โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

บทที่ 705 ให้คำแนะนำ

ยามดึก ที่วิลล่าในเขตเจียงจิ้ง เยี่ยนจิง

เอี๊ยด!

ไฟหน้าที่ส่องประกายตัดผ่านความมืด รถซูเปอร์คาร์สีดำคันหนึ่งได้เข้ามาจอดในลานด้านหน้า

เด็กชายมั่งคั่งคนหนึ่งลงจากรถมาพร้อมกับสองสาวฝาแฝดแสนสวยที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา

สองสาวพี่น้องนั้นเดิมไวน์กันมาเล็กน้อย ใบหน้าที่เล็กนั้นแดง พวกหล่อนพิงแขนของชายหนุ่มอย่างอ่อนแรง

หลังจากเข้าห้องนอน ทั้งสามคนก็ได้พลิกตัวมีความสัมพันธ์กันไปมาอย่างรวดเร็ว

น้องสาวก็ได้พูดอย่างเบลอๆออกไปว่า “คุณชายจางคะ โฆษณาเมื่อกี้คุณเห็นหรือเปล่า?การจับฉลากที่ซอยตงเฉินจะเริ่มในวันพรุ่งนี้แล้วนะ”

จางขุยที่กำลังถาโถมอยู่นั้นก็ไม่ได้มีเวลามาสนใจในสิ่งที่น้องสาวพูด จึงพูดอย่างว่าไปทีว่า “ดูแล้ว ทำไมเหรอ?”

“ถ้าอย่างนั้นคอนโดชุนเจียงเฉิงเมื่อเทียบกับซอยตงเฉินแล้วก็คงดูอ่อนแอมากเลยสินะ”

น้องสาวพูด

“ใช่ ฉันล่ะอยากไปนอนค้างที่ซอยตงเฉินสักคืนจัง”

ตัวพี่สาวเองก็คล้อยตาม

ใบหน้าของจางขุยนั้นเยาะเย้ยอย่างน่ารังเกียจ

ที่ซอยตงเฉิน ต่อให้ฉันเป็นเศรษฐีร่ำรวยแต่ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับจดหมายเชิญ พวกหล่อนสองคนก็เป็นคนบ้านนอกที่ไม่เคยเห็นโลกมาก่อนก็ยังจะอยากเข้าไปที่ซอยตงเฉินอีกนะ

ไม่ต้องพูดหรอกว่าสองสาวฝาแฝดนี่ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าไปในซอยตงเฉิน ต่อให้เข้าไปได้แล้ว พวกหล่อนก็จะหลงทางกันอยู่ดี!

ซื่อเหอย่วนกับวิลล่านั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซื่อเหอย่วนนั้นใหญ่เกินกว่าที่จะจินตนาการได้เสียอีก!

ในสมัยโบราณนั้น มีแต่ขุนนางผู้มีเกียรติเท่านั้นถึงจะได้อาศัย ถือเป็นผลผลิตทางประวัติศาสตร์สมัยโบราณที่ยังหลงเหลืออยู่ หากมีใครบุกเข้ามาโดยที่ไม่มีแผนที่ล่ะก็ พวกเขาจะหลงทางแน่!

“คุณชายจางคะ คุณไม่ได้บอกเหรอว่าในเยี่ยนจิงไม่มีใครที่คุณไม่รู้จัก?สมาคมการค้าเก้าราชาอะไรนั่น คุณไปขอจดหมายเชิญมาสักสองสามใบสิคะ พวกเราเองก็อยากเข้าไปดูด้วย”

“ใช่ใช่ นี่คือซื่อเหอย่วนเลยนะคะ ฉันเคยเห็นก็แต่ในโทรทัศน์เท่านั้น ที่อื่นก็ไม่อนุญาตให้เข้าไป”

ซื่อเหอย่วนนั้นถือเป็นผลผลิตที่เป็นเอกลักษณ์ของเยี่ยนจิง ล้ำค่าและมีชื่อเสียงเลื่องลือ ยกเว้นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติบางอย่างที่เป็นของสาธารณะของประเทศ นอกจากสาธารณสมบัติของประเทศแล้ว ที่เหลือบางส่วนก็จะเป็นสถานที่ส่วนตัว

แม้ว่าต้องการจะเข้าไป ก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสถานที่ที่สูงเสียดฟ้า

เนื่องจากน้องสาวนั้นเป็นคนเริ่ม พี่สาวเองจึงให้ความสนใจ สองสาวพี่น้องก็ต่างโวยวายให้จางขุยพาไปเปิดโลก

ใบหน้าของจางขุยนั้นมืดมนราวกับก้นหม้อ สีหน้ามืดมน

ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากพาไปหรอกนะ แต่ตัวเขาเองก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าไปได้!

