โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

หลงรักทนายคนเลว

ตอนที่ 86 ทำงาน ทำงาน

ตอนที่ 86 ทำงาน ทำงาน

เป้ยฉายเวยก็คิดว่าคำอธิบายของเพื่อนของเธอนั้นสมเหตุสมผลที่สุด แต่เธอก็ยังรู้สึกเจ็บปวดในใจอยู่เล็กน้อย

แค่เล็กน้อยจริงๆ

"ซือซือ ไม่ต้องแล้ว​ ฉันรับปากเขาไปแล้ว​ และเธอก็น่าจะคิดผิดนะ​ เค้าแค่ให้ฉันไปทำงานก็แค่นั้น"

"เวยเวยเธอสมองกลับไปแล้วหรือไง​ ฉันไม่เห็นด้วย​ มันเป็นกับดักของหนานฉิง" ​ อวี๋ซือซือรีบพูดด้วยความงุนงง

เวยเวยเป็นผู้หญิง​ฉลาดคนหนึ่ง​ ตั้งแต่ตอนที่กลับมาพร้อมเธอ​ สมองก็เหมือนโดนเศษวัชพืช​กินหมดแล้ว

"ไม่มีอะไรหรอก​ ฉันรับมือได้หน่า อีกอย่างฉันกับฉูเจ๋อหยางก็ทำข้อตกลงกันแล้ว ฉันเป็นแค่ลูกน้องในบริษัท​ของเขา​ เขาเป็นแค่เจ้านายของฉันก็เท่านั้นเอง

เสียงที่อ่อนโยนของเป้ยฉายเวยเผยให้เห็นถึงสิ่งที่ไม่สามารถพูดออกมาได้

"มันไม่สมกับเป็นนิสัยเธอเลย" อวี๋ซือซือพูดด้วยความอ่อนแรง​ ฟังคำพูดของเป้ยฉายเวยแล้ว​ เธอรู้ว่าถึงพูดอะไรไป​ ก็ไม่สามารถดึงเธอกลับมาได้แล้ว

"ฉูเจ๋อหยางเอาอะไรให้เธอกินกันแน่​ ทำให้เธอเชื่อฟังเค้าขนาดนี้​ เค้าไม่ได้บังคับอะไรเธอใช่ไหม

" ไม่มี​ ฉันจะถูกเขาบังคับได้ยังไง​" เป้ยฉายเวยกัดริมฝีปาก​ แล้วพูดอย่างผ่อนคลาย​ " ซือซือ จริงๆแล้วฉันไปทำงานก็ไม่ได้เสียหายอะไร​ เขาบอกว่าเงินเดือนไม่น้อยกว่าที่ทำงานเดิมแน่นอน"

"เธอนี่​ นิสัยเดิมสินะ​ ถ้าตัดสินใจไปแล้วต่อให้เอาวัวสิบตัวมาลากก็กู่ไม่กลับ​ ฉันล่ะกลัวเธอจริงๆ​ งั้นฉันไปสมัครด้วย" ใครใช้ให้เธอน้ำใจงามขนาดนี้

" หา​ จะเป็นไปได้ยังไง ฉันแค่จะไปทำชั้นบน​ ​ทำงานกับบริษั​ทนิตยสารเฉินซี" เป้ยฉายเวยพูดด้วยน้ำเสียงติดขัด “แต่เธอบอกฉันเองไม่ใช่หรอ ว่าฉันเหมาะกับอาชีพนักข่าว บริษั​ทนิตยสารเฉินซีก็ดูไม่เลวนะ”

"บริษัท​นิตยสารเฉินซีเข้มงวดในการรับพนักงานนะ​" คนเก่งที่จะสามารถอยู่ชั้นสามสิบสองนั้นต้องมีตำแหน่งที่แน่นอน​ ​เพราะที่นั่นไม่ใช่สำนักพิมพ์กระจอก​ เป้ยฉายเวยกลัวนิสัยความอดทนต่ำของเพื่อนเธอที่อาจจะอยู่ได้แค่ไม่กี่วัน

" เอาหน่า ตอนฉันกลับมาฝ่ายบุคคลได้ส่งอีเมลมาให้ฉันเกือบแปดสิบฉบับ​ ฉันไปทำงานกับเธอ​ ต้องเป็นกำลังสำคัญเล็กๆให้กับพวกเขาได้แน่​ เธอคิดว่าจะเป็นผู้ช่วยที่คอยบริการคนอื่นแบบเธอหรอ"

