“คุณหลี่ ธุรกิจของตระกูลเราตอนนี้ใกล้จะล้มละลายแล้ว มีธุรกิจฝ่ายศัตรูได้กดขี่และวางแผนการร้ายใส่ฉัน ทำให้ฉันไร้หนทางจริงๆ”
ซุนจื้อเหวินพูด พลางแกล้งทำเป็นร่ำไห้อย่างเจ็บปวด: “ตอนนี้ฉันไม่มีหนทางเลย จึงต้องมาขอร้องคุณ ขอร้องแหละเห็นแก่หน้าเฟยเฟย ช่วยตระกูลพวกเราด้วย ไม่อย่างนั้นพวกเราก็มีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้……”
มองไปที่ชายวัยกลางคนมาร้องไห้โฮอยู่ข้างหน้าตน หลี่ฝางก็แค่รู้สึกรำคาญ
“พอแหละ ไสหัวไปเถอะ ฉันช่วยนายแค่ครั้งนี้นะ!”
เมื่อได้ยินที่หลี่ฝางพูด ซุนจื้อเหวินก็ยิ้มร่าขึ้นมาทันที และเลียแข้งเลียขาอย่างขอบคุณไม่หยุด ไม่รู้เหมือนกันว่าที่พูดมานั้นจริงใจแค่ไหน
เมื่อเห็นว่าบนหน้าของหลี่ฝางมีความรำคาญเล็กน้อย เขาก็รีบจะออกไป ก่อนจะออกไปก็ได้สั่งเวยเวยให้อยู่ที่นี่เป็นเพื่อนซุนเฟยต่อ และก็หันหลังเดินออกไป ไม่กล้าจะอยู่ต่อ
เมื่อมองคนที่ถูกพ่อของตนทิ้งไว้ที่นี่ ยังไม่รู้เรื่องอะไรอย่างเวยเวย หลี่ฝางก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า
“ขอโทษนะ คุณหลี่……” ซุนเฟยเดินเข้ามา แล้วก็นวดไหล่หลี่ฝางเบาๆ “ให้คุณเห็นเรื่องน่าอายแล้ว……”
“ไม่เป็นไร” หลี่ฝางพูดปลอบซุนเฟย “ฉันบอกแล้ว ฉันจะพบเขาแค่ครั้งเดียว และจะช่วยเขาแค่ครั้งเดียว”
จากนั้น หลี่ฝางก็พูดอย่างอื่น: “อีกไม่นานฉันจะไปจากเมืองตงแล้ว”
“คุณหลี่จะกลับบ้านแล้วเหรอ?” ในใจของซุนเฟยขมขื่นเล็กน้อย แต่ก็ยังคงยิ้มและถามเสียงเบา
หลี่ฝางสำหรับเธอแล้วพูดได้ว่า ได้กลายเป็นแสงสว่างส่องทางให้ชีวิตแล้ว ตอนนี้จู่ๆ มาพูดว่าจะไป ทำให้ในใจของเธออดไม่ได้ที่จะเจ็บปวด
“ใช่ แต่ว่าทรัพย์สินที่ฝ่ายนี้ยังไงก็ต้องมีคนคอยดูแล ฉันหวังว่าให้คนคนนั้นเป็นเธอ”
หลี่ฝางจับมือซุนเฟยและดึงเข้ามาอยู่ตรงหน้า มองดูใบหน้าที่คล้ายกับเกาเมิ่งฉีเจ็ดแปดส่วน และพูดอย่างอ่อนโยน
“ฉัน?” ซุนเฟยสะดุ้งเล็กน้อย และถอยพลางพูด: “ฉัน ฉันทำไม่ได้หรอก……”
“ไม่เป็นไร นายค่อยๆ เรียนรู้ก็ได้ ไม่ว่าจะขาดทุนก็ดีหรือได้กำไรก็ดี ล้วนแต่ไม่เป็นไร” หลี่ฝางยิ้มพลางพูด “เงินทองสำหรับฉันแล้วไม่มีความหมายอะไรแล้ว อีกอย่างเงินเยอะขนาดนี้ ให้ฉันใช้ทั้งชีวิตก็ใช้ไม่หมด”
คิดอยู่ครู่ หลี่ฝางก็พูดขึ้นอีก: “เธอก็ไม่ต้องกังวลมากไป จะมีคนมาคอยช่วยซัปพอร์ตเธอเป็นพิเศษ ไม่ให้เธอลำบากใจมากไปหรอก”
หลิวฮุยคือผู้หาทีมผู้บริหารโดยเฉพาะ น่าจะเอาความมั่งคั่งอันมหาศาลของตระกูลเจิ้ง ไปใช้ในส่วนที่จำเป็นจริงๆ แหละมั้ง
……
ซุนจื้อเหวินในตอนนี้ กำลังมองดูผู้คนรอบข้างอย่างมีชัย
“คุณหลี่ยอมเจอนายจริงๆ เหรอ?” นายท่านของตระกูลใหญ่ตระกูลนึงมองซุนจื้อเหวินอย่างเหลือเชื่อ
คนพวกนี้ต่างก็เป็นคนมีฐานะมีอิทธิพลในเมืองตง ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน อย่างซุนจื้อเหวินพวกเขาไม่แม้แต่ที่จะชายตามอง แต่ในตอนนี้ก็ต่างมองด้วยสายตาเป็นมิตร แล้วล้อมซุนจื้อเหวินไว้
ไม่มีเขา เพราะว่าซุนจื้อเหวินเป็นเพียงคนเดียวในคนพวกนี้ที่ได้พบหลี่ฝาง
พวกคนที่นี่เพื่อที่จะได้พบหลี่ฝางสักครั้งก็ต้องดิ้นรนกันสุดๆ แต่น่าเสียดาย นอกจากเริ่มแรกที่หลี่ฝางยังพอเจอแขกอยู่บ้าง หลังจากนั้นก็ไม่ต้อนรับแขกแล้ว