แต่ต่อหน้าผู้หญิงของตนแล้ว เขาก็ไม่อยากจะเสียหน้านัก

จางขุยทำได้เพียงหยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมกับโทรไปถามคนในตระกูลของเขา

ตระกูลจางในเยี่ยนจิงนั้นไม่ถือว่าใหญ่มาก ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าเป็นตระกูลชนชั้นกลาง

แน่นอนว่าตระกูลแบบนี้ไม่มีทางเข้าไปได้อย่างแน่นอน เมื่อพ่อของจางขุยรู้เข้าก็ได้ดุด่าเขาไปรอบหนึ่ง

“ถ้าแกอยากจะไป พรุ่งนี้ก่อนที่จะมีการจับฉลากที่ซอยตงเฉิน จะมีการจัดการจับฉลากอสังหาริมทรัพย์ล่วงหน้าไว้และจะมีที่สำหรับพลเรือนอยู่”

นี่คือคำพูดเดิมของพ่อจางขุย

จางขุยตกตะลึงครู่หนึ่งและทันใดนั้นก็มีความคิดขึ้นมา

ไม่สามารถจับฉลากของซอยตงเฉินแต่ได้ไปดูอสังหาริมทรัพย์อื่นๆก็ไม่เลวเลย!

“ได้ พรุ่งนี้ฉันจะพาพวกหล่อนสองคนไปดูเอง!”

จางขุยตอบรับอย่างรวดเร็ว

ซอยตงเฉินนั้นอยู่ภายใต้ชื่อของสมาคมการค้าเก้าราชา ขนาดของฉากในงานไม่น่าเล็กอย่างแน่นอน เป้าหมายมีแค่ตระกูลใหญ่ๆและตระกูลหลวงในเยี่ยนตูเท่านั้น

ตระกูลชนชั้นกลางอย่างตระกูลจางนั้นไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วม

แต่สมาคมการค้าเก้าราชาเองก็ได้คำนึงถึงสิ่งนี้ ก่อนที่อาหารหลักจะมาก็จะมีการเสิร์ฟ‘อาหารเรียกน้ำย่อย’เสียก่อน

การจับสลากอสังหาริมทรัพย์ล่วงหน้านั้นอยู่ภายใต้สมาคมการค้าเก้าราชาและเปิดให้กับประชาชนทั่วไป

แท้จริงแล้ว การใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เขตเมืองหลวงโบราณ ขอเพียงเป็นคนท้องถิ่นก็สามารถมีทรัพย์สินเพียงพอสำหรับซื้ออสังหาริมทรัพย์เหล่านี้

ในยุคที่ราคาบ้านพุ่งกระฉูด โดยเฉพาะในเมืองซื่อจิ่ว การมีบ้านสักหลังนั้นถือเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย

มวลชนคนทั่วไปก็ถือว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่เช่นกัน

ในเช้าตรู่ของวันถัดไป เมื่อดวงอาทิตย์เพิ่งขึ้น ถนนสายหลักของวงแหวนที่หนึ่งและสองนั้นขวักไขว่เต็มไปด้วยรถรา

ยานพาหนะเกือบทั้งหมดขับไปในทิศทางเดียว--สมาคมการค้าเก้าราชา

ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือสถานที่ที่สมาคมการค้าเก้าราชาได้จัดงานจับฉลากอสังหาริมทรัพย์นั้นอยู่ที่ศูนย์การค้าของวังคริสตัลนั่นเอง

ครอบครัวทั้งสามคนของถังเฉานั้นได้มาถึงที่วังคริสตัลประมาณเก้าโมงเช้า

ในเวลานี้ ผู้คนได้รวมตัวกันแน่นแล้ว

คนเหล่านี้ล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับท้องถิ่น คนรวยหรือแม้แต่ดาราจากสถาบันที่มีชื่อเสียง

