ตอนที่ 56 ห้ามแต่งงานกับเขา
ชายคนนั้นถูกโยนใส่ผนังอย่างแรง แล้วถูกโยนลงพื้น ทั้งตัวเหมือนจะรู้สึกว่ากระดูกจะหัก เขายังไม่ได้ลุกขึ้นมาหาคนนั้นที่กับดักเธอ
แต่บนศีรษะมีลมหนาวเหน็บพัดผ่านมา ร่างกายของชายคนนั้นสุดตรงขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว เหนื่อยแล้ว
มองผู้ชายตรงหน้าและพูดว่า “นาย นายจะทำอะไร”
แถมยังร้องขออย่างทุกข์ทรมานว่า “อ้า เจ็บจะตายแล้ว มีคนจะฆ่าคนๆ”
ฉูเจ๋อหยางใช้หมัดชกใส่เข้าไปบนตัวของชายคนนั้น หลังหมัดถูกปล่อยเข้าไปบนเนื้อ เขาจุกจนไม่รู้สึกอะไร
“ ขอร้องเถอะ ปล่อยฉันไปเถอะฉันจะไม่ทำอีกแล้ว“ ใช้กับหนุ่มคนนั้นจากแต่แรกที่ร้องตะโกนจนค่อยๆร้องขอชีวิต หลังจากนั้นเสียงที่ร้องขอชีวิตก็ได้ค่อยอ่อนลง
เป้ยฉ่ายเวยคิดว่าฉูเจ๋อหยางแค่จะสั่งสอนชายคนนั้น แต่พอเธอเห็นผู้ชายคนนั้นสรุปไป และฉูเจ๋อหยางที่ไม่มีท่าทีจะวางมือ ก็เป็นห่วงขึ้นมา
เธอค่อยๆลุกยืนขึ้นมา ยื่นมือไปจับฉูเจ๋อหยางที่อยู่ในความโกรธ พูดขึ้นมาว่า “ฉูเจ๋อหยาง พอได้แล้ว ถ้าทำต่อไปเขาอาจจะตายได้”
ทัดใดนั้นฉูเจ๋อหยางก็หยุด แล้วมองเธอ
“ ฉันไม่ใช่เป็นห่วงเขา ฉัน ฉันไม่อยากให้นายต้องขึ้นศาล” เป้ยฉ่ายเวยหลบหลีกสายตาเขา อธิบายอย่างเสียงเบา
แน่นอนเธออยากให้เขาที่นอนอยู่บนพื้นนั้นตาย แต่ว่าเธอไม่อยากให้ฉูเจ๋อหยางต้องขึ้นศาล ถึงแม้ว่าจะเป็นการป้องกันที่สมเหตุสมผล แต่ก็ไม่ควรเกินเลย
เขาเป็นทนายความ น่าจะรู้ดีกว่าเธอ
ฉูเจ๋อหยางจ้องเป้ยฉ่ายเวยไม่กี่วิ ก็หยุดมือแล้วอุ้มเธอขึ้นมาเดินไปยังห้อง
“เขาจะทำไง”เป้ยฉ่ายเวยชี้ผู้ชายที่นอนแนบอยู่บนพื้น
ฉูเจ๋อหยางพูดอย่างเลือดเย็น “พรุ่งนี้มีคนมาจัดการเอง”
หลังจากนั้นเป้ยฉ่ายเวยก็จับเสื้อตรงหน้าอกฉูเจ๋อหยางไว้แน่น แล้วพูดอย่างเสียงเบาไปว่า “ฉูเจ๋อหยาง ขอร้อง อย่าให้ใครรู้”
ถ้าแจ้งความ ทุกคนก็จะรู้เรื่องนี้ว่าเธอเกือบจะถูกคมคืน อีกอย่างหนานฉิงก็ต้องรู้แน่นอนว่าฉูเจ๋อหยางช่วยเธอ เธอไม่อยาก ไม่อยากให้ใครรู้ทั้งนั้น
เขาหยุดสักแปปแล้วตอบอืมก็ถือว่าเขาตกลงกับเธอ
ในใจเป้ยฉ่ายเวยก็โล่งขึ้นมา
“กุญแจ”
“อยู่ อยู่บนพื้น” เป้ยฉ่ายเวยอยากลงมาจากอ้อมกอดฉูเจ๋อหยาง ดิ้นตัวไปมา แต่ผู้ชายกลับไม่รู้สึกอะไร
อุ้มเธอแล้วเก็บกุญแจขึ้น ไม่นานเป้ยฉ่ายเวยก็ได้สัมผัสกับคำว่าแรงแขนเหมือนแหลก
ฉูเจ๋อหยางไม่เพียงแต่อุ้มเธอไว้แล้วเธอกุญแจขึ้นมา แถมยังเปิดประตูห้องได้อย่างง่ายดาย
