลกของเขาไอ๊หยาไอ๊หยาวิ่งมาจากด้านหลัง
“รุ่ยรุ่ยอา ไอ๊โย๊แก้วตาดวงใจของย่าอา ทำไมร้องไห้ได้น่าสงสารขนาดนี้ ใครรังแกหนู? อย่าร้องก่อนนะลูก” คุณนายฉูกอดรุ่ยรุ่ยอย่างรักสุดหัวใจ
รุ่ยรุ่ยทั้งร้องไห้ไปด้วยและพูดไปด้วย : “……พ่อตีผม……พ่อจะแต่งงานกับผู้หญิงนิสัยไม่ดีคนนั้น……ทั้งยังตีผม……ฮือ……”
คุณนายฉูหันกลับไป สายตาเย็นชาเหมือนลูกธนูที่ชี้ไปที่ฉูเจ๋อหยาง “แกพูดเรื่องพวกนี้กับลูกทำไม? โตขนาดนี้แล้วไม่มีสมอง? ถ้าไม่อยากได้รุ่ยรุ่ยฉันจะเอากลับไปเลี้ยงเองที่บ้าน รับประกันว่าหลังจากนี้แกจะไม่ได้เห็นหน้าแน่นอน!”
ฉูเจ๋อหยางประคองพูด: “แม่ ผมแค่ตีเบาเบา อีกทั้ง……”“อะไรเรียกว่าตีเบาเบา? รุ่ยรุ่ยเป็นเด็กที่รู้เรื่อง ถ้าไม่เจ็บมากจะร้องไหม? ตัวแกมีแรงเท่าไรในใจไม่รู้เลยเหรอ? ‘ตีเบาเบา’ ของแกสามารถเอาชีวิตลูกได้!” คุณนายฉูไม่รอให้เขาพูดเสร็จ ก็ลุกขึ้นตำหนิต่อว่าเสียงดังฉูเจ๋อหยางก้มหน้าโกรธ เด็กน้อยใช้มือทั้งสองข้างขยี้ขยี้ไปที่ตา ค่อยค่อยเผยให้เห็น ดวงตาสีดำขาวมองที่เขาอย่างชัดเจน มองเห็นได้ว่ารู้สึกยินดีปรีดาในความโชคร้ายของผู้อื่นฉูเจ๋อหยางเข้าใจในทันที ไอ้เด็กนี้จงใจ!“แม่ อย่ามองว่ารุ่ยรุ่ยเหมือนเด็กคนอื่นทั่วไป ไอคิวเขา……” ฉูเจ๋อหยางถอดหายใจ กำลังที่จะอธิบายรุ่ยรุ่ยกอดขาของคุณนายฉูไว้แน่น ร้องไห้ฮือฮือหนักกว่าเดิม : “แม่……รุ่ยรุ่ยจะเอาแม่……พ่อจะแต่งงานกับผู้หญิงไม่ดี……ผู้หญิงไม่ดีคนนั้นทำให้รุ่ยรุ่ยต้องป่วย……ฮือฮือ……แม่……ผมจะเอาแม่……”คุณนายฉูค่อยค่อยลงไปอุ้มรุ่ยรุ่ยขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดอย่างช้าช้า: “โอเคแล้วโอเคแล้ว พ่อเขาพูดเล่นน่ะ เขาไม่แต่งกับผู้หญิงไม่ดีคนนั้นแน่นอน ไม่อย่างงั้นย่าจะไล่เขาออกจากบ้าน ไม่เอาเขาแล้ว ดีไหม?”พูดโอ๋รุ่ยรุ่ย แต่ว่าสายตายังมองไปที่ฉูเจ๋อหยาง พร้อมมีอำนาจคุกคามถึงแม้ลูกชายจะไม่ชัดเจนเหมือนเป้ยฉ่ายเวย แต่ครั้งหนึ่งที่เห็นที่หน้าประตูนั้น ก็เพียงพอที่จะทำให้ความประทับใจต่อหนานฉิงตกลงไปในห้วงลึกผู้หญิงอย่างนี้อย่าพูดว่ารุ่ยรุ่ยไม่ชอบ เธอก็นับว่าไม่ชอบ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฟังที่รุ่ยรุ่ยพูด เธอยังลงมือทำร้ายรุ่ยรุ่ยตั้งหลายครั้งคุณนายฉูรู้สึกว่า เรื่องนี้จำเป็นต้องตรวจสอบให้กระจ่าง ถ้าที่รุ่ยรุ่ยพูดคือความจริง งั้นเธอก็จะให้เธอชดใช้
copy right hot novel pub