โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

บทที่ 398 ตายตาไม่หลับ

ตามจังหวะการก้าวเท้า พลังของถังเฉาเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน

นาทีนี้ เขาเป็นศูนย์กลาง คนที่อยู่บริเวณสิบเมตรรอบนอกล้วนแต่จิตใจสั่นสะท้าน

นั่นเป็นการสั่นที่มาจากเบื้องลึกของจิตวิญญาณชนิดหนึ่ง ไม่เพียงแต่จ้าวจือชิว แม้แต่ผู้มีฝีมือสูงที่มาจากตระกูลเหยียนหลายคนนั้นก็ล้วนแต่เปลี่ยนสีหน้าไปเป็นอย่างมาก

จ้าวเชียนจูนคิดอยู่นาน ทันใดนั้นก็ราวกับคิดอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“พวกเขาล้วนเป็นสังฆานุกรที่ซ่อนตัวอยู่ในสายใน!”

“หมายความว่ายังไง?”

จ้าวเย็นหรานเค้นถามต่อทันที

เธอเองก็เคยได้ยินเรื่องสมาคมการต่อสู้ เย่เทียนหลงของเธอก็เป็นหัวหน้าของสมาคมการต่อสู้

เดิมคิดว่าเย่เทียนหลงกุมอำนาจใหญ่ไว้ในมือ แต่มาดูตอนนี้ หัวหน้าอย่างเขาดูเหมือนจะนับเป็นอะไรไม่ได้

สีหน้าของจ้าวเชียนจูนเอาจริงเอาจัง

“ทุก ๆ สายย่อยของสมาคมการต่อสู้ ล้วนมีการแบ่งเป็นสายในกับสายนอก เทียบกันแล้วสายนอกเปิดศูนย์ฝึกศิลปะการต่อสู้ รับออร์เดอร์ ทำเงิน ทั้งยังต้องรักษาหน้าตาของสมาคมการต่อสู้ กิจการของสายในนั้นเรียบง่ายกว่านั้นเยอะเลย”

“แค่สี่คำ ฝึกฝนขั้นสุด สองหูไม่ฟังเรื่องภายนอกหน้าต่าง มุ่งมั่นฝึกฝนดินแดนการต่อสู้”

“ดังนั้นทุกคนในสายในจึงล้วนแต่เป็นผู้มีฝีมือสูงสุด แต่ว่า ปกติผู้มีฝีมือสูงสายในน้อยมากที่จะปรากฏตัว นอกจากสายนอกจะประสบกับภัยพิบัติที่นำไปสู่หนทางแห่งความตาย”

จ้าวเชียนจูนรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ คราวที่แล้วถังเฉาพลิกคว่ำทั้งสมาคมการต่อสู้ด้วยตัวคนเดียว นอกจากนี้เหยียนยงหัวหน้าที่แพ้ราบคาบก็ล้วนไม่ได้ไปรบกวนผู้มีฝีมือสูงสายใน ทำไมครั้งนี้ตระกูลจ้าวที่มีโครงสร้างเล็ก ๆ ถึงได้ดึงดูดผู้มีฝีมือสูงสายในมา?

ในตอนนี้ มองถังเฉาที่เดินมา จ้าวจือชิวกลับหัวเราะเยาะเย้ยออกมา “แม้แต่ผู้มีฝีมือสูงของสมาคมการต่อสู้สายในก็ยังกล้าท้าทาย ไม่รู้จริง ๆ ว่าแกอวดดีหรือว่าแข็งแกร่งจริง ๆ”

“ผมบอกแล้ว จัดการพวกที่ไร้ระบบระเบียบพวกนั้นแล้ว ต่อไปก็ตาแกแล้ว ฆ่ามัน!”

จ้าวจือชิวตะโกนเสียงดัง ในสายตาของเขา ถังเฉาได้เป็นศพไปแล้ว

ผู้มีฝีมือสูงสายในเหล่านี้กลับสีหน้าเคร่งขรึมกันทุกคน พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังปราณของยอดฝีมือจากบนร่างของถังเฉา

ในตอนที่ถังเฉาเตรียมจะลงมือนั้นเอง ทันใดนั้นเงาดำจากการย้อนแสงเงาหนึ่งก็แย่งเข้ามาอยู่ด้านหน้าของเขา

“ฝูงมดฝูงหนึ่ง จำเป็นต้องให้รองหัวหน้าลงมือที่ไหนกัน?”

