โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

ตอนที่ 79 เราสามคน ต้องอึดอัดใจ

ตอนที่ 79 เราสามคน ต้องอึดอัดใจ

หลังจากซือซือพูดจบ เธอก็ไม่สนว่าผู้ชายคนนั้นจะว่ายังไง เธอเตรียมตัวหันหลังเพื่อที่จะจากไป

สะอิดสะเอียนหรอ ตอนนี้เขาทำให้เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนอย่างนั้นเรอะ สายตาถังฉีตงเต็มไปด้วยคำพูดเยาะเย้ยตัวเอง ร่างสูงโน้มเอียงไปพิงประตูใหญ่ มองเงาที่ต้องการอย่างแน่วแน่ที่จะไป

ซือซือบอกกับตัวเองว่าเธอจะใจอ่อนไม่ได้ อย่าทำผิดพลาดซ้ำสอง ไม่ว่าเธอจะเช็ดไปแล้วกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง น้ำตาของเธอก็ไม่สามารถหยุดไหลออกมาได้

ในที่สุดเธอก็หลุดออกมาจากหุบเหวนั้นแล้ว เธอไม่ต้องการที่จะหวนระลึกถึงวันคืนอันเจ็บปวดเหล่านั้นอีก

ซือซืออารมณ์ไม่ได้จึงพาตัวเองไปดื่มที่บาร์ หลังจากเมาแล้วเธอก็โซเซกลับไปที่อพาร์ทเม้นต์ของตัวเอง เธอเหลือบไปมองที่ห้องของเป้ยฉ่ายเวยและรุ่ยรุ่ย

เธอเดินเรื่อยเปื่อยไปจนถึงห้องของตนเอง

เธอเขียนโน้ตหาเวยเวยเงียบๆ

เพื่อที่ล่อถังฉีตงออกไปเธอใช้พละกำลังเป็นอย่างมาก พรุ่งนี้ พรุ่งนี้เวยเวยจะต้องชดเชยให้กับเธอ

เมื่อถึงเวลาตื่นตอนเช้า เป้ยฉ่ายเวยเห็นรองเท้าที่ซือซือถอดอยู่ที่หน้าประตู เธอคิดว่าหล่อนน่าจะกลับมาดึก ถึงได้ไม่เคาะประตูเรียกเธอ

รุ่ยรุ่ยลูบใบหน้าอันง่วงเหงาหาวนอนของเขา และพูดขึ้นด้วยเสียงไร้เดียงสา “แม่ครับ วันนี้ต้องไปโรงเรียนแล้วหรอ”

เป้ยฉ่ายเวยละสายตากลับมา เธอลูบหัวเขาและพูดว่า “อื้อ แม่จะไปทำอาหารเช้า รุ่ยรุ่ยไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเองได้ไหมครับ”

“อื้อ ไม่มีปัญหา” รุ่ยรุ่ยสวมรองเท้าในบ้านรูปเป็ดน้อยสีเหลืองน่ารัก “แต๊กแต๊กแต๊ก” เสียงวิ่งกลับไปที่ห้อง

เป้ยฉ่ายเวยยิ้มแล้วยิ้มอีก เธอหยิบผ้ากันเปื้อนมาเพื่อเตรียมทำอาหารเช้าให้รุ่ยรุ่ย

เมื่อเธอทำอาหารเสร็จ รุ่ยรุ่ยก็นั่งอยู่ที่เก้าอี้อย่างเรียบร้อยแล้ว เห็นเขาทั้งน่ารักทั้งสับสน เป้ยฉ่ายเวยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามันช่างน่าขัน

“ปัง”เสียงประตูห้องนอนเปิดออกจากทางด้านใน ซือซือสวมชุดนอนเดินออกมา เธอเห็นเป้ยฉ่ายเวยถืออาหารเช้าอยู่ในมือ ก็พูดขึ้นอย่างเกียจคร้าน “เวยเวย เตรียมให้ฉันด้วยอีกที่ ฉันหิวแล้ว”

“วางใจเถอะ ฉันเตรียมไว้ให้เธออีกชุดแล้ว ตื่นมาทานด้วยกันพอดีเลย”

