ใบหน้าของไท่ซางที่ร้องห่มร้องไห้ ท่าทีร้องขออย่างขมขื่น เหมือนกับเป็นคนละคนกับเมื่อครู่ที่อวดดี ทำให้คนของตระกูลหยางที่อยู่ตรงนั้นทำอะไรไม่ถูก พลางอึ้งไปเมื่อได้เห็นฉากนี้
“ไท่ ปรมาจารย์ไท่ซาง……” หยางเทียนลี่ตะโกนออกมาเพราะรับไม่ได้ “ท่านทำอะไรน่ะปรมาจารย์ไท่ซาง ไอ้คนจนคนนี้อยากจะมาปีนเกลียวตระกูลหยางของเรา ทำไมท่าน……”
ตอนที่หยางเทียนลี่พูดออกมาทำให้คนของตระกูลหยางคิดตาม ตอนแรกพวกเขาเห็นหยางฉงพาหลี่ฝางมานั้น ก็คิดว่าหลี่ฝางนั้นใช้วิธีอะไรก็ไม่รู้เข้าหาหยางฉง ทำทุกวิถีทางให้เข้ามาหาตระกูลหยางได้
คิดไม่ถึงว่าไอ้คนจนในใจของพวกเขา จะมาเป็นคนสูงส่งพอที่จะทำให้ปรมาจารย์กำลังภายในคุกเข่าลงต่อหน้าเขาในทันที และร้องขอชีวิต ภาพแบบนี้ มันทำให้ตระกูลหยางไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ไท่ซางนั้นไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองตัวเองอย่างไร สำหรับเขา การมีชีวิตอยู่นั้นสำคัญที่สุด ถ้าตายไปก็ไม่เหลืออะไรแล้ว
การมีเรื่องกับหลี่ฝาง เขากลัวว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
เขานั้นไม่อยากตายทั้งๆ ที่อายุเพียงเท่านี้!
ขอร้องอยู่นาน แต่ก็พบว่าหลี่ฝางนั้นไม่พูดอะไร ไท่ซางเองก็เข้าไปกอดเท้าของหยางฉง ก่อนจะร้องไห้ต่อหน้าหยางฉง พลางอยากจะใช้หยางฉงในการทำให้หลี่ฝางใจอ่อน
ในตอนนั้น ก่อนหน้านี้ที่ใช้พลังของคนคนเดียวก็ทำให้ตระกูลหยางตกใจกลัวได้อย่างปรมาจารย์กำลังภายใน ตอนนี้กลับมาร้องไห้โฮต่อหน้าหยางฉง ด้วยใบหน้าน่าสงสาร คนตระกูลหยางก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว
หยางฉงเองก็ไม่รู้จะทำอะไรเมื่อได้เห็นภาพแบบนี้ จากนั้นก็มองไปทางหลี่ฝาง ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
เมื่อได้เห็นท่าทีของไท่ซาง หลี่ฝางก็อดไม่ได้ที่จะถาม “คุณเป็นใคร?”
ไท่ซางตกใจเล็กน้อย ก่อนจะมีสติกลับมา ก็รีบอธิบาย “พี่ใหญ่ ความทรงจำของคุณยังไม่กลับมาอีกเหรอ?ฉันคือไท่ซาง ลูกน้องที่ซื่อสัตย์และมากความสามารถที่สุดของท่านไงล่ะ!พี่ใหญ่นั้นให้ฉันมาเพื่อปกป้องคุณ!”
“ไท่ซางงั้นเหรอ?” หลี่ฝางมองไท่ซางด้วยความสงสัย ชื่อนี้เคยได้ยินมาจากกู่ยี่เทียน เลยเริ่มเทียบจากที่กู่ยี่เทียนบอกว่าทั้งดำทั้งผอม
เมื่อได้ยินคำพูดของไท่ซาง คนตระกูลหยางก็มีเสียงดังก้องในหู เหมือนกับมีฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ทำให้คนตระกูลหยางหัวหมุนไปตามๆ กัน
เป็นถึงปรมาจารย์กำลังภายใน ทำไมถึงกลายมาเป็นลูกศาย์ของไอ้กระจอกคนนี้ได้ล่ะ?
เมื่อคิดว่าเมื่อก่อนตัวเองเสียแรงทำดีกับไท่ซางไป หยางเทียนลี่ที่เชิญไท่ซางมาได้ เมื่อมาเห็นว่าไท่ซางคุกเข่าลงร้องไห้ต่อหน้าหลี่ฝาง เลยคิดว่าฟ้ากลับตาลปัตร จนเกือบจะคิดว่าตัวเองบ้าไปแล้ว
“ไม่ ไม่มีทาง นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลย……” หยางเทียนลี่ตาค้างไป ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง
ในคนที่เป็นแดนสุดกำลังภายนอกนักรบ ที่เข้าใจโลกของยุทธภพอย่างเย่นหย่งเฟิงก็ตกใจขึ้นมา เหมือนกับว่าคิดอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าเลยเปลี่ยนไป ก่อนจะรีบกำหมัดเคารพหลี่ฝางพลางถาม “ท่านเป็นหลี่ฝาง ปรมาจารย์หลี่งั้นเหรอ?”
