บทที่ 52 ซ่งหรูอี้
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ประตูบ้านหน้าลานของตระกูลซ่ง
แม้ว่าในตระกูลซ่งจะมีลูกสาวหลายคน แต่มีเป็นเพียงคนเดียวที่มีคุณสมบัติิเหมาะสมที่จะถูกเรียกว่า "คุณหนู"เท่านั้น
ซ่งหรูอี้!
“รองหัวหน้า!”
ดวงตาของเฟิ่งหวงเป็นประกาย หล่อนรู้อดีตของรองหัวหน้า และรู้ว่าศัตรูที่ใหญ่ที่สุดก็คือ หญิงคนนี้!
ถังเฉายกมือห้าม เพื่อหยุดเจตนาที่ต้องการจะฆ่าของเฟิ่งหวง
นอกจากใบหน้าที่สงแล้วยังแฝงไปด้วยรอยยิ้มที่ตลกและดูซับซ้อนนัก
“ซ่งหรูอี้ มาสักทีนะ...”
“หรูอี้มาแล้ว!”
เมื่อได้ยินสามคำนี้ ซ่งสวินก็เหมือนได้ยินเสียงสวรรค์ หัวใจที่พองโตของเขาตอนนี้ได้ปล่อยมันลงมาแล้ว
รุ่นน้องตระกูลซ่ง ต่างมีความตื่นเต้นอยู่ในแววตา จากนั้นก็เหมือนกับมีความมั่นใจขึ้นมา มองไปที่ถังเฉาด้วยความดุดัน
“ถังเฉา นายตายแน่!”
เฟิ่งหวงมองไปที่ประตูใหญ่ หล่อนไม่เข้าใจว่าเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น ทำไมพวกเขาถึงได้มีอาการคึกขนาดนี้?
อย่างไรก็ตามสิ่งนี้กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเฟิ่งหวง ที่อยากรู้ว่าผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้หน้าตาเป็นยังไง
กึก กึก...
กึก กึก...
หลังจากนั้น ทุกคนก็ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้น
ร่างสูงสง่าเดินเข้ามาท่ามกลางกลุ่มชาย
เสื้อสูทสีดำปกคลุมเสื้อเชิ้ตสีขาวบางๆด้านใน หล่อนไม่ได้สวมกระโปรงแต่อย่างใด หากแต่เป็นกางเกงทรงตรงที่ดูหลวมนิดหน่อย เผยให้เห็นเรียวขาที่ขาวดุจหิมะ
ผ้าพันคอเนื้อนุ่มพันอยู่รอบคอของหล่อน นี่เป็นสิ่งประดับชิ้นเดียวที่อยู่บนตัว
อย่างไรก็ตาม ผู้คนต่างรู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่ามันเหมือนกับเวทมนตร์ ใส่เสื้อผ้าธรรมดาเรียบง่ายแต่กลับดูเป็นหญิงสาวที่ดูมีชนชั้น
ในขณะที่หล่อนเดินเข้ามา งานเลี้ยงที่เสียงดังก็กลับเงียบสงัด ผู้คนต่างมาด้วยความหวาดกลัว ยกเว้นถังเฉาและเฟิ่งหวง
“ประธานซ่ง!”
ซ่งหมิงเวยรีบเดินมาข้างหน้า และทักทายซ่งหรูอี้
ซงหรูอี้พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็เดินตรงต่อไป
เมื่อเดินผ่านถังเฉาและเฟิ่งหวง หล่อนได้หยุดฝีเท้า แล้วมาอยู่ตรงหน้าของพวกเขา
โดยที่ไม่ต้องหันศีรษะไป เพียงแค่เหลือบมองอย่างขี้เล่นไปที่ถังเฉา
เฟิ่งหวงมองหล่อนอย่างไม่เป็นมิตร แต่หล่อนไม่รู้สึกรู้สาอะไร กลับก็ได้แต่ยิ้มและยังคงมองไปข้างหน้า--ราวกับว่ากำลังมองหมาตัวหนึ่งที่กำลังเห่าใส่หล่อน
หลังจากยืนแช่เป็นเวลาหนึ่งวินาที ซ่งหรูอี้ก็ถอนสายตาออก พร้อมกับเดินตรงต่อไปที่ตรงกลางของงานเลี้ยง
เมื่อเห็นว่ามีพนักงานรักษาความปลอดภัยของตระกูลซ่งยืนล้อมรอบอยู่ ซ่งอี้หรูก็บ่นเล็กน้อยว่า “คืนนี้เป็นการประชุมธุรกิจของฉัน จะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยทำไมตั้งเยอะแยะ ออกไปให้ซะ!”
