“แม้แต่ผู้นำเฉินยังกล่าวเช่นนั้นแล้ว หากข้ายังยึดถือเรื่องนี้อยู่ ข้าจะดูตระหนี่เกินไป!”
หลังจากที่มู่ตงเฟิงเงียบไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า: "ถ้าอย่างนั้นข้าจะปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่หน้าของผู้นำเฉิน!"
“ยังไม่รีบไปขอบคุณท่านผู้นำมู่อีก!”
เฉินซิงไห่เตะไปที่ตัวของเฉินอิงเหา และตะโกนด้วยความโกรธ
เฉินอิงเหาเหมือนกับการนิรโทษกรรม และกล่าวอย่างรวดเร็ว: “ขอบคุณท่านผู้นำมู่!ขอบคุณท่านผู้นำมู่!”
“ท่านผู้นำมู่ ข้าอยากไปเยี่ยมท่านในเมืองเอกมาโดยตลอด แต่ไม่คิดว่าจะพบท่านที่เมืองโจวเฉิงในวันนี้”
ทันใดนั้น เฉินซิงไห่ก็ยิ้มและพูดโดยไม่ได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้
"โอ้?"
มู่ตงเฟินยิ้มและถามว่า "ไม่รู้ว่าผู้นำเฉิน จะหาข้ามีเรื่องอะไรเหรอ?"
“ข้ามีธุรกิจจะร่วมมือครั้งใหญ่ ฉันต้องการคุยกับผู้นำมู่!” เฉินซิงไห่กล่าวอย่างลึกลับ
แม้ว่ามู่ตงเฟิงจะไม่รู้ว่าเฉินซิงไห่จะพูดอะไร แต่เขาสนใจมาก เขาหัวเราะเสียงดัง: “ไป ไป ไปคุยกันข้างๆ!”
ก่อนจากไปมู่ตงเฟิงสั่งมู่เจิ้น: “เรื่องที่นี่ เจ้าจัดการเอง! ข้าจะไปคุยหารือเรื่องธุรกิจกับผู้นำเฉิน!”
“อิงเหา เจ้าอยู่นี่และช่วยคุณชายเจิ้นจัดการกับเรื่องที่นี่!”
เฉินซิงไห่ออกคำสั่งให้เฉินอิงเหาอีกครั้ง
เฉินอิงเหาดีใจมากและตกลงอย่างรวดเร็ว
เขารู้สึกเหมือนได้เดินผ่านหน้าประตูผี เมื่อกี้เขาคิดว่ามู่ตงเฟิงจะฆ่าเขา เขาไม่ได้คิดว่าไม่เพียงแต่จะไม่ฆ่าเขา แต่ยังให้โอกาสเขาได้เข้าถึงกับมู่เจิ้นแทน
“คุณชายเจิ้น ข้าไม่เคยมีตามาก่อน และได้โปรดท่านอย่าถือสาการกระทำผิดของข้าน้อยเลย!”
เฉินอิงเหารีบขอโทษมู่เจิ้นอีกครั้ง
แม้ว่ามู่เจิ้นจะเป็นคนครอบงำ แต่เขาก็ไม่ใช่คนไร้สมอง
เขาเข้าใจความหมายของพ่อ เขาหัวเราะและริเริ่มที่เอาแขนโอบคอของเฉินอิงเหาและกล่าวว่า "ในเมื่อพ่อของฉันและผู้นำเฉินเป็นเพื่อนกัน งั้นต่อจากนี้เราสองคนจะเป็นพี่น้องกัน!"
เมื่อเห็นทั้งสองเป็นเหมือนเพื่อนสนิท พวกคุณชายใหญ่ของตระกูลร่ำรวยที่ถูกหักแขนหักขานั้น สายตาที่พวกเขามองไปที่เฉินอิงเหา ด้วยความโกรธเล็กน้อยในดวงตาของพวกเขา
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเฉินอิงเหา แล้วพวกเขาจะถูกทุบตีอย่างรุนแรงได้อย่างไร?
ตอนนี้ เฉินอิงเหากลายเป็นพี่น้องที่ดีกับมู่เจิ้นแล้ว
หยางเฉินไม่คาดคิดว่า จะน่าทึ่งเหมือนบทละครขนาดนี้ และเขาก็ส่ายหัวอย่างทำไรไม่ถูก
“ภรรยา เราไปกันเถอะ!”
หยางเฉินยิ้มและจับมือฉินซีเตรียมจะจากไป
“ใครให้มึงไปแล้วเหรอ?”
