โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

ตอนที่ 51 มาผิดเวลา

ตอนที่ 51 มาผิดเวลา

เพราะการปรากฏตัวของพวกเขา เป้ยฉ่ายเวยเลยเอาเล็บสอดเข้าไปในมือ ยิ้มแล้วพูด “หนานฉิง พวกเธอมาทำอะไรกัน”

“ไอหย๊า ฉันไม่วางใจเธอ ก็เลยเรียกอาเจ๋อมาดูเธอ ดูสิฉันดีกับเธอมากแค่ไหนแต่ว่าดูเหมือนจะมาผิดเวลา“

หนานฉิงหันหน้าไปหาผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ “ เธอว่าใช่หรือเปล่า อาเจ๋อ?”

ฉูเจ๋อหยางมองผู้หญิงที่ก้มหน้าไว้อย่างพิรุธ ริมฝีปากที่บางเย็นเหมือนมีด ตอบกลับอย่างเย็นชา “อืม”

ไม่มีใครรู้ว่าในตาเขาที่ประกายด้วยแสงสีดำหมายถึงอะไร แต่ไม่ใช่ลักษณ์ของมีความสุขแน่นอน

“และยังมีหลี่จื่อเชียน นายพูดจาแบบนี้ไม่ให้เกียรติกันเลย อย่างน้อยเวยเวยก็เป็นเพื่อนสนิทฉัน หากทำให้ฉันโกรธ ฉันก็จะให้เวยเวยไม่สนใจนาย” หนานฉิงแกล้งขู่เหมือนไม่พอใจ

“ครับๆ ผมกลัวแล้วครับท่านคุณหนู” หลี่จื่อเชียนก็ให้ความร่วมมือกันมาก

“หนานฉิง พวกเธอมานานยัง” เป้ยฉ่ายเวยลุกขึ้นแล้วถาม เธอไม่รู้ว่าฉูเจ๋อหยางยืนอยู่ตรงหน้าประตูนานหรือยัง และเห็นนานขนาดไหน

ไม่คิดเลยว่าภาพอ่อนแอของเธอจะถูกเขาเห็น

หนานฉิงคิดว่าเป้ยฉ่ายเวยอาย เลยตอบอย่างไม่สนใจว่า “ก็ไม่ได้นานมาก เห็นแค่พวกเธอกอดกันเอง”

ถูกหนานฉิงพูดออกมาตรงๆแบบนี้ หน้าของเป้ยฉ่ายเวยก็อดแก้มแดงไม่ไหว ไม่ใช่ว่าเป็นอะไร แต่แค่รู้สึกอึดอัด

“เวยเวย เธอหน้าแดงแล้วนะ” หนานฉิงพูดออกมาอย่างเลว อย่างกับกลัวคนอื่นเขาไม่รู้

“ไม่ใช่นะ หนานชิงเธออย่าพูดไปมั่ว” เป้ยฉ่ายเวยไม่อธิบายยังดี พออธิบายแล้วก็เหมือนกับเป็นเรื่องจริง

หลี่จื่อเชียนเตือนอยู่ข้างๆ “หนานฉิงถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเพื่อนที่ดีของเวยเวย แต่จะรังแกเธอขนาดนี้ไม่ได้ ตอนนี้เวยเวยก็มีแฟนแล้ว”

“หื้ม เธอมีแฟน อย่าลืมสิฉันก็มีแฟน” หนานฉิงพูดอย่างไม่พอใจ

“อาเจ๋อ ช่วยฉันพูดหน่อยสิ”

“พวกเราไปกันเถอะ อย่ารบกวนคนไข้พักผ่อน” เมื่อฉูเจ๋อหยางพูด ในห้องก็เหมือนกับเย็นลง

จริงๆแดดแรงจนจะเผาของฤดูร้อน แต่กลับเหมือนถมทับใจเป้ยฉ่ายเวยด้วยหิมะ

“ยังดีที่อาเจ๋อคิดได้รอบคอบ ถ้างั้นเวยเวย พวกเราไม่เป็นก้างขวางคอแล้ว” หนานฉิงจะเชื่อฟังฉูเจ๋อหยางตลอด และอีกอย่างเธอก็ชอบที่จะอยู่กับอาเจ๋อสองต่อสองตามลำพัง