เป้ยฉ่ายเวยอึ้งมาก พอเธอเห็นว่าฉูเจ๋อหยางกำลังจะปิดไฟ แต่ก็ไม่ทันอ้าปากพูด “ฉูเจ๋อหยาง อย่าเปิดไฟ”
“เสียงเปิดไฟก็ได้ดังขึ้นพร้อมกับไฟในห้องนั่งเล่นสว่าง แผลบนหน้าผากเป้ยฉ่ายเวยก็ปรากฏขึ้นมาในตาจองฉูเจ๋อหยาง
เขารู้ว่าหน้าเธอมีแผล แต่ไม่รวมบนหน้าผากบวม และยังมีบางจุดที่เป็นแผล หน้าเย็นลงในทันที ดูเหมือนว่า เขาจะลงมือเบาเกินไป
“อย่า อย่าไปหาเขา ฉันไม่เป็นไร แค่ แค่เจ็บปวดเล็กน้อย “ เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของผู้ชาย แล้วพูดเสียงเบาๆ
ฉูเจ๋อหยางบีบปากถาม “กล่องยาอยู่ไหน”
“อยู่ตู้ตรงทีวี” เป้ยฉ่ายเวยตอบอย่างเชื่อฟัง
ฉูเจ๋อหยางนำตัวเธอวางลงไปบนโซฟา แล้วไปเอายาด้วยตัวเอง
เป้ยฉ่ายเวยพิงอยู่ตรงโซฟา มองฉูเจ๋อหยางที่รูปร่างสูบใหญ่นั่งย่อลงตรงข้างทีวี ดูแล้วเข้ากันไม่ได้แต่ไม่รู้ทำไมในใจเธอกลับรู้สึกอุ่น
นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้เจอเขา หนึ่งอาทิตย์หรือว่าครึ่งเดือน นานจนเธอคิดว่าตัวเองค่อยๆลืมผู้ชายคนนี้ได้แล้ว
แต่พอเธอเห็นเขาในครั้งในวินาทีนั้นหัวใจที่เต้นตามปกติกลับเดินเร็วอีกครั้ง เธอถึงเพิ่งรู้ว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ที่เธอบังคับตัวเองให้ลืมจริงๆแล้วมันเป็นแค่การหลอกลวงตัวเอง
“ เธออยู่ที่นี่ มียาทาของเด็กได้ไง”
เสียงของเขาทำให้เป้ยฉ่ายเวยคิดได้ว่า ยาของเด็ก?นึกได้ขึ้นมาทันที นั่นคือยาที่เธอเก็บไว้ในกล่องยาเมื่อครั้งก่อนที่ออกไปเที่ยวกับรุ่ยรุ่ย ไม่ได้สังเกตว่าเอาเข้าในกล่องยาทีเดียว ไม่คิดเลยว่าจะถูกฉูเจ๋อหยางรู้
เป้ยฉ่ายเวยทำตัวไม่ถูก บนหน้าตอบกลับไปอย่างไม่มีร่องรอยอะไร “ เมื่อสองสามวันที่แล้วญาติพาเด็กมาก็เลยหล่นไว้มั้ง “
ฉูเจ๋อหยางก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เอาสำลีกับไอโอดีนแล้วนั่งตรงหน้าเป้ยฉ่ายเวย
เป้ยฉ่ายเวยมองผู้ชายที่อยู่ข้างๆ อย่างเกร็ง เขาไม่รู้อะไรใช่ไหม ดูจากสีหน้าแล้วน่าจะไม่รู้สึกอะไร
ฉูเจ๋อหยางไม่ได้สนใจความเกร็งและรู้สึกไม่ดีของเธอ แต่ค่อยๆล้างแผลให้เธอ แต่ว่าทุกครั้งที่เขาปาดหนึ่งครั้งคิ้วก็จะบีบแน่นกันขึ้นมา
เป้ยฉ่ายเวยคิดว่าฉูเจ๋อหยางลำคาน พูดขึ้นมาว่า “เออ ไม่เป็นไรแล้ว ฉันทาเองได้”
“อย่าดิ้น” ฉูเจ๋อหยางดุใส่
เป้ยฉ่ายเวยนั่งอยู่อย่างนิ่งๆที่เดิม แถมยังวางมือทั้งสองข้างไว้ตรงหน้าอย่างเชื่อฟัง เหมือนกับเด็กอนุบาลเลย และมันก็ทำให้เธอคิดถึงรุ่ยรุ่ย สงสัยรุ่ยรุ่ยไปเรียนก็คงไม่น่าเชื่อฟังเท่าเธอ
