“หยุดมือนะ!คุณจะทำอะไรน่ะ!” ตอนที่พวกหลี่ฝางตามไปนั้น นัยเหลียงกำลังหยิบเข็มฉีดอะไรสักอย่างเข้าไปที่แขนของเสี่ยวผิงอัน
หลี่ฝางมองใบหน้าเล็กๆ ที่ร้องไห้หน้าแดง ผิงอันที่ร้องไห้จนคอแทบแตกนั้นใจก็เหมือนถูกบีบคั้นจนเจ็บปวด
การตอบสนองแรกของเขานั้นคือการจะปรี่เข้าไป แต่นัยเหลียงเองก็ไม่ใช่คนที่จะจัดการด้วยได้ง่ายดายขนาดนั้น เมื่อเห็นพวกหลี่ฝางตามเข้ามา เลยเอาตัวของเสี่ยวผิงอันขึ้นมาจากรถเข็นทารก แล้วใช้เข็มกดไปที่คอของเสี่ยวผิงอันพลางพูดข่มขู่
“อย่าเข้ามานะ!ถ้าอยากให้เขามีชีวิตอยู่ต่อก็อย่าเข้ามา!”
นัยเหลียงเองก็ถูกกดดันจนจนตรอกถึงได้เลือกที่จะทำแบบนี้ การปรากฏของหลี่ต๋าคางทำให้แผนเดิมของเขาเปลี่ยนไปหมด
ในเมื่อเป็นแบบนี้ เขาเลยทำได้แค่ต้องเลือกใช้วิธีที่มันเลวร้าย
“ไม่!อย่า!อย่าทำร้ายลูกของฉัน!” หยางฉงร้องเสียงหลง จนแทบจะหมดสติไป ขาทั้งสองก็อ่อนจนล้มลงไปในอ้อมกอดของฉินวี่เฟย
“หลี่ฝาง!อย่าไปยั่วเขา!” ฉินวี่เฟยประคองหยางฉง พลางรีบตำหนิหลี่ฝาง
นัยเหลียงในตอนนี้เห็นได้ชัดเลยว่าสติไม่ปกติแล้ว ถ้าเกิดหลี่ฝางไปทำอะไรที่ยั่วยุเขาอีกล่ะก็ เกรงว่าเขาจะทำร้ายผิงอันเข้าจริงๆ
หลี่ฝางมองผิงอันที่ถูกนัยเหลียงจับอยู่ในมือ เล็บก็แทบจะจิกเข้าไปในเนื้อ ริมฝีปากก็กัดจนเลือดออก
“ฉันไม่เข้าไปแล้วล่ะ แกอย่าทำอะไรลูกฉันเลย”
หลี่ฝางแบมือทั้งสองข้างออก ก่อนจะค่อยๆ ขยับถอยไปด้านหลัง เพื่อออกไปด้านนอกของประตู
หลังจากที่เห็นหลี่ฝางถอยออกไปด้านนอก อารมณ์ของนัยเหลียงก็เปลี่ยนไปเป็นปกติขึ้นมาบ้าง เข็มที่กดอยู่บริเวณคอของผิงอันก็เหมือนจะคลายลงบ้างแล้ว
ถึงแม้ตอนนี้เขาจะตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่ได้เสียสติไป เขาไม่เคยคิดอยากจะฆ่าผิงอันเลย ก็เพื่อเอาไว้ขู่หลี่ฝางก็เท่านั้นเอง
สำหรับเขานั้น ผิงอันยังมีประโยชน์อย่างอื่นอีก ถ้าเกิดตายไปแบบนี้ก็ไม่เป็นไปตามแผนแล้ว
“แก ไปเอายาปรุงบนโต๊ะไม้สลักนั้นฉีดเข้าไปในร่างกายของแกตอนนี้เลย!” นัยเหลียงใช้มือหนึ่งบีบคอของผิงอัน พลางใช้อีกมือหนึ่งชี้ไปที่หลี่ฝางพลางพูด
หลี่ฝางมองไปที่โต๊ะไม้สลักที่อยู่ไม่ไกล บนนั้นมียาปรุงสีเขียวอยู่จริงๆ ด้วย สีเขียวเสียขนาดนั้น มองยังไงก็ไม่เหมือนของที่ดีสักเท่าไหร่
“พี่หลี่ฝาง อย่า!” หยางฉงขับแขนของหลี่ฝาง เพื่อไม่ให้เขาเดินเข้าไปด้านใน
ทั้งๆ ที่เธอเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกเป็นอย่างมาก แต่ถ้าต้องใช้ชีวิตของหลี่ฝางมาเพื่อแลกกับความปลอดภัยของเสี่ยวผิงอันนั้น ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ทำไม่ลง
“วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นอะไรหรอก” หลี่ฝางตบหลังมือของหยางฉง เพื่อบอกให้เธอวางใจ จากนั้นก็เองแขนของตัวเองออกมาจากมือของเธอ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปที่ข้างโต๊ะไม้สลัก
“ถ้าเกิดฉันเอาเจ้าสิ่งนี้ฉีดเข้าไปในร่างกายของฉันเอง คุณก็จะปล่อยลูกชายฉันใช่ไหม?”
