โหมดมืด
ภาษา arrow_icon

The king of War

บทที่ 414 ใครคือราชา

“จูกว่างจื้อ ในเมื่อคุณคิดว่าคุณหยางไม่ดีพอ สู้ปล่อยมันไปดีกว่าไหม? พวกเรายอมจำนนต่อสมาคมบูโดด้วยกัน? แบบนี้ดีกว่ามาก งานต่อสู้ในอีกสามวันข้างหน้าจัดไปก็ไร้ความหมายแล้ว”

หานเซี่ยวเทียนพูดอย่างประชดประชัน

จูกว่างจื้อทำเสียงฮึดฮัดแล้วไม่พูดอะไรอีก

แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจยอมรับว่าหยางเฉินสามารถรับมือจางเหิงได้ แต่จะให้เขาก้มหัวให้สมาคมบูโดง่ายๆ เขาไม่มีทางยอมรับได้แน่นอน

ภายในห้องโถง หลายคนล้วนมีสีหน้าผิดหวังเมื่อรู้ว่าหยางเฉินคือราชาเจียงผิง

แต่กลับเป็นจางเหิง เมื่อได้เห็นหยางเฉินก็ดูราวกับว่ากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่าเกรงขาม ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยความเคร่งขรึม

ในสมาคมบูโด เขาก็เป็นหนี่งในยอดฝีมือที่มีศักยภาพแข็งแกร่งที่สุดเช่นกัน มีสัมผัสรับรู้ที่ว่องไวเฉียบแหลมมาก

แต่การปรากฏตัวของหยางเฉิน เขากลับไม่ได้รู้สึกอะไรเลย

ทันใดนั้นเขาก็เกิดความรู้สึกเหลวไหลว่าหยางเฉินปรากฏตัวขึ้นโดยไม่มีหลักฐานยืนยัน

สามารถควบคุมพลังของตนเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ ศักยภาพนั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

“คุณก็คือราชาเจียงผิง หยางเฉินงั้นหรือ?”

จางเหิงจ้องหยางเฉินเขม็ง แล้วถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ

ที่เขามาในวันนี้ นอกเหนือจากการดึงดูดตระกูลมั่งคั่งทั้งหมดในหนันยังให้ฝากเนื้อฝากตัวกับสมาคมบูโดแล้ว ก็ยังมีหน้าที่ทดสอบขอบเขตของหยางเฉินอีกด้วย

หนิวเกนหุยในฐานะยอดฝีมืออันดับเก้าในสมาคมบูโด ไม่เพียงแต่มีศักยภาพแข็งแกร่ง แต่ยังมีไอคิวสูงอีกด้วย

เขาอยากฆ่าหยางเฉินมาก เพื่อล้างแค้นให้พี่น้องของตน แต่เขารู้ข่าวจากเว่ยหมิงเยว่ว่าหยางเฉินมีความสามารถมาก ฆ่าหนิวกึงเซิงตายภายในเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่นาที

ชายหนุ่มที่สามารถฆ่าพี่น้องของเขาได้ภายในเวลาไม่กี่นาที ต้องมีศักยภาพที่แข็งแกร่งมาก

ดังนั้น เขาจึงส่งลูกศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดไปทดสอบหยางเฉินด้วยตัวเอง

งานต่อสู้ในอีกสามวันข้างหน้า มีความสำคัญมากสำหรับเขา

ห้ามแพ้เด็ดขาด!

หากได้รับชัยชนะ สมาคมบูโดจะได้สิทธิ์เข้าควบคุมสองมณฑลใหญ่

เรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องกับอำนาจและผลประโยชน์ของเขาในสมาคมบูโด

“แล้วคุณคือใคร?”

หยางเฉินไม่ได้ตอบ แต่ย้อนถามแทน

“ผมคือคนที่ต้องการฆ่าคุณ!”

ทันทีที่จางเหิงพูดจบ เขาก็เคลื่อนไหว ทุกคนเห็นแต่เงาที่แวบผ่านไป มุ่งหน้าเข้าไปหาหยางเฉิน

ในเมื่อต้องการทดสอบศักยภาพของหยางเฉิน แล้วจะยังลังเลเพื่ออะไร?

ทันใดนั้น จางเหิงก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าหยางเฉิน

“คุณหยาง ระวัง!”