“อืม” เป้ยฉ่ายเวยส่ายหัว เห็นเขาจากไปกับตา ตั้งแต่ต้นยังจบไม่ได้แลตามองฉูเจ๋อหยางเลยสักนิด

หนานฉิงอยู่ข้างฉูเจ๋อหยางพูดไม่หยุด ทันใดนั้นได้กลิ่นที่คุ้นเคย “อาเจ๋อ ทำไมฉันได้กลิ่นของโจ๊กทะเลของร้านหลี่จี้”

กลิ่นหอมชวนมองไป หนานฉิงเห็นกล่องข้าวที่สวยงามวางอยู่บนถังขยะ พูดอย่างรู้สึกเสียดายว่า “ว้าว เสียดายจัง โจ๊กที่อร่อยขนาดนี้ก็ไม่เอา”

นั้นเป็นข้าวโจ๊กร้านหลี่จี้ที่ทำสดๆใหม่ๆทุกวัน แถมของมีกำจัด แม้แต่คุณหนูอย่างเธอ ก็ไม่สามารถปฏิเสธร้านหลี่จี้ได้ แต่น่าเสียดายที่ร้านหลี่จี้มีขายเฉพาะตอนเช้า เลยเวลาก็หมด

เธอเลยรู้สึกเสียดาย

ผู้ชายที่ได้ “โจ๊กทะเล” สามคำนั้นสายตายิ่งอยู่ยิ่งน่ากลัว แต่ไม่นานก็ถูกเงาสีดำทับถม เสียงที่เย็นชาพูดขึ้นมา “ถ้าเธอชอบ เราไปกินกันตอนนี้”

“อาเจ๋อนายดีกับฉันมาก งั้นเราไปด้วยกันตอนบ่าย” ในใจหนานฉิงมีความสุขมาก เธอคิดว่าหลังจากเมื่อคืน อาเจ๋อจะออกห่างจากเธอ ไม่คิดเลยว่าเช้านี้เขาจะมาหาเธอเอง

เธอก็ยิ่งมีกำลังใจยึดอาเจ๋อไว้

ในห้องผู้ป่วย

หลี่จื่อเชียนเห็นว่าเป้ยฉ่ายเวยมีความอ่อนเพลีย เลยถามอย่างเป็นห่วง “เวยเวย นอนพักก่อนมั้ย”

“อืม ฉันเริ่มง่วงแล้ว อยากนอนพักสักแปป” เป้ยฉ่ายเวยไม่ได้ปฏิเสธ แต่ทำตามที่เขาพูด

หลี่จื่อเชียนยืนขึ้นแล้วพูด “โอเค เธอพักผ่อนก่อน เดียวดึกๆหน่อยฉันค่อยมาเยี่ยม”

“ค่ะ” เป้ยฉ่ายเวยส่ายหัว ในใจเหมือนมีเรื่องอะไร ไม่ได้สนใจหลี่จื่อเชียนที่เป็นห่วงอยู่

ทุกคนจากไปกันหมด ในห้องเหลือเพียงเธอคนเดียว เป้ยฉ่ายเวยนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยอย่างสงบ ในสมองคิดไรไม่ออก

เธอยังจะต้องทำตามคำขอของฉูเจ๋อหยางอีกสามข้อ หลังจากเหตุการณ์วันนี้ เธอมั่นใจว่าฉูเจ๋อหยางไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆแบบนี้แน่

ไม่ว่าจะยากเพียงใด เธอก็จะทำให้เสร็จเร็วที่สุด

……

ตั้งแต่ที่ขาเป้ยฉ่ายเวยบาดเจ็บ ขอลาเป็นระยะยาว ชีวิตก็สบายขึ้นมา ฉูเจ๋อหยางก็ไม่เคยปรากฏให้เห็น

บางทีที่ได้ยืนชื่อนี้ ส่วนมากก็มาจากหนานฉิง

ทุกวันหลี่จื่อเชียนจะส่งข้าวมาให้เป้ยฉ่ายเวยตรงเวลา เข็นเธอลงไปรับแดด สูดหายใจอากาศที่บริสุทธิ์

