“แกพูดอะไรของแก?” อูเฉิงเย่ระเบิดเสียงหัวเราะเสียงดังลั่นอย่างอดไม่ได้ “หลี่ฝาง แกบ้าไปแล้วหรืออย่างไร? ถึงได้กล้าพูดว่าจะไล่หัวหน้าหรุ่ยออก!”
หัวหน้าหรุ่ยและตู้เซิงหรงสองคนก็พากันส่งเสียงหัวเราะเสียงดัง ทั้งสามหัวเราะจนตัวโยน ราวกับว่าจะหัวเราะจนกว่าหนังท้องจะแตกไปข้าง!
“หลี่ฝาง ฉันไม่สนใจว่าแกแกล้งโง่หรือโง่จริงกันแน่ แกสู้เก่งมากจริงๆ นั่นแหละ แต่แล้วอย่างไร? พอแกเข้าไป ฉันจะคอยดูว่าแกยังจะสู้ใครได้ไหม! อย่าห่วงไปเลย ถึงเวลานั้นฉันจะพาเจียงถิงไปเยี่ยมแกเอง ฮ่าๆ ……”
หลี่ฝางจ้องมองอูเฉิงเย่ด้วยความสงสารเล็กน้อย กล่าวอย่างเรียบเฉย “อันที่จริงผมคิดจะใช้สันติวิธีในการจัดการกับแก ใครจะไปรู้ว่าพวกแกไม่ไขว่คว้าโอกาส ถ้างั้นผมคงต้องอัดพวกแกสักหมัดก่อน เพื่อระบายอารมณ์”
“แกคิดจะทำอะไร!” อูเฉิงเย่สีหน้าเปลี่ยน
ในเวลานี้เอง ประตูห้องทำงานถูกผลักออกอีกครั้ง คนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาด้วยสีหน้าคร่ำเครียดอีกครั้ง
คนที่อยู่ระหว่างกลางของคนเหล่านั้นคือหยางจื้อเฉิง ที่จู่ๆมาอยู่ข้างหยางจื้อเฉิงคือผู้อำนวยการหลิวเมื่อคืนนี้
ส่วนคนที่สวมชุดกาวน์สีขาว ต่างก็เป็นหมอที่มีระดับสูงของโรงพยาบาลนี้ เพียงแต่บัดนี้สีหน้าของพวกเขาต่างก็บูดบึ้ง จ้องเขม็งหัวหน้าหรุ่ยอย่างไม่เป็นมิตร
ถูกคนใหญ่คนโตของโรงพยาบาลเพ่งมอง หัวหน้าหรุ่ยหัวใจกระตุกวูบ รีบยิ้มประจบเดินขึ้นหน้า “ผู้อำนวยการ หัวหน้าหยาง หัวหน้าจาง หัวหน้าอู๋ พวกท่านมาได้อย่างไร?”
หยางจื้อเฉิงที่ยืนอยู่ตรงกลางคนกลุ่มนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนที่เขาจะรู้จักได้
แต่ต่อให้เขาใช้เท้าหัวแม่โป้งคิด ก็รู้ว่าบุคคลนี้ต้องมีสถานะที่สูงศักดิ์
แต่เขาไม่รู้จัก เป็นเลขาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอย่างตู้เซิงหรงเขารู้จักหยางจื้อเฉิงดี ทันใดนั้น หัวใจอันเงียบเชียบเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นอย่างแรงกล้า
หลังจากที่หัวหน้าหรุ่ยทักทายกับทุกคนเสร็จสิ้น พวกเขาเหล่านั้นกลับไม่แม้ชายตามองหัวหน้าหรุ่ย ต่างคนต่างฝืนยิ้มไปทางหลี่ฝาง
หลี่ฝางกลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นด้วยรอยยิ้มเจือจาง พลางตัดสายของหยางจื้อเฉิงที่กดโทรออกตั้งแต่เมื่อสักครู่นี้ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้คงไม่ต้องให้ผมพูดอะไรแล้วใช่ไหม?”
แท้ที่จริงแล้ว ตอนที่หลี่ฝางเข้าใกล้ห้องทำงานของเจียงถิง หลังเขาได้ยินเสียงการขัดแย้งดังออกมาจากด้านใน เขาก็ต่อสายหาหยางจื้อเฉิงในทันที ก่อนเดินเข้ามา
พอดีกับที่ตอนนี้ผู้อำนวยการหลิวและคนอื่นๆ ขึ้นไปเยี่ยมเยียนคุณท่านหยางเซี่ยวหู่ ได้ยินประโยคอันร้ายกาจของทางนี้ อย่างพร้อมเพรียงกันชัดเจน
“คุณหลี่ ต้องให้ท่านมาเจอเรื่องบัดสีแบบนี้แล้ว” ผู้อำนวยการหลิวกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น “คุณวางใจเถอะ เรื่องนี้ผมจะให้คำอธิบายที่ดีกับคุณอย่างแน่นอน”
เมื่อเห็นทีท่าเกรงอกเกรงใจของผู้อำนวยการหลิวที่มีต่อหลี่ฝาง สกุลหรุ่ยถึงกับตัวแข็งทื่อในทันที
หยางจื้อเฉิงเองก็สบถอย่างไม่พอใจ “ก็แค่เลขาเล็กๆ คนหนึ่งยังกล้าอวดดี สมควรได้รับการตรวจสอบ!”
