เมื่อได้ยินหลี่ต๋าคางบอกว่าเมี๋ยวชุ่ยไม่เป็นอะไรมากแล้ว หลี่ฝางจึงโล่งอก แต่ประโยคของส้าวส้วยต่อจากนั้นกลับทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนในพริบตา ร่างของเขาสั่นเทา คว้าแขนของส้าวส้วยเอาไว้
“แกว่าอะไรนะ? โหจื่อบาดเจ็บสาหัสงั้นหรือ? แล้วหยางฉงเธอเกือบแท้งมันหมายความว่ายังไง?”
ต่อให้หลี่ฝางตัดสินใจที่จะเลิกกับหยางฉงแล้ว แต่เมื่อเขาได้ยินข่าวเรื่องราวที่เกี่ยวกับหยางฉง ในใจก็ไม่วายกระตุกวูบ เขาไม่คิดเลยว่าหยางฉงจะท้อง แถมยังเกือบแท้งอีกต่างหาก
หลี่ฝางรู้จักหยางฉงดี เพราะงั้นเด็กคนนี้ต้องเป็นสายเลือดของเขาตระกูลหลี่อย่างแน่นอน ข่าวคราวนี้ราวกับระเบิดใต้น้ำอย่างแรง จนเกิดคลื่นยักษ์กระหน่ำในใจของหลี่ฝาง
“เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน แต่นายวางใจเถอะ พวกเขาสองคนพ้นขีดอันตรายแล้ว ตอนนี้โหจื่อย้ายไปห้องผู้ป่วยธรรมดาแล้ว เด็กในท้องหยางฉงก็รักษาเอาไว้ได้”
ส้าวส้วยถอนหายใจเมื่อเห็นสายตาที่สับสนของหลี่ฝาง เรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เยอะมาก คนนอกอย่างเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะแก้ไขปัญหายังไง แถมหลี่ฝางยังไงเจ้าของเรื่องอีกต่างหาก
“ใครทำ! กูจะฆ่ามัน! แล้วพวกแกฉันให้พวกแกอยู่ตงไห่เพื่ออะไร? แค่ผู้หญิงคนเดียวก็ปกป้องไม่ได้ พวกแกเป็นไอ้งั่งหรือไง? !”
หลี่ฝางที่เคร่งขรึมใจเย็นมาตลอด เมื่อได้ยินคำของส้าวส้วยจู่ๆ ก็ดีดเด้งราวกับคนบ้า ใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างน่ากลัว ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความอาฆาต มือทั้งสองข้างกำคอเสื้อของส้าวส้วยแน่น ในสายตาแฝงไปด้วยความถือโทษ
เมื่อเห็นหลี่ฝางใช้ความรู้สึกตัดสินเรื่องราว หลี่ต๋าคางขมวดคิ้วแน่น เดินไปที่ข้างหลี่ฝางตบบ่าเขาเพื่อให้เขาใจเย็นลง “เสี่ยวฝาง ปล่อยมือ นี่ไม่ใช่ความผิดของส้าวส้วย”
ราวกับว่าเสียงของหลี่ฝางมีมนต์สะกดอะไรบางอย่าง เคาะลงบนหัวของหลี่ฝางอย่างแรง เขาจ้องมองคอเสื้อที่ถูกเขากำเอาไว้ ในสายตาแฝงไปด้วยความรู้สึกผิด “ส้าวส้วย โทษทีโมโหใส่นาย”
ส้าวส้วยจัดแจงเสื้อผ้า ไม่ถือโทษหลี่ฝาง เมื่อหลี่ต๋าคางเห็นว่าหลี่ฝางได้สติคืนมาแล้ว ถึงได้เข้าประเด็น
“เรื่องพวกนี้เป็นฝีมือลูกน้องของอาซาโทส ระหว่างทางที่เรามาได้ประลองกับเขาแล้ว ฉันรู้สึกว่าก่อนที่จะหาตัวอาซาโทสเพื่อแก้แค้น มีอยู่เรื่องหนึ่งที่แกควรทำความเข้าใจก่อน”
สำหรับหลี่ต๋าคาง เรื่องของโหจื่อและหยางฉงตอนนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งเดียวที่พวกเขาต้องคิดในตอนนี้คือจะกำจัดอาซาโทสได้อย่างไร
หลี่ฝางจ้องมองซองเอกสารที่หลี่ต๋าคางยื่นไปที่หน้าของตน ก่อนเปิดออกด้วยความสงสัย เมื่อเขาเห็นรายละเอียดในเอกสาร นิ่งไปอยู่สักพัก ก่อนที่จะค่อยๆ ผ่อนคลาย
เรื่องการเปลี่ยนยีนอันที่จริงเขาพอเดาได้อยู่ก่อนแล้ว เพียงแต่นึกไม่ถึงเลยว่คนประเทศญี่ปุ่นจะโหดร้ายได้ถึงเพียงนี้ เมื่อนึกถึงคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาสองคนแทบจะสิ้นลมเพราะอาซาโทส ในใจของหลี่ฝางเกิดความโกรธและอาฆาตอย่างไร้ที่สิ้นสุด
