@ มิวสิคออดิทอเรี่ยม เมืองโทรอนโต
คอนเสิร์ตฮอลล์เต็มไปด้วยคนฟังแน่นขนัด
ฉัน เซธ แคมม์ แซค และเคนตันนั่งเรียงกันอยู่ในโถงกว้างที่แสงสว่างกำลังหรี่ลง
“คนฟังแน่นชะมัด สมแล้วที่เป็นคอนเสิร์ตของนิค” แซคเปรย
“และจะเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของนิคในแคนาดา” แคมม์เสริม
ฤดูใบไม้ผลิผ่านไป นิกิต้ากำลังจะไปจากที่นี่แล้ว พวกเราเพิ่งเรียนจบจากวิทยาลัย
“ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะต้องจากกัน” เคนตันถอนหายใจแต่ก็ยิ้ม “เขากำลังจะไปรัสเซียที่เป็นทั้งบ้านและสุดปลายทางของความฝัน”
เซธหันมาถามฉัน “เธอพร้อมที่จะไปกับนิคหรือยังวิคกี้? ”
“พร้อมสิ แต่อย่าถามว่าเมื่อไหร่” แล้วฉันถอนหายใจ “ฉันรักนิค เพราะฉะนั้นฉันจะตามเขาไป ถึงการเดินทางข้ามฟ้าไปไกลขนาดนั้นจะขัดกับความรู้สึกติดบ้านของฉัน”
“วิคกี้...” เพื่อนๆ มองฉันอย่างสงสาร
“และฉันคงคิดถึงแคนาดาแทบขาดใจ อีกอย่าง พวกนายคงจะคิดถึงฉันกับนิคมากใช่ไหม? ”
แล้วฉันส่ายหน้า “ฉันไม่อยากให้ถึงเวลานั้นเลย”
เซธโยกหัวฉันอย่างอ่อนโยนเพื่อปลอบใจ
“ฉันเลิกเป็นปีเตอร์แพนที่ไม่ยอมโตแล้ว ฉันจะไม่เหนี่ยวรั้งนิกิต้าเอาไว้ พวกเราควรเป็นเหมือนเมล็ดเมเปิ้ลติดปีกที่พร้อมจะสลัดตัวจากกิ่ง ลิ่วลอยไปกับสายลม และเดินทางไปเติบโตในดินแดนที่แสนไกล”
เฮ้อ...
“ฉันไม่ได้บอกว่าฉันจะตามนิคไปทันทีที่เรียนจบ และฉันไม่รู้ว่าฉันจะตามเขาไปได้เร็วแค่ไหน แต่เราแลกหัวใจกันแล้ว และเราจะเป็นคนรักกันต่อไปถึงจะถูกคั่นด้วยระยะทาง
กว่าฉันจะได้ไปอยู่ใกล้ๆ เขาตลอดเวลาจริงๆ มันจะเป็นเมื่อไหร่กันนะ บางทีฉันอาจจะคิดถึงเขาจนทนไม่ได้...”
“เลี่ยนไป ขอฉันไปอ้วกที” แซคทำหน้าผะอืดผะอม ฉันเหวี่ยงกำปั้นใส่เขาเข้าให้
“โอ๊ย ยัยดุ”
“จะว่าเลี่ยนก็ตามใจ” ฉันแลบลิ้นให้แซคก่อนหันมองเวทีด้วยสายตาเหม่อลอย “แต่ฉันจะรอ...”