หานเซี่ยวเทียนตกใจจนหน้าถอดสี เขาลุกพรวดขึ้นทันที แล้วร้องเตือนเสียงดังลั่น

ในใจจูกว่างจื้อรู้สึกตื่นเต้นมาก แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจยอมรับว่าปรมาจารย์หงสู้หยางเฉินไม่ได้ แต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขายิ่งไม่เต็มใจที่จะให้หนันยังถูกควบคุมโดยสมาคมบูโด

ถ้าหยางเฉินได้รับชัยชนะ เขายังมีโอกาสเจอยอดฝีมือที่แข็งแกร่งกว่านี้

แต่หากแพ้ เกรงว่าตระกูลเหล่านั้นที่อยู่ในที่นี้ ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนไปเข้าร่วมสมาคมบูโดทันที

หากเป็นเช่นนั้น งานต่อสู้อีกสามวันข้างหน้า ตระกูลจูจะต้องต่อสู้เพียงลำพัง กลายเป็นเรื่องตลกในหนันยัง

ดังนั้น เขาจึงหวังว่าหยางเฉินจะชนะ!

“ไปตายซะ!”

ในชั่วพริบตา จางเหิงระเบิดพละกำลังทั้งหมดปล่อยหมัดออกไป

กระบวนท่าแรก เป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด!

“ไอ้บ้า! โง่หรือเปล่า? รีบหลบสิ!”

“เขาคงไม่ได้กลัวจนอึ้งไปหรอกนะ? หลบยังหลบไม่เป็นเลยเหรอ?”

“แม่งเอ๊ย! คนแบบนี้ก็กลายเป็นราชาเจียงผิงได้ เจียงผิงไม่มียอดฝีมือที่จะลงสนามได้จริงๆ”

เมื่อเห็นหยางเฉินดูท่าทางเหมือนไม่เห็นอะไรเลย ยังคงเดินไปข้างหน้าเช่นเคย บรรดาผู้นำของตระกูลมั่งคั่งในหนันยังก็โกรธจัดจนถึงขีดสุด

ถ้าไม่ใช่เพราะไม่มีทางเลือก พวกเขาก็คงไม่เต็มใจที่จะกลายเป็นหมากตัวหนึ่งในสมาคมบูโด

เมื่อเห็นว่าหมัดของตนกำลังจะสัมผัสใบหน้าของหยางเฉิน จางเหิงก็รู้สึกค่อนข้างผิดหวัง เขาเคยคิดว่าศัตรูที่อาจารย์ให้ความสำคัญนั้นเก่งกาจเพียงใด ที่แท้ก็เป็นเพียงคนหัวร้อน

การโจมตีของตนเองกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่เขายังไม่หลบอีก?

ภายใต้หมัดเต็มกำลังของเขา แม้แต่หนิวเกนหุยก็ยังไม่กล้าที่จะประมาท

“ไปตายซะ!”

จางเหิงมีสีหน้าอาฆาต โบกหมัดเหล็กของเขาไปมา

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดุร้าย ราวกับว่าได้เห็นภาพหยางเฉินถูกสังหารอย่างรวดเร็ว

แต่ทันทีที่หมัดนี้ถูกชกออกไป รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หยุดนิ่งในทันใด ในเวลาเดียวกัน ความรู้สึกวิกฤตการณ์อย่างรุนแรงก็แผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา

เดิมทีเขาคิดว่าในระยะใกล้เช่นนี้ หยางเฉินไม่มีทางหลบพ้น แต่การโจมตีของเขานั้นวืด

เขาไม่ได้สังเกตเลยว่า หยางเฉินหายไปต่อหน้าเขาอย่างไร

“เป็น...เป็นไปได้ยังไง?”

เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง

ทันใดนั้น มีเสียงอันเย็นชาดังมาจากทางด้านหลังของเขา “ไปตายซะ!”

จางเหิงรู้สึกเพียงว่า เส้นขนทั่วร่างกายกำลังลุกชูชันอยู่ในขณะนี้

เขาหลบไปทางขวาคล้ายกับปฏิกิริยาสะท้อนกลับอย่างมีเงื่อนไข

แต่ว่า…

“พลั่ก!”

แต่ก่อนที่เขาจะขยับตัวได้ ก็มีการโจมตีเข้ามาจากกลางสันหลังของเขา

“อ๊อก!”

เขากระอักเลือดออกมาเต็มปาก ตัวลอยขึ้นไปในอากาศ

“โครม!”

จากนั้น เกิดเสียงดังสนั่น ร่างของเขาร่วงลงมากระแทกอย่างแรงตรงทางเข้าห้องโถง

ภาพนี้ กระตุ้นจิตใจของทุกคนในที่นี้อย่างลึกซึ้ง

ภายในห้องโถงใหญ่ เงียบสงัดไม่มีเสียง ไม่มีใครกล้าหายใจแรง มองไปยังเงาร่างชายหนุ่มที่อยู่กลางห้องโถงอย่างว่างเปล่า

ปรมาจารย์หง ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของหนันยัง ถูกจางเหิงฆ่าตายในเสี้ยววินาที!

ส่วนจางเหิงกลับถูกหยางเฉินฆ่าตายในทันที!

