คุณปู่หยางเซี่ยวหู่ในเวลานี้กำลังอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก และที่ด้านนอกของห้องผู้ป่วย ก็คือหยางจื้อเฉิงที่บนใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล ลุกนั่งไม่ติด
พี่น้องรุ่นที่สองทั้งสี่คนของตระกูลหยาง ถ้าหากถามว่าใครเป็นห่วงความปลอดภัยของคุณปู่มากที่สุด เกรงว่าคงจะมีแต่พี่ใหญ่หยางจื้อเฉิงแล้ว
พยาบาลที่อยู่ด้านข้างหยางจื้อเฉิงอย่างจะบอกให้หยางจื้อเฉิงนั่งลงมาก อย่าเดินไปมารอบ ๆ รบกวนคนไข้พักผ่อน
เพียงแต่ว่าเมื่อเผชิญหน้ากับหยางจื้อเฉิง พวกเธอกลับพูดไม่ออก
เพราะพวกเธอรู้ว่าฐานะของหยางจื้อเฉิงนั้นสูงมาก กลัวว่าถ้าพูดอะไรไปโดยพลการจะทำให้หยางจื้อเฉิงโมโห
เพราะถึงยังไง แม้แต่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลของตัวเองยังต้องเคารพนอบน้อมต่อผู้ชายคนนี้อย่างสุดขีด นอกจากนี้วัน ๆ ยังมาเยี่ยมชายชราที่อยูในห้องฃอยู่หลายครั้ง การแสดงออกเช่นนี้ เป็นธรรมดาที่จะทำให้พวกเธอรู้ว่าฐานะของอีกฝ่ายนั้นไม่ธรรมดา
“อาจารย์หยาง คุณท่านไม่เป็นอะไรหรอกครับ ท่านเองก็อย่าเป็นกังวลมากเกินไป” และที่ข้างกายของหยางจื้อเฉิงยังติดตามด้วยชายที่มีท่าทางสุขุมอายุราว ๆ สามสิบ คอยตามโน้มน้าวอยู่ข้างกายหยางจื้อเฉิง: “ท่านนั่งพักก่อนสักหน่อยเถอะครับ ถ้าเกิดท่านใจร้อนจนร่างกายเป็นอะไรไป นั่นมันก็เท่ากับเป็นความเสียหายอันใหญ่หลวงของเมืองจินซานเลยนะครับ”
หยางจื้อเฉิงโบกมือเบา ๆ ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วนั่งลง และหันไปกล่าวกับชายท่าทางสุขุม: “ลำบากนายแล้วนะเสี่ยวโจว นายไปนอนพักก่อนดีไหม พักผ่อนเอาแรงแล้วค่อยมาใหม่”
“อาจารย์หยาง ผมยังหนุ่มยังแน่น ไม่เป็นไรหรอกครับ เฮ้อ ถ้าหากเป็นไปได้ ผมยินดีที่จะรับโทษนี้แทนคุณท่าน แต่ถึงยังไงท่านก็ต้องรักษาสุขภาพให้ดีนะครับ......” เลขาฯ เสี่ยวโจวกล่าวด้วยความเป็นห่วง
ในฐานะเลขาฯ ของหยางจื้อเฉิง ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและหยางจื้อเฉิงเองก็ไม่เลวเลย ความสัมพันธ์โดยพื้นฐานแล้วทั้งเป็นเจ้านายลูกน้อย ทั้งเป็นครูเป็นเพื่อน
ในวันนี้ธุรกิจของหยางจื้อเฉิงได้กลับมาเบ่งบานอีกครั้ง เสี่ยวโจวเองก็ไม่ยอมถูกทิ้งให้อยู่ข้างหลัง ติดตามฝีเท้าของหยางจื้อเฉิงอย่างไม่ห่าง
ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังสนทนากันอยู่นั่นเอง หลี่ฝางก็ได้มาถึงที่นี่ เมื่อเห็นว่าหยางจื้อเฉิงก็อยู่ด้วย เขาก็ได้เดินเข้ามาทันที
ในพี่น้องรุ่นที่สองทั้งสี่คนของตระกูลหยาง หลี่ฝางประทับใจหยางจื้อเฉิงที่สุด ส่วนคนอื่น ๆ อีกสามคน ไม่ได้สร้างความประทับใจใด ๆ ให้กับหลี่ฝางเลย
ต่อให้เป็นคุณพ่อของหยางฉง การกระทำทุกสิ่งทุกอย่างในตอนที่หยางฉงถูกบังคับให้แต่งงานนั้น เพียงพอที่จะทำให้คนรู้สึกผิดหวัง
ส่วนหยางจื้อเฉิงนั้น อย่างน้อยก็ใส่ใจคุณพ่อของตัวเองมากกว่าคนอื่น ๆ อีกสามคน
เสี่ยวโจวไม่รู้จักหลี่ฝาง และกำลังจะลุกขึ้นมาสอบถามสถานะของหลี่ฝางนั่นเอง กลับพบว่าหยางจื้อเฉิงได้ยืนขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขารีบหยุดชะงักลง อยู่ที่ด้านหลังของหยางจื้อเฉิงหนึ่งก้าว เดินเข้าไปต้อนรับหลี่ฝาง
“คุณหลี่ มาแล้วเหรอครับ” ถึงแม้ความสัมพันธ์ระหว่างหลี่ฝางและหยางฉงแน่นอนแล้ว หยางจื้อเฉิงกลับยังคงไม่กล้าเสียมารยาท
