โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

ตอนที่ 53 คนรู้จักจากกันกลับมาพูดคุยกัน

ตอนที่ 53 คนรู้จักจากกันกลับมาพูดคุยกัน

เป้ยฉ่ายเวยวิ่งออกมาจากห้องอาหารอย่างเร็ว ออกมาจากตึกใหญ่ หาที่พักแล้วนั่งลงไป เหมือนกับหอบสติไม่อยู่กับที่

ที่จริงเป็นเพราะว่าหลี่จื่อเชียนจอเธออย่างงานอย่างไม่ซุกไม่เสียง

เธอยากที่จะเข้าใจการกระทำของหลี่จื้อเชียน ถึงแม้ดูแล้วว่าเธอสองคนจะเป็นแฟนกัน แต่นึกไม่ถึงว่าจะมาถึงจุดที่แต่งงาน?

เสียงโทรศัพท์ในมือสั่นไม่หยุด เตือนเป้ยฉ่ายเวยไว้ ตอนนี้ยังมีคนตามหาเธอ สำหรับสายโทรศัพท์ที่ช่วยเธอนี่ เธอสงสัยว่าใครกันแน่ที่โทรมา

“ฮาโหล......”

“เวยเวย นี่เธอไปสมัครวิ่งมาราธอนหรอ หอบขนาดนี้” ผู้หญิงที่โทรมาก็นิ่งสักครู่ แล้วแกล้ง “หรือว่า เธอกำลังทำเรื่องที่เขินๆอยู่?”

“.....ซือซือ แกอย่าพูดมั่วได้มั้ย ทำไมเปลี่ยนเบอร์อีกแล้ว ฉันไม่รู้เลยว่าเป็นแก” เป้ยฉ่ายเวยได้ยินเสียงเพื่อนรักหยอกล้อ ตอบอย่างทำอะไรไม่ถูก

ผู้หญิงที่ข้าง คือเพื่อนที่เล่นกับเธอตั้งแต่เด็กยันโตอวี๋ซือซือ พูดไปก็ถือว่ามีวาสนาบ้านอวี๋ไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลบ้านหนานเลย แถมยังยิ่งใหญ่กว่าอีก

แต่ว่าคุณท่านตะกูลอวี๋เป็นข้าราชการ เฉลียวฉลาด แม้แต่กับลูกหลานตัวเองก็ใช้ไม้ตีจนเป็นคนกตัญญู และยังพาตังซือซือที่ยังเป็นเด็กส่งไปอยู่ในบนดอย เพื่อฝึกฝนการเอาตัวรอด

หลังจากนั้นก็เป็นเพื่อนกัน จนมอปลายเธอก็กลับมายังบ้านอวี๋ แต่ความสัมพันธ์ทั้งสองดีมาก ไม่เคยขาดการติดต่อสื่อสารกัน

เมื่อทะลุนิติภาวะ เพื่อนรักก็ไม่ฟังคำสั่งสอนของในบ้าน ไม่สนใจว่าครอบครัวจะห้ามยังไง สุดท้ายออกไปสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง ไม่ค่อยได้กลับบ้าน

ตอนเธอท้องรุ่ยรุ่ย ก็รบกวนเธอไม่น้อยเลย นะสัมพันธ์จองทั้งสองเหมือนครอบครัวก็ว่าได้

“มือถือเครื่องนั้นมีปัญหา เปลี่ยนใหม่ก็ปกติไม่ใช่รึ อย่าพูดอันนี้ แกอยู่ไหน ฉันเพิ่งกลับมาโคตรน่าเบื่อ ออกมาเล่นกัน” อวั๋ซือซือก็เปลี่ยนเรื่องกลบเกลื่อนเรื่องเปลี่ยนมือถือไป

“ใช่หรอ ฉันจำได้ว่าแกไม่ได้เปลี่ยนเบอร์นี้มาแปดปีแล้วนะ” เป้ยฉ่ายเวยไม่เชื่อ คนอื่นอาจจะไม่รู้เธอแต่ฉันรู้เธอดี

ดูเหมือนเป็นคนไม่คิดไรมากแต่ที่จริงเป็นคนเก็บความรู้สึก มีผู้ชายคนหนึ่งที่แอบชอบมาสิบห้าปี ก็ถือว่ามีผู้ชายคนหนึ่งที่โตมาด้วยกันแต่ไม่ได้คิดอะไร ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อแปดปีที่แล้วจากกัน เบอร์โทรศัพท์ของซือซือก็ไม่เคยเปลี่ยนอีกเลย