ถังเฉาและหลินชิงเสว่เดินเข้าไปด้านในแต่ไม่มีใครจำพวกเขาได้

อย่างไรก็ตาม จำนวนคนที่มากขึ้นนี้ล้วนแต่เป็นคนที่ร่ำรวยเงินทอง เป็นคนไม่มีภูมิหลังอะไร จุดประสงค์ในการมาของพวกเขานั้นก็คือหนึ่ง เพื่อมาดูการจับฉลากในช่วงกลางวันและสอง เพื่อทำความรู้จักกับเหล่าคนผู้มีอำนาจ

“ว้าว!คนเยอะจังเลย!”

“คนพวกนี้ล้วนแต่เป็นคนรวยสินะ...”

“ไร้สาระน่า ไม่ดูหน่อยเหรอว่าวันนี้มันวันอะไร ช่วงกลางวัน อสังหาริมทรัพย์ภายใต้สมาคมการค้าเก้าราชาจะเปิดตัว ส่วนตอนกลางคืนก็จะมีการจับฉลากซื่อเหอย่วนในซอยตงเฉิน คนจะไม่เยอะได้ยังไงกัน?”

“คนแค่นี้ พวกหล่อนก็ทำเป็นกระต่ายตื่นตูมไปได้ ฉันจะบอกอะไรพวกหล่อนให้ ตอนกลางวันน่ะคนแค่นี้นั้นไม่ถือว่ามีอะไรหรอกนะ แต่พอตกกลางคืนเท่านั้นแหละ พวกหล่อนจะรู้เลยว่าอะไรที่เรียกว่าคนล้นหลามของจริง!”

“พอถึงเวลานั้น พวกตระกูลหลวงในเยี่ยนตูเอย พวกบุคคลสำคัญจากตระกูลใหญ่ๆเอยก็จะอยู่ที่นั่นกันหมด ว่ากันว่าคุณบ้าการค้า ผู้นำสมาคมการค้าเก้าราชาก็จะมาด้วย!”

“รู้ไหมว่าคุณบ้าการค้านั้นเป็นใคร?ตำนานวงการธุรกิจต้าเซี่ย ติดอันดับหนึ่งในเจ็ดของชีชือ ตามตำนาน เขาเทียบได้กับวอร์เรน บัฟเฟตต์เลย คำแนะนำของเขาสามารถทำให้บริษัทที่ล้มละลายไปแล้วกลับฟื้นคืนมาอีกครั้ง!”

“เก่งกาจขนาดนี้เลย!”

ในเวลานี้เอง บทสนทนานี้ก็ดังเข้ามาในหูของถังเฉา เมื่อถังเฉาได้ยินก็เกือบจะหลุดหัวเราะออกมา

บ้าการค้า ถูกเรียกให้เป็นเทพเจ้าแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าเสียงของชายที่กล่าวเรื่องชาติบ้านเมืองนั้นคุ้นซะเหลือเกิน เมื่อถังเฉามองไปก็เห็นผู้หญิงสองคนและชายหนึ่งคนนั่งอยู่บนพื้นหญ้าในสวนไม่ไกลนัก

พวกเขาคลอเคลียกันอย่างมีความสุข สองสาวฝาแฝดกำลังนอนอยู่ในอ้อมแขนของจางขุย จางขุยนั้นกำลังพูดถึงความคิดเห็นของเขาอย่างตื่นเต้นจนน้ำลายกระเด็นออกมา

“ฉันเดาว่า การจับฉลากของซอยตงเฉินในค่ำคืนนี้นั้นถูกภายในกำหนดมาแล้ว รายชื่อที่ถูกกำหนดนั้นอยู่ในเก้าตระกูลใหญ่ในเยี่ยนตูนี่แหละ”

“ฉันค่อนข้างที่จะสนใจตระกูลหลิน เพราะว่าแตกต่างจากตระกูลหลวงในเยี่ยนตู ตระกูลหลินนั้นไม่มีซื่อเหอย่วนที่เป็นของตนเองเลย อีกทั้งซื่อเหอย่วนเองก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของตระกูลหลวง มันไม่ง่ายเลยที่จะมีโอกาสที่ล้ำค่าเช่นนี้มา ตระกูลหลินจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะแย่งชิงมาแน่ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้มากที่สุด!”

