โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

บทที่65 แกะกระดุมให้เธอ

บทที่65 แกะกระดุมให้เธอ

“ฉันรู้ ฉันรู้สิ”

เป้ยฉ่ายเวยพยักหน้าให้ฉูเจ๋อหยาง เลียนแบบโทนเสียงของเขาและพูดออกมาทีละคำ “ฉัน กำลัง แกะ กระดุม ให้ คุณ อยู่ ไง”

นิ้วขาวยาวเรียวเหมือนต้นหอมชี้ไปบนหน้าอกอันแข็งแกร่งทรงพลังของเขา ปลายนิ้วของเธอลูบไล้ไปบนอกของเขาเบาๆ ไม่รู้ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจวนไปรอบๆ

ขายาวเรียวทั้งสองข้างนั้น เธอคุกเข่าลงบนพื้นที่อันบอบบางซึ่งพ่นน้ำหอมเอาไว้เล็กน้อย

“น่าเบื่อ มองฉันสิ รีบเอาออกมาเร็ว” ดูเหมือนเธอจะมีความสุขบิดสะโพกไปมา พยายามที่จะเอาบางอย่างออกมา

“เป้ยฉ่ายเวย ตั้งสติหน่อย” เสียงเข้มของชายคนนั้นเหมือนเค้นออกมาจากในลำคอ เหมือนกำลังถูกผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมอกคนนั้นกำลังทำให้คลั่ง

เขาเอามือพยุงร่างอันโงนเงนของเธอไว้ ฝ่ามือสัมผัสกับผิวอันเนียนเรียบ สายตาของเขาจมดิ่งลง

สมควรตาย เธอสวมเสื้อผ้าโป๊ะเช่นนี้มาในสถานที่แบบนี้ได้ยังไง

เป้ยฉ่ายเวยมองเขาด้วยดวงตาเปียกชื้นเหมือนกับแปรงซับน้ำฝนและพูดอย่างน้อยใจ “คุณโหดร้ายกับฉัน”

“...” ฉูเจ๋อหยางสูดหายใจเข้าลึกๆในขณะที่ต้องการจะพูด

ผู้หญิงในอ้อมแขนตอนนี้รู้สึกไม่ค่อยชอบใจ แขนเนียนขาวของเธอโอบรอบคอของเขา

สายคล้องบ่าของเธอก็หลุดหล่นลงมา เผยให้เห็นผิวขาวราวหิมะ เนินอกดันอวบอิ่มออกมาปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตาเขา

ส่งผลต่อการมองเห็นขึ้นสุด ทำให้สายตาของฉูเจ๋อหยางกรอกกลิ้งไปมา ราวกับว่าไม่ได้ยินเสียงนกน้อยที่กำลังร้องเพลง

“เป้ยฉ่ายเวย เธอรู้ตัวรึเปล่าว่าทำอะไรอยู่” เสียงอันสง่างามของเขาได้กลายเป็นแหบแห้ง

“ฉันรู้สิ คุณรังแกฉัน ฉันก็เลยรังแกคุณ” เสียงออดอ้อนของเป้ยฉ่ายเวยกระซิบที่ข้างหูของฉูเจ๋อหยาง

เพื่อพิสูจน์ว่าเธอกำลังรังแก หลังจากพูดจบเธอก็ขบกัดติ่งหูเขาเบาๆ ปากน้อยๆที่ทำให้ละลาย เธอพึมพำออกมา “ไม่อร่อย ไม่มีรสชาต ฉันชอบรสสตรอเบอรี่”

ฉูเจ๋อหยางกำมือแน่น นัยน์ตามีประกายสีแดงเข้ม เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าผู้หญิงในอ้อมแขนจะร้อนแรงถึงเพียงนี้

น่าจะเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลล์จริงๆ

ดูเหมือนว่าเธอจะเมา ไม่อย่างนั้นคนขี้อายอย่างเธอ จะใจกล้าบ้าบิ่นแบบนี้ได้อย่างไร

“เป้ยฉ่ายเวย รู้รึเปล่าว่าผมคือใคร”

เป้ยฉ่ายเวยไม่ชอบใจกับคำถามของชายหนุ่มมาก เธอยื่นมือออกไปแตะริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของเขา และพูดอย่างอู้อี้ “ไม่ต้องมาถามฉัน สมองคุณกลวงหรือยังไงกัน”

