ช่วงครึ่งเดือนมานี้ ต้าเซี่ยหลงเช่วได้รับข่าวนักรบหายตัวไปกว่าสิบราย นักรบพวกนี้อยู่ในกำลังภายนอกชั้นกลางไปจนถึงกำลังภายในชั้นกลาง ที่น่าแปลกคือหาร่างของนักรบเหล่านี้เจอ พบว่าพลังของพวกเขาทั้งหมดหายไป
เรื่องประหลาดแบบนี้ เกิดความโกลาหลใหญ่หลวงในวงการนักรบของประเทศจีน ทำให้ทุกคนต่างหวาดระแวงไปตามๆ กัน
“นี่มันปีศาจอะไรกัน ถึงได้ดูดพลังคนอื่นได้? อย่าให้ฉันได้เจอเลย พลังของฉันอุตส่าห์ฝึกมาไม่ง่ายเลยนะ”
หวางโหย่วเฉิงอ่านหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับข่าวการหายตัวไปของเหล่านักรบ บ่นพึมพำคนเดียวอย่างหวาดระแวง
“โถ่ ปอดแหก ไอ้บ้านั่นยังไม่ได้เจอคุณปู่เฉินของแกอย่างฉันหรอกนะ ถ้าฉันเจอไอ้ปอดแหกนั่น ฉันจะระเบิดหัวหัวมันให้เละเลย!”
ไท่ซางที่อยู่อีกด้านสบถอย่างไม่พอใจ พลางมีความสุขกับการปรนนิบัติของสาวใช้ตระกูลหยาง พลางกล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจ
“เห้ยเห้ย ผมจะกล้าเทียบกับปรมาจารย์ฉินอย่างท่านได้ยังไง ฉันเป็นแค่นักรบกำลังภายในชั้นสูงเท่านั้น เจอคนแบบนี้ผมก็ต้องเป็นกังวลอยู่แล้ว ไม่เหมือนกับท่าน ความสามารถกล้าแกร่ง ถ้าไอ้บ้านั่นเจอท่านละก็ คงตกใจจนฉี่ราดกางเกงแน่”
หวางโหย่วเฉิงเองช่วงนี้ก็ได้เห็นนิสัยของไท่ซางแล้ว ไอ้หมอนี่มีความชอบอยู่สองอย่าง ข้อแรกคือสาวสวย สองคือคนชมเชย
ต่อให้คุณมีความแค้นบาดหมางอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ขอแต่หาสาวสวยให้เขาสักคน แล้วกล่าวชื่นชมเขาสักหน่อย ความแค้นทุกอย่างก็หายกัน
“ฮ่าๆ อยู่แล้ว ไม่ดูซะบ้างเลยว่าฉันเป็นใคร!” เป็นไปตามคาด หลังไท่ซางได้ยินคำของหวางโหย่วเฉิงแทบจะลอยขึ้นฟ้า
ช่วงนี้เขาฟังคำสั่งจากหลี่ฝาง อยู่ที่ตระกูลหยางเพื่อช่วยเหลือหยางฉง พวกที่เซ่อซ่าถูกเขากำราบจนยอมจำนน ไม่มีใครกล้าแตะต้องตระกูลหยางอีก
แม้แต่สมาชิกตระกูลหยางเองที่ไม่ยอมรับในตัวหยางฉง ก็ถูกไท่ซางลงมือจัดการด้วยตนเอง ช่วงนี้หยางฉงคงสงบได้สักระยะ ไม่มีปัญหาอะไร
ทีแรกตระกูลหยางเคารพในตัวปรมาจารย์คนนี้อย่างมาก คราวนี้ยิ่งนับถือไท่ซางยิ่งไปกว่าเดิมอีก โดยเฉพาะคุณลุงทั้งหลายของหยางฉง ที่คิดหาทุกวิถีทางเพื่อยัดคนเข้าไปในห้องของไท่ซาง ไท่ซางรู้สึกตัวเขาแทบจะรับไม่ไหว