แถมโนเกียที่ผู้ชายคนนั้นให้ก็เก็บจนมาถึงทุกวันนี้

พูดไปก็โคตรน้ำเน่า เธอกับซือซือก็แอบชอบเหมือนกัน แต่ไม่มีใครสำเร็จ

“เวยเวยทำไมแกเดียวนี้เซ้าซี้จัง แกไม่ออกมาก็ช้างเถอะ ฉันวางสายแล้ว” อวี๋ซือซือเหมือนกับจะตัดสาย

เป้ยฉ่ายเวยเหมือนกับฉันกลัวแล้ว แล้วพูด “โอเคๆ คิดสะว่าที่แกช่วยฉัน ฉันรออยู่ที่เดิมนะ”

“ฉันช่วยแก? ทำไมฉันไม่รู้” อวี๋ซือซือถามอย่างประหลาดใจ

“อย่าสนใจเลย ถึงแล้วค่อยว่ากัน” ตอนนี้กลับเป็นเป้ยฉ่ายเวยที่มึนงง

อวี๋ซือซือหัวเราะอย่างมีพิรุธ วางสาย “รับทราบ”

เป้ยฉ่ายเวยเงยหน้าขึ้นมามองตรงที่ไหเฉียนวาน แล้วถอนหายใจ จื่อเชียนต้องโกรธแน่ๆ ที่เธอหนีออกมา แต่เธอก็ไม่มีวิธีอะไรจริงๆ

ช่างเถอะ ไปหาผู้หญิงคนนั้นก่อน

ที่เดิม ... ชวนเจอที่ดีๆ จะต้องดีกว่าคุณปู่KFCแน่นอน

พูดง่ายๆหน่อยก็คือในใจกลางเมืองKFK

เป้ยฉ่ายเวยสั่งน้ำโค๊กแก้วหนึ่งให้กับเพื่อนรัก ตัวเองสั่งเป็นผลไม้ปั่น หามุมที่ที่สงบแล้วนั่งลง รอการปรากฏตัวของเธอ

ใกล้จะสี่สิบนาที มีผู้หญิงหุ่นแซบเดินเข้ามาในร้าน ตลอดทางที่เดินมา ผู้ชายในร้านจ้องมองกันใหญ่เลย

เพศผู้เป็นสัตว์ที่เน้นภาพ ชื่อซือซือแค่ฟังก็เหมือนเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอ แต่นิสัยดันดุเดือดมาก

ยืมคำพูดของเธอเอง ชื่อเธอเป็นอะไรที่แย่มากในชีวิต และเป็นสิงที่คุณปู่รู้สึกผิดที่สุด

ที่จริงอยากได้หลานสาวที่น่ารัก เชื่อฟัง เก่ง อ่อนโยนแต่ดันได้หลานที่ใจกล้าห้าวหาญเหมือนชาย

ฉะนั้นเวลาที่ท่านเจอเป้ยฉ่ายเวยจะรู้สึกดีใจมากเป็นพิเศษ เหมือนกับเธอต่างหักที่เป็นหลานสาวที่ถูกเปลี่ยน

อวี๋ซือซือนั่งตรงหน้าเป้ยฉ่ายเวยอย่างชิวๆ จับแก้วโค๊กขึ้นมาแล้วใช้แรงดูด ต่อด้วยพูดว่า “ยังไงเวยเวยก็ดีกับฉัน ยังสั่งโค๊กให้หนึ่งแก้ว เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว”

ซือซือ ระวังภาพลักษณ์หน่อย” เป้ยฉ่ายเวยสะกิด ไม่รู้หรือไงว่าลูกตาผู้ชายข้างๆจะโผล่ออกมาอยู่แล้ว

อวี๋ซือซือตอบอย่างไม่พอใจ“หื้ม มีไรน่ากลัว แค่พวกที่มีใจเจ้าชู้แต่ไม่กล้าทำ”

