โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

บทที่ 797 กลับกองทัพปราณมังกรใหม่

ประตูฐานฝึกกองทัพปราณมังกร รถจี๊ปสีเขียวเข้มคันหนึ่งจอดลงอย่างช้า ๆ

ไม่ว่าจะเป็นรุ่นหรือแบบของรถก็ล้วนแต่ไม่มีความแตกต่างกับรถทหารของภายในกองทัพปราณมังกร

เพียงแต่ไม่มีทะเบียนรถแบบที่ใช้พิเศษในกองทัพปราณมังกร

ดังนั้นบรรดาทหารองครักษ์ของกองทัพปราณมังกรมองครั้งเดียวก็ดูออกว่าไม่ใช่รถของพวกเขา

กึก!

องครักษ์สองนายถือปืนเหล็กอยู่ที่ประตู ขัดขวางรถคันนั้นไว้ที่ประตู

“ใคร?”

พวกเขาตะโกนอย่างพร้อมเพรียง สายตาเย็นเยียบ

รถจี๊ปสีเขียวเข้มจอดลงอย่างมั่นคง ประตูรถเปิดออก ผู้ชายสองคนเดินลงมา

ผู้ชายที่เดินอยู่ข้างหน้าสวมเครื่องแบบทหารทั้งชุดดูทรงพลัง บนศีรษะสวมหมวกขุนนางผ้าแพร แต่กลับไม่ปรากฏใบหน้า กลับสวมหน้ากากหน้ายิ้มสีดำอันหนึ่ง ตอนที่แสงอาทิตย์ส่องก็ดูน่าสะพรึงกลัว

ส่วนผู้ชายที่อยู่ด้านหลังละมุนละไมราวกับหยก สวมชุดสูทรองเท้าหนังทั้งตัว เขาเพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ทำส่งแรงกดดันมหาศาลให้กับผู้คนราวกับภูเขาไท่ซาน

“คุณ... คุณหลิน?”

องครักษ์ทั้งสองคนจะไม่รู้จักผู้ชายแปลกประหลาดที่สวมหน้ากากนั้นก็ได้ แต่จะไม่รู้จักหลินรั่วหวีไม่ได้

หลินรั่วหวีเดินขึ้นมา พยักหน้าให้กับพวกเขา “เขาคือคนที่ผมพาเข้ามา”

องครักษ์ทั้งสองคนลังเลใจอยู่พักหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรจะปล่อยไปหรือไม่

หลินรั่วหวีมีอิทธิพล แต่อิทธิพลของเขาไม่ใช่ในกองทหารแน่ ๆ

“ให้เขาเข้ามาเถอะ”

ทันใดนั้นก็มีเสียงเยือกเย็นของผู้หญิงเสียงหนึ่งดังมาจากในฐานทัพ

ได้ยินอย่างนั้น องครักษ์ทั้งสองถึงได้กล้าปล่อยให้ผ่านไป

ได้ยินเสียงนี้แล้ว ใบหน้าภายใต้หน้ากากของค้างคาวก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะมองไปตามเสียง

ผู้หญิงสวยที่มีนิสัยเยือกเย็นคนหนึ่งเดินมาประจันหน้า

ด้วยเหตุนี้เขาจึงแสยะยิ้มขึ้นมา “เจียงไป๋เสว่”

เจียงไป๋เสว่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างเย็นชาว่า “เข้ามาเถอะ”

หลินรั่วหวีมองไปยังค้างคาว “ฉันแค่มาเป็นเพื่อน จะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับนายแล้ว”

ค้างคาวแสยะยิ้มออกมา ไม่ได้พูดอะไร เดินก้าวยาว ๆ เข้าไป

หลังของเขายืดตรงเหมือนกับแม่ทัพคนหนึ่งที่ชนะสงครามกลับมาอย่างไรอย่างนั้น ทุกคนที่ผ่านไปผ่านมาล้วนแต่รู้สึกว่าเขาหยิ่งทะนงออกมาจากเบื้องลึก

ทุกคนล้วนแต่มีภาพมายาขึ้นมา ดูเหมือนว่าเขาควรจะกลับมาตั้งแต่แรกเริ่ม กลับมาที่นี่

