“หึ สัตว์ประหลาดดำพวกนั้นคิดว่าแบบนี้ก็สามารถขังครึ่งเทพอย่างพวกเราได้เหรอ? ช่างน่าตลกจริง ๆ”
จะต้องรู้ว่าหลี่ฝางที่ได้เข้าสู้ขั้นครึ่งเทพแล้วนั้นสามารถลอยบนอากาศได้ คุกดึกดำบรรพ์ที่ธรรมดาเช่นนี้กักขังเขาเอาไว้ไม่ได้หรอก หลังจากที่กล่าวประโยคนี้เสร็จไป หลี่ฝางก็คิดจะเคลื่อนย้ายพลังเพื่อทำลายกรงเหล็ก แต่เขาก็ต้องยิ้มไม่ออกในวินาทีต่อมา
พลังอันแข็งแกร่งเดิมทีที่อยู่ในร่างของเขานั้นได้หายไปอย่างแปลกประหลาด หลี่ฝางที่ไม่อาจยอมรับได้ว่าตัวเองได้กลายเป็นคนธรรมดาไปแล้วนั้นถึงกับตะลึงงันอยู่กับที่
นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน? ทำไมเขาถึงใช้พลังของตัวเองไม่ได้ล่ะ?
ราวกับไม่ยอมรับชะตาชีวิต หลี่ฝางได้ลองใช้พลังอยู่อีหลายครั้ง แต่ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีใด พลังอันแข็งแกร่งที่เดิมทีอยู่ในร่างของเขานั้นก็ได้หายไปไม่เห็นแม้แต่เงา
“เลิกเสียแรงเปล่าได้แล้ว เมื่อกี้ฉันได้ลองไปกว่าครึ่งชั่วโมง ใช้พลังออกมาไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว” กู่ยี่เทียนมองดูหลี่ฝางที่ยังคงไม่ตายใจ จึงเกลี้ยกล่อมอย่างท้อแท้ใจ
ความคิดในตอนที่เขาพึ่งจะฟื้นขึ้นมานั้นเหมือนกับหลี่ฝางไม่มีผิด คิดว่าแค่ทำลายคุกแห่งนี้เก่า ๆ แห่งนี้ก็สามารถออกไปได้แล้ว แต่พอลองขับเคลื่อนพลังดูถึงรู้ว่าเรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
“แม่งเอ๊ย! ฉันจะต้องฆ่าพวกไอ้พวกสัตว์ประหลาดตัวดำนั่นอย่างแน่นอน!” หลี่ฝางที่พยายามดิ้นรนอยู่ครึ่งค่อนวันสุดท้ายก็ทำได้เพียงยอมรับความจริงอย่างโมโห เขาซัดหมัดเข้าใส่กำแพงหินพลางร้องตะโกนอย่างอึดอัดใจ
“หลี่ฝาง นายรู้จักพวกสัตว์ประหลาดที่จับพวกเรามาเหรอ?” เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ฝาง กู่ยี่เทียนก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
ก่อนที่จะสลบไปนั้นเขาเองก็เห็นเงาร่างทะมึนนั่นเหมือนกัน เพียงแต่ว่าตอนนั้นสติเลือนราง กู่ยี่เทียนไม่กล้าที่จะมั่นใจมาโดยตลอด และยังคิดว่าตัวเองนั้นดูผิดไป
“ก่อนหน้านี้เคยเจอมาครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันคืออะไรกันแน่ สัตว์ประหลาดสีดำนั่นแปลกประหลาดมาก เคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล่ว และซ่อนร่องรอยของตัวเองได้อย่างชำนาญทีเดียว ครั้งที่แล้วฉันใช้ความพยายามไปอย่างมากก็จับมันไม่ได้”
สัตว์ประหลาดตัวดำที่สะกดรอยตามหลี่ฝางเมื่อครั้งที่แล้วมีแค่ตัวเดียว หลังจากที่ถูกเขาโจมตีมันก็ไม่ได้ปรากฏตัวอีกเลย ดังนั้นในตอนนั้นหลี่ฝางเลยไม่ได้ใส่ใจ คิดไม่ถึงว่าเมื่อกลับมาที่ซากปรักหักพังลึกลับ ในครั้งนี้ ตัวเองกลับถูกสัตว์ประหลาดตัวดำลอบทำร้าย นอกจากนี้เขายังมั่นใจได้ว่าสัตว์ประหลาดชนิดนี้ไม่ได้มีเพียงตัวเดียว อาจจะมีอยู่มากมายหลายตัว
“ทำไมสัตว์ประหลาดตัวดำนั่นต้องจับพวกเราด้วย? จับมาแล้วทำไมต้องเอาพวกเรามาขังไว้ที่นี่ด้วยล่ะ? พวกมันมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?”
