โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

บทที่ 1233 หาของวิเศษที่ห้องลับ

“รู้ไหมว่าทำไมพวกมันถึงได้ไล่ล่าไม่ลดละไหม?” อาคาอูเหลือบตาไปที่กู่ยี่เทียน สีหน้าบึ้งตึง

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง พวกนี้เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของพวกแกคิดค้นขึ้นไม่ใช่หรือไง? พวกแกรีบคิดหาวิธีจัดการไอ้หนอนน่าสะอิดสะเอียนพวกนี้เร็วเข้า” กู่ยี่เทียนกล่าวโดยไม่คิดแม้แต่น้อย

เขาจะบ้าตายกับหนอนพวกนี้อยู่แล้ว มีกะจิตกะใจไปคิดสาเหตุที่พวกมันไล่ตามตนเสียที่ไหน

“แกจำด้วงเหล็กแดงที่ถูกตบตายเมื่อกี้นี้ได้ใช่ไหม? บนตัวของแกตอนนี้มีกลิ่นของด้วงเหล็กแดงอยู่ ที่พวกมันวิ่งไล่ตามมาเพราะจะแก้แค้นให้กับด้วงเหล็กแดงตัวนั้นที่ตายไป ไม่อยากจะให้มันไล่ตามเรามาก็ได้ ก็แค่เสียสละนายก็พอแล้ว”

อาคาอูสีหน้าเขียวปั้ด คู่ต่อสู้ที่ราวกับไม่กลัวอะไรเลย เพื่อนร่วมทีมที่ไร้ประโยชน์คอยสร้างปัญหา หากไม่ใช่เพราะยังต้องการกู่ยี่เทียนเพื่อต่อกรกับอาซาโทสล่ะก็ เขาจะจับกู่ยี่เทียนโยนเข้าฝูงหนอนนั่นจริงๆ นะ

“ให้ตาย! ทำไมแกไม่พูดแต่แรก! กูจะไปรู้ได้ยังไงว่าไอ้นั่นมันฆ่าไม่ได้” เมื่อได้ยินคำของอาคาอู กู่ยี่เทียนหน้าดำทะมึนด้วยความโมโห ให้ตายถ้ารู้ว่าหนอนนั่นแตะไม่ได้ เขายอมปล่อยให้หนอนตัวนั้นคลานบนไหล่ของเขาจนตายก็ไม่มีทางตบมันตายแน่

“รอนี่เดี๋ยว ไม่ต้องบินไปข้างหน้าแล้ว ผู้ช่วยใกล้จะถึงแล้ว” อาคาอูเหลือบตาขาวใส่กู่ยี่เทียน เบื่อที่จะต่อล้อต่อเถียงกับเขา ไม่บินไปข้างหน้าอีก ทว่าให้ทุกคนรออยู่กับที่

ด้านหลัง ‘เมฆดำทมิฬ’ ใกล้เข้ามาทุกที หลี่ฝางและกู่ยี่เทียนฝ่ามือท่วมเหงื่อ แต่อาคาอูและปันปูทั้งคู่ยังคงลอยอยู่กลางอากาศที่เดิมนิ่งไม่ไหวติง พวกเขาเองก็ได้แต่รออยู่อย่างนั้น

“เร็วเข้า! ไปที่พื้น!” เมื่อด้วงเหล็กแดงตัวหน้าสุดกำลังจะแตะจมูกของกู่ยี่เทียน ในที่สุดอาคาอูก็มีการเคลื่อนไหว พลันจะโกนเสียงดังก่อนลากหลี่ฝางและกู่ยี่เทียนไปยังพื้นด้านล่างอย่างว่องไว

หลังจากที่พวกเขาออกจากที่ มังกรยักษ์ตะวันตกขนาดใหญ่ตัวหนึ่งก็บินลงมาจากฟ้า เพียงพ่นลมหายใจไม่กี่ทีก็ขจัดด้วงเหล็กแดงไปสองในสาม

“บะบะบ้าไปแล้ว! มังกร!” กู่ยี่เทียนจ้องมองมังกรยักษ์ที่ปกคลุมไปทั่วทั้งผืนฟ้า ตกใจจนคางแทบหลุด ให้ตายเขาต้องฝันอยู่แน่ ไม่เช่นนั้นจะได้พบกับมังกรในเทพนิยายได้ยังไง?

“ชู่! หุบปาก!” อาคาอูใช้มือปิดปากของกู่ยี่เทียนเอาไว้ และลากเขาหลบที่หลังพุ่มไม้อย่างเร็วที่สุด ด้วงเหล็กแดงที่ถูกแผดเผาจนไหม้ร่วงหล่นลงมาจากฟ้าทีละตัว บนพื้นที่ราบปูไปด้วยร่างสีดำแดงหนาเป็นเมตรอย่างรวดเร็ว

กู่ยี่เทียนหลบอยู่ที่หลังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง จ้องมองด้วงเหล็กแดงที่กองเต็มพื้น อดไม่ได้ที่จะอุทานเสียงแผ่ว “คิดไม่ถึงเลยว่าด้วงเหล็กแดงพวกนี้ก็หอมดีเหมือนกันแฮะ ไม่รู้ว่าจับกินจะมีรสชาติยังไง”