แม้แต่ผู้ว่าการใหญ่เมืองตงมาขอเจอถึงที่ ก็ยังถูกหลี่ฝางปฏิเสธไป
แต่ซุนจื้อเหวินกลับได้พบหลี่ฝาง จะให้พวกเขาไม่ทำหน้าเป็นมิตรได้ยังไงกัน
ซุนจื้อเหวินมองดูสายตาที่กระตือรือร้นของผู้คนรอบข้าง ในใจก็อดที่จะพอใจไม่ได้ แม้กระทั่งมองคนพวกนั้นด้วยสายตาที่เหยียดหยามเล็กน้อย
คนพวกนี้คือบุคคลที่เขาเคยประจบมาก่อน แต่ตอนนี้ แค่เขาได้พอกลับหลี่ฝางแค่ครั้งเดียว ท่าทีของคนพวกนี้ที่มีต่อเขาก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ความรู้สึกแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจขึ้นมา
“ซุนจื้อเหวิน สรุปแล้วนายได้เจอคุณหลี่ได้ยังไง รีบบอกพวกเรามาเร็วสิ!” คนที่เอ่ยปากขึ้นคนแรกคนนั้นก็พูดขึ้นอีก
เขาเป็นคนที่มีฐานะที่สุดในกลุ่มคนพวกนี้ ที่จริงแล้วเขาก็เป็นคนที่ดูถูกซุนจื้อเหวินที่สุดคนนึง จู่ๆ วันนี้ต้องมาขอร้อง ท่าทีก็ยังคงเปลี่ยนไม่ได้ในช่วงนึง
เมื่อเห็นว่าคนคนนี้ยังพูดกับตนอย่างไม่เกรงใจ ซุนจื้อเหวินจึงทำหน้าเข้มอย่าไม่รู้ตัว และมองคนคนนั้นตั้งแต่หัวจรดเท้า จึงหัวหึอย่างเย็นชา และพูดอย่างดูถูก: “อย่างนาย ยังคิดอยากจะเจอคุณหลี่?”
พูดจบ เขาก็เขาก็แหวกทางฝูงชนและจากไป
เมื่อเห็นซุนจื้อเหวินกล้าใช้ท่าทีแบบนี้พูดกับตน คนคนนั้นจึงโมโหขึ้นมาทันที และชี้ไปที่เงาหลงของซุนจื้อเหวินแล้วตะโกนด่า
คนด้านข้างคนนึงรีบดึงเขาไว้ และพูดเสียงเบา: “ช่างเถอะ เขาจะไปเจอได้ยังไง ถ้าไม่ใช่ว่าลูกสาวดีๆ?”
ประโยคนี้ทำเอาคนโดยรอบเงียบลงทันที
“ซุนจื้อเหวินเห็นทีจะรุ่งเรืองแล้ว” สักพัก คนคนนั้นจึงถูกด้วยสีหน้าไม่ยอมรับและถอนหายใจ
……
จากหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเต็มๆ ทรัพย์สินตระกูลเจิ้งทั้งหมดในเมืองตง ในที่สุดก็ถูกโอนให้อยู่ภายใต้ชื่อของหลี่ฝาง
ส่วนท่าทีของหลี่ฝางที่มีต่อทรัพย์สินนี้ ก็ยังคงไว้เหมือนเดิม ไม่ได้ไปโยกย้ายอะไรที่เคยร่วมธุรกิจก็ยังคงร่วมธุรกิจต่อ บริษัทเดิมก็ยังคงดำเนินการต่อไปนอกจากผู้ภักดีต่อตระกูลเจิ้งไม่กี่คนที่จากไป พื้นฐานก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้บริหารระดับสูง หลิวฮุยทีมผู้บริหารที่ได้เชิญมาก็มาถึงในไม่ช้า หลี่ฝางก็ไม่ต้องไปกังวลอะไรมากนักแต่ว่าจากที่หลิวฮุยแนะนำมา หลี่ฝางก็ได้จัดงานเลี้ยงขึ้นมางานนึง และเชิญผู้บริหารที่สำคัญๆ มาพบปะกัน ให้พวกเขาได้เข้าใจว่า เจ้านายของตนได้เปลี่ยนคนแล้วและหลังจากข่าวนี้แพร่ออกไป ทันใดนั้นบรรดาชนชั้นสูงก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะมาเข้าร่วมงานเลี้ยงหลี่ฝางก็ไม่มีทางเลือก จึงทำได้แค่ปรับใหม่อีกครั้ง ให้คนพวกนั้นมาด้วยแต่ว่าหลี่ฝางก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก เขาไม่สนว่าคนพวกนี้จะคิดยังไง ยังไงก็ตามเขาต้องการใช้โอกาสนี้ทำให้ดูน่าเกรงขามอีกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงพวกโจรที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี มากระโดดโลดเต้นหลังจากที่เขาจากไป
copy right hot novel pub