จางขุยได้ชี้แนะถึงเรื่องบ้านเมือง ทำนายถึงสถานการณ์ในค่ำคืนนี้ราวกับว่าเขานั้นสนิทชิดเชื้อกับตระกูลหลวงในเยี่ยนตูเป็นอย่างมาก

“เก่งมากเลย...”

สองสาวฝาแฝดมองไปที่จางขุยอย่างหลงใหล “จางขุย คุณเข้าได้แต่วังคริสตัลในตอนกลางวันเหรอคะ ฉันอยากดูงานวังคริสตัลตอนกลางคืนด้วยจัง”

“ฉันก็อยาก”

สองสาวฝาแฝดมองไปที่จางขุยตาปริบๆ

“บอกกับพวกหล่อนกี่ครั้งแล้วว่าดูแค่ตอนกลางวันก็พอแล้ว อยากจะเข้าไปดูตอนกลางคืนงั้นเหรอ?ฝันไปเถอะ?”

จางขุยตอบกลับอย่างไร้ความอดทน

การที่เขาพาสองสาวฝาแฝดมา เดิมทีก็ไม่ได้ตัดสินใจจะซื้อบ้านอะไรอยู่แล้ว มาดูเพื่อความสนุกเท่านั้น

“แต่พวกหล่อนวางใจเถอะ ฉันยังเด็กอยู่ สิบปี ให้เวลาฉันสักสิบปี ฉันจะต้องเข้าไปในคริสตัลได้อย่างแน่นอน!”

ใบหน้าของจางขุยกล่าวอย่างมั่นใจ

“พร๊วด!”

หลังจากจางขุยได้กล่าวคำสาบานที่ดูน่าเชื่อถือและจริงใจนั้นด้านหลังก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมา

“อืม?”

จางขุยรีบลุกยืนขึ้นราวกับหนูที่โดนเหยียบหางในทันที จับจ้องไปที่ถังเฉาและหลินชิงเสว่ด้วยความโกรธ

เมื่อถูกพบเห็นแล้ว ถังเฉาก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจแม้แต่น้อย เขาฝืนยิ้มและพูดว่า “ขอโทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจ เชิญนายต่อ เชิญนายต่อได้เลย”

หลังจากพูดจบ ก็ตัดสินใจพาหลินชิงเสว่เดินออกไป

สติของจางขุยและสองสาวฝาแฝดนั้นกลับมา ใบหน้าของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความโกรธเคือง

“ที่แท้ก็เป็นนาย สามีเศษเดนของชิงเสว่!”

“ผู้ชายเศษเดนอย่างนาย นี่มันหนีไม่พ้นจริงๆ ไปที่ไหนก็เจออยู่ได้!”

“ก็แค่ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกิน ยังจะกล้ามาพูดถึงคุณชายจางอีกเหรอ!”

สองสาวฝาแฝดเริ่มโจมตีด้วยวาจาที่รุนแรงต่อถังเฉาทันที

ส่วนจางขุยนั้นด่าไปหนึ่งทีก็ไม่ด่าต่อ ในสถานการณ์เช่นนี้นั้นไม่เหมาะสมจริงๆ ที่จะสบถด้วยวาจาด้วยคำด่า มันส่งผลต่อภาพลักษณ์

อย่างไรก็ตาม สีหน้าของเขาดูไม่ได้ ทั้งโกรธทั้งอับอาย ตนนั้นชี้เรื่องของเรื่องบ้านเมืองอยู่ดีๆ ถังเฉาก็พูดขึ้นมาขนาดนี้ นี่เขาไม่ต้องการหน้าตาทางสังคมแล้วอย่างงั้นเหรอ?