กู่ยี่เทียนรู้สึกว่าตอนนี้สมองของตัวเองไม่พอใช้ ตามหลักแล้วในซากปรักหักพังลึกลับ แห่งนี้นอกจากตัวเอง หลี่ฝางและพวกอาซาโทสก็ไม่มีคนอื่นอีกแล้ว ตอนนี้กลับมีพวกสัตว์ประหลาดตัวดำนั่นโผ่ออกมามันเรื่องอะไรกัน?
สัตว์ประหลาดตัวดำพวกนี้จับเขาและหลี่ฝางมา หรือว่าพวกมันจะเป็นพวกเดียวกันกับอาซาโทส?
“รายละเอียดหลัก ๆ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้พลังของพวกเราทั้งสองคนถูกผนึกเอาไว้ ไม่ต่างอะไรกับคนธรรมดา ต่อให้ออกไปจากกรงเหล็กนี้ได้ ก็ปีนออกไปจากหน้าผาสูงชันนี้ไม่ได้ ฉันคิดว่าพวกเรารออยู่ที่นี่ให้พวกสัตว์ประหลาดตัวดำนั่นขึ้นมาหาเองดีกว่า”
คิดไปคิดมาหลี่ฝางที่คิดหาวิธีไม่ออกก็เลยเลิกคิดไป และนอนลงบนพื้น หาท่าสบาย ๆ และนอนหลับไป เมื่อเห็นท่าทางสบายใจไร้กังวลเช่นนี้ของหลี่ฝาง กู่ยี่เทียนโมโหแทบทนไม่ได้ ในขณะที่กำลังคิดจะลากหลี่ฝางขึ้นมาจากพื้นนั่นเอง ที่ด้านหลังก็ได้เกิดลมพัดกระหน่ำขึ้น
เห็นเพียงสิ่งมีชีวิตคล้ายปีศาจตัวหนึ่งหยุดอยู่ที่ด้านนอกกรงเหล็ก บนหลังของสัตว์ประหลาดตัวนั้นมีปีกอยู่สามคู่ เมื่อกางปีกออกนั้นแสงสว่างแทบจะถูกบดบังไปหมด
เนื่องจากมีแสงส่งมาจากด้านหลัง ทำให้พวกหลี่ฝางเห็นรูปลักษณ์ของสัตว์ประหลาดนั่นได้ไม่ชัดเจน แต่ดูจากโครงร่างแล้วก็สามารถเดาได้ว่ามันไม่ค่อยจะน่าดูสักเท่าไหร่นัก
เห็นเพียงในมือของสัตว์ประหลาดตัวนั้นถือห่อผ้าเอาไว้ ปากก็เอ่ยอะไรบางอย่างที่พวกหลี่ฝางฟังไม่เข้าใจ และได้โยนห่อผ้านั่นเข้ามาในคุก
“นี่! ทำไมพวกแกต้องจับพวกเรา!” เมื่อเห็นสัตว์ประหลาดตัวนั้นกำลังจะหมุนตัวจากไป หลี่ฝางก็ตะโกนใส่มันขึ้นมา
ไม่รู้ว่าเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นฟังไม่เข้าใจที่หลี่ฝางพูดหรือไม่อยากจะใส่ใจหลี่ฝางกันแน่ กระพือปีกอยู่สองครั้งแล้วบินลงไปจากหน้าผา
ในเมื่อคนอื่นไม่สนใจตัวเอง หลี่ฝางก็ทำอะไรไม่ได้ จึงทำได้เพียงวางความสนใจทั้งหมดไปที่ห่อผ้าสีดำที่อยู่บนพื้นนั่น
“นายไม่กลัวตายหรือไง? ถึงได้กล้าใช้มือเปล่าไปจับของบ้า ๆ นั่น! ใครจะไปรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน ถ้าเกิดเป็นพวกอาวุธลับ หรือยาพิษขึ้นมาจะทำยังไง!”
กู่ยี่เทียนเห็นหลี่ฝางยื่นมือออกจะไปจับห่อผ้าที่อยู่บนพื้น ตกใจจนคว้าเข้าไปที่แขนของหลี่ฝางห้ามเขาเอาไว้
“ตอนนี้พวกเราได้ตกเป็นเชลยของพวกมันแล้ว ทำมันต้องทำในสิ่งที่ไม่จำเป็นด้วยล่ะ? ไม่เป็นไรหรอก นายวางใจเถอะ” หลี่ฝางตบที่มือของกู่ยี่เทียนเบา ๆ เป็นการบอกให้เขาปล่อยตัวเอง
คำพูดนี้เหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร ถ้าหากเจ้าสัตว์ประหลาดสีดำนั่นคิดจะฆ่าพวกหลี่ฝางก็คงไม่รอมาจนถึงตอนนี้หรอก เมื่อเข้าใจจุดนี้แล้ว กู่ยี่เทียนเองก็ขยับใกล้เขาไปด้วย
เดิมทีหลี่ฝางคิดว่าในห่อผ้านี้จะมีอะไรแปลก ๆ อยู่ข้างใน พอเปิดออกดูถึงพบว่าของที่อยู่ข้างในนั้นเป็นน้ำและธัญพืชอัดแผ่น
“นี่ นี่มันหมายความว่ายังไง?”