ยังไงซะเธอก็เรียบจบคณะข่าวสาร​ ไม่ใช่แค่งานนักข่าวในบริษัท​นิตยสาร​ เป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการ​ยังไม่มีปัญหา​ แค่เธอไม่ชอบกฎระเบียบ​ของที่ทำงาน​ เลยยอมที่เหนื่อยกับงานข้างนอก

"อีกเรื่อง​ งานของฉันสามารถดูแลครอบครัวได้อิสระตลอดเวลา​ เลยไม่มีปัญหา"

"เอาเถอะ​ เธอมีความสุขก็ดีแล้ว" ถ้าพูดถึงเรื่องความสามารถ​ เป้ยฉายเวยเชื่อในตัวเพื่อนรักของเธอ​ ถ้าไม่นับเรื่องที่เธออู้งานทั้งวัน​ ถ้าทำงานก็จะจริงจังมาก

"ซือซือ งั้นแค่นี้นะ​ พรุ่งนี้ตอนเที่ยงเจอกัน" อวี๋ซือซือพูดจบก็กดวางสายเลย

เป้ยฉายเวยล้มตัวลงบนโซฟา​ จิตใจกระวนกระวาย​และมีเรื่องกลุ้มใจบางเรื่องที่พูดออกมาไม่ได้

ถ้าหนานฉิงรู้เข้า​ จะแสดงท่าทียังไง

คิดมาทั้งคืน​จนเก็บเอาไปฝัน​ ตอนเช้าเลยตื่นนอนแบบสะลึมสะลือ

ยื่นมือเข้าไปหยิบโทรศัพท์​ใต้หมอนขึ้นมาดู ก็ปรากฏ​ข้อความหนึ่งขึ้นมาบนหน้าจอ

"แปดโมงครึ่ง​ รายงานตัวที่ฝ่ายบุคค"

" เชอะ" เป้ยฉายเวยเหลือบดูเวลา​ ความง่วงกระจายหายไปหมด​ เธอรีบคว้าชุดจากตู้และเปลี่ยนเสื้อผ้า

รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน​ ถ้าไม่ใช่เพราะฉูเจ๋อหยางคนชั่วคนนั้นเธอคงไม่ฝันเรื่องปลาใหญ่กินปลาเล็กทั้งคืน

ปลาเป็นปลาตัวจริง​ แต่หัวไม่ใช่​ ปลาใหญ่เป็นหน้าชั่วร้ายของฉูเจ๋อหยาง ส่วนเธอคือปลาเล็กที่หนียังไงก็หนีไม่พ้น​

พอคิดถึงดวงตาดุร้ายบนใบหน้านั้น​ ร่างกายเป้ยฉายเวยก็สั้นเล็กน้อย

เธอรีบที่สุด​ จัดเสื้อผ้าสวมรองเท้า​ ตอนแรกคิดว่าจะนั่งรถเมย์ไป​ แต่ตอนนี้คงต้องเมื่อยแขนไปโบกแท็กซี่​แล้ว

ด้วยความรีบร้อนของเป้ยฉายเวย​ ในที่สุดก็มาถึงแผนกบุคคลในเวลาแปดโมงยี่สิบห้านาที

ผู้หญิงวัยกลางคนแผนกฝ่ายบุคคลขยับแว่นตากรอบสีดำบนจมูกของเธอ​ มองเป้ยฉายเวยที่อยู่ตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า​ และถามด้วยเสียงเรียบ​ "เป้ยฉายเวยใช่ไหม"

"ค่ะ" เป้ยฉายเวยพยักหน้าตอบอย่างสุภาพ

"ตามฉันมาฉันเป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคล ชื่อหูวี่เหมย เธอเรียกว่าพี่เหมยก็ได้​ ฉันจะพาไปเดินดูที่สำนักงานก่อน​ ส่วนรายละเอียดจะส่งให้อีกที" หูวี่เหมยพูดไปพลางเดินไปพลาง

"ค่ะ​ พี่เหมย"

แม้เธอจะไม่รู้ว่าฉูเจ๋อหยางพูดกับพี่เหมยยังไงเรื่องเหตุผลในการรับเธอเข้าทำงาน แต่ดูจากสีหน้าเรียบของพี่เหมย ก็เข้าใจทันทีว่าเป็นคนที่ทำงานให้กับฉูเจ๋อหยาง และมีความอดทนสูง