สามีภรรยาทั้งคู่เดินเพียงไม่กี่ก้าว และเฉินอิงเหาก็ตะโกนกล่าว
หยางเฉินขมวดคิ้วและมองย้อนกลับไปที่เฉินอิงเหา: “มีเรื่องอะไรเหรอ?”
เฉินอิงเหามองหยางเฉินเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ถ้าวันนี้ไม่ใช่จะจัดการหยานเฉิน เขาจะทำให้มู่เจิ้นขุ่นเคืองได้อย่างไร?
เขาก็เอาเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดคิดใส่หัวของหยางเฉินเป็นธรรมดา
“คุณชายเจิ้น คุณคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?”
เฉินอิงเหาไม่ได้สนใจหยางเฉินเลย แต่ชี้ไปที่ฉินซีด้วยรอยยิ้มและพูดกับมู่เจิ้น
เมื่อกี้มู่เจิ้นก็สังเกตเห็นฉินซี แต่เขากำลังแก้แค้น ก็ไม่ได้มองอย่างใกล้ชิด
ตอนนี้ได้มองดีๆแล้ว ก็เป็นสาวที่ยอดเยี่ยมมากๆ และดวงตาของเขามีแสงสั่นไหวในทันใด:“ยอดเยี่ยม!”
“ตอนแรก ข้าคิดจะครอบครองผู้หญิงคนนี้ในคืนนี้ แต่ตอนนี้เมื่อคุณชายเจิ้นอยู่ที่นี่ ก็เก็บไว้ให้ท่านได้สนุกกับผู้หญิงคนนี้เลย!”
เฉินอิงเหากล่าวด้วยรอยยิ้ม เหมือนกับว่าฉินซีกลายเป็นผู้หญิงของเขาไปแล้ว บอกจะให้ก็ให้เลย ไม่ได้เอาหยางเฉินอยู่ในสายตาเลย
“ฮ่าๆ ดีมาก!คุ้มค่าที่จะเป็นพี่น้องกับข้ามู่เจิ้น!”
มู่เจิ้นหัวเราะแล้วพูด จากนั้นยื่นแขนชี้ไปที่หยางเฉิน:“มึง ไสหัวไปเดี๋ยวนี้”
ความหมายของมู่เจิ้นชัดเจนมาก คือต้องการให้ฉินซีอยู่กับเขา หยางเฉินไสหัวไป
สีหน้าฉินซีตื่นตกใจ แล้วเธอจับมือของหยางเฉินไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว
เมื่อกี้ความครอบงำของมู่เจิ้น และยังมีการคุ้มครองของมู่ตงเฟิง แม้แต่ต่อหน้าผู้นำแต่ละตระกูลร่ำรวยของเมืองโจวเฉิงแล้ว ยังปล่อยให้มู่เจิ้นได้ลงมือทุบตีหักแขนขาของลูกหลานได้
ทั้งหมดนี้ เธอเห็นด้วยตาของเธอเอง แล้วก็รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นคือคนของตระกูลมู่ในเมืองเอก และในเมืองเอกก็มีตระกูลหานที่ร่ำรวยเป็นแบ๊ค
ถ้าหากมีการขัดแย้งกับเขาจริงๆ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก
“เหม่ยหลิง ฉันเป็นพี่สาวเธอนะ เธอช่วยขอร้องพวกเขาหน่อย ปล่อยพวกเราจากไปเถอะ!”
ฉินซีก็มองไปที่เจิ้งเหม่ยหลิงทันที แล้วกล่าวอย่างอ้อนวอน
เจิ้งเหม่ยหลิงวันนี้เชิญเขาออกมากินข้าว เพราะต้องการส่งเธอขึ้นเตียงของเฉินอิงเหา ตอนนี้เฉินอิงเหาได้เอาฉินซีมอบเธอให้กับมู่เจิ้นแล้ว เธอจะช่วยฉินซีขอร้องได้อย่างไร?
“ตอนนี้รู้ว่าฉันเป็นน้องสาวของเธอแล้วเหรอ?เมื่อกี้เธอไม่ได้พูดแบบนี้รึเปล่า?”