ผู้ชายที่อยู่ข้างๆเหมือนจะได้ยินที่อวี๋ซือซือพูด กำลังจะพุ่งมาเจรจา

ก็ได้ยินอวี๋ซือซือพูดขึ้นมาอีกว่า “ไม่ว่ายังไง สิบนักเลงของฉัน ก็ใช่ว่าจะชิงที่หนึ่งของทั่วประเทศอย่างเปล่าๆนะ”

ผู้ชายหวอยเลย กลับไปนั่งที่อย่างง่ายดาย

เป้ยฉ่ายเวยส่ายหัวอย่างไม่อยากจะเชื่อ จะห้ามก็ต้องมีที่มา ถึงแม้ซือซือจะชอบขี้เล่น แต่เธอก็จะจับจังหวะได้ดี รู้ว่าควรหยุดตรงไหน

คู่ดวงตาโต แปร่งประกายคู่นั่นของอวี๋ซือซือได้เกิดถามอย่างตื่นเต้น “เวยเวย แกยังไม่บอกฉันเลย ว่าฉันช่วยแกยังไงอะไร”

“ไม่มีไรหรอก ฉันแค่หยอกแกเล่นๆ” เป้ยฉ่ายเวยจับแก้วที่วางบนโต๊ะขึ้นมาดื่ม เพื่อปกปิด

“เหอะ แกยังจะมาตอแหลฉันอีก หรือว่ามีชู้อะไรที่บอกใครไม่ได้” สายตาพิฆาตของอวี๋ซือซือมองหน้าและตัวเธอ เพื่อหาความผิดปกติ

ไม่สิ ไม่แน่นอน เวยเวยต้องมีอะไรปิดบังเธอแน่ๆ

เป้ยฉ่ายเวยทนกับสายขู่ของอวี๋ซือซือไม่ไหว จึงถอนหายใจ แล้วยอมรับพร้อมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ให้เธอฟัง

“ให้ตายสิ ชายคนนั้นตาถึงจริงๆ พรุ่งนี้ต้องพามานะฉันอยากเห็น” เมื่อได้ยินเพื่อนรักถูกขอแต่งงาน อวี๋ซือซือก็ดีใจมาก เหมือนกับคนถูกขอแต่งเป็นตัวเธอเองเป้ยฉ่ายเวยพูดอย่างอารมณ์ไม่ดี “ซือซือหยุด ฉันเพิ่งจะหนีออกมา ยังไม่รู้เลยว่าจะอธิบายกับเขายังไง เธอหยุดสร้างภาระให้ฉัน”“หืม ในเมื่อมีความมั่นใจที่จะขอแต่งงานขนาด อย่าปล่อยปลาอบว่างๆหล่ะ หากเป็นผู้ชายที่ปล่อยทิ้งงี้ ไม่เอาก็ดี”อวี๋ซือซือก็คุยเล่นๆกับเป้ยฉ่ายเวย เปลี่ยนเรื่องคุย “ใช่แล้ว เวยเวย ลูกชายฉันเป็นไงบ้าง?”พูดถึง “ลูกชาย” บนใบหน้าเป้ยฉ่ายเวยก็มีรอบยิ้มขึ้นมา “ช่วงนี้ร่างกายรุ่ยรุ่ยก็โอเค”อวี๋ซือซือคือคนที่ดูรุ่ยรุ่ยมาแต่เกิด และยังเป็นป้าเขา ความรู้สึกที่มีต่อรุ่ยรุ่ยก็ไม่ธรรมดา ใช้คำพูดตัวเองก็คือ ชาตินี้ฉันไม่แต่งงาน ก็มีรุ่ยรุ่ยแค่ลูกคนเดียว ก็ต้องรักจากใจสิ“เด็กน้องของฉันป่วยเป็นไงบ้าง เธอก็จำใจยอมเอาลูกให้ยายสักจริง” อวี๋ซือซือพูดอย่างไม่เห็นด้วยเป้ยฉ่ายเวยคิดสักครู่ สีหน้าตึงเครียดพูด “อาการของรุ่ยรุ่ยรอไม่ได้แล้ว ฉันก็ไม่อยากให้เขาอยู่กับยาย แต่ฉันต้องทำงานไม่มีเวลาดูแลเขา อีกอย่างยายอายุมากแล้ว ไม่ชินกับชีวิตในเมือง”อัพเดทครั้งหน้า:27 พ.ย. 2019จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อนนะจ๊ะ

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์