ผู้หญิงที่ภาคภูมิใจในตัวเองเมื่อวินาทีก่อน ตอนนี้ถูกล็อคอยู่ในอ้อมอกของผู้ชาย ระยะห่างระหว่างทั้งคู่นั้นใกล้กันมาก

“เมื่อไหร่ คุณกล้าขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

ลมหายใจอันร้อนแรงพ่นลงใบหน้าของเธอ

เป้ยฉ่ายเวยวางมือทั้งสองบนบ่าของฉูเจ๋อหยาง ดวงตาทั้งคู่จ้องไปที่ชายตรงหน้าด้วยความเย็นชา จู่ๆเธอก็หัวเราะออกมา “คุณก็หล่อเหมือนกันนะเนี่ย หล่อเหมือนลูกชายของฉันเลย”

“เป้ยฉ่ายเวย คุณกล้าพูดว่าผมเป็นลูกชายของคุณอย่างนั้นเรอะ” ฉูเจ๋อหยางกัดฟัน นัยน์ตามืดมิดส่อประกายความอันตราย

เป้ยฉ่ายเวยได้ยินเสียงชายคนนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ เธอก็ลูบหัวของเขาเหมือนกำลังปลอบเด็กที่กำลังเอาแต่ใจ “โอ๋ เด็กดีนะเด็กน้อย อย่างอแงไปเลยนะ”

ใบหน้าของฉูเจ๋อหยางดำมืดลง เห็นเขาเป็นอะไร เด็กอนุบาลรึไง มือใหญ่ยืดเหยียดออกดึงคนขึ้น เสียงเหมือนเปล่งออกมาจากการกัดฟัน “กลับไปจะจัดการกับคุณ”

เขาไม่ต้องการ “สั่งสอน” ผู้หญิงบ้าบิ่นคนนี้ที่นี่

“ฉันไม่กลับ ไม่กลับ กลับไปคุณก็รังแกฉัน” เป้ยฉ่ายเลยใช้มือเล็กของเธอลูบใบบนบริเวณหน้าอกของเขา “ฉันไม่อยากเห็นหน้าพวกคุณ คุณไปได้แล้ว ไปได้แล้ว”

ฉูเจ๋อหยางไม่ทันสังเกตการเล่นซุกซนของเธอ เขาพาเธอออกจากคอกในทันที ไปจนถึงลานจอดรถใต้ดิน และเอาตัวคนเข้าไปในห้องผู้โดยสารและใส่เข็มขัดนิรภัยให้กับเธอ

เป้ยฉ่ายเวยเอนตัวพิงด้านหลังเก้าอี้ หัวสมองเธอเหมือนจะระเบิด มันร้อนเหมือนกับถูกเผาไหม้

เธอเริ่มปลดเสื้อผ้าตัวเองออกโดยสัญชาตญาณ “ร้อนจัง ทำไมต้องเอาฉันเข้าเตาอบด้วย ฉันไม่อร่อยหรอกนะ”

ฉูเจ๋อหยางซึ่งกำลังตั้งใจขับรถเมื่อได้ยินเสียงพึมพำของเธอ เขานึกว่าเกิดเรื่องอะไรกับเธอ เขาจึงมองเธอด้วยหางตา ทันใดนั้นรถก็แฉลบไปเกือบจะชนรั้วริมถนนเข้า

เสียงแตรรถด้านหลังดังยาวเป็นขบวน

“ข้างหน้าทำอะไรของมันวะ”

“ขับรถเป็นรึเปล่า”

“อยากรีบไปเกิดใหม่หรือยังไง”

ฉูเจ๋อหยางไม่ได้สนใจพวกเขามาก เพราะผู้หญิงข้างๆเขากำลังเลิกกระโปรงขึ้นไปถึงหน้าอก

เสื้อชั้นในสีชมพูเซ็กซี่ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา ดีที่ตอนนี้ดึกมากแล้วเลยไม่มีใครสังเกตเห็น

เมื่อเห็นหญิงสาวยังคงเลิกเสื้อผ้าขึ้น ฉูเจ๋อหยางก็นำชุดสูทของตัวเองไปคลุมเอาไว้ให้และพูดอย่างจริงจัง “มีสติหน่อยคุณ”

