โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่64 กู้ภัย

บทที่64 กู้ภัย

ไม่มีใครควบคุมตัวเป้ยฉ่ายเวยแล้ว เธออ่อนระทวยพับไปด้านหลัง เธอล้มลงบนหน้าอกแผ่นใหญ่ “ดื่มไม่เป็นวันหลังก็อย่าดื่ม”

“คุณคือใคร คุ้นหน้ามาก หน้าตาเหมือนเด็กบ้านนอก” ด้วยดวงตาที่พร่ามัวของเป้ยฉ่ายเวยเธอสังเกตเห็นส่วนหน้าผากที่โหนกขึ้นมา

หล่อ แต่ก็เย็นชา

ชายคนนั้นเหลือบมองผู้หญิงแก้มแดงที่เอาแต่ใจ เขาเบือนปากและไม่ได้ตอบอะไร

ซือซือประหลาดใจเมื่อเห็นผู้ชายที่กอดเป้ยฉ่ายเวย ฉูเจ๋อหยางอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ คุณยังทำตัวมีปัญหาอยู่อีก” เสียงอันแหบห้าวกระทบเข้าที่หูของซือซือ

ซือซือเหมือนกับถูกกระแสไฟฟ้าช็อตทั้งตัว ร่างเธอแข็งทื่อไม่กล้าที่จะหันหลังกลับไปมอง แววตาเธอฉายแววเพชฌฆาต ไม่ เป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้

ดูเหมือนว่าเขาต้องการพิสูจน์สิ่งที่ซือซือคิดอยู่ในใจ เขาจึงพูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอันอบอุ่น “ผมกลับมาแล้ว เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์”

---ถังฉีตง เขากลับมาแล้วจริงๆ

หลังจากความประหลาดใจสั้นๆของซือซือ ก็ตามมาด้วยใบหน้าอันเย็นชา เธอจำได้ว่าเวยเวยบอกว่า ถ้าพบเขาอีกครั้งก็ให้ฆ่าสุนัขตัวนี้ซะ

ฉากนั้นเป็นบรรยากาศที่แปลกประหลาดมาก

“พี่ใหญ่ พวกมันสองสามตัวดูถูกพวกเรา”

“หุบปาก ใครบอกให้พูด กูดูออก” พี่ใหญ่มองผู้ชายสองสามคนตรงหน้าด้วยความระมัดระวัง สัญชาตญาณบอกเขาว่า สองตัวนี้มันไม่ธรรมดา

“พี่ใหญ่ว่าพวกเราเอาไงดี ถ้าหนีไปก็ขายหน้า อีกหน่อยคงไม่มีหน้าอยู่ในพื้นที่นี้” น้องชายกระซิบอยู่ที่ด้านข้าง

พี่ใหญ่เดิมทีต้องการที่จะหนี แต่ขาก็ก้าวไม่ออก และยังน้องชายที่ไม่ดูตาม้าตาเรืออีก ทำให้เขาหัวเสีย แต่ในเมื่อน้องชายพูดเช่นนั้น ถ้าหนี ก็ขายหน้า

“พี่น้อง ฟังนะ วันนี้ใครจับตัวผู้หญิงสองคนนี้ได้ จะมีรางวัลให้คนละหมื่น”

เมื่อได้ยินเรื่องเงิน คนพวกนั้นก็ตื่นเต้นหูผึ่ง

แต่ว่าคู่กรณีนั้นแข็งแกร่งมาก พวกเขาสู้ไม่ได้ โดนจัดการไปทีละสองทีละสามคน

“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ทำไมเธอรุนแรงอย่างนี้” ถังฉีตงตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เขาพ่นลมหายใจไม่หยุด

ซือซือทำเป็นไม่ได้ยิน และพูดอย่างเย็นชา “อย่าเรียกฉันว่าเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์”

เขาไม่คู่ควร

ฉูเจ๋อหยางซึ่งอุ้มเป้ยฉ่ายเวยอยู่ในอ้อมอกมองดูผู้คนรอบๆและยักคิ้วพูดขึ้นว่า “ไปที่คอก”

ถังฉีตงพยักหน้าตกลง เขาหันหน้าไปยิ้มกับซือซือและพูดขึ้นว่า “เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ ไม่ได้รวมตัวกันเสียนาน”