ประโยคของหยางจื้อเฉิง ทำให้อูเฉิงเย่ตกตะลึง เกิดกระวนกระวายใจขึ้นมา
แม้เขาจะไม่รู้จักหยางจื้อเฉิง แต่การปรากฏตัวเอิกเกริกแบบนี้ ก็รู้แล้วว่าหยางจื้อเฉิงไม่ใช่คนธรรมดาแน่
แถมเมื่อสักครู่ได้ยินประโยคของหยางจื้อเฉิง ตัดความเป็นไปได้ที่เขาจะขี้โม้ออก ถ้างั้นสถานะของเขาไม่สูงศักดิ์กว่าท่านพ่ออย่างนั้นเหรอ?
อย่างไรก็ตามหยางจื้อเฉิงและผู้อำนวยการหลิวต่างก็เกรงอกเกรงใจหลี่ฝาง หรือจะพูดว่านอบน้อมยำเกรง ถ้างั้น……หลี่ฝางมีสถานะอย่างไรกันแน่?
ตอนนี้เจียงถิงเองก็ประหลาดใจไม่น้อย หลี่ฝางเพื่อนคนนี้ที่เธอเพิ่งจะรู้จักได้ไม่นาน ตกลงเป็นใครกันแน่
หลี่ฝางยิ้มอ่อน กล่าว “อาหยาง ถ้างั้นทางนี้ฝากคุณจัดการด้วยนะครับ”
“ไม่มีปัญหา” หลี่ฝางพยักหน้า พอจะสบายใจขึ้นมาบ้าง
ทั้งหมดนี้เพราะหลี่ฝางไว้หน้าเขา ไม่เช่นนั้น หากหลี่ฝางเกิดโมโหลงมือจัดการด้วยตนเอง เรื่องนี้คงได้เป็นเรื่องใหญ่แน่
“เลขาฯ ตู้” หยางจื้อเฉิงเหลือบไปทางตู้เซิงหรง
ตู้เซิงหรงที่ตกใจมากตั้งแต่แรก เมื่อได้ยินเสียงเรียกจากหยางจื้อเฉิง ดึงสติตนเองกลับมาได้ในทันที พลันเดินขึ้นหน้าด้วยความนอบน้อมกล่าวเสียงแผ่ว “ผู้อำนวยการหยาง!”
คำเรียกขานนั้น ทำให้อูเฉิงเย่และหัวหน้าหรุ่ยตกใจอึ้ง
พวกเขาไม่คิดเลย ว่าชายวัยกลางคนตรงหน้าคือผู้อำนวยการหยางที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่เมื่อไม่นานมานี้
หยางจื้อเฉิงไม่แยแสความตกใจของทั้งคู่ เพียงกล่าวอย่างเรียบเฉย “เลขาฯ ตู้ แกกลับไปบอกเหล่าอูด้วย ให้เขาเตรียมตัวรับการตรวจสอบ”
ประโยคที่เรียบเฉย ได้บ่งบอกถึงการกระทำของเขาอย่างชัดเจน
ทันใดนั้น เหมือนว่าตู้เซิงหรงจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ รีบคลานลุกขึ้นมุ่งไปทางหยางจื้อเฉิงตะโกนลั่น “ผู้อำนวยการหยาง ทุกอย่างนี้เป็นฝีมือของผมคนเดียว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหัวหน้าอู หัวหน้าอู ทั้งหมดนี้ผม……”หากเขาแบกรับเรื่องทั้งหมดนี้เอาไว้ อูเฉิงเย่ต้องเห็นแก่ความซื่อสัตย์นี้ ดีต่อครอบครัวของเขาแน่“แกมีสิทธิ์ออกเสียงด้วยเหรอ?” หยางจื้อเฉิงตัดประโยคของตู้เซิงหรง หัวเราะเย็นชา “พวกทำร้ายคนอื่นอย่างพวกแก หนีไม่รอดแม้แต่คนเดียว!”ทันใดนั้น อูเฉิงเย่และตู้เซิงหรงล้มพับลงกับพื้นทั้งคู่จบเห่แน่หัวหน้าหรุ่ยที่อยู่อีกด้านใบหน้าขาวซีด เขารู้ดี สิ่งที่รอเขาอยู่นอกจากถูกไล่ออก ไม่มีทางเลือกที่สองแล้วไม่ เขาต้องเผชิญกับการตรวจสอบหลังจากนั้นอีก ไม่แน่ อาจจะถึงกับขึ้นศาล……
copy right hot novel pub