ส่วนเสี่ยวโจวที่อยู่ด้านหลังเมื่อได้ยินหยางจื้อเฉิงเรียกหลี่ฝางที่อายุยังน้อยอย่างเคารพนอบน้อมเล่นนี้ ขาก็นึกถึงข่าวลือบางอย่างที่ร่ำลือกันในระยะนี้ขึ้นมาทันที สายตาที่มองหลี่ฝางจึงมีความตกตะลึงและอยากรู้อยากเห็นปะปนอยู่ด้วย
“ลุงหยาง” หลี่ฝางยิ้มให้กับหยางจื้อเฉิง
“มา นั่ง เชินนั่ง” หยางจื้อเฉิงรีบกล่าวต้อนรับดูแล
หลี่ฝางพยักหน้า และนั่งลงที่ด้านข้างของหยางจื้อเฉิง เสี่ยวโจวที่อยู่อีกด้านในตอนนี้กลับไม่กล้านั่ง จึงยืนอยู่ที่ด้านหลังของหยางจื้อเฉิง
“ตอนนี้อาการของคุณปู่เป็นยังไงบ้างครับ?” หลี่ฝางเอ่ยถาม
“เฮ้อ เลือดออกในสมอง เดิมทีคุณปู่ก็อายุมากแล้ว......” หยางจื้อเฉิงถอนหายใจหนึ่งครั้ง สีหน้าท่าทางไม่ค่อยจะดีเลย
สามารถพูดได้ว่า คุณท่านหยางเซี่ยวหู่ได้เข้าสู่ขั้นนับถอยหลังของช่วงเวลาชีวิตแล้ว
ต่อให้ไม่ยินยอมเป็นอย่างมาก ภายในใจของหยางจื้อเฉิงในเวลานี้ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
แต่ยังดีที่ ตอนนี้มีหลี่ฝางอยู่ ต่อให้เลวร้ายยังไง ก็นับว่าจะไม่เลยร้ายไปสักเท่าไหร่นัก
“เคยพิจารณาย้ายโรงพยาบาลบ้างไหมครับ? เงื่อนไขในการรักษาของโรงพยาบาลในเครือไม่ได้ดีที่สุดใช่ไหมครับ?” หลี่ฝางเอ่ยถาม
“เฮ้อ โรงพยาบาลในเมืองจินซาน ต่อให้เป็นโรงพยาบาลอันดับหนึ่งที่มีเงื่อนไขในการรักษาที่ดีกว่าโรงพยาบาลในเครือ โรงพยาบาลใจกลางเมือง ความจริงแล้วก็ไม่ได้ดีไปกว่าโรงพยาบาลในเครือสักเท่าไหร่นัก” หยางจื้อเฉิงกล่าวอธิบาย
“นอกจากนี้ ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลในเครือยังเป็นหมอผ่าตัดสมองอันดับหนึ่งของเมืองจินซาน ทั่วทั้งเมืองจินซานไม่มีที่ไหนมีเงื่อนไขในการรักษาดีไปกว่าโรงพยาบาลในเครือแล้ว”
เมื่อได้ยินหยางจื้อเฉิงกล่าวเช่นนี้ หลี่ฝางก็ได้นึกถึงผู้อำนวยการผมขาวที่ได้เจอเมื่อคืนท่านนั้นขึ้นมา ที่แท้เขายังเป็นบุคคลที่เก่งกาจเช่นนี้
ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ของหลี่ฝางก็ได้สั่นขึ้น เขาหยิบออกมาดู คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเจียงถิงที่โทรเข้ามา
ที่แท้เป็นหมอสาวคนสวยคนนั้นนี่เอง แพทย์หญิงคนนี้ถึงแม้เขาจะพึ่งรู้จักเมื่อวานเอง แต่เมื่อได้คบหาสมาคมกับเธอกลับพบว่าค่อนข้างจะสบายใจ ดังนั้นเมื่อวานหลี่ฝางถึงได้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้เธอ
เดินไปรับโทรศัพท์ที่อีกด้าน ยังไม่ทันรอให้หลี่ฝางเอ่ยปาก ฝั่งนั้นก็ได้มีเสียงโหดเหี้ยมที่ไร้มารยาทดังลอยมาตามสาย
“นายคือหลี่ฝางใช่ไหม?”
อูเฉิงเย่? หลีฝางขมวดคิ้วขึ้นมาทันที“ทำไมโทรศัพท์ของเจียงถิงถึงได้อยู่กับคุณ? คุณทำอะไรเธอ?”“ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอหรอกนะ แต่ว่า ทางที่ดีให้นายมาที่ห้องทำงานของเธอในตอนนี้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ฉันไม่รับรองว่าอีกสักครู่จะเกิดอะไรขึ้น”เสียง “เพียะ” ดังขึ้น โทรศัพท์ก็ได้ตัดสายไปหลี่ฝางหรี่ตาทั้งสองข้างลง แววอาฆาตที่มองไม่เห็นได้หลั่งไหลออกมาดูเหมือนว่าอูเฉิงเย่นั่นจะรนหาที่ตายให้ได้หันไปบอกกับหยางจื้อเฉิงแล้ว หลี่ฝางก็ได้เตรียมตัวไปที่ห้องทำงานของเจียงถิงและภายในห้องทำงานของเจียงถิงที่อยู่ด้านล่างในเวลานี้ เจียงถิงได้กลับมาจากข้างนอกพอดี มองเห็นอูเฉิงเย่ยืนอยู่ข้างใน แถมยังถือโทรศัพท์ของตัวเองเอาไว้ในมือ จึงกล่าวขึ้นมาด้วยความโมโหทันที: “อูเฉิงเย่ เมื่อกี้คุณทำอะไร?”
copy right hot novel pub