ซือซือฮัมเสียงเย็นชาไม่สนใจชายด้านข้าง เธอเดินตามหลังฉูเจ๋อหยางไป เธอไม่วางใจที่จะปล่อยเวยเวยไว้กับไอ้บ้านี่ สำหรับไอ้พวกบ้าที่เหลือทางด้านหลังเดี๋ยวค่อยคิดบัญชี

ชั้นหนึ่งของไนท์ซิตี้คลับนั้นสำหรับคนทั่วไป เมื่อขึ้นลิฟต์ตรงขึ้นไป นั่นแหละถึงจะเป็นถ้ำทองคำที่แท้จริง

ลิฟต์หยุดที่ชั้นแปด เมื่อประตูเปิดออกทางเดินปูไปด้วยพรหมแดง นอกจากนั้นยังมีที่นั่งอันสวยงามอยู่ทั้งสองด้าน เงียบสงัดไม่มีเสียงอันใด

คนทั้งสี่เดินตรงไปที่คอก

นอกจากเป้ยฉ่ายเวยแล้ว คนทั้งสามก็มีความกังวลใจของตัวเอง เมื่อซือซือเข้ามาแล้วเธอถึงได้มีปฏิกิริยาขึ้น ฉูเจ๋อหยางรู้จักถังฉีตงแน่นอน ทั้งดื่มเหล้าจนมีเรื่องผิดพลาด สมองของเธอก็ยังจะช้าอยู่เล็กน้อยอีกด้วย

“โอ๊ะ ทำไมคุณไม่ตอบฉัน คุณภูมิใจมากใช่ไหม ฉันจะไม่ตามใจคุณ”

เป้ยฉ่ายเวยเหมือนคนเฉี่อยชากำลังปีนต้นไม้ฉูเจ๋อหยางขึ้นมา มือเล็กๆสีขาวของเธอบังคับให้ฉูเจ๋อหยางมองเธอและพูดขึ้นมาอย่างโมโหว่า “คุณรู้ตัวรึเปล่าว่าผิด”

ฉูเจ๋อหยางมองใบหน้าผู้หญิงซึ่งแดงก่ำอย่างไม่มีความรู้สึก เขาปล่อยให้เธอวางมือบนใบหน้าของเขา และพูดขึ้นเบาๆ “คุณดื่มมากแล้ว”

เมื่อเห็นฉากอันแปลกประหลาด ซือซือก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดอะไร เธออยากจะแกล้งทำเป็นว่าไม่รู้จักเวยเวย เรื่องนี้ช่างน่าขายหน้าจริงๆ

แต่เมื่อเห็นทัศนคติของฉูเจ๋อหยาง เขาไม่ได้มีท่าทีไม่ใส่ใจเวยเวย

“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ ผม……” ถังฉีตงพูดขึ้น

ซือซือด่าอย่างเลือดเย็น “หุบปาก ฉันไม่อยากได้ยินเสียงของคุณ”

“ยังโกรธอยู่หรอ” ถังฉีตงอมยิ้ม

“ไสหัวไป…” เสียงนั้นดังออกมาจากฟันกรามของซือซือ

“ไอ้บ้า วันนี้กลางวันคุณส่งข้อความมาหาฉันใช่ไหม หมั้นเรอะ เหอะ ยอดเยี่ยมจริงๆ เดี๋ยวฉันจะลากใครคนหนึ่งมาแต่งงานให้ดู”

เป้ยฉ่ายเวยไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่ แต่ว่าเธอคิดว่าจะพูดแบบนี้ และยังยิ้มอย่างภูมิใจ “เหอะเหอะ คุณทำให้ฉันไม่มีทางเลือก”

ฉูเจ๋อหยางไม่เพียงแต่ได้ยินผู้หญิงในอ้อมแขนพูดพล่อยๆ สองแขนก็เท้าสะโพก จนกระทั่งได้ยินว่าเธอจะแต่งงาน นัยน์ตาเขาก็ดำมิดเหมือนหมึกหนา มองเขม็งไปที่เธอ

เขากระแอมเบาๆและถามขึ้น “คุณต้องการอะไร”

“ฉัน ฉัน ฉัน...เป้ยฉ่ายเวยถึงแม้จะดื่มจนเมา แต่ฉันยังสามารถรับรู้ถึงอันตรายได้ จะบอกว่าเธอพูดไม่ได้ ก็พูดไม่ได้ ถ้าพูดแล้วจะเป็นเรื่องเศร้ามาก”