หลี่ฝางหยิบเข็มฉีดยาขึ้นมา พลางมองนัยเหลียงแล้วถาม
“พูดให้น้อยๆ หน่อย!รีบวางมือเร็ว!ไม่งั้นฉันจะฆ่าไอ้เลวนี่แล้วนะ!” นัยเหลียงเหมือนจะไม่อยากเสียเวลาคุยกับหลี่ฝาง พลางหยิกมือของผิงอันอย่างเต็มแรงมากขึ้น
ผิงอันที่ร้องไห้อย่างหนักหน่วงอยู่แล้วในตอนแรกสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที ใบหน้าที่แดงก่ำนั้นกลายเป็นสีแดงเลือดหมู
แววตาของหลี่ฝางนั้นมีความเย็นชาออกมา เขาที่อยากจะยื้อเวลาเอาไว้สักหน่อยในตอนแรก รอให้หลี่ต๋าคางจัดการคนพวกนั้นเสร็จแล้วค่อยมาจัดการกับนัยเหลียง
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาที่มีแทบบ้าขนาดนี้แล้ว แต่ก็ยังทำอะไรอย่างระวังตัวอยู่
“พี่หลี่ฝาง!อย่า!อย่าทำเลยขอร้องล่ะ!” หยางฉงที่อยู่ในอ้อมกอดของฉินวี่เฟยนั้นร้องห่มร้องไห้หนักมาก พลางส่ายหัวใส่หลี่ฝางเพื่อบอกให้อย่าไปฟังคำพูดของนัยเหลียง
หลี่ฝางหันไปยิ้มให้พวกเธอทั้งสอง จากนั้นก็เอาเข็มฉีดเข้าไปในแขนของตัวเองอย่างไม่ลังเล ยาปรุงสีเขียวนั้นก็ค่อยๆ เข้าไปในร่างกายของหลี่ฝาง
พอผ่านไปหลายสิบวินาที สีหน้าของหลี่ฝางเปลี่ยนไปแล้ว เขาที่ตอนแรกยังยิ้มอยู่นั้นจู่ๆ ก็เปลี่ยนไปเป็นความเจ็บปวด มือทั้งสองข้างของเขากุมหน้าอกของตัวเองไม่ห่าง ก่อนจะล้มลงพื้นเสียงดังพลางดิ้นไปมาอย่างรุนแรง จากนั้นก็ร้องออกมาด้วยเสียงราวกับสัตว์ประหลาด
“ฮ่าๆ ฟื้นคืนชีพเถอะ!เทพอ้าน!” เมื่อเห็นท่าทีดิ้นไปมาเพราะความเจ็บปวดของหลี่ฝาง ใบหน้าของนัยเหลียงก็เปลี่ยนรูปไป ในตานั้นมีแต่ความบ้าคลั่ง
ตอนที่หลี่ต๋าคางตามมานั้น ก็ได้เห็นภาพตำตาแบบนั้น เลยโกรธจนอยากจะบิดมือของนัยเหลียงทิ้งเลย
ในตอนนี้เสี่ยวผิงอันหน้าเขียวเป็นอย่างมาก จนแทบจะช็อกไป หยางฉงนั้นรีบปรี่เข้าไปอย่างรวดเร็วราว ก่อนจะกอดเสี่ยวผิงอันเอาไว้ในอ้อมกอด พลางร้องไห้จนเสียงแหบ
“ราฟาเอล พาพวกเขาไปที่โรงพยาบาล!” หลี่ต๋าคางอ้าแขนทั้งสองข้างออกก่อนจะขวางพวกฉินวี่เฟยเอาไว้ พลางสั่งให้ราฟาเอลพาพวกฉินวี่เฟยไปนะ
แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ รอบๆ ตัวของหลี่ฝางก็มีควันสีดำพวยพุ่งออกมา จากนั้นจึงลุกขึ้นมาจากพื้นด้วยท่าทีที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ
เนื้อหนังทั้งตัวของเขานั้นมีรอยสีดำปกคลุมเต็มไปหมด ดวงตาทั้งสองข้างนั้นกลายเป็นสีแดง อารมณ์ก็ดูร้ายกาจขึ้นมาด้วย
นัยเหลียงเห็นดังนั้น ก็วิ่งเข้าไปอยู่ตรงหน้าหลี่ฝางอย่างสุขใจ ก่อนจะคุกเข่าลง “เทพอ้าน!ฉันเป็นคนทำให้คุณฟื้นคืนชีพนะ คุณรีบฆ่าคนพวกนี้เร็ว!ฉันจะให้พวกมันต้องตาย!อย่าคิดจะรอดไปแม้แต่คนเดียว!”