ครั้งนี้ไม่ว่ายังไงก็จะต้องฆ่าอาซาโทสให้ได้
เขายืดข้อมูลเล็กน้อย หลี่ฝางพ่นลมหายใจอย่างโมโห ในสายตาเต็มไปด้วยความเย็นชา “พ่อ หัวของอาซาโทสของจะเด็ดมาให้ได้ ถึงตอนนั้นพ่ออย่ายื่นมือเข้ามา ผมจะจัดการเอง”
“ก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้ว ความแค้นของตัวเองก็ต้องแก้เอง” หลี่ต๋าคางจ้องมองอย่าเรียบเฉย น้ำเสียงแฝงไปด้วยความพึงพอใจ
ตั้งแต่ที่หลี่ฝางฝึกยุทธมา หลี่ต๋าคางก็คิดที่จะให้เขาต่อสู้ด้วยตนเอง เดินผิดทางก็ดี คนอื่นรังแกก็ดี ต้องเพิ่งพาตนเองก้าวข้ามผ่านมา
หลี่ต๋าคางอย่างมากก็แค่แนะนำอย่างในทีแรก เขาคิดว่า มีเพียงอุปสรรคที่ประสบกับตัวจะเข้าใจชีวิตได้มากขึ้น หากหลี่ฝางมีชีวิตอยู่ในเกราะป้องกันของตระกูลหลี่ตลอด ชีวิตนี้เขาจะไม่มีทางนั่งอยู่บนตำแหน่งนักรบที่แข็งแกร่งที่สุด
ในขณะที่ทุกคนกำลังเดินทางต่อ ท่านกัวที่มาพร้อมกับท่านชายป๋ายยู่กลับเดินออกมา ลูบเคราแพะของตนเองพร้อมกล่าว
“เฮ้อ ฉันว่านะสหายน้อย พวกแกจะสู้กับอาซาโทสนั่นยังไงก็ได้ เราไม่เข้าไปยุ่ง แต่หินคริสทัลเราไม่อยู่นิ่งแน่ ตกลงกันก่อน ชีวิตจะเป็นยังไงขึ้นอยู่กับโชคชะตา ถึงเวลาฉันไม่ออมมือแน่”
เมื่อได้ยินประโยคของท่านกัว หลี่ฝางเผยรอยยิ้มที่ประหลาด “ท่านอาวุโส พวกท่านรู้หรือยังว่าหินคริสทัลซ่อนอยู่ที่ไหน?”
หลี่ฝางเดาได้อยู่ก่อนแล้วว่าคนพวกนี้เป็นไปได้สูงมากว่าจะไม่ต่อกรกับอาซาโทส เพราะงั้นเขาจึงมีแผนสำรอง แพร่ข่าวออกไปว่าในซากปรักหักพังมีหินคริสทัล แต่ไม่ได้บอกว่าอยู่ไหน
หากคนพวกนี้อยากจะหาหินคริสทัลให้พบ ก็ต้องช่วยเขาจัดการอาซาโทสให้ได้เสียก่อน
“แกกล้าใช้เราเป็นหมาก! รนหาที่ตาย!” นักรบคนอื่นๆ เมื่อได้ยินอย่างนั้นสีหน้าบึ้งตึงอย่างหม่นหมอง แถมยังมีบางคนเตรียมความพร้อม คิดจะใช้กำลัง
หลายปีมานี้แม้พวกเขาจะถอยออกจากวงการต่อสู้แล้ว แต่ในอดีตก็เป็นคนที่มีชื่อเสียง เพิ่งลงจากเขาก็ถูกคนรุ่นหลังใช้เป็นหมาก หยิ่งยโสอย่างพวกเขาจะทนได้ยังไง
หลี่ฝางโบกมือ กล่าวอย่างนิ่งเฉย “ความสามารถของเหล่าอาวุโสไม่ธรรมดาเลย แถมบางของยังอยู่เหนือผมอีกต่างหาก แต่ผมหลี่ฝางไม่ใช่คนซื่อ หากพวกท่านคิดจะสู้ ผมก็จะสู้อย่างถึงที่สุด ยังไงซะฆ่าหนึ่งคนก็พอประมาณ ฆ่าสองคนก็ได้เลือด”“ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าผมตาย พวกท่านก็จะไม่มีทางได้รู้อีกเลยว่าหินคริสทัลอยู่ที่ไหน แน่ใจหรือว่าจะลงมือกับผม?” เหล่านักรบไม่คิดเลยว่าหลี่ฝางจะน่าโมโหถึงขนาดนี้ ต่างโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ อยากจะฆ่าแต่กลับไม่กล้าลงมือ พริบตาทั้งสองฝ่ายต่างประจันหน้าต่อกัน“แค่กๆ เราต่างก็เป็นคนสายเดียวกัน มีเรื่องอะไรค่อยๆ คุยกัน ไม่จำเป็นต้องสู้กันหรอก” ผ่านไปราวสามสี่นาที ท่านกัวถึงได้กระแอมเบาๆ เดินออกมาจากกลุ่มฝูงชน สายตาของเขาพิจารณาหลี่ฝาง ก่อนหัวเราะ“สหายน้อย ถ้าเราช่วยแกฆ่าอาซาโทสนั่นแล้ว คุณก็จะบอกที่ตั้งตำแหน่งของหินคริสทัลกับเราใช่ไหม?” เมื่อจับจ้องชายชราตรงหน้าของตนเอง หลี่ฝางพยักหน้า “ไม่ผิดหรอก ขอแค่พวกท่านร่วมมือกับผมกำจัดอาซาโทสได้ ที่ตั้งตำแหน่งของหินคริสทัลผมจะบอกพวกคุณเอง”
copy right hot novel pub