“เสี่ยวหลัน เดี๋ยวเธอไปสั่งห้องครัวให้ทำอัณฑะวัว บำรุงร่างกายให้ฉันหน่อย ช่วงนี้ฉันถูกพวกเธอทรมานจะแย่”
ไท่ซางกำชับกับหญิงสาวที่ใสซื่อกำลังทุบขาให้เขา
หญิงสาวที่ชื่อเสี่ยวหลันเองก็ไม่กล้าต่อต้าน ได้แต่ตอบรับด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ทีท่าเขินอายของเธอ บวกกับความสวยใสของเธอ ทำให้ไท่ซางแทบอดทนไม่อยู่
เพิ่งคิดที่จะลากเสี่ยวหลันกลับไปที่รถของตนเอง เมื่อหันหน้ากลับไปก็ได้พบกับหยางฉงที่เพิ่งกลับมาจากบริษัท
“ไท่ซาง! หยุดเดี๋ยวนี้!” หลังหยางฉงเห็นไท่ซาง รีบเร่งความเร็วของฝีเท้าและเรียกเขาเอาไว้ทันที เพียงแค่สองก้าวก็ถึงหน้าไท่ซาง พลันดึงหูของเขาเอาไว้
ไท่ซางขมขื่นแต่พูดไม่ออก เขาเป็นถึงปรมาจารย์ แต่กลับถูกหญิงสาวธรรมดาดึงหู แถมยังถูกคนอื่นเห็นอีกต่างหาก ขายขี้หน้าจะแย่
“แค่กๆ คุณหนูหยาง ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีธุระ ผมขอตัวก่อน ปรมาจารย์ฉิน ผมไปก่อน!”
หวางโหย่วเฉิงเลือกทำตามโอกาสอย่างชาญฉลาด รู้ว่า ไท่ซางเป็นคนรักศักดิ์ศรี เขาทิ้งไว้ประโยคหนึ่งก่อนที่จะก้มหน้ารีบเผ่นทันที
“คือว่า พี่สะใภ้ มีอะไรค่อยๆ คุยกัน พี่เอามือที่บิดหูของผมอยู่ออกก่อนได้ไหม?”
ไท่ซางจ้องมองหยางฉงอย่างเอาอกเอาใจ ฉีกยิ้มจนปวดกาม
แต่หยางฉงกลับไม่หลงกล สั่งให้คนมัด ไท่ซางเอาไว้
ช่วงก่อนหน้าเธอมัวแต่ยุ่งอยู่กับการจัดการเรื่องงานที่บริษัท ต่อให้หลี่ฝงไม่ได้ติดต่อเธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก หลังจากนั้นเมื่อจัดการเรื่องของที่บริษัทเสร็จสิ้น หยางฉงถึงได้พบว่าหลี่ฝางไม่สนใจเธอมาครึ่งเดือนแล้ว ถึงได้เริ่มรู้สึกว่าผิดปกติ
เธอรู้ว่า ไท่ซางเป็นลูกน้องของหลี่ฝาง เพราะงั้นจึงอยากได้ข่าวคราวจาก ไท่ซาง แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อ ไท่ซางเห็นเธอราวกับหนูที่เจอแมว หลบแทบไม่ทัน
วันนี้เธอกลับมาจากที่บริษัทก่อนเวลา ถึงได้ทำให้ไท่ซางไหวตัวแทบไม่ทัน อุตส่าห์จับเขาได้ เธอไม่มีทางปล่อยมือเพื่อให้เขาหนีไปได้อีกแน่
“บอกมา หลี่ฝางไปไหนกันแน่? ทำไมนานขนาดนี้แล้วเขาไม่ส่งข้อความหาฉันเลย!”