สีหน้าของเฟิ่งหวงเยือกเย็น มองไปยังผู้มีฝีมือสูงสายในเหล่านั้นอย่างเยือกเย็น

ถังเฉาเห็นอย่างนั้นก็พยักหน้า ไม่ก้าวไปข้างหน้าอีก

“งั้นมอบให้เธอแล้วกัน”

เห็นฉากนี้แล้วจ้าวจือชิวก็ตะลึง จากนั้นสีหน้าก็ยิ่งเหยียดหยาม

“ทำได้แค่แสดงอำนาจ สุดท้ายก็ยังต้องให้บอดี้การ์ดของตัวเองลงมือ!”

ผู้มีฝีมือสูงสายในทั้งหมดมองฉากนี้แล้วก็ผ่อนลมหายใจ ในสายตาของพวกเขา เฟิ่งหวงนั้นสู้ถังเฉาไม่ได้

“ถึงอย่างไรช้าเร็วก็ต้องตาย ตายช้าตายเร็ว แล้วจะมีความแตกต่างอะไรล่ะ?”

หัวเราะเสียงเย็นออกมา ผู้มีฝีมือสูงสายในทั้งหมดก็โจมตีไปทางเฟิ่งหวงพร้อมกัน

คมมีดในมือของเฟิ่งหวงก็เปลี่ยนทิศทาง ประจันหน้าออกไป

อีกด้านหนึ่ง พอได้ฟังจ้าวเชียนจูนพูดถึงสมาคมการต่อสู้สายในจบ จ้าวเย็นหรานก็หน้าซีดเผือด รีบร้องไปทางถังเฉาทันที “คุณรีบหนีไป!”

จ้าวเย็นหรานไม่รู้ศักยภาพที่แท้จริงของถังเฉา รู้เพียงผู้มีฝีมือสูงสายในมาโจมตี ถังเฉากับเฟิ่งหวงต้องไม่ใช่คู่ต่อสู้แน่

แต่ทว่า ถังเฉายังคงยืนอยู่อย่างไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ไม่ใส่ใจแม้แต่สถานการณ์การรบ

ราวกับ... รู้ผลลัพธ์ตั้งแต่แรกแล้วอย่างไรอย่างนั้น

“พวกเราตายแน่แล้ว...”

บนใบหน้าของจ้าวจือชิว ก็ปรากฏความดุร้ายขึ้นมา

ทว่านาทีถัดมา สายตาของทุกคนก็เบิกกว้าง

ผลัวะ ผลัวะ!

พวกเขาเห็นเพียงเงาดำตัดสลับกัน มองไม่ชัดเลยสักนิดว่าเฟิ่งหวงลงมืออย่างไร ศพร่วงลงอย่างไร้คุณภาพทีละร่าง

กล่องเสียงของทุกคนถูกตัดขาด แม้แต่เสียงร้องอย่างน่าเวทนาก็ยังไม่มีโอกาสได้เปล่งออกมา ก็ตายอย่างกะทันหัน

ทันใดนั้นทุกคนล้วนมีความรู้สึกเหมือนภาพลวงตาในความฝัน เบิกตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ใบหน้าของจ้าวจือชิวก็ยิ่งเต็มไปด้วยความไม่กล้าที่จะเชื่อ ไพ่ที่ยังไม่ได้เปิดที่เขาภาคภูมิใจ ที่หยิบยืมมาจากเหยียนเสี้ยงหม่า นึกไม่ถึงว่าจะถูกสังหารในชั่วพริบตา!