ไฟในคอนเสิร์ตฮอลล์ดับลง ตามด้วยเสียงปรบมือดังสนั่นเมื่อนิกิต้าก้าวออกมา
ร่างในชุดทักซิโดนั่งลงหน้าแกรนด์เปียโน ยกมือขึ้นเหนือคีย์สีขาวดำที่งามสง่า
แล้วบทเพลงล่องลอย
เขากำลังบรรเลงเพลงราพโซดี้ที่ฉันซื้อโน้ตให้เป็นของขวัญวันเกิดของเขา แต่ก็เล่นเพลงใหม่อีกหลายเพลงด้วย
คนฟังนิ่งตะลึงราวกับถูกตรึงเอาไว้ สีหน้าเต็มไปด้วยความอัศจรรย์และพึงพอใจ
“ฉันไม่เคยได้ยินนิกิต้า อิวานอฟบรรเลงไพเราะขนาดนี้เลย” หูฉันได้ยินคนฟังที่เก้าอี้ข้างหลังเปรย ตามด้วยคนอื่นๆ
“อารมณ์เพลงของเขาเปลี่ยนไป และเปลี่ยนไปในทางที่ดี”
“วิเศษเหลือเกิน ราวกับเขาได้กลายเป็นคนใหม่ที่เป็นผู้ใหญ่กว่าเดิม ไม่ว่าจะเพราะอะไร”
ฉันได้แต่แอบฟังคำชื่นชมเหล่านั้นแล้วยิ้ม
ฉันรักเพลงราพโซดี้บทนี้ เพลงที่เมโลดี้เดียวเล่นได้หลากหลายทำนอง ทั้งร่าเริง ตลก จริงจัง หรือแม้แต่หมองเศร้า ทุกท่วงทำนองเต็มไปด้วยชีวิต ไม่ใช่เพียงด้านเดียวหากทว่าทุกด้าน
ทุกความรู้สึกกลายเป็นท่วงทำนองที่สอดผสานกันอย่างทรงพลัง และถึงทุกอารมณ์จะแตกต่างทว่าสุดท้ายแล้วล้วนเกิดจากเพลงเดียว เพลงที่สมบูรณ์และไม่มีสิ่งใดถูกมองข้ามราวกับความเป็นจริงในชีวิตที่เราต้องเผชิญหน้ากับทั้งความสุข ความเศร้า และความเหงา เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้ทุกด้านอย่างงดงามราวกับคีย์เปียโนที่มีทั้งสีขาวและสีดำ
ทว่าสุดปลายของทั้งสองด้านก็คือสีขาว ราวกับเปียโนจะบอกว่าทุกสิ่งนั้นสวยงาม อัศจรรย์ และเต็มไปด้วยความหวัง
และราพโซดี้คือสิ่งที่หลอมรวมความแตกต่างที่สอดผสานกันอย่างลงตัวนั้น
“โชคดีนะนิค” ฉันกระซิบกับตัวเอง “จนกว่าเราจะพบกันอีกครั้งและได้อยู่ด้วยกันตลอดไป”
บทเพลงสุดท้ายจบลงแล้ว
เสียงปรบมือและโห่ร้องดังกึกก้อง และฉันเพิ่งเดินมาถึงหน้าเวทีเพื่อมอบบูเก้ดอกไม้ช่อใหญ่ให้นิค โดยมีเซธ เคนตัน แคมม์ และแซคนั่งอยู่ที่เก้าอี้เดิมและมองส่งฉันวันก่อนนิคเพิ่งจะฝากให้เพื่อนๆ ในแก๊งดูแลฉันหลังจากเขาไปแล้ว และแน่นอน เป็นที่เข้าใจตรงกันว่าทุกคนห้ามจีบฉัน แล้วแก๊งเราก็เพิ่งบอกลานิคอย่างเป็นทางการ เวลานั้นไม่ใช่เวลาที่สนุกเลย“อ๊ะ..!?” ฉันตกใจเมื่อแทนที่นิคจะรับช่อดอกไม้จากฉัน นิคกลับดึงฉันขึ้นไปบนเวที “นิค ทำอะไรน่ะ!? ”ท่ามกลางเสียงคนดูทั้งฮอลล์ที่ฮือฮากันใหญ่ นิคยิ้มให้ฉัน “ฉันมีอะไรจะบอกเธอ”“หือ?”“ฉันไม่ไปรัสเซียแล้ว”“เห!? ”!!!!????
copy right hot novel pub