เธอพอใจในความสุภาพของหูวี่เหมยที่แสดงกับเธอ สำคัญที่เป้ยฉายเวยไม่หุนหันพลันแล่น​เหมือนพวกเด็กฝึกงาน​ เวลาทำงานก็แต่งตัวสวยเรียบร้อย​ ถ้าคนที่ไม่รู้จักคงคิดว่าเลือกหน้าตาเข้ามาทำงาน

ทุกคนต่างรู้ดีว่าพวกเขาเข้ามาได้เพราะทนายฉู​ เป็นผู้หญิงอีกกลุ่มที่ไม่มีสมอง

" ชั้นสิบเก้าเป็นสำนักงานฝ่ายบุคคลของพวกเราและฝ่ายพลาธิการ​ ส่วนใหญ่จะรับข้อพิพาทที่ง่าย ๆ​ เธอคือผู้ช่วยเลขา​ เรื่องพวกนี้รู้แค่ผิวเผินก็พอ"

หูวี่เหมยพาเป้ยฉายเวยเดินชั้นสิบเก้าหนึ่งรอบ​ พาขึ้นไปข้างบน" ชั้นยี่สิบคือที่ทำงานของทนายความ​ บริษัทของเรามีทนายทั้งหมดหกสิบคน​ ยังไม่รวมทนายที่ไม่มีชื่อ​ เดินไปข้างในก็จะเป็นห้องพักและห้องประชุม"

เป้ยฉายเวยตามเธออย่างใกล้ชิด จดรายละเอียดขอบเขต​ของบริษัทอย่างตั้งใจ​

หูวี่เหมยหันตัวกลับมาพูด​" ห้องสุดท้ายของโซนพิเศษ​ ก็คือห้องทำงานของทนายฉู​ โอเค​ เธอคงจำได้หมดแล้วล่ะ"

"ค่ะ​ ส่วนใหญ่​ก็จำได้หมดแล้วค่ะ" เป้ยฉายเวยหยุดตาม บริษัท​ที่มีคนเข้าออกอยู่ตลอดเวลาไม่ได้หยุดชะงักเพราะมีพนักงานใหม่เข้ามา​ ทุกคนต่างก้มหน้าก้มตาทำงาน​ ในบริเวณ​ใกล้เคียง​นั้นเอง​ เป้ยฉายเวยก็โดนซุบซิบเบาๆความสำเร็จของฉูเจ๋อหยางไม่ใช่ไร้เหตุผล​"ทนายฉูจะมาจัดการเรื่องคดีแค่ตอนเช้า​ น้อยมากที่จะอยู่ออฟฟิตทั้งวัน" จู่ๆหูวี่เหมยก็พูดเรื่องที่ไม่สำคัญออกมา เป้ยฉายเวยตะลึงไปชั่วครู่​ แล้วก็เข้าใจว่าหูวี่เหมยกำลังพูดโจมตีเธอ​ ไม่เช่นนั้นจะมีความคิดแบบนี้ได้อย่างไร​ เธอไม่มีความคิดอื่นแล้ว ​จึงพยักหน้า​ตอบรับ​ "พี่เหมยฉันเข้า​ใจแล้วค่ะ""อืม งานของเธอว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก​ ถ้าสามารถรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้​ เธอก็อยู่ที่นี่ได้โดยไม่ต้องกังวลอะไร"หูวี่เหมยถอนหายใจก่อนพูดต่อ​ "ไม่ใช่ว่าพี่พูดแรงนะ​ แต่ผู้ช่วยคนก่อนประพฤติ​ตัวไม่ค่อยดีเลยถูกไล่ออก"" ฉันเข้าใจค่ะพี่เหมย" เป้ยฉายเวยจินตนาการ​ได้เป็นเพราะผู้ช่วยคนก่อนจ้องจะจับไอ่คนเจ้าเล่ห์​นั่นถึงถูกไล่ออก​ แต่วางใจได้​ เธอไม่โง่อย่างนั้นแน่นอน"อืม งั้นมาคุยเรื่องงานของเธอจากนี้กันเถอะ" หูวี่เหมยมองเป้ยฉายเวยก็รู้สึกถูกชะตาขึ้น​ คำพูดไม่แข็งกร้าวเหมือนก่อนหน้านี้

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์