เมื่อเห็นหลี่ฝางที่ทั้งตัวนั้นถูกพลังแห่งการเขมือบกลืนโอบล้อมเอาไว้ หลี่ต๋าคางก็หนักใจขึ้นมาทันที หลี่ฝางในตอนนั้นไม่ใช่ตัวของเขาเอาจริงๆ แล้ว แต่กลายเป็นเทพอ้านไปแล้ว
“เหอะๆ พวกคุณร่วมมือกับสิ่งที่เป็นอมตะเพื่อจะทำลายฉันให้สิ้นซาก นี่มันเหมือนพวกคำพูดของคนเพ้อเจ้อเลยล่ะ”
เทพอ้านคิดถึงเซียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ถึงกับบอกวิธีการลบล้างพลังแห่งการเขมือบกลืนให้กับหลี่ฝาง ในใจก็เกิดความเกลียดชังอย่างไม่มีที่สิ้นสุดขึ้นนามทันที
รอยยิ้มร้ายกาจที่มุมปากแทบฉีก และแววตาที่มองผิงอันที่อยู่ในอ้อมกอดของหยางฉงไม่ห่าง
“พระบุตรพระเป็นเจ้า เขาเป็นของฉัน” หลังจากที่เทพอ้านพูดจบ ก็อยากจะปรี่เข้าไปหาหยางฉง เพราะอยากจะแย่งผิงอันมาอยู่ในอ้อมกอดของเธอ
ถึงแม้พละกำลังของหลี่ฝางจะไม่ได้ไปถึงแดนเทพ แต่ตอนนี้มีพลังแห่งการเขมือบกลืนเข้ามาเป็นอีกแรงแล้ว พละกำลังของเทพอ้านเลยเข้าสู่แดนเทพได้ในทันที
อย่ามองว่าครึ่งเทพต่างจากเทพเพียงคำเดียว แต่อันที่จริงกลับต่างกันหลายแสนลี้ ครึ่งเทพสิบคนก็ไม่อาจเป็นศัตรูกับเทพได้
เมื่อได้เจอเทพอ้านที่แข็งแกร่ง สีหน้าของหลี่ต๋าคางก็ดูไม่ได้ถึงขีดสุด ตามพละกำลังของเขาในตอนนี้ อาจจะยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทพอ้าน ถ้าอยากทำให้เทพอ้านแพ้ เขาจะต้องกำจัดผนึกบนร่างกายออก
เขาพาหยางฉงและคนอื่นๆ ออกไปนอกห้อง จากนั้นก็รวบรวมเกราะป้องกันสีทองขึ้นมา เพื่อเอามาขวางการโจมตีของเทพอ้าน
“เหอะ หลี่ต๋าคาง แกคิดว่ากำลังของแกในตอนนี้ จะมาขวางฉันได้งั้นเหรอ?” เทพอ้านมองหลี่ต๋าคางที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงดูแคลน
หลี่ต๋าคางเหวี่ยงมีดในมือ จนเทพอ้านถอยหลังไปครึ่งก้าว ก่อนจะหยุดการต่อสู้ชั่วขณะ
“ไม่ลองจะไปรู้ได้อย่างไร?”
เมื่อได้ยินคำพูดบ้าคลั่งของหลี่ต๋าคางแบบนั้น สีหน้าของเทพอ้านเองก็คร่ำเครียด ปากก็เม้มจนเหลือขีดเดียว พลางพูดด้วยเสียงเย็นชา“งั้นก็ไปตายเสียเถอะ”เพิ่งพูดจบ พลังแห่งการเขมือบกลืนบนตัวเทพอ้านก็แข็งแกร่งขึ้นหลายระดับ แต่เดิมทีห้องที่ไม่ใหญ่นักก็เกิดรอยร้าวมากมายขึ้นนับไม่ถ้วน“พี่สะใภ้!พวกเรารีบไปเถอะ!” ราฟาเอลกับไขจี๋เออสองคนไม่กล้าเข้าไปขัด เลยดึงฉินวี่เฟยกับหยางฉงวิ่งออกไปข้างนอกการต่อสู้ระดับนี้ พวกเขาไม่สามารถเข้าร่วมด้วยได้แล้วพวกเขานั้นมีกำลังในการสู้ เมื่อเจอการแรงกดของหลี่ต๋าคางกับเทพอ้านนั้นก็เกือบทนไม่ไหว ในสถานการณ์แบบนี้พวกฉินวี่เฟยก็เป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น“อือ พวกเราไปกันเถอะ” ฉินวี่เฟยกลืนคาวเลือดในคอลงไป ก่อนจะกัดฟันพยักหน้า พลางป้องหยางฉงแล้วรีบวิ่งออกไปข้างนอกถึงแม้ตอนนี้เธอเองก็เป็นห่วงหลี่ฝาง แต่เธอก็รู้ดีว่าตัวเองอยู่ที่นี่ก็มีแต่จะเป็นตัวถ่วงแถมในตอนนี้ผิงอันก็กลายเป็นแบบนี้แล้ว ถ้าไม่รีบพาไปส่งโรงพยาบาล เกรงว่าเรื่องมันจะแย่ไปมากกว่านี้นัยเหลียงที่เสียมือไปทั้งสองข้างแล้วได้รับแรงกดที่หนักหน่วง จึงมองเทพอ้านด้วยแววตาบ้าคลั่ง พลางบ่นพึมพำ“นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการอย่างไรล่ะ!เดี๋ยวฉันจะทำให้การเป็นอมตะมันเกิดขึ้นจริงได้แล้วล่ะ!”
copy right hot novel pub