กู่ยี่เทียนมองสิ่งของที่อยู่ตรงหน้าแล้วเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
“ยังจะหมายถึงอะไรอีกล่ะ สัตว์ประหลาดตัวเมื่อกี้นั่นกำลังให้อาหารพวกเราอยู่ไงล่ะ” หลี่ฝางนั้นไม่ได้ตกใจอะไรมากมาย หลังจากที่ชะงักไปสักพักแล้วก็เริ่มหยิบของที่อยู่ในนั้นขึ้นมาทาน
กู่ยี่เทียนเห็นเขาทานอย่างเอร็ดอร่อยแบบนั้น หลังจากที่ลังเลอยู่สักพักก็ได้ฉีกธัญพืชอัดแผ่นขึ้นมาหนึ่งชิ้น
จะใส่จะอะไรมากก็ไม่ได้ ตอนนี้เขาและหลี่ฝางต่างก็เป็นเพียงคนธรรมดา จะไม่ทานอาหารก็คงไม่ได้
ต่อให้เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นใส่ยาพิษลงไปในอาหาร เขาก็ขอเป็นผีที่อิ่มตาย
“เอ่อคือ......พวกคุณใช่หลี่ฝางและกู่ยี่เทียนหรือเปล่า?”
ในขณะที่พวกเขาสองคนกำลังจัดการกับธัญพืชอัดแผ่นอยู่นั่นเอง จู่ ๆ เสียงผู้หญิงที่ล่องลอยและหยาบกระด้างก็ได้ดังขึ้นในคุกที่กว้างขวางว่างเปล่า
มันทำให้พวกเขาตกใจสะดุ้งโหยง ธัญพืชอัดแผ่นคำโตติดอยู่ที่คอของหลี่ฝาง กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ส่วนกู่ยี่เทียนนั่นก็ได้พ่นเศษธัญพืชอัดแผ่นออกมาโดนใบหน้าของหลี่ฝางเต็ม ๆ “ใครน่ะ? ใครทำลับล่อ ๆ อยู่ตรงไหน? รีบไสหัวออกมานะ!” ครั้งนี้กู่ยี่เทียนตกใจขึ้นมาจริง ๆ เขาสะดุ้งโหยงจนกระโดดลุกขึ้นมาจากพื้น และตะคอกออกไปในอากาศหลี่ฝางรีบดื่มน้ำลงไปสองอึก พยายามกลืนธัญพืชอัดแผ่นที่ติดอยู่ที่คอลงไปอย่างยากลำบาก ไม่ใช่เพราะพวกเขาขวัญอ่อน ในคุกแห่งนี้นั้นเคว้งคว้างว่างเปล่า นอกจากหลี่ฝางและกู่ยี่เทียนแล้วก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ อีกเลย จู่ ๆ ก็มีเสียงของคนอื่นดังขึ้นมา แถมเสียงนั่นยังล่องลอยแบบนี้ แล้วใครจะไปทนไหวกันล่ะ!“พวกคุณไม่ ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ใช่คนเลว ฉันชื่อแคทเธอริน ถูกขังอยู่เอาไว้ในคุกที่อยู่ด้านล่างของพวกคุณ” เมื่อเห็นพวกหลี่ฝางถูกตัวเองทำให้ตกใจ แคทเธอรินก็รีบกล่าวอธิบายทันที ประโยคนี้พูดอย่างติด ๆ ขัด ๆ รู้สึกเหมือนกับว่าแคทเธอรินนั้นตื่นเต้นกว่าพวกหลี่ฝางเสียอีก เมื่อได้ยินคำพูดของแคทเธอริน หลี่ฝางและกู่ยี่เทียนถึงได้วางใจลง แต่พอคิดไปคิดมา เรื่องนี้มันไม่ค่อยปกติสักเท่าไหร่นี่พวกเขาไม่รู้จักกับแคทเธอรินเลยด้วยซ้ำ แล้วเธอรู้ชื่อของหลี่ฝางและกู่ยี่เทียนได้ยังไง?
copy right hot novel pub