คำพูดของหล่อนนั้นราวกับฟ้าร้อง สีหน้าของทุกคนนั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“หรูอี้ จำเขาได้ไหม เขาคือคนไร้ประประโยชน์ที่หนีงานแต่งงานเมื่อห้าปีก่อนไงไม่เพียงแต่ทำร้ายเทียนซานแต่ยังจะฆ่าฉันด้วย!”ชายวัยกลางคนกล่าวเบาๆกับซ่งหรูอี้
“งั้นเหรอ?”
ซ่งหรูอี้เหลือบไปมองถังเฉา จากนั้นก็พูดเบาๆว่า “รอให้งานประชุมทางธุรกิจของฉันเสร็จสิ้นลง แล้วฉันจะมาขอคำอธิบายก็แล้วกัน”
สีหน้าของคนในตระกูลซ่งนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก ซ่งหรูอี้ ไม่ได้คิดจะมาแก้แค้นแทนพวกเขาหรอกเหรอ?
ฉากนี้ดูเหมือนจะทำให้เหล่าบรรดาหัวหน้าตระกูลชะงักกันไปเลยทีเดียว
ดูเหมือนว่าซ่งรูอี้และตระกูลซ่งจะเดินกันคนละทางเสียแล้ว
มีเพียงแต่ถังเฉาเท่านั้นที่นั่งจิบชาอย่างสบายใจ พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า เขาไม่แปลกใจกับสิ่งนี้ที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
ซ่งเต้าหลิงและซ่งสวินต่างมองหน้ากัน ดวงตามีความกังวลขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนว่าสิ่งที่พวกเขากังวลมากที่สุดนั้นได้เกิดขึ้นแล้ว
เดิมที พวกเขาคิดว่าซ่งหรูอี้จะช่วยจัดการถังเฉาให้สิ้นซาก แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้นั้น หล่อนไม่ได้คิดจะลงมือกับถังเฉาเลยแม้แต่น้อย
จากนั้นซ่งสวินก็ก้าวเดินไปข้างหน้าและกล่าวกับซ่งหรูอี้อย่างเคร่งขรึมว่า “หรูอี้ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่สำคัญเท่าเรื่องของตระกูลหรอกนะ ชิงหมิงและเทียนซานโดนไอ้เด็กคนนี้ตีจนบาดเจ็บสาหัส แกที่เป็นถึงหัวหน้าของตระกูลก็ต้อง มันยากที่จะผลักดันความรับผิดชอบแบบนี้!”
ด้วยแรงผลักดันนี้ ซ่งสวินได้น้ำความเป็นหัวหน้าออกมา
อย่างไรก็ตาม ซ่งหรูอี้หรี่ตาลงเล็กน้อย หล่อนเหลือบมองไปที่ซ่งสวิน พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่า “คุณปู่ นี่ท่านกำลังสอนหนูอยู่เหรอคะ?”
“หรูอี้!”
ชายวัยกลางคนอีกคนก็ได้กล่าวกบซ่งหรูอี้อย่างจริงจังอีกว่า “พ่อเขาก็ทำเพื่อตระกูลเรา พวกเราเชื่อมั่นในตัวแก ถึงได้มอบตำแหน่งหัวหน้าของตระกูลซ่งให้แก แกห้ามเนรคุณต่อความไว้วางใจของพวกเรา!”
“คุณไม่มีสิทธิ์มาพูดที่นี่?”
ซ่งหรูอี้หัวเราะเยาะ จากนั้นก็ขึ้นไปนั่งตรงกลางห้อง พร้อมกับกวาดตามองผู้คนราวกับตนเป็นราชา “ฉันเป็นหัวหน้าของตระกูลซ่ง ทุกๆเรื่องไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่ของตระกูล ก็ต้องเป็นฉันที่ตัดสินใจ พวกคุณมีสิทธิ์มาชี้นิ้วสั่งฉันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
“แก---”
ในตระกูลซ่ง รูม่านตาของทุกคนนั้นหดลงเล็กน้อย ต่างมองไปที่ซ่งหรูอี้ด้วยความโกรธ แต่ก็ไม่กล้าที่จะระบายมันออกไป
ความตั้งใจในการฆ่าที่ชัดเจนปรากฏขึ้นในดวงตาของซ่งสวิน แต่ก็โดนซ่งหรูอี้บังคับเอาไว้ได้อย่างดี เขาได้กล่าวไปข้างหน้าและกล่าวว่า “การประชุมทางธุรกิจนี้ถูกจัดขึ้นโดยฉัน มันเกี่ยวอะไรกับพวกคุณกัน ถึงแม้ว่าจะเกิดเรื่องก็ตาม แต่ก็คิดที่จะต้องประชุมให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ไม่งั้นจะให้ตระกูลอื่นเห็นความอัปลักษณ์ของตระกูลเรางั้นเหรอ?”