แต่พูดแบบนี้หมายความว่า จางเหิงและปรมาจารย์หงไม่เก่งกาจแล้วเหรอ?

ก็ไม่ใช่ แต่หมายความได้ว่า ศักยภาพของหยางเฉินนั้นแข็งแกร่งขึ้น

ทุกคนมองไปที่ปรมาจารย์หงที่ตายตาไม่หลับอยู่แทบเท้าจูกว่างจื้อครู่หนึ่ง แล้วมองไปที่จางเหิงที่กำลังนอนนิ่งไม่ไหวติงจมกองเลือดอยู่ตรงทางเข้าห้องโถงใหญ่ครู่หนึ่ง หัวใจของพวกเขากำลังกระตุก

“ฮ่าฮ่า ดี! ดี! ดี!”

หานเซี่ยวเทียนเป็นคนแรกที่รู้สึกตัว เขาอดหัวเราะลั่นออกมาไม่ได้ สีหน้ามีรอยยิ้มภาคภูมิใจ

คืนนี้เมื่อมาถึงหนันยัง ก็ถูกจูกว่างจื้อคิดวางแผนทำร้าย มีแต่การดูถูกอยู่ทุกหนทุกแห่ง

ตอนนี้ หลังจากที่หยางเฉินฆ่าจางเหิงในเสี้ยววินาที หานเซี่ยวเทียนก็รู้สึกว่าความหดหู่ในหัวใจ ได้จางหายไปในทันที

เฉินซิงไห่ก็เช่นกัน ใบหน้าแก่ๆ เหี่ยวย่นของเขามีเพียงความตื่นเต้นจูกว่างจื้อสีหน้าเหม่อลอย นี่น่ะหรือคือศักยภาพของราชาเจียงผิง?บรรดาผู้นำของตระกูลมั่งคั่งในหนันยัง ในเวลานี้สีหน้านั้นไร้ความรู้สึกและจิตวิญญาณ มองดูหยางเฉินด้วยความหวาดกลัว“เมื่อมีการปรากฏตัวของคุณหยาง งานต่อสู้ในอีกสามวันข้างหน้า จะมีอะไรให้เกรงกลวล่ะ?เฉินซิงไห่หัวเราะลั่นแล้วกล่าวว่าหานเซี่ยวเทียนมองไปที่จูกว่างจื้อที่มีสีหน้าย่ำแย่อย่างหยอกเย้า ยิ้มตาหยีแล้วกล่าวว่า “เจ้าบ้านจู อย่าลืมสัญญาลูกผู้ชายก่อนหน้านี้ งานต่อสู้อีกสามวันข้างหน้า ใครสามารถเอาชนะสมาคมบูโดได้คือราชาแห่งสองมณฑลใหญ่เจียงผิงและหนันยัง!”จูกว่างจื้อพ่นลมหายใจแรง “ยังเหลือเวลาอีกสามวัน ผมจะต้องตามหายอดฝีมือที่แข็งแกร่งกว่านี้ให้ได้!”“ฮ่าฮ่า หวังว่าคุณจะไม่ทำให้ผมผิดหวังมากเกินไป!”หานเซี่ยวเทียนหัวเลาะลั่นแล้วพูดว่า รู้สึกสบายอกสบายใจอย่างหาที่เปรียบมิได้“คุณหยาง พวกเราไปกันเถอะ!”หานเซี่ยวเทียนและเฉินซิงไห่เดินเข้ามาข้างๆ หยางเฉิน พลางพูดด้วยรอยยิ้มจนกระทั่งเขาตามทั้งสองออกไปจากตระกูจู หยางเฉินก็ยังมีสีหน้าสับสนอยู่ก่อนหน้านี้เขาได้รับโทรศัพท์จากหานเซี่ยวเทียน บอกว่าตระกูลมั่งคั่งชั้นนำในหนันยังถูกทำลายโดยสมาคมบูโด หนันยังเชิญตระกูลมั่งคั่งในเจียงผิง เพื่อมาหารือเกี่ยวกับวิธีจัดการกับสมาคมบูโดเขาขับรถมาสองชั่วโมงแล้ว มาอย่างรีบเร่งแต่พอกำลังผ่านเข้าประตู ก็เห็นคนจากสมาคมบูโดบังคับให้คนจากหนันยังยอมจำนนจากนั้น จางเหิงต้องการจะฆ่าเขา แต่กลับถูกเขาฆ่าในทันทีต่อจากนั้นอีก หานเซี่ยวเทียนขอให้เขาออกไปทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่า ขับรถมาสองชั่วโมง แต่ได้เป็นนักฆ่าแค่เพียงครั้งเดียว

copy right hot novel pub

แสดงความคิดเห็น / รายงานปัญหาเว็บไซต์