เจิ้งเหม่ยหลิงยิ้มอย่างมีชัย แล้วมองไปที่ฉินซีกล่าวว่า:“คุณชายเจิ้น นั้นเป็นคุณชายของตระกูลมู่นะ อยากเล่นกับเธอนั้นเป็นเกียรติอย่างยิ่งแล้ว ฉันแนะนำให้คุณเชื่อฟังและอยู่กับคุณชายเจิ้นหนึ่งคืน มิเช่นนั้น สามีที่ไร้ค่าของเธอ จะมีชีวิตได้จากไปได้หรือไม่นั้น จะไม่มีใครรับประกันได้”
ผู้หญิงคนนี้ เพื่อผลประโยชน์ของเธอเองแล้ว ทำอะไรไม่มีขีดจำกัดเลย
ฉินซีรู้สึกว่าหัวใจของเธอนั้นแตกหักออกเป็นหลายกลีบ และเธอเจ็บปวดเหมือนตายทั้งเป็น
“คุณฉิน ฉันคิดว่าเหม่ยหลิงพูดถูก เป็นเกียรติของเธอที่ได้อยู่กับคุณชายเจิ้น อย่าอยู่ดีไม่ว่าดี”
เฉินอิงเหายังกล่าวด้วยท่าทางติดตลกว่า: “ถ้าคืนนี้คุณทำให้คุณชายเจิ้นพอใจแล้ว การตลาดที่อยู่ในเมืองเอกของซานเหอกรุ๊ปนั้น ไม่แน่ก็อาจจะเปิดได้ง่ายๆ”
เขาโชคดีขนาดแล้วที่สามารถเอาชีวิตรอดจากภัยนั้นได้ เขายังแอบหวังกับฉินซีที่ไหน? แค่อยากให้ฉินซีไปกับมู่เจิ้นอย่างเชื่อฟัง เพื่อที่ มู่เจิ้นจะพอใจกับเขามากขึ้น
บนใบหน้าของมู่เจิ้นเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ และนั่งลงบนเก้าอี้อย่างยิ่งใหญ่ นั่งไขว่ขา และมองไปที่ฉินซีด้วยความอยากข้างหลังเขายังมีบอดี้การ์ดที่แข็งแกร่งสองคนยืนอยู่ จ้องมองที่หยางเฉินอย่างเย็นชา ราวกับว่าแค่รอมู่เจิ้นสั่งแค่คำเดียวเท่านั้นก็จะเอาหยางเฉินให้ตายได้
“หยางเฉิน คุณชายเจิ้นบอกให้เจ้าไสหัวออกไป ยังมายืนทำอะไรที่นี่?”เจิ้งเหม่ยหลิงก็มองไปที่หยางเฉิน และตะโกนอย่างโกรธเคืองฉินซีกำลังจะขอร้องต่อไป แต่ถูกหยางเฉินขวางไว้: "ภรรยา ไม่ต้องขอร้องพวกเขาและก็ไม่ต้องกลัว เพียงแค่จำคำพูดของผมไว้ ปล่อยตามองไปทั่วจิ่วโจว ศัตรูที่ทำให้ผมเอาไว้ในสายตานั้น มันยังไม่เกิด"“อย่าบอกว่าเป็นตระกูลร่ำรวยของเมืองเอกเลย ต่อให้เป็นแปดตระกูลแห่งเย็นตู ถ้ากล้าที่จะยั่วโมโหผม ผมจะกำจัดทันที!” ใบหน้าของหยางเฉินเต็มไปด้วยความอาฆาต และน้ำเสียงของเขาดูเคร่งขรึมอย่างยิ่งฉินซีดูหน้าเฉื่อย เขาเคยเห็นด้านที่แข็งแกร่งของหยางเฉินและเขารู้ว่า หยางเฉินไม่เคยโกหกเธอแต่ในเวลาที่คำพูดเหล่านี้ดูจะครอบงำอย่างมาก และแม้แต่แปดตระกูลแห่งเย็นตู ยังไม่ได้เอาไว้ในสายตา เขาเอาจริงเหรอ?ตอนแรกในใจของเธอมีความสงสัยอยู่ แต่เมื่อเธอเห็นดวงตาที่จริงจังของหยางเฉินนั้น ความสงสัยทั้งหมดก็หายไป เธอเชื่อว่า หยางเฉินไม่ได้ครอบงำ แต่สามารถทำเช่นนั้นได้จริงๆ"สามี ฉันเชื่อใจคุณ ฉันไม่กลัว!"ฉินซีได้พูดแบบหน้าตาจริงจัง“ฮ่าฮ่า...”หลังจากพวกมู่เจิน ได้ยินคำพูดของหยางเฉินนั้น พวกเขาก็นิ่งไปครู่หนึ่ง และทันใดนั้นก็อดหัวเราะแบบบ้าคลั่งไม่ได้“แม่งเอ๋ย ไอ้น้องคนนี้กำลังพูดถึงอะไร? แม้แต่แปดตระกูลแห่งเย็นตู ก็กำจัดได้ในทันที? ฮ่าฮ่า ข้าอยากขำตายละ!”มู่เจิ้นดูเหมือนได้ยินเรื่องตลกที่ไร้สาระ และหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
copy right hot novel pub