“ฉันร้อนมากเลย เฮ้อ ร้อนจริงๆ” เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกว่าร่างกายเธอเร่าร้อนยิ่งขึ้น เธอต้องการจะดึงเสื้อผ้าตัวเองออกอีกครั้ง ลมเย็นๆพัดมา เธอจึงรู้สึกโล่งและได้สติ

ฉูเจ๋อหยางเปิดแอร์ในรถ แต่เขากลับยิ่งรู้สึกร้อน เท้าที่เหยียบคันเร่งอยู่ก็รู้สึกว่าหนักมาก

รถที่มีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมถูกเร่งเครื่องด้วยความเร็ว

เธอต้องเป็นซาตานที่สวรรค์ส่งมาทดสอบเขาแน่ๆ!

ฉูเจ๋อหยางย่นระยะเวลาการขับรถเหลือเพียงแค่สิบห้านาที

เมื่อจอดรถดีแล้วเขาก็เดินไปที่ประตูรถข้างเป้ยฉ่ายเวย อุ้มเธอลงมาและพาไปที่ลิฟต์

เมื่อเป้ยฉ่ายเวยไม่ได้อยู่ตรงเครื่องปรับอากาศ เธอก็เริ่มรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้ง แต่ว่าเสื้อผ้าที่ห่อหุ้มร่างกายของตนเองอยู่นั้น ทำอย่างไรก็ดึงลงมาไม่ได้ เธอเบิกตาโตจ้องไปที่ชายตรงหน้า “ไอ้บ้า คุณจะให้ฉันร้อนตายหรือยังไง”

“เป้ยฉ่ายเวย คุณจะกบฏหรือยังไง” นัยน์ตาดำมิดของฉูเจ๋อหยางกลอกกลิ้งไปมา

ฉูเจ๋อหยางคิดว่าการเมาเช่นนี้ของเป้ยฉ่ายเวยนั้นรุนแรงนัก เธอยังคงพึมพำแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

ฉูเจ๋อหยางคำรามออกมาด้วยเสียงไม่เบาไม่ดัง ผู้หญิงในอ้อมแขนสั่นสะท้านเล็กน้อย

ประตูทางเข้าอพาร์ทเม้นต์เปิดและปิดลง บรรยากาศภายในห้องนั้นอบอวลไปด้วยความเร่าร้อนจนยากเกินจะทนเพราะเป้ยฉ่ายเวย เธอบิดร่างเพื่อที่จะลงมา “ปล่อยฉันลง…”ฉูเจ๋อหยางมองเธอแวบหนึ่งก่อนจะปล่อยเธอลง สายตาของเขาสนใจในการเคลื่อนไหวของเธอเป้ยฉ่ายเวยเดินอ้อมฉูเจ๋อหยางไป เธอต้องการจะออกไปข้างนอก เธอบ่นพึมพำ “นี่ไม่ใช่บ้านของฉัน ฉันจะกลับบ้าน ฉันจะกลับบ้าน มีคนลักพาตัวเด็ก”ฉูเจ๋อหยางดึงตัวคนเอาไว้ “กลับมา”“ไม่เอา” เป้ยฉ่ายเวยหัวแข็งและอยากจะไป เธอดึงทึ้งชายหนุ่มตลอดเวลา“งั้นก็ดับไฟก่อนแล้วค่อยไป” ช่างเป็นเรื่องง่ายๆบนโลกนี้ท่าทีของเป้ยฉ่ายเวยเปลี่ยนไปในทันที เธอหมุนตัวกลับไปตามลำแขนของฉูเจ๋อหยาง แนบชิดกับเขาและถามว่า “คุณอยากได้แบบไหนล่ะ ที่รัก”เรียกที่รักจนฉูเจ๋อหยางตกใจ แต่เขาก็ยังไม่กระโตกกระตากโอบเธอไว้ในอ้อมอก “เป้ยฉ่ายเวย เลิกแกล้งโง่แกล้งบ้าเสียที”ทันในใดนั้นก็รู้สึกว่าร่างกายหดตัวลง ฉูเจ๋อหยางคว้าสะโพกของหญิงสาวไว้โดยไม่รู้ตัวเป็นการยากที่จะพบร่องรอยของความผิดพลาดในความหนาวเย็นและความมืดที่ไม่เปลี่ยนมาเป็นพัน ๆ ปีอัพเดทครั้งหน้า:8 ธ.ค. 2019จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อนนะจ๊ะ

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์