ถังเฉาเพียงแค่หัวเราะอย่างเย็นชาให้เหตุการณ์นี้

ถึงแม้ว่าผู้มีฝีมือสูงสายในจะแข็งแกร่ง แต่ถ้าเทียบกับนักสังหารมืออาชีพแล้ว ยังห่างกันไม่ใช่น้อย

ยิ่งไปกว่านั้น เฟิ่งหวงเป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งของโลก สังหารพวกเขา ก็เหมือนหั่นผักหั่นปลา

แต่ว่า เฟิ่งหวงได้เหลือพยานปากไว้คนหนึ่ง โยนไปไว้ตรงหน้าถังเฉาเหมือนกับโยนศพสุนัขตัวหนึ่ง

“ตอนนี้บอกได้หรือยัง?”

ถังเฉาเดินมาอยู่ข้างหน้า มองเขาอย่างเย็นชา “พวกคุณมีความสัมพันธ์อะไรกับตระกูลเหยียน”

ผู้มีฝีมือสูงคนนั้นมองถังเฉาด้วยใบหน้าประหวั่นพรั่นพรึง ภายใต้สายตาที่เย็นชาของถังเฉา นึกไม่ถึงว่าเขาจะมีความรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงของการขอมีชีวิตอยู่ก็ไม่ได้ ขอความตายก็ไม่สามารถ

“ผมบอกแล้ว คุณก็จะไว้ชีวิตผมใช่ไหม?”

เสียงของเขาหวาดกลัวจนถึงขีดสุด

“ผมปล่อยคุณไปแน่” ถังเฉาเอ่ยอย่างเย็นชา

ผู้มีฝีมือสูงคนนั้นฟังเสียงที่อยู่เบื้องหลังของถังเฉาไม่ออก รีบร้อนพยักหน้า

“คุณทายไม่ผิด พวกเราเป็นคนของตระกูลเหยียน”

ได้ยินอย่างนั้น ถังเฉาก็ถามอีก “แล้วตระกูลเหยียนมีความสัมพันธ์อะไรกับสมาคมการต่อสู้สายใน?”

เจิงเทียนเสียงเคยบอกเขาไว้ว่า สี่ตระกูลมั่งคั่งและทรงอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ของเมืองหมิงจู ตระกูลเหยียนเป็นตระกูลที่มัธยัสถ์ที่สุด และก็เป็นตระกูลหนึ่งที่ผู้คนยากจะคาดเดาได้

เหมือนกับตัดขาดจากโลกภายนอก ทั้งไม่เข้าร่วมการต่อสู้แย่งลาภยศสรรเสริญ ทั้งยังไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะอีก

ถังเฉาไม่เชื่อว่าผู้นำของตระกูลเหยียนสันโดษได้ขนาดนั้น

ผู้มีฝีมือสูงคนนั้นพูดทุกอย่างที่รู้ออกมาทันที

“ตระกูลเหยียน ก็เป็นสมาคมการต่อสู้สายใน ทุกคนในตระกูลเหยียนล้วนเป็นบูโดอยู่นิดหน่อย นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเหยียนยงถึงได้กลายเป็นหัวหน้าสมาคมการต่อสู้สายนอก!”

“อะไรนะ ตระกูลเหยียนเป็นสายในในตัวเอง?”

ได้ยินอย่างนั้น ดวงตาของถังเฉาก็หรี่ลงอย่างล้ำลึก

แน่นอนว่าเขามองออก ผู้มีฝีมือสูงคนนี้ไม่ได้พูดโกหก

เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ นึกไม่ถึงว่าเนื้อแท้ของตระกูลเหยียนจะเป็นสายในของสมาคมการต่อสู้

ที่จริง ถังเฉาควรจะคิดได้ตั้งนานแล้ว

ตระกูลเหยียนเป็นตระกูลที่ลึกลับที่สุดในสี่ตระกูลมั่งคั่งและทรงอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ในเมืองหมิงจูตระกูลหนึ่ง ทั้งยังไม่เหมือนกับอีกสามตระกูลใหญ่ตระกูลอื่น ไม่สู้แย่งชิงอะไรทั้งนั้น สามารถมองออกจากเหยียนยงหัวหน้าเก่าได้ว่าจะต้องมีความสัมพันธ์กับสมาคมการต่อสู้แน่ ๆ

เพียงแต่ว่า เรื่องนี้สั่นสะเทือนวงการเกินไป คนทั่วไปใครจะไปคิดถึงความสัมพันธ์ขั้นนี้ได้?

“แล้วทำไมพวกคุณถึงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ของตระกูลจ้าวได้?”

นี่เป็นคำสามที่สองที่ถังเฉาให้ความสำคัญ

คนคนนั้นหันกลับไปมองจ้าวจือชิวแวบหนึ่ง พอตัดสินใจอย่างแน่วแน่ก็กัดฟันพูดว่า “เพื่อสองเรื่อง ช่วยเหลือให้จ้าวจือชิวอยู่บนยอดสูงสุด สอง เพื่อที่จะฆ่าคุณ!”

“รนหาที่ตาย!”

พอคำนี้พูดออกมา ในดวงตาของเฟิ่งหวงก็ปะทุรังสีสังหารที่น่าสะพรึงกลัวขึ้นมาทันที

ถังเฉาเองก็มีสีหน้าไร้อารมณ์ ไม่ต้องคิดเลย จะต้องหมายถึงเหยียนเสี้ยงหม่าแน่ ๆ

“ฆ่าเถอะ”

เขาเอ่ยอย่างเย็นชา

สีหน้าของผู้มีฝีมือสูงคนนั้นเปลี่ยนไปเป็นหวาดกลัวในชั่วพริบตา “คุณรับปากผมว่าจะไม่ฆ่าผม จะมาพูดแล้วกลับคำได้อย่างไร?”

ถังเฉายิ้มอย่างเย็นชา “ผมทำเหรอ? ผมรับปากว่าจะไม่ฆ่าคุณ แต่ว่า ไม่ได้หมายความว่าเฟิ่งหวงจะไม่ฆ่าคุณ”

“ตาย!”

กริชในมือของเฟิ่งหวงยกขึ้นอย่างรวดเร็ว ศีรษะหล่นลงมาส่งเสียงรับ

“ตาคุณแล้ว”

ถังเฉามองไปที่จ้าวจือชิว สายตาเรียบเรื่อย “คุณยังมีไพ่อะไรที่ยังไม่เปิดอีกไหม ถ้าไม่มี ทั้งหมดก็จบแล้ว”

จ้าวจือชิวสีหน้าซีดเผือด ผู้มีฝีมือสูงสายในพวกนี้เป็นไพ่ที่ยังไม่เปิดใบสุดท้ายของเขาแล้ว แต่ว่ากลับถูกผู้หญิงชุดหนังคนนั้นฆ่าเสียเรียบ เหลือเขาไว้เพียงคนเดียว สถานการณ์เลวร้ายจนไม่อาจหยุดยั้งได้แล้ว

จ้าวเย็นหรานมองอย่างโง่เง่า เรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้ทุกเรื่องล้วนเกินความคาดเดาของเธอ

เธอคิดไม่ถึงว่าจ้าวเชียนจูนจะหักหลังได้ เธอคิดไม่ถึงว่าจ้าวจือชิวจะเชิญเอาผู้มีฝีมือสูงจากสมาคมการต่อสู้สายในมาได้ และเธอก็คือไม่ถึงว่า... ศักยภาพของถังเฉา... จะแข็งแกร่งอย่างคาดไม่ถึงเช่นนี้

มองดูถังเฉาที่เดินมาทางเขา กำปั้นของจ้าวจือชิวบีบแล้วคลาย ในที่สุดก็ไม่ต่อต้านอีก

เขามองจ้าวเย็นหรานแวบหนึ่ง พูดหัวเราะเยาะตัวเองว่า “เดิมทีฉันคิดว่าสถานการณ์โดยรวมของคืนนี้อยู่ในกำมือ แต่คิดไม่ถึงว่าตั้งแต่เริ่ม ฉันจะเป็นไอ้ขี้แพ้ตั้งแต่หัวจรดเท้าคนหนึ่ง”

“คุณผิดแล้วล่ะ”

ถังเฉาเอ่ยด้วยใบหน้าไร้ความอารมณ์ “ถ้าหากคุณไม่วางแผนก่อความวุ่นวายในครั้งนี้ ทั้งหมดนี่ก็จะไม่เกิดขึ้น”