สายตาของเจียงไป๋เสว่กลับดุดันขึ้นทีละน้อย

ถังเฉาไม่อยู่แล้ว ผู้คนต่างก็ดิ้นพล่านกันขึ้นมา

ค้างคาวมาถึงประตูของสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ที่มีรูปร่างสมมาตรพิจารณาโครงสร้างด้านในอย่างลึกซึ้ง

“ห้าปีแล้ว ที่นี่ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย”

ค้างคาวลูบตัวผนังเบา ๆ พูดพึมพำกับตัวเอง

มองอยู่นานเขาจึงได้เก็บกดความปลงอนิจจังและความโมโหอย่างรุนแรงเอาไว้ได้ ใส่กลอนประตูของสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่เบา ๆ

“เข้ามา”

ด้านในห้องส่งเสียงทุ้มต่ำทรงพลังของหลงไป่ชวนออกมา

ค้างคาวผลักประตูเข้าไป มองเห็นหลงไป่ชวนกำลังนั่งตัวตรงอยู่บนที่นั่งด้านบน สายตาดุจเปลวเพลิง พลังดุจเทพ

จ้องท่านเจ้ามังกรอย่างไม่ละสายตา ค้างคาวหัวเราะหึ ๆ ขึ้นมา โค้งกายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งครั้ง “ท่านเจ้ามังกร ไม่ได้พบกันนานนะครับ”

“ไม่เจอจะดีกว่า”

หลงไป่ชวนร้องเฮอะเสียงเย็น สีหน้าเดือดดาลเล็กน้อย

สามปีมาแล้ว เขายังปล่อยวางเรื่องที่เก็บไว้ในใจเรื่องนี้ไม่ได้

เดิมทีต้าเซี่ยควรจะมีเทพพิทักษ์สองคน ก็คือถังเฉากับหลี่เห้า

แต่กลับเป็นเพราะเจ้าหมอนี่เจอแนวรบแล้วหนีเอาตัวรอด ทำให้หลี่เห้าต้องหายสาบสูญ สองคนต้องสูญเสียหนึ่งคนในนั้น

เสียหายย่อยยับ เสียหายย่อยยับ!

ดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความรังเกียจที่หลงไป่ชวนมีต่อเขา ค้างคาวขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้โกรธ เอ่ยว่า “ท่านเจ้ามังกร ในสายตาของคุณ ผมผิดจริง ๆ แต่ในสายตาของตัวผมเอง ผมไม่มีความผิด”

“คนที่ไม่ทำเพื่อตัวเอง ฟ้าดินจะลงโทษ สถานการณ์ในตอนนั้น ผมกับศิษย์พี่หลี่เห้าถูกกองทัพใหญ่ล้อมเอาไว้ ต่อให้มีปีกก็ยากจะหลบหนี ถ้าหากยังแข็งขืนอยู่อีก นั่นไม่ใช่ความกล้าหาญ แต่เป็นความโง่เขลา เขาให้ผมกลับไปเรียกคนมา แล้วเขาสกัดอยู่ด้านหลัง...”

“ดังนั้นนายก็เลยทิ้งเขาเอาไว้?”

สายตาของหลงไป่ชวนจ้องเขาเป็นประกายวาววับ ดวงตาดุดันจนเหมือนกระบี่เล่มหนึ่ง

ภายใต้สายตาเช่นนี้ ค้างคาวที่เดิมทีคิดจะพูดต่อไปก็อ้าปากน้อย ๆ แต่กลับพูดอะไรไม่ออก

คำพูดสิ้นสุดแค่นี้ เขามานั่งอยู่ตรงหน้าของหลงไป่ชวน สีหน้าราบเรียบ “ไม่ถึงกับทอดทิ้ง ตอนนั้นระยะห่างจากฐานที่มั่นไกลหลายลี้ ไปกลับอย่างน้อยต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง รอจนผมเรียกคนไปถึง ศิษย์พี่หลี่เห้าอาจจะ...”

