หยางโล่จื้อพูด พลางควักบัตรออกมา
“ในบัตรใบนี้มีอยู่สี่แสนกว่า ฉัน ฉันชดเชยให้เขา รหัสคือ6 6ตัว”
“วางบัตรลง แล้วไสหัวไปซะ!” หลี่ฝางพูดเสียงเย็นชา
หยางโล่จื้อวางบัตรและรีบคลานลุกขึ้นมา กระโดดขึ้นรถและออกไป ผู้หญิงที่มากลับเขาตอนนี้ถึงจะได้สติกลับมา กรีดร้องขึ้นและในที่สุดก็ขึ้นรถไปก่อนที่หยางโล่จื้อจะออกรถ ไม่นานทั้งสองก็หายวับไป
“ไร้ประโยชน์!” หลี่ฝางด่าอย่างอดไม่ได้
ไม่รู้ว่าพ่อของหยางโล่จื้อนั้นเป็นใคร แต่พอมาคิดดู ไม่ว่าจะเป็นหยางจื้อเฉิงหรือว่าหยางเทียนลี่ เหมือนว่าก็จะไม่ได้สอนลูกชายตัวเองแบบนี้ เป็นไปได้มั้ยว่าพ่อของหยางโล่จื้อจะเป็นหยังเซิงโหย่วผู้ดีเบอร์หนึ่งของตระกูลหยาง?
คิดดูก็พอมีทางเป็นไปได้จริงๆ
หลี่ฝางส่ายหน้า และเอาบัตรใบนั้นให้ไอ้หลิว และตรวจดูแทนเขาสักครู่ ก็พบว่ามีแค่รอบฟกช้ำเล็กน้อย ไม่ได้มีแผลใหญ่อะไร จึงพูดปลอบไม่กี่คำและจากไป
ส่วนในตอนนั้นหยางโล่จื้อก็หนีไปมั่วซั่ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าขับรถไปที่ไหน ยากกว่าจะใจเย็นลงได้ ถึงได้หยุดรถลง
สาวฮ็อตที่อยู่ข้างเขามองดูเขาที่ทำสีหน้ายุ่งเหยิง และหยิบกระดาษขึ้นมาห่อนึงเช็ดให้เขา ก็ถูกเขาผลักออก และตะโกนอย่างเคียดแค้น: “ไอ้ลูกหมา กล้าทำแบบนี้กับฉัน รอฉันเรียกคนมาสับแขนขาแก และโยนเข้าไปในบ่อขี้เลี้ยงเหมือนหมู!”
ขณะที่เขาตะโกนด่าออกมา จู่ๆ ก็มีรถหรูสีดำสองคันพุ่งเข้ามา ด้านหน้าคันนึงด้านหลังคันนึงขวางทางเขาไว้
จากนั้นก็มีชายร่างใหญ่ปิดหน้าหลายคนกระโดดลงมาจากรถ และทุกกระจกรถเขาจนแตก และฝืนลากเขาออกมาจากรถ
“พวกนายจะทำอะไร!”
“ฉันเป็นคนตระกูลหยางนะ!พี่เขยฉันคือหลี่ฝาง!ปรมาจารย์กำลังภายใน!”
“พวกนายกล้าจับฉัน ไม่กลัวพี่เขยฉันฆ่าพวกนายทิ้งหรือยังไง!”
หยางโล่จื้อเพิ่งร้องไปไม่กี่คำ ก็ถูกต่อยจนหมดสติไป และก็ถูกลากเข้าไปในรถและจากไป
ส่วนสาวฮ็อตที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ ตอนนั้นก็ช็อกจนเอ๋อไปเลย
ณ ตระกูลหยาง
“ลูกชายฉันถูกลักพาตัวไป?” หยางเทียนลี่ตะโกนด้วยสีหน้าโมโห “ใครทำกัน!”
“มะ ไม่ทราบครับ กล้องวงจรปิดตรงนั้นเสียหมดเลยครับ” ลูกน้องตอบอย่างระมัดระวัง
หยางเทียนลี่ทรุดตัวลงบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าชาๆ : “เป็นฝีมือใครกันแน่?”