จ้าวจือชิวมึนงง จากนั้นก็หัวเราะด้วยความขมฝาด “พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ ผู้แพ้มักผิดเสมอ น้องสาว ในเมื่อฉันแพ้แล้ว จะอยู่หรือตายก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอ”

พูดจบก็ส่งปืนกระบอกหนึ่งให้กับจ้าวเย็นหราน

ได้ยินอย่างนั้น ถังเฉาก็หยุดย่างก้าว ถอยตัวออกไป

ดูเหมือนจ้าวเย็นหรานจะกระสับกระส่ายไม่สบายใจ ถึงขั้นจุดบุหรี่อย่างสั่น ๆ

เธอเคียดแค้นจ้าวจือชิวก็จริง แต่ถ้าเธอฆ่าคน เธอก็ทำไม่ได้

มองดูฉากนี้ เฟิ่งหวงก็มองไปที่ถังเฉาทันที “รองหัวหน้าคะ ทำไมถึงไม่ให้ฉันฆ่าเขาแทนเธอล่ะคะ?”

“เพราะว่าคุณไม่มีคุณสมบัตินี้ ผมเองก็ไม่มี”ถังเฉาจ้องมองเธอเช่นเดียวกัน “นี่เป็นเรื่องในครอบครัวของตระกูลจ้าวของพวกเขา พวกเราไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่าย”เฟิ่งหวงส่ายศีรษะ “แบบนั้นโหดร้ายกับเธอมากไป”ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นลูกสาวของตระกูลจ้าว แต่เธอก็ไม่เคยทำเรื่องเลวร้ายใดใด ยิ่งไม่เคยฆ่าคน“เธอก็สามารถกลายเป็นคุณอีกคนหนึ่งได้”ถังเฉาหันกลับไปทันที มองเธอแล้วพูดขึ้นเพิ่งหวงตกตะลึง ไม่นานก็ส่ายหน้ายิ้ม ๆ “เธอเป็นฉันไม่ได้ เพราะเธอไม่ได้เจอคุณเหมือนกับฉัน”ถังเฉายิ้ม จากนั้นก็ติดตามสถานการณ์ต่อเขาเคารพการตัดสินใจของจ้าวเย็นหราน ถ้าเธอไม่มีความกล้าที่จะยิง เขาก็จะปล่อยจ้าวจือชิวไปด้วยความรวดเร็ว บุหรี่ตัวหนึ่งมอดไหม้จนหมดมวน สีหน้าของจ้าวเย็นหรานเปลี่ยนไปทันที กัดฟันพูดอย่างฉับพลัน “นายไปเถอะ!”สีหน้าของจ้าวจือชิวเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เธอจริงจังเหรอ?”“ไปเซ่! ต่อไปอย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก!”จ้าวเย็นหรานตะคอกเสียงดังจ้าวจือชิวเงียบไปพักหนึ่ง มองเธออย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง “หวังว่าเธอจะไม่เสียใจภายหลังนะ”พูดจบก็เดินก้าวยาว ๆ ออกจากตระกูลจ้าวไปเฟิ่งหวงผ่อนลมหายใจเฮือกหนึ่ง “โชคดีที่เธอไม่ได้ยิง”“บางที ความสิ้นหวังของคืนนี้ ยังไม่เพียงพอที่จะให้เธอเหนี่ยวไกปืน”ถังเฉายิ้ม ตั้งใจจะพาเฟิ่งหวงจากไปปัง!แต่ทว่า ในตอนนี้เอง ในบ้านกลับส่งเสียงปืนขึ้นมาทันทีโดยไม่มีพื้นเพทันใดนั้น สีหน้าของถังเฉากับเฟิ่งหวงก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก จ้าวเย็นหรานเองก็แข็งทื่อไปทั้งตัว หมุนตัวช้า ๆเห็นเพียงจ้าวจือชิวยังเดินออกไม่พ้นประตูใหญ่ตระกูลจ้าว ก็ล้มลงไปอย่างปวกเปียกตายตาไม่หลับ

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์