น้ำเสียงที่หนักแน่นนี้ ทำให้ทุกคนในตระกูลซ่งไม่กล้าที่จะเปิดปากออกมา
หัวหน้าของตระกูลอื่นเองก็ไม่กล้าที่จะพูดเช่นกัน ซ่งสวินที่เป็นสายสืบทอดทางตรงเองก็ยังไม่สามารถทำอะไรซ่งหรูอี้ได้ ไม่ต้องพูดถึงคนในตระกูลที่รองลงมาบ้านเล็กบ้านน้อยอีก
แต่ก็ยังมีซ่งเต้าหลิงที่ยังคงเข้าใจ พร้อมกับพูดกับซ่งสวินว่า “พ่อ เราตามหล่อนไปก่อนเถอะ”
ซ่งสวินเองก็ทำได้เพียงถอนหายใจออกมา ถอนกำลังพนักงานรักษาความปลอดภัยออกไป
เมื่อนึกถึงประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมานั้น ดวงตาของเขาก็ปรากฏความไม่พอใจขึ้น
ตระกูลซ่งตกอยู่ในมือของคนนอกเสียแล้ว!
แปะแปะ--
ทันใดนั้น ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นมาทุกคนหันไปตามเสียง ก็พบถังเฉากำลังปรบมืออยู่เบาๆพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มขี้เล่นของเขา พร้อมกับพูดเสียงดังว่า “ท่านปู่นี่เป็นชายที่เยี่ยมยอดจริงๆยืดหยุ่นได้ดีมากๆ!”“แก!”เมื่อได้ยินที่ถังเฉาพูด ดวงตาของซ่งสวินก็แดงก่ำและกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แทบรอไม่ไหวที่จะเข้าไปทุบถังเฉาเขาฟังไม่รู้เรื่องหรือไงว่าถังเฉากำลังแกล้งเขาอยู่?เป็นชายที่เยี่ยมยอดจริงๆยืดหยุ่นได้ดีมากๆ นี่มันก็แค่คำพูดที่กดดันซ่งหรูอี้เท่านั้นเอง!ซ่งหรูอี้มองถังเฉาอย่างละเอียดลึก จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปสงบลงและประกาศว่า “การประชุมธุรกิจกำลังจะเริ่มอย่างเป็นทางการแล้ว”จากนั้นซ่งหรูอี้ก็ได้เป็นประธานในการประชุมเป็นการส่วนตัว ซ่งสวิน ซ่งเต้าหลิงและคนอื่นๆในตระกูลซ่งถอยหลังลงไปอย่างไม่เต็มใจ หัวหน้าแต่ละตระกูลก็พากันตั้งใจฟังอย่างดีเฟิ่งหวงจ้องร่างของหล่อนอยู่ทุกวินาที จากนั้นก็ก้มศีรษะลง ส่ายหัวแล้วพูดว่า “รองหัวหน้า ฉันมองไม่เห็นหล่อนไม่ออกเลย”ถังเฉาจิบชาอย่างสบายใจพร้อมกับรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า “ถ้าหล่อนสามารถมองทะลุปรุโปร่งได้ หล่อนคงตายไปแล้วล่ะ”เฟิ่งหวงรู้สึกตกใจ มีไม่มากคนนักที่รองหัวหน้าจะประเมินสูงเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่ เฟิ่งหวงก็รวบรวมความกล้าถามออกไปว่า “ดูเหมือนว่ารองหัวหน้าจะไม่ได้เกลียดหล่อน?”“ก็เกลียดแหละ แต่ที่มีมากกว่ามันคือความหวงแหน”ถังเฉาบอกไปที่ร่างของซ่งหรูอี้ และพูดด้วยน้ำเสียงที่หดหู่ว่า “มีเพียงศัตรูเท่านั้นที่รู้จักศัตรูดีที่สุด คนประเภทเดียวกันมักจะทำร้ายกันเป็นครั้งคราวเท่านั้น แต่สิ่งที่มากกว่าก็คือความอบอุ่น”
copy right hot novel pub