ในมือของหยางฉงถือไม้ปัดขนไก่เอาไว้ พลางฟาดตีไท่ซางพร้อมคำรามถาม
ไท่ซางถูกจับปัดอยู่กับเก้าอี้ นอกจากลำคอที่สามารถขยับได้ ส่วนอื่นถูกปัดจนหมด แถมยังใช้เชือกที่หนากว่าปกติอีกต่างหาก ต่อให้เขามีความสามารถระดับปรมาจารย์ อยากจะหลุดออกจากพันธนาการก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
“โอ๊ย พี่สะใภ้ ผมบอกพี่แล้วนี่ ว่าลูกพี่ใหย่ไปทำภารกิจ อีกไม่กี่วันก็กลับมาแล้ว พี่อย่าใจร้อนสิ”
ไท่ซางไม่กล้ามองสายตาของหยางฉง เขาเกรงว่าจะไม่ระวังหลุดปากไป
ก่อนที่หลี่ฝางจะเข้าไปที่ซากปรักหักพังลึกลับ เขาได้บอกกับไท่ซางแล้ว เขาได้ตัดสินใจที่จะตัดขาดกับหยางฉง แล้วใช้ชีวิตกับฉินวี่เฟย เพราะงั้นเขาจึงไม่ได้บอกหยางฉงเรื่องที่ไปทำภารกิจ ถึงขั้นไม่เคยตอบข้อความของเธอเลย
อันที่จริงเขาไม่ได้มีความเห็นมากนักเกี่ยวกับการกระทำของหลี่ฝาง ยังไงซะเขาเองก็เป็นผู้ชายสารเลวอย่างถ่องแท้ ผู้หญิงที่เคยนอนด้วยเกินร้อย ทุกคนเมื่อผ่านความสดใหม่ก็โยนทิ้ง
แต่หลี่ฝางกลับจะให้เขาอยู่เพื่อจัดการเรื่องราว ทำให้ไท่ซางลำบากใจอย่างมาก
หลี่ฝางนี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่ จะตัดขาดกับกับหยางฉงแล้ว แต่ก็ยังจะคอยดูแลเธออยู่แบบนี้ ทำให้ไท่ซางได้แต่ปลอบใจตนเอง
“แกโกหก! แกไม่กล้าจ้องตาฉันตอนพูดด้วยซ้ำ! แกพูดมาเดี๋ยวนี้ หลี่ฝางไปทำอะไรกันแน่!”ประโยคขอไปทีของ ไท่ซาง หยางฉงไม่เชื่อแม้แต่น้อย ก่อนหน้านี้ใช่ว่าหลี่ฝางไม่เคยออกไปทำภารกิจ ทุกครั้งเขาจะทิ้งข้อความให้หยางฉง นอกจากครั้งนี้ที่ไม่มี หรือจะบอกได้ว่าไร้ร่องรอยทำให้หยางฉงร้อนรน หยางฉงเป็นกังวลทุกวันว่าหลี่ฝางไปแล้วจะไม่กลับมาอีกเลย“โอ๊ย พี่สะไภ้ บางเรื่องทำไมต้องให้ผมพูดชัดเจนขนาดนั้นด้วย? หลี่ฝางเขาไม่ใช่คนที่นี่ตั้งแต่แรก พี่ก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาความจำเสื่อม ตอนนี้เขาฟื้นความจำแล้ว ก็ต้องกลับไปทีที่เขาเคยใช้ชีวิต” ไท่ซางหน่ายที่ถูกถาม เขาไม่ใช่คนที่จะแสร้งได้แต่แรกอยู่แล้ว จึงบอกเรื่องที่หลี่ฝางฟื้นฟูความทรงจำแก่เธอหยางฉงนิ่งอึ้ง อันที่จริงเธอเองก็รู้ว่าหลี่ฝางฟื้นความจำแล้ว แต่ที่เธอไม่เข้าใจคือ ทำไมหลี่ฝางกลับไปแล้วไมาพาเธอไปด้วย“เรื่องที่เขาฟื้นความจำฉันรู้แล้ว ฉันไม่ได้บอกว่าไม่ให้เขากลับไปสักหน่อย เขามีเรื่องอะไรบอกฉันได้ ฉันกลับบ้านไปพร้อมกับเขาได้ นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย” “คุณไมมีปัญหา แต่อีกคนมี” เมื่อได้ยินอย่างนั้น ไท่ซางอดเหลือบตาขาวไม่ได้ ก่อนบ่นอุบเสียงแผ่ว
copy right hot novel pub