“นี่ไม่ใช่เหตุผล”

ในที่สุดคำพูดของหลงไป่ชวนก็มีความโมโหขึ้นมา ตัดบทของเขาไปตรง ๆ

ในใจของค้างคาวทอดถอนใจเบา ๆ ผลลัพธ์เช่นนี้เขาเดาได้แต่แรกแล้ว

ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนบางทีอาจจะมีใจทุกข์ใจและสงสาร แต่ตอนนี้ หัวใจของเขาแกร่งดังหินผาไปนานแล้ว

“ท่านเจ้ามังกร เวลานั้นมีค่า อย่าพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วเลย”

ค้างคาวเอ่ยว่า “วันนี้ผมมาที่นี่มีเพียงธุระเดียว นั่นก็คือหวังว่าผมจะสามารถกลับมาที่กองทัพปราณมังกรใหม่อีกครั้ง คืนสู่ฐานะเดิมของผม”

หลงไป่ชวนประหลาดใจเล็กน้อย ดูเหมือนจะทึ่งกับความปรารถนาของค้างคาว

แต่มีเพียงเจียงไป๋เสว่เท่านั้นที่รู้ว่าที่เขาทึ่งไม่ใช่เรื่องนี้ แต่เป็นเพราะเรื่องราวทั้งหมดเหมือนกับที่ถังเฉาคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าโดยสิ้นเชิง

พอตั้งสติได้ เขาก็ยิ้มเยือกเย็นขึ้นมา “กลับกองทัพปราณมังกรใหม่อีกครั้ง นายคิดว่านายมีคุณสมบัตินั้นหรือ?”

“ไม่มี”

ค้างคาวตอบกลับด้วยสีหน้าไม่หวั่นไหวเป็นอย่างมาก “แต่เรื่องมันก็ผ่านไปสามปีแล้ว เขาเป็นความทุกข์ในใจของพวกคุณ และก็เป็นความทุกข์ในใจของผมเช่นเดียวกัน”

น้ำเสียงของค้างคาวราบเรียบจริงใจ “ผมมีพ่ออยู่คนหนึ่ง ตั้งแต่หลังจากที่ผมเป็นทหารก็ไม่ได้เจอกันหลายปีแล้ว... พวกเราไม่ได้กินข้าวด้วยกัน นั่งคุยกัน สุดท้ายแม้แต่การติดต่อกันทางจดหมายก็ตัดขาดไปแล้ว ผมมีบ้านแต่ไม่กล้ากลับไป มีญาติแต่ไม่กล้าไปพบ ผมยินดีที่จะใช้ชีวิตแบบนั้นอีกครั้ง”

หลงไป่ชวนยิ้มเย็น “เป็นพวกเราที่ทำให้นายกลายเป็นแบบนั้นหรือ?”

ค้างคาวเงียบ สุดท้ายก็ถอนหายใจช้า ๆ “ช่วยชีวิตคนต้องช่วยให้ถึงที่สุด ส่งพระก็ต้องส่งให้ถึงแดนตะวันตก ผมหวังว่าพวกคุณจะช่วยผมได้”

“...”

เงียบ

เงียบสงัด

ไม่เพียงแต่หลงไป่ชวนที่เงียบไปแล้ว เจียงไป๋เสว่เองก็เงียบไปแล้วเช่นเดียวกัน

พวกเขาโกรธแค้นค้างคาวมากก็จริง ๆ แต่ว่า พวกเขาเองก็สงสารค้างคาว

เจอแนวรบแล้วหนีเอาตัวรอด ว่ากันด้วยนิสัยพื้นฐานของมนุษย์แล้วไม่ได้ผิด แต่ถ้ามองจากหน้าที่การงานของพวกเขาแล้ว เขาผิดอย่างมหันต์

นานมาก สายตาของท่านเจ้ามังกรก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นดุดัน “ถ้าหากฉันปฏิเสธล่ะ?”

สายตาของค้างคาวราบเรียบ แต่กลับพูดตอบโต้กับท่านเจ้ามังกรอย่างดุเดือด “ท่านไม่มีวิธีปฏิเสธ”

“นายเป็นทหารที่หนีทหารแล้ว เส้นทางนี้ไม่เหมาะกับนาย ยิ่งไปกว่านั้นนายก็เลือกที่จะเข้ากับฝ่ายศัตรูแล้ว ใครจะไปรู้ว่านายกลับมากองทัพปราณมังกรใหม่อีกครั้งแล้วจะลักขโมยกองทหารลับของกองทัพปราณมังกรหรือไม่”

ท่านเจ้ามังกรเอ่ยเสียงเย็น “ตอนนี้นายชื่อค้างคาว ไม่ได้ชื่อเยี่ยนซื่อเฉิง!”

“.copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์