“คุณอาซาน ใจเย็นก่อน” หยางฉงที่อยู่ด้านข้างพูดอย่างนิ่งๆ “โล่จื้อถูกจับตัวไปไม่ได้ถูกฆ่า อีกฝ่ายจะต้องมีเรื่องที่ต้องการแน่ๆ”
หยางเทียนลี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางพูด: “หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”
หลี่ฝางทายผิดไปหน่อย หยางโล่จื้อไม่ใช่ลูกชายของหยังเซิงโหย่ว แต่เป็นลูกชายของหยางเทียนลี่
และ ไม่นานลูกน้องคนนึงก็ถือจดหมายฉบับนึงวิ่งเข้ามา ด้านบนเขียนว่า “อยากได้ชีวิตของหยางโล่จื้อจงทำตามนี้ซะ”
ทุกคนเริ่มอ่านเนื้อหาในจดหมายอย่างรวดเร็ว
“เตรียมทองคำหนักสิบกิโลเอาไว้ และบ่ายสองโมงวันพรุ่งนี้ให้คุณหนูหยางฉงนำไปที่จตุรัสจิงซานเพียงคนเดียว พวกเราจะแลกเปลี่ยนตัวหยางโล่จื้อกันที่นั่น”
“ถ้าหากคุณหนูหยางฉงไม่ได้มาคนเดียว พวกเราจะทิ้งชีวิตของหยางโล่จื้อไว้ที่นั่น”
ง่ายๆ ตรงๆ ไม่ลงชื่อ
เมื่ออ่านจดหมายนี้จบ ทุกคนก็เงียบไป
“เสี่ยวฉง ในจดหมายเขียนว่า……” หยางเทียนลี่พูดลองเชิงอย่างระวัง
เขาเพิ่งจะพูดออกมา พ่อของหยางฉงหยางเทียนเฉิงก็พูดอย่างโมโหทันที: “เหล่าซาน นายหมายความว่าไง? จะให้เอาลูกสาวฉันไปแลกกับลูกชายนาย? ทำไมนายถึงได้กล้าเอ่ยปากออกมากัน!”
ภรรยาของหยางเทียนลี่ที่อยู่ด้านข้างก็ทนไม่ไหวแล้ว พูดอย่างไม่พอใจ: “พี่รอง อย่าพูดให้มันไม่น่าฟังสิ ให้เอาลูกสาวพี่ไปแลกลูกชายพวกเราที่ไหนกัน ที่เขาต้องการก็คือทองคำ ก็แค่ให้เสี่ยวฉงนำไปส่งเฉยๆ ครอบครัวเดียวกัน แค่นี้ก็ช่วยไม่ได้เหรอ?”
“ถุย!” หยางเทียนเฉิงตะโกนอย่างโกรธจัด: “แค่ให้หยางฉงไปส่งทองคำ? ภรรยาเหล่าซาน เธอไม่มีสมองจริงๆ หรือแกล้งโง่? ทำไมเธอถึงไม่ให้แม่เธอไปส่งล่ะ เธอมันหน้าไม่อายจริงๆ?”
“พี่รองพี่พูดอะไรเหนี่ย!” เหล่าซานหยางเทียนลี่ก็โมโหแล้ว ลูกชายตัวเองโดนจับไปก็อารมณ์ไม่ดีมากพอแล้ว คราวนี้ก็ใช้โอกาสนี้ระบายความโกรธ: “ฉันพูดแค่นิดเดียว นายถึงกับต้องกัดกันอย่างกับหมาบ้าเลยเหรอ?”
“เหล่าซานแกหุบปากไปซะ!” ในที่สุดลูกพี่อย่างหยางจื้อเฉิง ก็พูดขึ้นเสียงเข้ม “ทะเลาะๆ ทะเลาะกันอยู่นั่นและ ตอนนี้มันเวลาอะไรแล้ว ยังจะมาทะเลาะกันอยู่ได้!เรื่องนี้ ค่อยๆ ปรึกษากันให้ดีก่อนเถอะ……”
“ยังจะต้องมาปรึกษาอะไรกันอีก?” หยางเทียนลี่ไม่เอาด้วยแล้ว ชักสีหน้าทันที “ลูกชายของฉันถูกลักพาตัวไป ไม่แน่ตัวประกันก็อาจจะถูกฆ่าวันพรุ่งนี้แล้ว ยังจะต้องมาปรึกษาอะไรกันอีก?”
หยางฉงมองคนทะเลาะกันไม่หยุด ราวกับตระกูลหยางจะสู้กัน ความโศกเศร้าก็แว๊บเข้ามาในดวงตาของเธอ“หุบปากให้หมดนั่นแหละ!” จู่ๆ หยางฉงก็ตะโกนเสียงดัง กดเสียงของทุกคนลงทุกคนจึงนิ่งและหันสายตามองไปทางหยางฉง“เตรียมของให้พร้อม พรุ่งนี้ฉันจะไป” หยางฉงทิ้งคำพูดนี้ไว้ และหันเดินจากไปหยางเทียนลี่ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ด้วยความสิ้นหวัง เข้าใจว่าแม้วิกฤตนี้จะผ่านพ้นไป แต่หลังจากนี้เขาก็จะไม่มีฐานะอะไรในตระกูลหยางแล้วบ่ายวันถัดมาทองคำหนักสิบกิโลกรัมสำหรับหยางฉงแล้วเป็นภาระที่หนักอึ้ง ดังนั้นเธอจึงใช้กล่องรถเข็นเข็นไปยังจตุรัสจิงซานที่จัตุรัสนี้มีแต่ผู้คนเต็มไปหมด หยางฉงมองไปซ้ายขวาอย่างระแวงสุดๆ จู่ๆ ก็เห็นชายผิวขาวร่างใหญ่เดินเข้ามาหาเธอ
copy right hot novel pub