แต่ตอนนี้ฉูเจ๋อหยางดูเหมือนจะยังไม่หายโกรธ ฉะนั้นเธอเลยไม่กล้าที่จะยุ่งกับเขา
หลังจากผ่านไป 10 นาที ฉูเจ๋อหยางก็ ทำความสะอาดแผลของเป้ยฉ่ายเวยเสร็จเรียบร้อย และวางสำลีลง พูด “เสร็จล่ะ”
“ออๆ ขอบใจนายนะ” เป้ยฉ่ายเวยขอบคุณ
ฉูเจ๋อหยางจ้องมองเป้ยฉ่ายเวยไว้ไม่พูดอะไรเลย เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกอึดอัด ไม่สบายทั้งเนื้อทั้งตัว
บรรยากาศที่แปลกประหลาดนี้ทำให้เป้ยฉ่ายเวยเริ่มรู้สึกไม่ดี ทำให้รู้ว่าทำไมฉูเจ๋อหยางมาหาเธอดึงป่านี้
เธอถามอย่างระมัดระวัง “ฉูเจ๋อหยาง นาย นายมาหาฉันดึกขนาดนี้มีอะไรป่าว?”
เป้ยฉ่ายเวยไม่พูดยังดี พอพูดแล้วสีหน้าของฉุเจ๋อหยางก็เย็นชาขึ้นมาเลย “ได้ยินว่า หลี่จื่อเชียนขอเธอแต่งงาน”
“นายรู้ได้ไง!” เป้ยฉ่ายเวยมองหน้าฉูเจ๋อหยางอย่างอึ้ง จื่อเชียนคงไม่เอาเรื่องส่วนตัวขนาดนี้ให้ฉูเจ๋อหยางฟังสิ
สีหน้าที่อึ้งของเป้ยฉ่ายเวย ในสายตาฉูเจ๋อหยางกลับรู้สึกบาดตา ลูกตาที่ดำก็เย็นเฉียบขึ้น “เธอมีความสุขมาก”
“ไม่ ไม่หนิ ฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะขอฉันแต่งงาน” เป้ยฉ่ายเวยตอบ
เอาจริงๆ สิ่งที่เธออยากรู้มากที่สุดคือฉูเจ๋อหยางรู้เรื่องนี้ได้ไง แต่เธอไม่กล้าถามที่ฉูเจ๋อหยางรู้ ก็เพราะบังเอิญ ถ้าไม่ใช่ว่าหนานฉิงเป็นบ้าอยากกินข้าวที่ร้านไห่เฉียนวาน เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าไห่เฉียนวานถูกหลี่จื่อเชียนจองหมด แถมยังเชิญวงดนตรี วางแผนอย่างละเอียดคนที่มีสมองแค่คิดก็รู้ว่านี่มันหมายถึงอะไรไม่อย่างนั้นเขาคงห้ามใจตัวเองเพื่อมาถามไม่ได้“ ยังจำคำสัญญาของเราได้ไหม“พูดถึงที่ตกลงกันสีหน้าเป้ยฉ่ายเวยก็เกร็งขึ้นมา ส่ายหัว “อืม”“ห้ามตกลงแต่งงานกับหลี่จื่อเชียน” ฉูเจ๋อหยางก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำไมถึงพูดข้อตกลงนี่ออกมา แต่พอเขาพูดออกไปก็ไม่คิดที่จะยึดกลับมา“จริงหรอ? ทำตามข้อตกลงอย่างง่ายขนาดนี้โคตรดีเลย ฉันตกลงๆ” เป้ยฉ่ายเวยไม่คิดเลยว่าจะมีเรื่องดีๆแบบนี้หล่นลงมาจากฟ้า ไม่คิดเลยว่าฉูเจ๋อหยางจะขอข้อตกลงง่ายขนาดนี้เธอไม่ได้คิดที่จะแต่งกับหลี่จื่อเชียนแต่แรกอยู่แล้วสีหน้าเป้ยฉ่ายเวยที่มีความสุข ตอบไปว่า “อืม”อัพเดทครั้งหน้า:30 พ.ย. 2019จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อนนะจ๊ะ
copy right hot novel pub