ซือซือพยักหน้าและเดินผ่านเป้ยฉ่ายเวยไป

“คุณป้า เหม็นเหม็น” รุ่ยรุ่ยขมวดคิ้วและบีบจมูก

เป้ยฉ่ายเวยหันไปทางห้องน้ำอย่างกังวล ตัวซือซือยังมีกลิ่นเหล้าแรงมาก จนถึงเช้าแล้วยังไม่จางหายไป เมื่อวานหล่อนดื่มเข้าไปมากขนาดนี้

ใจเธอยังคงเป็นห่วงเพื่อน เธอนำอาหารเช้าไปวางไว้บนโต๊ะและพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “รุ่ยรุ่ยทานเองก่อนนะครับ เดี๋ยวแม่มา”

“อื้อ” รุ่ยรุ่ยพยักหน้า

เป้ยฉ่ายเวยยังคงไม่วางใจซือซือ เมื่อเธอเดินไปที่ประตูห้องน้ำก็ได้ยินเสียงหล่อนอาเจียน เธอจึงรีบเคาะประตูอย่างเร่งรีบ “ซือซือ เธอไม่เป็นไรนะ เปิดประตูให้ฉันเข้าไปหน่อย”

เสียงชักโครกด้านในดังขึ้น ไม่นานนักก็มีคนมาเปิดประตูและพูดขึ้นอย่างเกียจคร้าน “เวยเวยเช้าตรู่ก็ยังจะไม่ให้คนเข้าห้องน้ำอีกหรอ”

เป้ยฉ่ายเวยมองดูซือซือที่พิงประตูอยู่ครึ่งตัวอย่างสงบนิ่ง “อย่ามาแกล้งทำเลย เกิดอะไรขึ้นเมื่อวานถึงได้ดื่มเยอะขนาดนี้”

“ฉันจะเป็นไรได้ แค่ล่อถังฉีตงออกไป แต่ฉันต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก เธอต้องชดเชยให้ฉัน” ซือซือเดินไปที่อ่างล้างหน้าและถือแปรงสีฟันด้วยมือเดียว และบีบยาสีฟันลงไปเล็กน้อย

แปรงฟันและมองกระจก

“ซือซือ ถ้าเธอไม่เป็นไรคงจะไม่…” เมาเละกลับมาเหมือนตอนที่ถังฉีตงจากไปเมื่อแปดปีก่อน ทำให้คนเป็นห่วงนัก

“ฉันไม่ได้เพิ่งเคยเมาเป็นครั้งแรก ไม่ต้องทำมาเป็นตกอกตกใจหรอกน่า เธอออกไปก่อนฉันจะแปรงฟัน เดี๋ยวค่อยว่ากัน” ซือซือเร่งเป้ยฉ่ายเวยให้ออกไป เธอกลั้วน้ำและบ้วนน้ำในปากออกมา

เป้ยฉ่ายเวยเห็นเธอไม่เต็มใจจะพูดก็ไม่อยากจะฝืน เธอหันหลังจะเดินออกไป ให้หล่อนได้อยู่ตามลำพัง

ซือซือจ้องมองผู้หญิงที่แทบจะไม่ได้นอนในกระจกและถอนหายใจออกมา เธอเป็นเหมือนหญิงแก่ ไม่สามารถสู้สาวๆได้แล้วล่ะ ไม่ได้นอนเพียงแค่คืนเดียว ใบหน้าก็กลายเป็นน่าเกลียดเหลือเกิน

ดูเหมือนว่าเธอควรจะทำตามความปรารถนาของชายชราแต่งงานและมีลูกซะ

เป้ยฉ่ายเวยดูแลจัดการให้รุ่ยรุ่ยทานอาหารเสร็จแล้ว ซือซือจึงกลับมานั่งที่เก้าอี้และเริ่มทานอาหารเช้า

“ฉันไปส่งรุ่ยรุ่ยที่โรงเรียนก่อน ที่เหลือเธอจัดการเลยนะ” เป้ยฉ่ายเวยหยิบกระเป๋านักเรียนออกมาจากห้อง

“รู้แล้วน่า” ซือซือพูดและโบกมือ

เป้ยฉ่ายเวยมองหล่อนอย่างอดไม่ได้และได้แต่พารุ่ยรุ่ยเดินออกไป

โรงเรียนอนุบาลอยู่ไม่ไกลจากที่พักของซือซือนัก เป้ยฉ่ายเวยพารุ่ยรุ่ยเดินไปสิบนาทีก็ถึง