ดังนั้นเธอจึงพูดอย่างลับๆล่อข้างหูของเขา “ถ้าฉันไม่บอกคุณ ฉันก็จะโมโหคุณ”

ลมหายใจอันร้อนแรงของหญิงสาวราดรดลงบนใบหูเขา เสียงอันนุ่มนวลเปรียบดังขนนกตกลงสู่หัวใจของเขา

ฉูเจ๋อหยางรวบเอวของเธอเอาไว้อย่างดุร้ายด้วยฝ่ามืออันใหญ่หนา

“อะแฮ่ม ฉันทำให้คุณโกรธ ฉันก็โกรธคุณ” เป้ยฉ่ายเวยดูเหมือนจะมีความสุขมาก

ซือซืออยู่ทางด้านข้างทนดูต่อไปไม่ได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาและเปิดดูวีดีโอ เพื่อที่จะได้ไม่ขำเพื่อนรัก แต่เธอจะกลั้นไว้ได้อย่างไร

“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เธอเป็นอย่างนี้ช่างดีจริงๆ” ถังฉีตงพูดเช่นนี้ แววตาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“ถ้าคุณเรียกฉันว่าเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์อีก ฉันจะฆ่าคุณวั่งฉาย” ซือซือเหลือบไปมองที่ชายด้านข้าง

ต้องยอมรับ ว่าแปดปีผ่านไป เด็กชายตัวน้อยตอนนี้ได้กลายเป็นต้นไม้สูงใหญ่ซะแล้ว ฉายแววหล่อเหลาไม่เปลี่ยน แต่ยิ่งเห็นก็ยิ่งทำให้คนหงุดหงิด

โตมาหล่อแล้วไง

“ซือซือน้อยก็ไม่เลวนะ” ถังฉีตงดูเหมือนจะรู้จุดอ่อนของซือซือ

ซือซือไม่แสดงออกทางสีหน้าและเก็บโทรศัพท์ไป เธอขยับกำปั้น และไม่ลังเลที่จะโบกขึ้นตรงหน้าถังฉีตง “เข้ามาใกล้กว่านี้ ฉันจะฆ่าคุณ”ถังฉีตงออกแรงดึงซือซืออย่างสุดแรงด้วยความนุ่มนวล เอาตัวเธอเข้าสู่อ้อมแขนและพูดอย่างเสียดาย “แรงดีไม่เบา เสียดายที่เล็งไม่แม่น”“ไอ้บ้า ปล่อยนะ!” ซือซือจ้องเขาด้วยความโมโห เธออดไม่ได้ที่จะหยิกเขาสักสองสามแห่งถังฉีตงยังคงไม่ปล่อยมือและหันไปพูดกับฉูเจ๋อหยาง “อาเจ๋อ ไว้เราค่อยคุยกันคราวหน้านะ”ฉูเจ๋อหยางตอบอื้อคำหนึ่งแสดงว่าเห็นด้วยถังฉีตงยิ้มมุมปากให้กับซือซือและแบกเธอขึ้นบ่าเดินจากไปปฏิกิริยาตอบสนองของซือซือนั้นช้าลงกว่าครึ่ง เธอพยายามดิ้นรนต่อสู้ผู้ชายที่แบกเธออยู่ แต่เธอก็ทำอะไรเขาไม่ได้“ไอ้บ้าไปตายซะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะฆ่าแก ฆ่าแก นี่แหนะนี่แหนะนี่แหนะ---”เป้ยฉ่ายเวยยังคงดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขนของฉูเจ๋อหยาง เธอยังไม่รู้ตัวว่าตอนนี้เหลือเธอเพียงคนเดียวแล้ว เธอไม่รู้ว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับสิงโตตัวผู้“พูดมาสิ ว่าคุณจะไม่หมั้น คุณภูมิใจมากใช่ไหม”ฉูเจ๋อหยางจ้องผู้หญิงตรงหน้าด้วยคิ้วขมวด เขาไม่ยักรู้มาก่อนว่าผู้หญิงคนนี้เวลาเมาแล้วจะใจกล้าบ้าบิ่นเช่นนี้ เมื่อวานไม่เห็นเธอจะกล้าล้ำเส้นกับเขาเหมือนตอนนี้ตอนนี้ยังจะถามเขาอีก ว่าจะหมั้นทำไม“คุณรู้ตัวรึเปล่า ว่า กำลัง ทำ อะไร อยู่”

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์