ทั้งสองคนใช้ชีวิตอย่างเข้ากันได้ เป้ยฉ่ายเวยอยากจะพูดชัดจนกับหลี่จื่อเชียน แต่หาเวลาที่เหมาะสมไม่ได้ และทุกครั้งที่เธออยากจะพูดอะไร

ก็เหมือนกับรู้ว่าเธอจะพูดอะไร หลี่จื่อเชียนก็จะเปลี่ยนเรื่อง

ครึ่งเดือนผ่านไป เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกตัวเธอกำลังจะขึ้นขนแล้ว สุดท้ายก็ได้ออกจากโรงบาลสักที

และในวันนี้ก็เป็นหลี่จื่อเชียนที่ขับรถมาส่งเป้ยฉ่ายเวย

ทั้งสองนั่งอยู่ในรถ หลี่จื่อเชียนพูดขึ้นมา “เวยเวย เพื่อนเป็นการออกจากโรงบาล คืนนี้เรามากินข้าวฉลองก้นดีมั้ย”

มีเพียงหลี่จื่อเชียนรู้ว่าเมื่อตัวเองพูดเช่นนี้แล้ว จะกังวลใจมากที่แค่ไหนที่กลัวเป้ยฉ่ายเวยจะปฏิเสธ เพราะเธอเตรียมมาเซอร์ไพรส์ที่ใหญ่ให้กับเธอ

“ฉลอง? ไม่ต้องแล้วมั้ง หากจะฉลอง ฉันว่าฉันทำกับข้าวให้ เพื่อเป็นการขอบคุณที่ดูแลฉันมาตลอดครึ่งเดือน ว่าไง” เป้ยฉ่ายเวยคิดสักแปปก็รู้สึกเค

แต่ว่ารบกวนจื่อเชียนมาครึ่งเดือนแล้ว จะทำให้เขาเสียเงินอีกไม่ได้

“เวยเวย เธอเพิ่งออกจากโรงบาลเหนื่อยเยอะไม่ได้ ออกไปกินก็เหมือนกัน คืนนี้ทุ่มหนึ่งฉันมารับ เธอว่าไง” หลี่จื่อเชียนก็อยากกินกับข้าวที่เป้ยฉ่ายเวยทำมาก แต่ว่า “ฉลอง” คืนนี้สำคัญกับเขามาก

กินข้าว รอครั้งหน้ามีโอกาสแล้วค่อยไปกินด้วยกันมั้ยเป้ยฉ่ายเวยคิด ตอนเธอออกจากโรงบาล หมอก็เตือนว่ายืนนานไม่ได้ ยังจะต้องพักผ่อนหลายวัน ทำความคุ้นชิน ช่างเถอะ ก็แค่ข้าวมื้อเดียว เธอเลี้ยงข้าวจะเป็นไรไป“ได้สิ แต่ถ้ากินข้าว ฉันซื้อบิน ห้ามแย่งกับฉัน”หลี่จื่อเชียนได้ยินเป้ยฉ่ายเวยตอบตกลง ยิ้มจรหุบปากไม่ได้ “อืม”มื้อเย็นเขาเตรียมไว้หมดแล้ว แน่นอนเงินก็จ่ายแล้ว เพียงแค่เวยเวยตอบตกลงก็พอหลี่จื้อเชียนรู้สึกตื่นเต้นมากเป้ยฉ่ายเวยไม่รู้ว่าหลี่จื้อเชียนทำไมถึงดีใจขนาดนี้ แค่เพียงข้าวมื้อเดียวไม่ใช่หรอ จำเป็นต้องดีใจขนาดนี้เลยหรอ? แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเธอลาพักครึ่งเดือนโบนัส ประสิทธิภาพงาน เงินเดือน ก็หักจนเธอรู้สึกเริ่มเจ็บใจยิ่งรวมเงินมหาศาลของฉูเจ๋อหยางอีก ชีวิตที่ลำบากของเธอก็ต้องยิ่งกว่าเดิมกลางคืนยังจะต้องเลี้ยงข้าว จื่อเชียนดูแลเธอขนาดนี้ จะติดค้างได้ไง ถึงจะเก็บตังแค่ไหนก็เก็บจากตรงนี้ไม่ได้ ทำได้แค่พยายามทำงานความสุขจากการออกจากโรงบาลไม่ทันไรก็ถูกภาพต่อหน้าทำลายหมด

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์