“หยุดเลยนะ ถ้านายกล้าขยับ ฉันจะโยนนายออกไปเป็นอาหารมังกร” หลี่ฝางโมโหกับประโยคของเขาอยู่ไม่น้อย ตบลงที่หลังของกู่ยี่เทียนอย่างแรง กล่าวเตือนอย่างดุดัน

“พอได้แล้ว ม่านหมอกเริ่มปกคลุมอีกครั้งแล้ว เราออกไปได้แล้ว” ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง บนพื้นม่านหมองที่ถูกมังกรยักษ์เป่าอย่างแรงเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง อาคาอูถึงได้เดินออกมาจากหลังต้นไม้

เขาจ้องมองเงาร่างขนาดใหญ่บนท้องฟ้า ดวงตาร่องรอยเล็กน้อย

“อาคาอู ก่อนหน้านี้นายไม่ให้เราบินไปบนฟ้าเลย ให้เราเดินเท้าเพราะมังกรยักษ์ตัวนี้ใช่ไหม?” หลี่ฝางแหงนหน้าขึ้นจ้องมองไปยังมังกรยักษ์ที่บินออกไปไกล กล่าวถามอย่างสงสัย

“ไม่ผิดหรอก มังกรยักษ์ตัวนี้มีชื่อว่าแอสทา อันที่จริงมันเป็นผู้เฝ้าประตูนรกทิศตกวันตก ตั้งแต่ถูกท่านเทพอ้านจับกุม หลังจากนั้นก็ถูกคุมขังที่โลกใต้พิภพตั้งแต่นั้นมา”

“อาคาอู ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าปีกที่หลังนายถึงได้ดูคล้ายกับมังกรยักษ์นั่น?” เมื่อสักครู่มัวแต่หนีเอาชีวิตรอดไม่ทันได้สังเกตมังกรยักษ์ตัวนั้น ตอนนี้วิกฤตผ่านไปแล้ว เมื่อเขาไตร่ตรอง ก็ได้พบว่าอาคาอูและปันปูมีรูปลักษณ์ที่คล้ายกับมังกรยักษ์ตัวนั้น

เมื่อได้ยินประโยคของกู่ยี่เทียน อาคาอูกระตุกไปชั่ววูบอย่างชัดเจน แววตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“เทพอ้านไม่เพียงแต่ชอบสะสมสัตว์รูปร่างประหลาด แต่เขายังชอบการค้นคว้าวิจัยสายพันธุ์ใหม่ๆ ด้วย ก่อนหน้านี้เขาเคยได้เพาะพันธุ์สัตว์แปลกที่ไม่มีในโลกมากมาย พวกเราชาวหยู่เหรินเป็นการผสมผสานระหว่างยีนของมนุษย์และมังกรยักษ์ของเทพอ้าน ส่วนชาวอูข่าเป็นผู้สืบทอดของมังกรดำ”

หลี่ฝางและกู่ยี่เทียนนิ่งอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน ไม่คิดเลยว่าสิ่งที่ปรากฏบนภาพยนตร์ระทึกขวัญเหล่านี้ จะมีอยู่ในชีวิตจริง แถมยังมีตัวตนอยู่ตั้งแต่เมื่อหลายพันปีก่อนแล้ว

ไม่แปลกที่คนของเทพหมิงสู้ให้ตายก็ต้องสังหารเทพอ้านให้ได้ ให้ตายความสามารถที่ต่อต้านฟ้าดินแบบนี้ หากไม่ทำลายทิ้งเสีย โลกของเผ่าพันธุ์มนุษย์คงไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น“หัวใจของเทพอ้านเราฝังอยู่ที่สุสานเทพอ้านในห้องลับ แต่อยู่บริเวณไหนเราไม่สามารถรู้ได้ เพราะผ่านไปช่วงหนึ่งพื้นที่ของโลกใต้พิภพก็จะเปลี่ยนไป”“สุสานเทพอ้านมีห้องลับเป็นร้อย ถ้าโชคดีเราจะเจอหัวใจของเทพอ้านในทีที่เปิดประตู ถ้าโชคร้าย ก็จะเหมือนกับอาซาโทส เปิดประตูออกมาก็จะปล่อยสัตว์ประหลาดสักชนิดที่เทพอ้านวิจัยออกมา”เมื่อได้ยินอาคาอูบอกว่าในสุสานมีห้องลับนับร้อย หลี่ฝางไม่รู้ว่าเขาโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ โชคดีที่ยังดีที่ห้องลับมากมาย อาซาโทสไม่มีทางหาหินคริสทัลเจอได้ง่ายๆ ที่โชคร้ายคือห้องลับตั้งมากมาย เขาต้องคอยหาทีละห้อง แถมหลังจากที่เปิดห้องมาอาจจะไม่ใช่คริสทัล เป็นไปได้สูงมากว่าจะมีสัตว์ประหลาดหลุดออกมา“ผ่านป่าทึบนี่ก็เป็นสุสานเทพอ้านแล้ว ในป่าทึบมีกลอาวุธอยู่มาก ต้องระวังตัวให้ดี” อาคาอูชี้ไปทางป่าทึบด้านหลัง จ้องมองกู่ยี่เทียนอย่างมีนัย

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์