หลี่ฝางพยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไร
“โอ๊ย!” เย่นหย่งเฟิงมีใบหน้าที่แสดงว่า “ต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว” ออกมา แต่ไม่ทันรอให้คนอื่นๆ ถาม ก็กำมือทั้งสองข้างให้หลี่ฝางอีกครั้ง และโค้งอย่างเคารพกว่าเดิม “เย่นหย่งเฟิง คารวะปรมาจารย์หลี่!”
ท่าทีเคารพแบบนี้ แถมคำว่าปรมาจารย์หลี่ ทำให้คนของตระกูลหยางไม่มีสติกลับมา
ถึงอย่างไร ถึงคนตระกูลหยางจะเป็นคนใหญ่คนโต แต่ก็ยังเป็นเพียงคนธรรมดาๆ อยู่ดี สำหรับนักรบกำลังภายใน เลยไม่ได้รู้อะไรมาก
และยิ่งไม่ต้องพูดถึง หลี่ฝางนั้นขึ้นมาอยู่บนจุดสูงสุดในเวลาอันสั้น แถมยังเป็นปรมาจารย์กำลังภายในที่อายุน้อยด้วย
มีเพียงหยางจื้อเฉิงกับหยางเทียนลี่แค่สองคน ที่จู่ๆ ก็มีสติกลับมา แต่สีหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นตกใจเป็นอย่างมาก
“ปรมาจารย์หลี่……หรือว่าจะเป็นปรมาจารย์หลี่ที่สงครามญี่ปุ่นน่ะเหรอ?”
“ใช่แล้วล่ะ เป็นปรมาจารย์หลี่คนนี้นี่เอง คนเพียงคนเดียว ทำให้ตระกูลชิวในหนานเจียงนั้นถูกกำราบ แล้วปั่นป่วนตระกูลหวาง ทำให้ตระกูลหวางจำเป็นต้องก้มหัวให้ แถมยังฆ่าปรมาจารย์สิบกว่าคนที่ญี่ปุ่นอีกด้วย ทำให้ญี่ปุ่นคิดว่านี่เป็นปรมาจารย์หลี่ที่พลิกฟ้าแผ่นดิน!”
ในตอนนั้นเอง ทั้งบริเวณนั้นต่างมีเสียงฮือฮา
เรื่องของตระกูลชิวกับตระกูลหวาง เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว หลี่ฝางไม่เหลือความทรงจำในด้านนี้เลย ได้แต่ฟังคนอื่นพูดมาทั้งนั้น
ส่วนเรื่องของญี่ปุ่น กลับเพิ่งเกิดมาเมื่อไม่นานมานี้ แต่เพราะเรื่องวุ่นวายเป็นอย่างมาก เลยปิดเอาไว้ไม่อยู่ ดังนั้นเลยเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีเพียงคนชั้นสูงเท่านั้นที่รู้
ทั้งตระกูลหยาง ก็มีแต่หยางจื้อเฉิง หยางเทียนลี่และอีกไม่กี่คนที่รู้เท่านั้น
แต่การไม่รู้ก็ไม่ได้ทำให้คนของตระกูลหยางหยุดตกใจได้ เพราะถึงอย่างไรแค่ได้ยินการอธิบายเพียงอย่างเดียว การทำเรื่องแบบนั้นได้ ก็น่ากลัวมากเกินพอแล้ว
คนของตระกูลหยางคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าตอนแรกที่ไอ้คนจนกระจอกที่พวกเขาคิดว่าถูกหยางฉงพากลับมาเพราะจะปีนเกลียวกับตระกูลหยางนั้น ที่มานั้นยิ่งใหญ่จนมองไม่เห็นจุดจบเลยล่ะ
เมื่อมันยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ถึงจะอยากทำลายตระกูลหยาง เกรงว่ามันจะเป็นเรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก มันง่ายเหมือนการขยี้มดตัวหนึ่งเลยล่ะ
ในตอนนั้นเอง แววตาคนของตระกูลหยางก็มีทั้งความเคารพและความกลัวต่อหลี่ฝางแต่คนที่เกลียดและพูดจาไม่ดีกับหลี่ฝางในตอนแรกนั้น ตอนนี้กลับหน้าซีดไปหมดไท่ซางในตอนนี้ ยังคงทำตัวน่าสงสารสมเพชอยู่ตามเคย“ขอร้องล่ะพี่สะใภ้ พี่ใหญ่รักคุณมากที่สุด คุณช่วยพูดให้หน่อยนะ ไว้ชีวิตลูกศิษย์เถอะ เดี๋ยวศิษย์จะยอมตอบแทนพี่สะใภ้อย่างงามเลยล่ะ!” ไท่ซางขอร้องไม่หยุดเขาในตอนนี้ ไม่ใช่เขาแบบเดิมแล้ว บางทีอาจจะยังอวดเก่งกับคนอื่นๆ อยู่ และหลงในราคะ แต่เมื่อเจอหลี่ฝาง ในใจเขาก็ไม่มีการต้านทานเลย แต่ตอนนี้ความจำของหลี่ฝางยังไม่กลับมาเหมือนเดิมหยางฉงรับท่าทีแบบนี้ของไท่ซางเอาไว้ไม่ได้ เลยอดไม่ได้ที่จะส่งสายตาให้หลี่ฝางสักหน่อยหลี่ฝางจนปัญญาเล็กน้อย ก่อนจะโบกมือแล้วพูดกับไท่ซาง “ช่างมันเถอะ ลุกขึ้นมาเถอะ……”
copy right hot novel pub