“รุ่ยรุ่ย ตอนเย็นแม่มารับนะครับ ถ้ามีอะไรก็บอกกับคุณครูนะครับ รู้ไหม”

“แม่ ผมรู้แล้ว แม่รีบไปเถอะ ผมจะเข้าเรียนแล้ว” รุ่ยรุ่ยพูดพร้อมโบกมือน้อยๆให้

ก่อนที่จะไปเป้ยฉ่ายเวยกระซิบบอกเขาและไม่สบายใจที่จะจากไป

เป้ยฉ่ายเวยกลับมาที่อพาร์ทเม้นต์หลังจากที่ส่งรุ่ยรุ่ยเสร็จ เธอเห็นซือซือนั่งอึนอยู่บนโซฟา หล่อนหยิบรีโมทมาเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยๆ

“ซือซือ วันนี้เธอไม่ออกไปไหนหรอ” โดยปกติแล้วเธอแทบจะไม่อยู่บ้าน

“ไม่อยากไปไหน วันนี้ฉันอยากอยู่บ้าน” ซือซือพูดโดยไม่เงยหน้า

ทั้งสองสนทนากันไปมา “เวยเวย ตอนนี้เธอถูกพักงานแล้วจะทำอะไร”

“หางานใหม่” เป้ยฉ่ายเวยพูดตามความจริง เธอไม่โง่พอที่จะรอผลการประเมิน ไม่รู้ว่าต้องรอถึงปีไหน

“จะว่าไป เงินเดือนงานนั้นของเธอก็ไม่เลว แต่ว่าทุกวันก็เหนื่อยสายตัวแทบขาดถ้าอย่างนั้นสู้ไม่ทำดีกว่า แบบนี้ก็ดีแล้ว ฉันไม่ต้องบอกก็ไม่ต้องไปแล้ว”อยู่ๆซือซือก็รู้สึกสนุก หล่อนลุกขึ้นจากโซฟา ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองเธออย่างสดใส “เวยเวยเธอจะหางานใหม่ไม่ใช่หรอ”“อื้อ เธอมีคำแนะนำอะไรไหม” เป้ยฉ่ายเวยเปิดแท๊บเล็ต เพื่อต้องการดูว่ามีงานอะไรน่าสนใจบ้างและส่งเรซูเม่ออกไปบ้าง“มีสิมีสิ” ซือซือพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “พี่ทำงานพี่ชายฉันกำลังหาเลขาอยู่ ทำไมเธอไม่ไปทำกับพี่ชายฉันล่ะ”เป้ยฉ่ายเวยหยุดการเคลื่อนไหว หล่อนมองไปที่ซือซือด้วยความตื่นเต้น และพูดกับหล่อนด้วยความงงงวย “ซือซือ ทำไมเธอถึงอยากให้ฉันไปหาพี่เฮ้าล่ะ เธอมีแผนไม่ซื่ออะไรอยู่รึเปล่า”“เปล่าซะหน่อย ฉันก็หวังดีกับเธอตลอดไม่ใช่หรอ” เธอแสดงออกอย่างชัดเจนขนาดนั้นเลยหรอเป้ยฉ่ายเวยมองเธออีกครั้งอย่างสงสัย “ซือซือ เรารู้จักกันมานาน เธอคงไม่คิดทำอะไรไม่ดีกับฉัน ไม่กล้าพูดหรอ”“จะเป็นไปได้ยังไง ก็แค่เป็นเลขา จะไปยากอะไร พี่ชายฉันอยู่เธอยังกลัวมีปัญหาอีกหรอ” ซือซือพูดกระตุ้นขึ้นอีกครั้งในใจหล่อนคิดว่า พี่ชาย ฉันทำเพื่อพี่มากมายขนาดนี้ พี่ก็อย่าทำให้เสียเรื่องก็แล้วกัน“ในเมื่อเธอว่าอย่างนั้น แต่ว่าฉันไม่ต้องการใช้เส้นสายเพื่อเข้าไป มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ”ได้ทำงานในออฟฟิตก็เป็นเรื่องที่ดี เวลาเข้าออกงานก็ค่อนข้างแน่นอน เงินเดือนก็ไม่น้อย แต่ว่าไปทำงานกับพี่เฮ่า เป้ยฉ่ายเวยยังรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์