เมื่อเห็นว่าตนเพียงแค่ยิ้มเท่านั้น แต่ฝ่ายตรงข้ามนั้นกลับเห่าอย่างกับไอ้หมาบ้า รอยยิ้มของถังเฉาก็ได้เลือนหายไป ดวงตานั้นดูน่ากลัว

“สามีคะ”

หลินชิงเสว่นั้นคว้าถังเฉาเอาไว้ เธอใช้สายตาสื่อบอกให้ถังเฉาหยุด นั่นจึงทำให้รัศมีบนร่างกายของถังเฉานั้นอ่อนลง

ครอบครัวสามคนจึงได้ตัดสินใจที่จะเดินออกไป แต่จางขุยนั้นไม่ยอมที่จะปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ

“ชิงเสว่ เธอมาที่นี่ได้ยังไงกันน่ะ?”จางขุยขมวดคิ้วพร้อมกับมองไปที่หลินชิงเสว่และถามคนที่มาที่นี่ได้นั้นจะต้องร่ำรวยมหาศาลเท่านั้นหากเป็นหลินชิงเสว่เมื่อก่อน จางขุยคงไม่กล้าที่จะแตะต้องทำอะไรอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้หลินชิงเสว่นั้นถูกไล่ออกจากตระกูลหลินแล้ว ไม่ใช่เจ้าหญิงคนโตของตระกูลหลินอีกต่อไป เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ฐานะนั้นต่างกับเขามากโข จางขุยนั้นไม่เชื่อว่าหลินชิงเสว่นั้นจะยังปฏิบัติกับเขาอย่างเย่อหยิ่งเหมือนเมื่อก่อนอีกอย่างไรก็ตาม ดวงตาของหลินชิงเสว่เย็นลงในทันที เธอถามอย่างแผ่วเบา “ฉันอยู่ที่ไหนแล้วจะต้องคอยรายงานนายหรือไง?”“เธอ---”ก็ยังคงเหมือนแต่ก่อน ยังคงเย็นชาและทำตัวเย่อหยิ่งสูงศักดิ์จางขุยก็พาลโกรธในทันใด ทันใดนั้นเขาก็ดูเหมือนว่าจะคิดอะไรออก เขาหัวเราะออกมา“อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว พวกเธอยังซื้อบ้านไม่ได้ก็เลยมาที่นี่เพื่อดูบ้านใช่ไหมล่ะ?”“พวกเธอปล่อยวางซะเถอะ แม้ว่าที่คริสตัลในตอนกลางวันจะมีการเปิดกิจการของพวกอสังหาริมทรัพย์ แต่พวกเธอก็คงไม่มีปัญญาซื้อหรอก ราคาบ้านของเยี่ยนจิงน่ะแพงกว่าที่หมิงจูเป็นหลายเท่า!”เสียงของจางขุยดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากในทันที พวกเขาต่างมองมาที่หลินชิงเสว่ด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็พากันกระซิบกระซาบ“นั่นไม่ใช่คุณหนูคนโตจากตระกูลหลินหรอกเหรอ ทำไมถึงมาซื้อบ้านได้ล่ะ?”“เธอจะซื้อบ้าน แค่พูดออกมาคำเดียวก็จัดการได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”“.....”เมื่อได้ยินความคิดเห็นเหล่านี้ การแสดงออกทางสีหน้าของหลินชิงเสว่ก็ดูผิดแปลกไปเล็กน้อย“ทุกท่าน!ต่อไปไม่ต้องเรียกเธอว่าคุณหนูหลินแล้วนะครับ เพราะว่าเธอนั้นโดนตระกูลหลินขับไล่ออกมาแล้ว ไม่ใช่คุณหนูคนโตผู้ที่ร่ำรวยอย่างแต่ก่อนอีกต่อไป”จู่ๆเสียงของจางขุยก็ดังสูงปรี๊ดขึ้นมา พูดด้วยรอยยิ้ม “เธอเป็นแค่คนธรรมดา ตัวตนเดียวที่เธอจะบอกได้ก็คือเธอเป็นประธานของบริษัทมหาชนจำกัดแห่งหนึ่ง ตัวตนแบบนี้ก็มีอยู่ทั่วไป ไม่ใช่เหรอ?”เมื่อพูดจบ เขาก็ยิ้มเยาะออกมาเบาๆทุกคนต่างอยู่ในความโกลาหล มองไปที่หลินชิงเสว่อย่างน่าเหลือเชื่อเธอถูกตระกูลหลินไล่ออกมา?ข้อมูลข่าวมันดังมาก ฝูงชนนั้นต่างยอมรับไม่ได้กันไปพักหนึ่งหลินชิงเสว่กัดฟัน ใบหน้าของเธอนั้นถอดสี มือกำหมัดแน่น เห็นได้ชัดว่าเธอโกรธเป็นอย่างมาก

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์